เล่ม 1 ตอนที่ 195 ยาวิเศษร้อยโคจรออกโรง

สลับชะตา ชายามือสังหาร

จากนั้นคนผู้นั้นก็เสนอราคาอีกหลายครั้ง ซือหม่าโยวเย่ว์ก็ตามไปทีละพันสองพันทุกครั้ง ทำให้คนผู้นั้นจนใจเป็นอย่างยิ่ง

ในที่สุดคนผู้นั้นจึงกัดฟันตะโกนว่าหนึ่งแสน ซึ่งซือหม่าโยวเย่ว์ก็ยังคงตามติดไป ทำให้คนผู้นั้นจนใจอย่างที่สุด

“เอาล่ะ เจ้าชนะแล้ว” คนผู้นั้นพูดอย่างชิงชัง “ข้าไม่ตามแล้ว”

ทุกคนต่างเข้าใจว่าเธอกำลังล้อเล่น มีเพียงแค่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ว่าตนทำไปด้วยความจริงจัง

สำหรับที่ว่าเพราะเหตุใดจึงเพิ่มแค่ทีละพันสองพันเท่านั้น เธอคงมิอาจพูดได้ว่าเพราะตนเสียดายเงิน ไม่อยากสิ้นเปลืองเงินมากเกินไป

ถ้าหากคนผู้นั้นล่วงรู้ คงต้องหดหู่ใจตายแน่ มีคนตลบตะแลงถึงเพียงนี้อยู่ด้วยหรือ

เพียงไม่นานสาวใช้ก็ถือลูกปัดแก้วผลึกเข้ามา ซือหม่าโยวเย่ว์จ่ายไปหนึ่งแสนสองก็ได้ของสิ่งนี้มาไว้ในมือแล้ว

“ก็ไม่ได้แพงเหมือนที่คิดเอาไว้นี่นา แล้วลูกปัดนี้ยังงดงามอย่างยิ่งอีกด้วย” เธอหยิบลูกปัดแก้วผลึกมาถือเล่นในมือพลางพูดยิ้มๆ

ราคานี้ถูกกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้มาก คิดดูแล้วน่าจะเป็นเพราะสิ่งของในช่วงหลังเหล่านั้นล้ำค่ากว่าเป็นเหตุ ทุกคนจึงอยากเก็บเงินเอาไว้ภายหลัง ไม่อยากจะจ่ายเงินออกไปก่อน ทำให้เธอประมูลได้มาในราคาถูกเปล่าๆ

เธอยังไม่ทันได้ดูลูกปัดแก้วผลึกนี้โดยละเอียด ด้านล่างก็เริ่มต้นประมูลยาวิเศษน้ำแข็งยะเยือกของเธอกันแล้ว

จวินหลานหยิบยาวิเศษน้ำแข็งยะเยือกมาแล้วพูดว่า “เชื่อว่ายาวิเศษน้ำแข็งยะเยือกคงจะมิใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับทุกท่าน ยาวิเศษระดับห้า ถึงแม้ว่าระดับขั้นจะไม่สูงนัก แต่ก็นับได้ว่ามีประโยชน์ต่อปรมาจารย์วิญญาณอย่างพวกเรา ทุกท่านล้วนทราบดีว่าพลังยุทธ์ยิ่งสูง ก็ยิ่งเกิดเหตุธาตุไฟแตกสลายกลายเป็นมารในยามฝึกยุทธ์ได้ง่าย และยาวิเศษน้ำแข็งยะเยือกนี้ก็เป็นยาวิเศษที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาธาตุไฟแตกสลายกลายเป็นมาร”

พูดมาถึงตรงนี้ นางก็หยุดชะงักลงพลางมองปฏิกิริยาตอบสนองเบื้องล่างอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ผลลัพธ์ของยาวิเศษชนิดนี้เป็นที่รู้กันดี และความยากในการหลอมยาวิเศษชนิดนี้ล้วนเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกท่านอยู่แล้ว จากเครื่องยาหลอมจนเป็นยาวิเศษนั้นมิใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นราคาขั้นต่ำของการประมูลในครั้งนี้คือห้าพันตำลึงทอง ด้านล่างเริ่มต้นเสนอราคาได้เจ้าค่ะ”

ถึงแม้ว่าราคาห้าพันจะสูงอยู่พอสมควร แต่ก็ยังคงมีผู้คนไม่น้อยร่วมเสนอราคา ถึงอย่างไรยาวิเศษชนิดนี้ก็พบเจอได้ยากยิ่ง เก็บสะสมเอาไว้ในตอนนี้ รอวันใดหากธาตุไฟแตกสลายกลายเป็นมาร ก็มีเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว

ในที่สุดเม็ดหนึ่งก็ประมูลไปในราคาสามหมื่นตำลึงทอง ส่วนอีกเม็ดราคาสามหมื่นห้า ก็นับได้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์พอใจกับราคานี้อยู่พอสมควรเลยทีเดียว

ภายในห้องส่วนตัวที่พวกเว่ยจือฉีอยู่ ราคาของยาวิเศษน้ำแข็งยะเยือกทำให้เสี่ยวถูร่างกายสั่นสะท้าน

“พี่ชายถึงกับให้ข้ากินยาวิเศษที่ล้ำค่าเพียงนี้” เมื่อนึกถึงว่าตอนที่ซือหม่าโยวเย่ว์ให้ตนกินนั้นไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วเลย ในใจเขาก็ซาบซึ้งไม่น้อย

เป่ยกงถังลูบศีรษะเสี่ยวถูแล้วเอ่ยว่า “โยวเย่ว์ดีกับเจ้าจริงๆ เลยนะ”

“ข้าจะจดจำบุญคุณของพี่ชายเอาไว้” เสี่ยวถูพูดอย่างจริงใจ

เวลาผ่านไปทีละเล็กละน้อย สิ่งของเหล่านั้นขายไปได้พอสมควรแล้ว เหลือเพียงแค่ของล้ำค่าไม่กี่ชิ้นสุดท้ายเท่านั้น

ในขณะนี้ ขุมอำนาจจำนวนมากที่ชั้นสองได้ผันตัวกลายเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ปล่อยให้การช่วงชิงเป็นเรื่องของชั้นสามเป็นหลักแทน

ซือหม่าโยวเย่ว์ดูพวกเขาช่วงชิงกัน ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะล้ำค่า แต่กลับไม่มีแรงดึงดูดสำหรับเธอเลย สิ่งของสองชิ้นที่ตั้งใจมาประมูลในคราวนี้ก็ได้มาหมดแล้ว ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ สิ่งอื่นๆ นั้นจะมีหรือไม่ก็ได้

“หนึ่งแสน”

“หนึ่งแสนหนึ่ง”

“หนึ่งแสนห้า”

“สองแสน”

ขณะนี้การเสนอราคาต่างก็เพิ่มขึ้นทีละหลายหมื่น เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นแค่ทีละไม่กี่พัน ช่างแตกต่างกันอย่างมากมายเหลือเกิน

ขณะนี้เอง สาวใช้ได้ยกถาดใบหนึ่งเข้ามา ทว่ามิได้เปิดผ้าสีแดงด้านบนออก จากนั้นจึงถอยหลังไปอีกด้านหนึ่ง

“ด้านล่างคือส่วนหลักของงานประมูลครั้งนี้ สิ่งของประมูลในคราวนี้ก็คือยาวิเศษพลังเทวะขั้นหก การใช้ยาวิเศษชนิดนี้จะทำให้พลังการต่อสู้ของมนุษย์ยกระดับขึ้นได้หนึ่งเท่าตัวในทันที ลองคิดดูว่าถ้าหากท่านกำลังต่อสู้กับผู้อื่น ทั้งสองคนมีระดับขั้นพอๆ กัน แต่พลังการต่อสู้ของท่านแข็งแกร่งกว่าผู้อื่นเท่าตัวหนึ่ง ผลแพ้ชนะจะเป็นเช่นไรคงไม่ต้องให้จวินหลานพูดมากนะเจ้าคะ มียาวิเศษพลังเทวะอยู่ทั้งหมดสองเม็ด แต่ละเม็ดราคาขั้นต่ำหนึ่งหมื่นห้าเจ้าค่ะ”

ซือหม่าโยวเย่ว์คิดไม่ถึงว่าราคาขั้นต่ำของยาวิเศษพลังเทวะจะอยู่เพียงแค่หนึ่งหมื่นห้าพันเท่านั้น ลูกปัดแก้วผลึกของตนก็มีราคาขั้นต่ำถึงหนึ่งหมื่นหกพันแล้ว

พอเธอได้สติกลับมา ราคาของเม็ดแรกก็กำหนดเอาไว้ที่ที่สองแสนห้าแล้ว

และราคาสุดท้ายของเม็ดที่สองอยู่ที่สามแสน

“ราคาขั้นต่ำหนึ่งหมื่นห้า ราคาสุดท้ายคือสามแสน เรียกได้ว่าโขกไปถึงยี่สิบเท่า ยาวิเศษร้อยโคจรเม็ดหนึ่งกำหนดราคาเอาไว้ที่สองหมื่น เช่นนั้นอาจเพิ่มสูงถึงสี่แสนก็เป็นไปได้! โอ้โห รวยเละเลยทีเดียว” ซือหม่าโยวเย่ว์คำนวณราคาดูแล้ว หัวใจก็เบ่งบานราวดอกไม้

“เย่ว์เย่ว์ ใจเย็นๆ ก่อนนะ ไม่ใช่แค่ล้านกว่าตำลึงทองเองหรอกหรือ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยได้มากกว่านี้อีกนะ!” เจ้าคำรามน้อยคว้าผลไม้ทิพย์ผลหนึ่งไปกินพลางมองเธออย่างรังเกียจปราดหนึ่ง

“นั่นมันอดีต ถึงอย่างไรข้าก็จำไม่ได้แล้ว ข้ารู้เพียงแค่ตอนนี้ข้ายากจนยิ่งนัก” ซือหม่าโยวเย่ว์เอ่ยพึมพำ “ไม่ได้การล่ะ ข้าต้องคิดหาวิธีเพิ่มราคาให้สูงขึ้นไปอีก

ยาวิเศษพลังเทวะถูกยกลงไป ที่ถูกยกขึ้นมาแทนก็คือยาวิเศษร้อยโคจรของเธอนั่นเอง

ยาวิเศษร้อยโคจรมิได้ถูกวางเอาไว้ในขวด หากแต่วางอยู่บนผ้าแดง ยาวิเศษสีทองอร่ามสี่เม็ดดึงดูดความสนใจของทุกคนในที่นั้นทันที

“นี่ก็คือยาวิเศษร้อยโคจร”

“ดูแล้วไม่เหมือนกับยาวิเศษชนิดอื่นๆ เลย!”

“พอกินยาวิเศษชนิดนี้แล้วจะชำระเอ็นตัดไขกระดูกได้จริงๆ หรือไม่”

“ได้แน่นอนอยู่แล้ว ว่ากันว่าพอกินสิ่งนี้ลงไป คนไร้ค่าก็ยังกลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ได้”

“จุ๊ๆ ไม่รู้ว่าใครจะประมูลสิ่งนี้ไปได้”

“ถึงอย่างไรก็มิใช่เจ้ากับข้าหรอก ฮ่าๆ”

“อยากรู้จริงๆ เลยว่าสุดท้ายแล้วจะประมูลมันไปได้ถึงราคาเท่าไหร่”

“ไม่ว่าจะประมูลมันไปได้ในราคาเท่าไหร่ก็คุ้มค่าทั้งสิ้น เจ้าคิดดูสิ ยาวิเศษเม็ดเดียวอาจก่อให้เกิดผู้มีพรสวรรค์ขึ้นมาได้ ขอเพียงแค่เป็นตระกูลที่มีความสามารถ ผู้มีพรสวรรค์คนหนึ่งย่อมมีค่ามากกว่าเงินไม่กี่แสนตำลึงทองอยู่แล้ว”

“พูดจามีเหตุผล”

“ข้าว่าขุมอำนาจหลายแห่งในวันนี้ล้วนมาเพราะยาวิเศษร้อยโคจรกันทั้งสิ้น และยาวิเศษก็มีอยู่เพียงแค่สี่เม็ดเท่านั้น แค่ดูก็น่าสนุกแล้ว”

“ฮ่าๆ พวกเราคอยดูกันดีกว่า”

“…”

จวินหลานมองดูปฏิกิริยาของผู้คนเบื้องล่าง มีหลายคนที่ดวงตาแดงก่ำเพราะยาวิเศษร้อยโคจร รู้ว่าตนสิ้นหวังในการประมูลจึงคิดจะลงมือช่วงชิง แต่ร่างกายยังไม่ทันขยับ แรงกดดันห้าสายก็กดดันลงมา ทำให้ความคิดของพวกเขาตายไปตั้งแต่ยังอยู่ในเปล

“เฮอะ!”

เสียงเฮอะเยียบเย็นเสียงหนึ่งทำให้ผู้ที่สติสัมปชัญญะหลุดไปเหล่านั้นได้สติกลับคืนมา แล้วจึงค่อยนึกขึ้นได้ว่าที่นี่มียอดฝีมือห้าคนรักษาการณ์อยู่ ถ้าหากตนเหาะไปช่วงชิงมาจริงๆ ก็คงจะไม่เหลือแม้แต่กระดูกแล้ว

จวินหลานรอให้คนเหล่านั้นสงบลงแล้วจึงพูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ว่า “มิผิด นี่คือยาวิเศษร้อยโคจรที่หายสาบสูญไปนานแล้ว ว่ากันตามจริง จวินหลานเองก็เพิ่งเคยเห็นยาวิเศษร้อยโคจรนี่เป็นครั้งแรกเช่นกันเจ้าค่ะ แต่นักประเมินราคาของพวกเราได้ประเมินมาแล้วว่านี่คือยาวิเศษร้อยโคจรแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย และประโยชน์ของยาวิเศษร้อยโคจรนี้คงไม่ต้องให้ข้าพูดมาก ชำระเอ็นตัดไขกระดูก เปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพของคนผู้หนึ่งอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ท่านจะเป็นคนไร้ค่าคนหนึ่ง ก็ทำให้ท่านกลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ได้เช่นกัน แต่ถ้าเดิมทีก็เป็นผู้มีพรสวรรค์อยู่แล้ว เช่นนั้นท่านก็คงได้แต่กลายเป็นยอดอัจฉริยะแล้วล่ะเจ้าค่ะ”

“ฮ่าๆ…”

ความร้อนระอุเบื้องล่างกลายเป็นตลกขบขันเพราะคำพูดของนาง

“ตำรับยาพื้นบ้านของยาวิเศษร้อยโคจรได้หายสาบสูญไปแล้ว ว่ากันว่าเครื่องยาในนั้นหายากเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นชั่วชีวิตนี้พวกเราอาจจะได้เห็นแค่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็เป็นได้ เรียกได้ว่านี่เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น พวกท่านต้องคว้าโอกาสคราวนี้เอาไว้ให้ดีนะเจ้าคะ พลาดโอกาสไปไม่ได้ โอกาสอาจไม่ย้อนคืนกลับมาอีก ถ้าหากท่านสูญเสียโอกาสคราวนี้ไปแล้ว ก็เท่ากับเสียโอกาสในการกลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ไปเลยทีเดียว! ตระกูลหนึ่งอาจจะเสียผู้มีพรสวรรค์ในภายหน้าไปเลยก็ได้นะเจ้าคะ!”

“คุณหนูจวินหลาน เจ้าไม่ต้องพูดแล้วล่ะ เริ่มเลยดีกว่า” ห้องส่วนตัวห้องหนึ่งบนชั้นสองตะโกนขึ้นมา

“เจ้าค่ะ ราคานี้ทุกท่านคงทราบกันแล้ว จวินหลานจะไม่เปลืองคำพูดอีกแล้วนะเจ้าคะ ราคาขั้นต่ำสองหมื่น ด้านล่างเริ่มต้นประมูลได้เจ้าค่ะ!”

…………………….……………..