ตอนที่ 158 ซูฉิงย้ายออกไป

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“เขาเป็นใครกันเหรอครับ?” ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงหรี่ลงในขณะที่เขาถาม
หมอหนีเหลือบมองที่จอ ECG ของท่านผู้เฒ่าฮ่อแล้วกล่าวว่า “อาจารย์ฉีเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ เขาเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และรักษาผู้ป่วยระยะสุดท้ายจำนวนมาก แต่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น และเขาก็หายตัวไป”
“หายตัวไป?” การแสดงออกของฮ่อหยุนเฉิงหยุดนิ่ง น้ำเสียงของเขาค่อนข้างตื่นตระหนก “ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนสามารถหาเขาได้ไหม?”
หมอหนีส่ายหัวอย่างเสียใจ “ฉันไม่รู้ หรือพูดได้ว่า ไม่น่าจะมีใครรู้เลยด้วยซ้ำ”
หัวใจของฮ่อหยุนเฉิงจมลงเมื่อเขาเห็นความหวังที่มีเพียงเล็กน้อยนี้
ริมฝีปากบางๆของเขาถูกกดเป็นเส้นแน่น และหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามอีกครั้งว่า “เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เกิดอะไรขึ้นเหรอคับ?”
หมอหนีถอนหายใจเบา ๆ “ฉันไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันแค่ฟังครูสอนพิเศษของฉันเลล่าว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้วโจมตีเขาอย่างแรง
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้น อาจารย์ฉีก็หายตัวไป ในช่วงนี้ หลายๆคนก็ยังตามหาเขาอยู่ แต่ก็ไม่เป็นพบ
ผ่านมาหลายปีแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน หรือไม่รู้แม้แต่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ”
หลังจากฟังคำพูดของหมอหนีแล้ว ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงก็เย็นชาและคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง
เมื่อมองลงไปที่ท่านผู้เฒ่าฮ่อที่หมดสติอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ข้อนิ้วของฮ่อหยุนเฉิงก็รัดแน่นขึ้น
แม้ว่าอาจารย์ฉีจะอยู่ที่สุดขอบโลก เขาก็ต้องหาเขาให้พบโดยเร็วที่สุด!
คุณปู่รอไม่ได้แล้ว เขาทนเห็นคุณปู่หมดสติแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
ความรู้สึกที่ไร้อำนาจนี้ทำให้รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ
ฮ่อหยุนเฉิงกำลังจะโทรหาหลินเหยียนเฟิงและขอให้เขาส่งคนไปหาอาจารย์ฉี ทันใดนั้นประตูของวอร์ดเปิดขึ้น
พ่อบ้านหลี่เดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง “นายน้อยท่านผู้เฒ่าฮ่อเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงหรี่ลง และเขาตอบเบา ๆ ว่า “ยังเหมือนเดิมครับ ยังอยู่ในอาการโคม่า”
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ซีดเซียวของฮ่อหยุนเฉิง พ่อบ้านหลี่ก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย และเดินไปปลอบเขา “นายน้อย คุณไม่ต้องกังวลมากเกินไปนะครับ ท่านผู้เฒ่าฮ่อ จะต้องตื่นขึ้นมาในไม่ช้าอย่างแน่นอนครับ”
“ครับ” ฮ่อหยุนเฉิงตอบเบาๆ
พ่อบ้านหลี่พูดอีกครั้ง “นายน้อยคุณอยู่กับท่านผู้เฒ่าฮ่อมาทั้งวันทั้งคืนแล้ว แม้แต่ร่างกายจะแข็งแรงแต่มันก็จะก็ทนไม่ไหวเอานะครับ กลับไปพักผ่อนเถอะครับ ฉันจะดูแลท่านผู้เฒ่าฮ่อเองครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงส่ายหัว “ผมอยากอยู่กับคุณปู่ครับ”
พ่อบ้านหลี่ตบไหล่ของเขา “นายน้อยฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร แต่ถ้าคุณเหนื่อยและป่วยไปอีกคนจะทำอย่างไรล่ะครับ ฉันคิดว่าคุณปู่ของคุณคงไม่ต้องการแบบนั้น เขาคงอยากให้คุณสนใจร่างกายของตัวเองตอนนี้ เชื่อฟังลุงหลี่นะครับกลับบ้านไปพักก่อนนะครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะโทรหาคุณทันที”
ฮ่อหยุนเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นผมจะรบกวนลุงหลี่ด้วยนะครับ”
พ่อบ้านหลี่อยู่กับท่านผู้เฒ่าฮ่อมาหลายสิบปีแล้ว และเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับท่านผู้เฒ่าฮ่อมาก เขาอยู่เคียงข้างท่านมาหลายทศวรรษแล้ว ดังนั้นกับลุงหลี่ที่จะดูแลท่านผู้เฒ่าฮ่อ ฮ่อหยุนเฉิงจึงคงรู้สึกโล่งใจ
ฮ่อหยุนเฉิงเตือนผู้คุ้มกันที่ประตูอีกสองสามคำก่อนจะหันหลังและเดินลงบันไดไป
……
ขณะนี้ในที่นั่งบนรถของเฉินจุนเหยียน ซูฉิงมองออกไปนอกหน้าต่างและนั่งอยู่อย่างเป็นระเบียบ
เธอหายใจเข้าลึก ๆ และเก็นสายตาของเธอ เธอก้มศีรษะลงและมองแหวนบนมือของเธอ
มันคือแหวนที่ฮ่อหยุนเฉิงมอบให้เธอในวันที่ขอเธอแต่งงาน
จู่ ๆ ความรู้สึกก็ไหลเข้ามาอย่างท่วมท้น
ฮ่อหยุนเฉิงรับมีดแทนเธอ เขายอมสละชีวิตและยอมตายเพื่อช่วยเธอ และเขาก็ขอเธอแต่งงาน…
ในเมื่อเขาไม่รักเธอ ทำไมต้องทำเพื่อเธอมากมายขนาดนี้?
เป็นเพราะเธอดูเหมือนถังถังอย่างนั้นจริงๆเหรอ?
ซูฉิงไล่ความคิดที่วนเวียนในหัวใจของเธอออกไป
ในขณะนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออาการป่วยของท่านผู้เฒ่าฮ่อ
เนื่องจากฮ่อหยุนเฉิงไม่ยอมให้เธอเยี่ยมท่านผู้เฒ่าฮ่อ เธอจึงต้องคิดหาวิธีอื่น
ซูฉิงถอดแหวนอย่างเงียบๆ เหลือบมองไปทางเฉินจุนเหยียน มองไปทางด้านข้างของเฉินจุนเหยียน เม้มปากของเธอแล้วพูดว่า “เฉินจุนเหยียน คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว” เฉินจุนเหยียนตกลงโดยไม่ถามด้วยซ้ำว่าซูฉิงต้องการให้เขาทำอะไร
ซูฉิงพูดด้วยเสียงต่ำ “ช่วยฉันหาบ้านหน่อย ซื้อเลยนะ ฉันอยากเข้าอยู่โดยเร็วที่สุด”
ตอนนี้เธอกับฮ่อหยุนเฉิงถอนหมั้นกันแล้ว เธอไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องอาศัยอยู่ในเมืองใหม่สุ่ยเยว่อีกแล้ว
เฉินจุนเหยียนยิ้ม “ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก ฉันมีอพาร์ทเมนต์อยู่ในสวนเฉิงตง ถ้าคุณไม่ติดอะไร คุณสามารถย้ายไปที่นั่นได้ทุกเมื่อ”
“ขอบคุณมากนะ” ซูฉิงหรี่ตาลงและเอนหลังพิงที่นั่ง
เฉินจุนเหยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพูดว่า “ฉันนึกว่าคุณจะออกจากเมือง A และไปพักผ่อนซะอีก”
ซูฉิงที่เขารู้จักจะต้องเดินออกไปอย่างสง่างามหลังจากถูกคู่หมั้นของเขาทรยศ
แต่ตอนนี้ ซูฉิงยังจะอยู่ในเมือง Aต่อ
หรือว่าเธอยังคิดถึงฮ่อหยุนเฉิงอยู่อย่างนั้นหรือ?
ซูฉิงสูดลมหายใจ คิดเกี่ยวกับมันและกล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม คุณปู่ฮ่อยังอยู่ในโรงพยาบาล ฉันก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ฉันทำ ฉันไม่สามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้หรอก”
ดวงตาของเฉินจุนเหยียนเป็นประกายมืดมนอย่างที่มองไม่เห็น และพยักหน้าเบา ๆ “คุณไม่ต้องกังวล ท่านผู้เฒ่าฮ่อจะไม่เป็นไร”
ที่ซูฉิงอยู่ต่อ เป็นเพราะท่านผู้เฒ่าฮ่อจริงๆเหรอ?
ทั้งสองเงียบไปตลอดทาง และเฉินจุนเหยียนก็ขับรถพาซูฉิงไปยังเมืองใหม่สุ่ยเยว่
“ซูฉิง ใช่ที่นี่หรือไหม?” เฉินจุนเหยียนหยุดรถและถามไปทางด้านข้าง
ซูฉิงได้สติ “ใช่ เฉินจุนเหยียน รอฉันแปบหนึ่งนะ”
ซูฉิงเปิดประตูเข้าไปและบ้านก็เงียบมาก
ในเวลานี้ ฮ่อหยุนเฉิงน่าจะยังอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อเธอเดินไปที่ห้องที่เธออยู่ที่บนชั้นสอง เธอก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
แม้ว่าเมื่อคืนนี้เธอไม่ได้กลับมานอนที่นี่แค่คืนเดียว แต่เธอก็รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่ต่างไปจากเดิม
เธออาศัยอยู่ที่นี่มากกว่าหนึ่งเดือนและทิ้งความทรงจำอันน่าจดจำไว้มากมาย
ตอนนี้เธอกำลังจะจากที่นี่ไปแล้ว
ซูฉิงคิดว่าเธอจะจากไปอย่างง่ายดายและไร้การควบคุมใดๆ แต่ตอนนี้ เธอมีความรู้สึกหน่วงในใจ
เรื่องราวของเธอกับฮ่อหยุนเฉิงที่เกิดขึ้นที่นี่ หลั่งออกมาจากใจของเธออย่างควบคุมไม่ได้
แต่ละฉากมันชัดมาก เหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้เอง
ฮ่อหยุนเฉิงเป็นชายคนแรกที่ทำให้หัวใจของซูฉิงหวั่นไหว
สำหรับเขา ซูฉิงให้ความจริงใจกับเขาจริงๆ และเธอต้องการอยู่กับเขาและแก่ชราไปพร้อมกับเขา
แต่น่าเสียดายที่เธอโง่เขลาและทำผิดจริงๆ
ฮ่อหยุนเฉิงมีถังถังอยู่แล้ว และตอนนี้ เป็นไปได้ว่าเขากำลังเคลียคลออยู่กับถังถัง
ทำไมเธอต้องรู้ศึกเศร้าแบบนี้ด้วย?
เธอเก็บความคิด และซูฉิงก็รีบเก็บของและจัดใส่กระเป๋าเดินทางของเธอ
ซูฉิงถือกระเป๋าเดินทางและเดินลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอกำลังจะออกไปที่ห้องนั่งเล่น ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงกุญแจที่เปิดประตูดังลั่น
ซูฉิงหยุดเดินโดยไม่รู้ตัว
หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะแล้วตอนนี้
เป็นไปได้ไหมว่าฮ่อหยุนเฉิงจะกลับมาแล้ว?