เมื่ออวี้ฮ่าวหรานเห็นว่าบรรดานักฆ่าพุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกับมีดในมืออย่างโง่เขลา เขาหัวเราะอย่างดูถูกก่อนที่จะโคจรพลังวิญญาณไปที่เท้าและกระทืบพื้นอย่างรุนแรงจนแผ่นดินด้านหน้าของเขาแยกออกเป็นเสี่ยงๆ!

ด้วยแรงสะเทือนอันมหาศาล นักฆ่ามากกว่า 20 คนถึงกับตัวลอยขึ้นไปบนฟ้าอย่างควบคุมไม่ได้!

ในระหว่างที่ร่างของพวกนักฆ่าลอยอยู่บนฟ้า อวี้ฮ่าวหรานกระโดดพุ่งตัวขึ้นไปยังร่างของนักฆ่ารายแรกที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที

นักฆ่าผู้ที่ถูกเพ่งเล็งเมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานพุ่งเข้ามาหาอย่างรุนแรงเขารีบกำมีดคู่ในมือทั้งสองแน่นเพื่อต้านทานการโจมตีที่กำลังเข้ามา

อย่างไรก็ตาม…ลูกถีบอันรุนแรงของอวี้ฮ่าวหรานไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเขาจะต้านทานได้!

ด้วยความรุนแรงของลูกถีบ มีดคู่ทั้งสองในมือของนักฆ่าคนแรกแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ ภายในพริบตาและจากนั้นกระดูกแขนทั้งสองของนักฆ่าต่างก็ป่นปี้ยับเยินจากแรงกระแทกแถมลูกถีบของ อวี้ฮ่าวหรานยังทะลวงเข้าไปปะทะกับหน้าอกของนักฆ่าจนเสียงดังลั่น และนั่นทำลายอวัยวะภายในทั้งหมดรวมไปถึงหัวใจจนแหลกเละไม่เหลือชิ้นดี!

“อั่ก!”

ตายภายในลูกถีบเดียว!

“แข็งแกร่งมาก! อย่างน้อย ๆ ไอ้คนผู้นี้มันต้องอยู่ในขอบเขตกำลังภายในขั้นสูงสุดแน่นอน!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ เสี่ยวฉีและโจวหยินอันต่างอุทานขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงใจเย็นได้อยู่เพราะพวกเขาวางแผนเอาไว้ว่าจะใช้บรรดาลูกน้องของตัวเองตัดทอนพลังในร่างของอวี้ฮ่าวหรานให้มากที่สุดก่อนที่พวกเขาจะลงมือ

ในทางกลับกันอวี้ฮ่าวหรานเมื่อได้ยินคำอุทานของคนทั้งสอง เขาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“ฮ่า ๆๆ! ขอบเขตกำลังภายในขั้นสูงสุด? พวกแกจินตนาการกันได้น่ารักจริงๆ!”

หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็โคจรพลังวิญญาณอีกครั้ง แต่คราวนี้หลังจากที่โคจรเสร็จเขาปลดปล่อยคลื่นพลังวิญญาณออกจากร่างไปรอบกายเพื่อจับร่างของบรรดานักฆ่าที่ลอยอยู่บนอากาศและดึงเข้ามาหาตัวเขา

จากนั้นภาพที่น่าสยดสยองก็ประจักษ์แก่สายตาของ เสี่ยวฉีและโจวหยินอัน

อวี้ฮ่าวหรานระเบิดพลังพร้อมกับรัวหมัดไปรอบกายเข้าใส่ร่างของนักฆ่ายี่สิบกว่าคนที่ถูกดึงเข้ามาหาอย่างรุนแรงจนร่างของนักฆ่าเหล่านั้นระเบิดออกจนกลายเป็นหมอกเลือด!

“ข…ขอบเขตก่อรากฐาน!!”

อย่างไรก็ตาม พลังที่อวี้ฮ่าวหรานระเบิดออกมานั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงพวกนักฆ่าที่เพิ่งตายไปเท่านั้น คลื่นพลังมันยังคงแพร่กระจายต่อไปจนถึงจุดที่เสี่ยวฉีและโจวหยินอันยืนอยู่!

เมื่อเห็นเช่นนี้ พวกเขาทั้งสองจึงรีบโคจรพลังวิญญาณของตัวเองต้านทานทันที ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตก่อรากฐานเช่นกันแต่เมื่อเทียบกับพลังของอวี้ฮ่าวหรานแล้ว พวกเขาไม่สามารถนับเป็นอะไรได้เลย!

แม้ว่าพวกเขาจะรวมพลังกันต้านทานคลื่นพลังของอวี้ฮ่าวหราน ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ยังเป็นฝั่งพวกเขาที่ถูกทำให้ถอยร่นไปถึง5เมตร!

“นี่มันเป็นไปได้ยังไง!?”

“มันแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”

พวกเขาทั้งคู่ต่างตกตะลึงในความแข็งแกร่งของอวี้ฮ่าวหราน ต้องรู้ว่าเมื่อครู่นี้อวี้ฮ่าวหรานกำลังลอยอยู่บนอากาศแถมยังอยู่ห่างจากพวกเขาเป็นสิบเมตร แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังของอวี้ฮ่าวหรานได้!

มันเป็นไปได้ยังไงที่เด็กอย่างไอ้หนุ่มนี่มันอยู่ในขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงสุด!

“ฮึ่ม! ถึงแม้ว่าแกจะอยู่ในขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงสุด แต่เมื่อแกเป็นศัตรูกับองค์กรของเรา ท้ายที่สุดชะตากรรมของแกก็หนีไม่พ้นความตายด้วยน้ำมือของเรา!” เสี่ยวฉีเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา

“ถูกต้อง! ไม่ว่ายังไงแกก็ไม่รอดแน่!” โจวหยินอันตะโกนขึ้นเสริม

“คิดจะฆ่าฉันงั้นเหรอ? ฮึ! มดแมลงอย่างพวกแกนี่มันช่างน่าขำจริงๆ!”

หลังจากร่อนกลับลงมาบนพื้นดิน อวี้ฮ่าวหรานค่อย ๆ เดินเข้าไปหาทั้งสองคนพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

พวกมนุษย์โลกที่อ่อนแอพวกนี้คิดจะฆ่าเขาผู้ที่เคยเป็นจักรพรรดิเทพมาเป็นหมื่นปีงั้นเหรอ? น่าขำสิ้นดี!

“ไอ้หนุ่ม…แกอย่าได้ใจมากไปนัก!”

ทั้งสองคนตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับพุ่งเข้าไปโจมตีอวี้ฮ่าวหราน ที่กำลังเดินเข้ามาหา ซึ่งในวินาทีที่คนทั้งคู่โคจรพลัง ภาพที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น จู่ ๆ ร่างของทั้งสองคนกลับมีหมอกสีฟ้าและแดงแพร่กระจายออกจากตัวของพวกเขา!

หมอกเหล่านี้ที่ปรากฏขึ้นเห็นได้ชัดว่าเป็นพิษที่ร้ายแรงอย่างยิ่งยวด ต้นไม้ใบหญ้าที่หมอกนี้สัมผัสเหี่ยวเฉาตายแทบจะในพริบตา!

พิษที่รุนแรงขนาดนี้ไม่ต้องนึกเลยหากเป็นคนธรรมดาสูดดมเข้าไปคงไม่มีโอกาสรอดแน่นอน!

“ตายไปซะ!”

เสี่ยวฉีและโจวหยินอัน ตะโกนขึ้นดังลั่นพร้อมกับซัดฝ่ามือปล่อยหมอกสีแดงและฟ้าพุ่งเข้าไปหาอวี้ฮ่าวหราน

ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้แสดงสีหน้าวิตกกังวลอะไรเลยเมื่อเห็นภาพนี้เพราะเขารู้ดีว่าไม่ว่าคนพวกนี้จะทำอะไร มันก็ไม่มีทางทำร้ายเขาได้!

อวี้ฮ่าวหรานโคจรพลังวิญญาณไปที่ฝ่ามือของเขาเองและซัดสวนออกไปเป็นคลื่นพลังรูปฝ่ามือยักษ์อย่างรุนแรง

บรึ้ม!!

ในทันทีที่พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน การระเบิดครั้งมโหฬารก็บังเกิดขึ้นจนต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบ ๆ ปลิวกระจายอย่างรุนแรง

คลื่นจากแรงปะทะแพร่กระจายไปรอบทิศจนฝุ่นฟุ้งตลบขึ้นไปบนอากาศ

“แค่นี้เองน่ะเหรอ?”

ในระหว่างที่ปะทะ อวี้ฮ่าวหรานสัมผัสแรงต้านที่ย้อนกลับมาหาเขาเพียงน้อยนิดซึ่งมันทำให้เขายิ่งดูถูกความแข็งแกร่งของคนทั้งสองที่เขากำลังปะทะด้วย

ในทางกลับกัน ทางด้านของเสี่ยวฉีและโจวหยินอัน แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวในทันทีหลังจากปะทะ พวกเขาต่างมีเลือดไหลที่มุมปากซึ่งเห็นได้ชัดว่าแม้พวกเขาจะรวมพลังกันเต็มสิบส่วนพวกเขาก็ยังไม่อาจต่อกรกับ อวี้ฮ่าวหรานได้!

ไอ้หนุ่มคนนี้มันแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่?

นี่มันบ่มเพาะตั้งแต่อยู่ในท้องของแม่มันหรือยังไง?!

“อย่าได้ใจเกินไปนักนะโว๊ย!”

ทั้งสองคนตะโกนขึ้นอีกรอบก่อนที่จะรวมพลังกันอีกครั้งแต่คราวนี้พวกเขาต่างใช้วิชาต้องห้ามดึงพลังชีวิตของพวกเขาเองเพื่อทำให้การโจมตีครั้งนี้รุนแรงยิ่งขึ้น!

คราวนี้สีของหมอกที่พวกเขาทั้งสองคนปล่อยออกมามันกลายเป็นสีที่หม่นลงอย่างเห็นได้ชัดวึ่งมันหมายความว่ารอบนี้พิษรุนแรงขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า!

อย่างไรก็ตามในขณะที่พวกเขากำลังภาคภูมิใจในพลังที่พวกเขาเองปลดปล่อยออกมา พวกเขากลับเห็นแววตาของ อวี้ฮ่าวหรานยังคงดูถูกพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลง!

“เฮ้อ…ช่างเถอะ ฉันเริ่มจะเบื่อกับพวกแกแล้ว”

อวี้ฮ่าวหรานไปที่ศัตรูทั้งสองคนตรงหน้าด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม ทั้งสองคนนี้รวมกันยังแข็งแกร่งไม่เท่ากับ คงเหอ อาจารย์ของหยวนหลงเลยด้วยซ้ำ!

หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานโคจรพลังไปที่ฝ่ามือของเขาเองอีกรอบซึ่งรอบนี้เขาเพิ่มความหนาแน่นของพลังให้มากกว่าเดิมและซัดฝ่ามือง่าย ๆ ออกไปเหมือนกับครั้งที่แล้ว

เสี่ยวฉี และ โจวหยินอัน ตาแทบถลนเมื่อพวกเขาสัมผัสได้ว่าฝ่ามือนี้ของ อวี้ฮ่าวหราน มันรุนแรงกว่าฝ่ามือเมื่อครู่เป็นสิบเท่า!

พวกเขารีบซัดฝ่ามือหมอกพิษออกไปต้านทานในทันที!

บรึ้ม!!!

อั่ก!

รอบนี้ผลลัพธ์คล้ายเมื่อครู่ แต่แตกต่างกันตรงที่ร่างของทั้งเสี่ยวฉีและ โจวหยินอันกระเด็นกลิ้งไถลถอยหลังไปกับพื้นถึง 10 เมตรก่อนที่จะหยุดลงและพวกเขาทั้งคู่ต่างกระอักเลือดออกมาคำโต

ขณะนี้พลังวิญญาณภายในร่างของพวกเขาปั่นป่วนจนไม่สามารถเรียกออกมาใช้งานได้อีกแล้ว พวกเขาพ่ายแพ้อย่างหมดรูป!

“เฮอะ! พวกแกคิดจะฆ่าฉันด้วยความแข็งแกร่งแค่นี้เนี่ยนะ? ตลกสิ้นดี!” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

“แค่ก แค่ก แค่ก…น…นี่แกแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่!?”

“เด็กอย่างแกแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?!”

ทั้งสองคนต่างเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ทั้งงุนงงและหวาดกลัว

“มันไม่ใช่ว่าฉันแข็งแกร่งหรอกแต่มันเป็นพวกแกต่างหากที่อ่อนแอเกินไป!”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าดูถูก คนพวกนี้คิดว่าเขาแข็งแกร่งแล้ว ทั้ง ๆ ที่ความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้มันยังไม่ถึงหนึ่งในล้านของความแข็งแกร่งของเขาก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในดินแดนแห่งเทพเลยด้วยซ้ำ

พวกมดแมลงนี่น่าตลกสิ้นดี!

“หากพวกแกอยากจะฆ่าฉันมากนัก คราวหน้าช่วยส่งคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกแกมาตามฆ่าฉันจะดีกว่า ฉันไม่อยากจะเสียเวลากับมดแมลงกับพวกแกสักเท่าไหร่”

หลังจากพูดจบประโยคนี้ อวี้ฮ่าวหรานเดินกลับไปขึ้นรถในทันที เขาไม่มีความคิดที่จะฆ่าทั้งสองคนนี้ให้ตายที่นี่

สาเหตุที่เขาปล่อยทั้งคู่ไปเป็นเพราะว่าเขาต้องการให้ทั้งสองคนนี้ไปตามคนที่แข็งแกร่งกว่ามาสู้กับเขา เขาอยากที่จะสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งทัดเทียมกันเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาเอง…

ใช่แล้ว! นี่คือวิธีเดียวกับที่เขาใช้พัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเขาเองตอนอยู่ที่ดินแดนแห่งเทพ!

หลังจากเห็นว่า อวี้ฮ่าวหรานขับรถออกไปจริง ๆ โดยที่ไม่ฆ่าพวกเขา เสี่ยวฉีและโจวหยินอัน ต่างมองหน้ากันอย่างตกตะลึงและพูดไม่ออก

ไอ้คน ๆ นี้มันปล่อยพวกเขาไปจริง ๆ งั้นเหรอ?

นี่องค์กรของพวกเขาส่งพวกเขามาสู้กับสัตว์ประหลาดประเภทไหนกัน?!