ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 2
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ที่มีเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นข้างหู
เธอลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ตรงหน้าปรากฏเป็นใบหน้ากลมที่ฟกช้ำ เธอรู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร “เสี่ยวซุน?”
ทาสรับใช้ของเจ้าของร่างเดิม เสี่ยวซุน
“คุณหนู ข้าปกป้องคุณหนูไม่ได้ อภัยให้ข้าด้วย!” เสี่ยวซุนร้องไห้คร่ำครวญ
จื่่ออันทนกับความเจ็บปวดที่ระบมอยู่ทั่วทั้งร่างกาย ค่อย ๆ ลุกขึ้นช้า ๆ และเดินไปยังเก้าอี้ที่ฮูหยินหลิงหลงนั่งเมื่อสักครู่อย่างยากลำบาก หลังและขาทั้งสองข้างของเธอบาดเจ็บหนักสาหัส การที่มานั่งบนเก้าอย่างนี้ ราวกับว่านั่งอยู่บนผ้าที่ทอด้วยขนสัตว์มีเนื้อหนาที่มีเข็ม มีแต่ความเจ็บที่บาดลึกให้เธอยังคงมีสติอยู่
น้ำเสียงที่โศกเศร้าดังขึ้นในหัว “ถึงข้าจะเป็นผี ก็ไม่ยอมปล่อยพวกมันไปหรอก”
เธอรู้ว่าเสียงนั่นเป็นเสียงของเจ้าของร่าง
สองมือกำหมัดแน่น สัมผัสได้ถึงความเย็นของโลหะที่นิ้วกลาง เธอก็ตกใจก้มหน้าลงทันที แหวนแห่งจิตวิญญาณ? แหวนแห่งจิตวิญญาณก็ตามมาด้วยงั้นหรอ? แหวนแห่งจิตวิญญาณนั้น ในตอนที่เธอทำงานอยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาออกมาเป็นอาวุธชนิดหนึ่ง ข้างในมีไมโครชิพอยู่ สามารถดูดซึมพลังงานจากแสงอาทิตย์และไฟฟ้าในอากาศได้อัตโนมัติ กลายเป็นอาวุธที่ใช้จู่โจมคนได้
“กำหนดงานแต่งวันไหน?” จื่่ออันหมุนแหวนแห่งจิตวิญญาณด้วยสายตาอันเย็นชา พร้อมถามเสี่ยวซุนที่กำลังร้องไห้เสียใจ
เสี่ยวซุนร้องไห้ไปพร้อมตอบว่า “วันพรุ่งค่ะ คุณหนู”
พรุ่งนี้!
จื่่ออันปิดตาลงช้า ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมด ราวกับในหนังที่ฉายภาพวนไปวนมา
ทุกครั้งที่วนฉายกลับมารอบหนึ่ง ความโกรธในใจเธอก็เพิ่มขึ้นอีกเสี้ยวหนึ่ง และใจที่อยากจะแก้แค้นให้เจ้าของร่างเดิมก็ร้อนรนคุกรุ่นมากขึ้นไปอีก
“ท่านแม่ล่ะ?” จื่ออันถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
เสี่ยวซุนกัดฟันตอบ “ฮูหยินอยู่ในตอนที่ฮูหยินหลิงหลงจับคุณหนูไว้ จึงไปโวยวายที่ห้องฮูหยินผู้เฒ่า ด้วยอารมณ์โกรธของฮูหยินผู้เฒ่า จึงสั่งขังฮูหยินเซี่ยไว้ในห้องมืด”
ท่านย่า? ในหัวของจื่ออันแวบภาพใบหน้าแก่ ๆ แต่น่าเกรงขามขึ้นมา ท่านย่าคนที่ทำเพื่อเกียรติยศของวงศ์ตระกูลโดยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
“ไปบอกท่านย่าและนายท่าน บอกว่าข้ายอมที่จะขึ้นเกี้ยวแต่งงาน แต่ก่อนอื่นต้องปล่อยท่านแม่ข้าก่อน” จื่่ออันบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เสี่ยวซุนฟังถึงตรงนี้ ก็ร้องไห้เสียใจยิ่งกว่าเดิม นางรู้ว่าคุณหนูไม่มีทางเลือกแล้ว หากไม่แต่ง ก็ต้องเจอแต่ทางตัน
เสี่ยวซุนไปไม่ถึงครึ่งวัน หยวนซื่อก็กลับมาแล้ว
นางถูกหามเข้ามา ท่านย่าปกครองบ้านด้วยกฏที่เข้มงวด นางทนไม่ได้ที่เห็นหยวนซื่อมาโวยวายแบบนั้นจึงสั่งให้คนโบยจนเจียนตายไปหนึ่งยก
ฮูหยินหลิงหลงมาส่งหยวนซื่อด้วยตนเอง นางมองจื่ออันอย่างพอใจ “จะเร็วจะช้าเจ้าก็ต้องตอบตกลง หากตกลงเร็วกว่านี้หน่อย จะได้เจ็บตัวน้อยกว่านี้ จะอะไรกันนักกันหนา? น่าอนาถจริง ๆ!”
จื่่ออันจ้องไปยังใบหน้าที่ดูพอใจเป็นอย่างมาก ประวัติของฮูหยินหลิงหลงกำลังปะติดปะต่อกันในหัวของเธอ
ฮูหยินหลิงหลง เฉินหลิงหลงหญิงแม่หม้าย สถานภาพของนางหลังจากที่แต่งกับเสนาบดี พอเข้าสำนักมานางก็คลอดลูกแฝดชายหญิง ลูกสาวเซี่ยหว่านเอ๋อ ลูกชายเซี่ยหลิน นับแต่นั้นมามหาเสนาบดีเซี่ยก็รักและเอาอกเอาใจนาง เห็นได้ชัดว่าเป็นตำแหน่งของอนุภรรยา แต่กลับประกาศต่อสาธารณชนว่าฮูหยินหลิงหลงเป็นนายหญิง และริดรอนสิทธิ์ของหยวนซื่อ อยู่ในตำแหน่งนายหญิงของบ้าน และเมื่อนางมีอำนาจในการลงโทษอยู่ในมือ จึงจัดการลงโทษเจ้าของร่างเดิมและนางอีกยก
จื่่ออันจ้องไปที่นางอย่างโกรธแค้น ง้างมือขึ้น ใช้แรงทั้งหมดที่มีตบไปที่กกหูของฮูหยินหลิงหลงอย่างแรง
หลินหลงฟูเหรินตกใจ ราวกับไม่เชื่อว่าเซี่ยจื่ออันจะตบนาง
“เจ้าอยากตายใช่ไหม!?”ความโกรธเพิ่มพูนขึ้นในสายตาอันเกรี้ยวกราดของนางทันที ราวกับว่าจะกลืนกินจื่ออันเข้าไป
จื่่ออันตอบกลับอย่างเย็นชา “ฝ่ามือนี้ คิดเป็นดอกเบี้ยที่ท่านติดเซี่ยจื่ออันไว้ ข้าจะทวงคืนมันกลับคืนมาให้หมด”
“หึ! คิดพยศรึ!มาสิ…” ในขณะที่หลิงหลงกำลังจะเรียกคนมา จื่ออันก็ดึงปิ่นปักผมบนหัวตัวเองลงมากดไปที่คอของฮูหยินหลิงหลง
“เจ้ากล้ารึ?” ฮูหยินหลิงหลงถึงกับผงะ ไม่กล้ามองไปที่เซี่ยจื่ออัน
จื่่ออันยิ้มอย่างชั่วร้าย “ยังไงก็ไม่ถึงตาย ฟูเหรินจะเอาชีวิตอันสูงส่งของท่านมาเดิมพันกับชีวิตอันต่ำต้อยของข้ารึ?”
ฮูหยินหลิงหลงมีท่าทีอ่อนลง “เจ้าจะเอายังไง?”
“เชิญหมอมารักษาท่านแม่ของข้า มิเช่นนั้น ถึงตายข้าก็ไม่มีทางไม่ขึ้นเกี้ยว!” พูดจบ เธอก็วางปิ่นปักผมลง และค่อย ๆ ม้วนผมสละสลวยที่กระจัดกระจายอยู่บนไหล่ช้า ๆ ม้วนเป็นมวยผมที่เรียบง่าย
สายตาของฮูหยินหลิงหลงฉายแววเกลียดชัง เกลียดจนอยากเอามีดหั่นเป็นชิ้น ๆ แต่นางก็รู้ดีว่าตอนนี้ไม่เหมาะที่จะยั่วโมโหนาง มิเช่นนั้นแล้วนางคงจะปฏิเสธที่จะขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวเป็นแน่ ความฝันที่จะเป็นชายาองค์รัชทายาทของหว่านเอ๋อก็ต้องพังทลายลง
นางส่งเสียง ฮึ ออกมา “รอไปก่อนเถอะ!” รอจนนางแต่งเข้าตำหนักอ๋องเหลียงจริง ๆ นางก็คงมีชีวิตไม่ต่างกับหมูหมาแล้ว
พูดจบ ก็เดินจากไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างเยือกเย็น
แท้จริงแล้วฮูหยินหลิงหลงได้จ้างหมอมารักษาให้หยวนซื่อแล้ว จื่่ออันก็หยิบยาขาวและยาแก้อักเสบภายในมาให้ท่านแม่กิน ในกระเป๋ายาของหมอมีชุดเข็มด้วย นางเลยให้ไปสองสามตำลึงแลกกับชุดเข็มมา
หมอเห็นอาการบาดเจ็บบนตัวของจื่่ออันแล้ว ก็ประหลาดใจว่าทำไมนางถึงยังลุกยืนได้ อาการบาดเจ็บแบบนี้ อย่างน้อยที่สุดต้องนอนบนเตียงครึ่งเดือน ดูแล้วลูกสาวคนโตของเสนาบดี เป็นคนมีความมุ่งมั่นมากเลยทีเดียว
หลังจากที่หมอออกไป หยวนซื่อค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา มองเห็นทั่วใบหน้าและทั่วตัวของลูกสาวเต็มไปด้วยบาดแผล นางอดไม่ได้ที่จะเศร้าเสียใจ “เป็นแม่เองที่ทำร้ายเจ้า”
จื่่ออันกำมือนางไว้แน่น น้ำตาหลั่งไหล เธอไม่ใช่คนที่ร้องไห้ง่าย ๆ มาก่อน แต่เห็นสายตาที่รักและหวงแหนลึก ๆ ของหยวนซื่อ เธอไม่สามารถห้ามหัวใจที่สั่นไหวนี้ได้ แม้ว่าในอดีตเธอจะไม่เคยได้สัมผัสความรักของแม่ก็ตาม
ข้างหูมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ข้าไม่พอใจ ข้าเกลียดที่สุด หากมีคนล้างแค้นให้ข้า ชาติหน้าข้าจะตอบแทนอย่างแน่นอน…
เธอรู้ว่าเป็นความคับข้องใจที่ยังติดอยู่ของเซี่ยจื่ออัน เสียงของเจ้าของร่างเดิมที่ยังดังก้องอยู่ในหัว
เธอโน้มไปที่ข้าง ๆ หูของหยวนซื่อ และพูดเบา ๆ ว่า “ท่านแม่ ท่านไม่ต้องกลัว พวกเรายังวางแผนรับมือกันทันอยู่”
หยวนซื่อประหลาดใจ มองเธอนิ่ง ๆ “วางแผนรับมือ?”
ริมฝีปากจื่่ออันยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ “ใช่แล้ว แผนเอาสองแม่ลูกที่มันทำร้ายพวกเรา ส่งลงนรกไปทีละคนทีละคน
เธอประจำอยู่ทีมแพทย์ทหารของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ แต่บางครั้งก็ออกไปทำภารกิจบ้าง ในยุคปัจจุบันนี้ มือของเธอก็เปื้อนไปด้วยเลือด ผู้คนที่ฆ่าก็ล้วนเป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุด
หยวนซื่อค่อย ๆ ลุกนั่งช้า ๆ สายตาก็จับจ้องไปที่จื่่ออัน
ในใจของนางมีเรื่องไม่สบายใจเล็กน้อย แต่ความไม่สบายใจพวกนี้ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นแสนประหลาด ความตื่นเต้นที่จะได้ล้างแค้น…
เพื่อให้มั่นใจว่าจื่นอานจะขึ้นเกี้ยวอย่างราบลื่น ในคืนนั้นมหาเสนาบดีเซี่ยก็มา
จื่่ออันกินยาไป ก็รู้สึกมึน ๆ งง ๆ และเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้าง ๆ หู เธอก็ลืมตาขึ้นแทบจะในทันทีด้วย
“หากเจ้าเชื่อฟังดี ๆ พ่อไม่ลงมือกับแม่ของเจ้าอยู่แล้ว แต่หากพรุ่งนี้เจ้าเล่นเล่ห์เพทุบายอะไร ก็อย่ามาหาว่าพ่อไร้ความปราณีก็แล้วกัน!”
พูดจบก็ทิ้งใบหย่าแผ่นหนึ่งลงมา พูดอย่างเย็นชา “หากเจ้าขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวไปแล้ว ใบหย่านี้จะถูกทำลายไปเอง หากเจ้าไม่ยอมขึ้น ใบหย่าแผ่นนี้จะถูกป่าวประกาศให้โลกรู้”
พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปไม่แม้แต่จะหันมามองหยวนซื่อแม้แต่หางตา
หยวนซื่อหยิบใบหย่านั่นขึ้นมาอ่านทีละตัวทีละตัวอย่างชัดเจน ในใบหย่าบอกว่านางเป็นหญิงผิดศีลธรรม โยนข้อหาว่าคบชู้กับคนใช้ แล้วจะป่าวประกาศสู่สาธารณชนและขับไล่ออกไป จะอยู่หรือตายก็จะไม่เกี่ยวข้องกันอีก
นางค่อย ๆ ปิดตาลงช้า ๆ นึกถึงเมื่อสิบแปดปีก่อน ผู้ชายที่ใบหน้าอ่อนหวานพูดกับนางอย่างหลงใหลใคร่รัก ชีวิตนี้ทั้งชีวิตจะรักแค่นางคนเดียว จะไม่แยกจากกันไปชั่วนิรันดร์
เขาตามตื้อจนได้ใจนาง แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอแต่งงานกับเขายังไม่พ้นหนึ่งปี ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเป็นคนละอย่าง
นางอยากจะฉีกใบหย่านั่นทิ้ง จื่่ออันคว้ามันไว้แล้วเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วพูดกับหยวนซื่อว่า “ใบหย่าใบนี้ก็เป็นเหมือนมีดคมที่มีประโยชน์กับท่าน ท่านต้องกำมีดคมเล่มนี้ไว้ให้แน่น แล้วแทงเข้าไปที่หัวใจของคนที่เคยทำร้ายท่านสิ”