ตอนที่ 491 หนานเสียน นั่นใช่เจ้าหรือไม่ (5)/ตอนที่ 492 หนานเสียน นั่นใช่เจ้าหรือไม่ (6)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 491 หนานเสียน นั่นใช่เจ้าหรือไม่ (5)

“เสด็จพ่อ” เฟิงหรูชิงยิ้มหวาน แววตาเป็นประกาย “หลายปีที่เขามาอยู่แคว้นหลิวอวิ๋น ได้ออกลายเจ้าชู้หรือไม่เพคะ”

เฟิงเทียนอวี้ตอบตามจริง “ไม่มี!”

กั๋วซือไม่เคยออกลายเจ้าชู้ ข้างกายเขามีเพียงแค่งูตัวผู้หนึ่งตัว

“อย่างนั้นเฟิงหรูซวงที่ตอแยเขาไม่หยุด มีจุดจบอย่างไร”

“ถูกงูฉก โยนออกจากป่าไผ่ทิศใต้”

รูปโฉมของหลิวหรงนั้นใช้ได้ กู้เจิ้นหยางก็หล่อเหลาเอาการ ดังนั้นเฟิงหรูซวงลูกสาวของพวกเขานั้นย่อมงดงามยิ่งนัก

สำหรับดินแดนที่ชายสามารถมีเมียหลวงเมียน้อยได้หลายคน การกระทำของหนานเสียนนั้น คงมีอิทธิพลจากครอบครัวของเขา

“อย่างนั้นเสด็จพ่อมีความเห็นต่อกั๋วซือว่าอย่างไรเพคะ”

เฟิงเทียนอวี้นิ่งไป

เขาสามารถบอกความรู้สึกที่ตัวเองเฝ้าดูแลฟูมฟักลูกสาวราวกับไข่ในหินแล้วถูกคนขโมยไปได้หรือไม่

“ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ได้!”

ภายในใจของเฟิงเทียนอวี้เต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นมือของหนานเสียนโอบเอวของเฟิงหรูชิงซ้ำราวกับจะประกาศสงครามกับเขา

แน่นอนว่าการประกาศสงครามเป็นเพียงแค่เรื่องมโนของเฟิงเทียนอวี้ หนานเสียนเพียงแค่เคยชินที่จะให้นางอยู่ใกล้เขา

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันเป็นคนตามเกี้ยวกั๋วซือเองเพคะ”

ประโยคเดียวของเฟิงหรูชิง นั้นทำให้เฟิงเทียนอวี้นิ่งเงียบลง

จู่ๆ เขาก็นึกได้ว่า เมื่อครู่ ดูเหมือนว่าลูกสาวของเขาจะเป็นฝ่ายกดกั๋วซือไว้

“ต้องการให้ข้าช่วยปล่อยข่าวหรือไม่”

เฟิงหรูชิง “…”

นางไม่ได้ขืนใจกั๋วซือสักหน่อย ปล่อยข่าวอะไรกัน

“จริงสิ” เฟิงเทียนอวี้ที่เพิ่งหันหลังเตรียมเดินจากไป นึกขึ้นได้ถึงจุดประสงค์ของการมาคราวนี้ เขามองไปยังเฟิงหรูชิงด้วยแววตาสงสัย ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ชิงเอ๋อร์ ร่างกายของเจ้า…”

เขาอดห่วงเฟิงหรูชิงไม่ได้ จึงจะมาอยู่เป็นเพื่อนนาง ใครจะรู้ว่าจะถูกหนานเสียนทำให้หัวเสีย ลืมจุดประสงค์เดิมไปหมด

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันไม่เป็นอะไรแล้วเพคะ ลมปราณของหม่อมฉันฟื้นคืนเป็นปกติแล้ว กั๋วซือช่วยหม่อมฉันไว้เพคะ”

หากไม่ใช่เพราะหนานเสียนมาได้ทันเวลา ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเฟิงหรูชิงจะต่อสู้กับพลังของสมอจีนไหว

อีกทั้ง นางไม่สามารถลืมแววตาที่เจ็บปวดคู่นั้นได้ มันฝังลึกลงไปในความทรงจำของนาง ก้าวข้ามกาลเวลา เพื่อได้มาอยู่ตรงหน้านางอีกครั้ง

เฟิงเทียนอวี้งุนงงไปชั่วครู่ แต่แล้วความปิติดีใจก็เกิดขึ้น เขารีบพุ่งไปข้างหน้า สองมือบีบแน่นที่ไหล่ของเฟิงหรูชิง

“ชิงเอ๋อร์ จริงหรือ”

ชิงเอ๋อร์ของเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่เป็นอะไรจริงด้วย!

ฮ่าๆ !

เฟิงเทียนอวี้หัวเราะลั่นออกมา อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา สั่นเทาไปทั้งร่างกาย

หากว่าชิงเอ๋อร์ไม่สามารถฝึกตบะได้อีก เขาและเยียนเอ๋อร์ก็จะดูแลนางเอง! แต่เขารู้ดีว่าการฝึกตบะนั้นสำคัญต่อผู้มีวิทยายุทธมากแค่ไหน

โดยเฉพาะเฟิงหรูชิง!

นางเป็นคนชอบเอาชนะแบบนี้ หากนางเป็นอัมพาตไปละก็ ชีวิตต่อจากนี้ของนางจะต้องทุกข์ระทมมากแค่ไหน!

เขาหวังว่าลูกสาวของเขา ชั่วชีวิตจะไม่มีความทุกข์ ไม่ประสบพบเจอความเศร้าใดๆ

เนื่องจากตื่นเต้น เฟิงเทียนอวี้จึงเผลอกดไหล่เฟิงหรูชิงแรงเกินไป ทำให้เฟิงหรูชิงเจ็บจนขมวดคิ้วเล็กน้อย

แต่นางเห็นท่าทีดีอกดีใจของเฟิงเทียนอวี้ จึงไม่อยากทำลายบรรยากาศ ปล่อยให้เฟิงเทียนอวี้จับต่อไป

หนานเสียนดึงตัวเฟิงหรูชิงมาไว้ข้างกาย น้ำเสียงนิ่งเรียบ “ฝ่าบาท ฝ่าบาททำให้นางเจ็บ”

“โอ้ๆ” เฟิงเทียนอวี้ไม่มีท่าทีโกรธหนานเสียน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ดีเหลือเกิน ชิงเอ๋อร์ของข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ข้าและเยียนเอ๋อร์สบายใจได้สักที กั๋วซือ คราวนี้ต้องขอบใจเจ้ามาก ขอบใจจริงๆ”

หนานเสียนยิ้มน้อยๆ กล่าว “เพราะกระหม่อมไม่ได้อยู่คุ้มกันนางให้ดี ดังนั้น การช่วยชีวิตนางคือสิ่งที่สมควรทำ จากนี้ กระหม่อมจะไม่ปล่อยให้นางได้รับอันตรายอีก”

………………………

ตอนที่ 492 หนานเสียน นั่นใช่เจ้าหรือไม่ (6)

เฟิงหรูชิงมองดูหนานเสียนด้วยแววตาสงสัย

นางรู้สึกว่าท่าทีที่หนานเสียนมีต่อนางนั้น…ไม่เหมือนปกติเลย

ทั้งช่วยเหลือนางไว้โดยไม่คิดชีวิตหลายครั้งหลายครา ทั้งยังรับการเกี้ยวพาราสีแทะโลมจากนางด้วยความใจเย็น

เพราะอะไรนะ

ในความทรงจำของเฟิงหรูชิง ความกลัวที่องค์หญิงคนเดิมมีต่อกั๋วซือ และความเย็นชาวางมาดที่กั๋วซือมีต่อนาง หลังจากที่ได้พบกันในป่าไผ่ทิศใต้ครั้งนั้น ท่าทีของกั๋วซือก็ดูเปลี่ยนไป

เหมือนกับว่า ครั้งแรกที่นางได้เจอกั๋วซือ กั๋วซือต้องแต่งงานกับนางเป็นแน่!

“อะแฮ่ม!” เฟิงเทียนอวี้ส่งเสียงไอเบาๆ “กั๋วซือ ข้าขอบใจเจ้าที่ช่วยลูกสาวข้าไว้ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะ…”

หนานเสียนยิ้มน้อยๆ “นางบอกว่านางต้องการนอนกับกระหม่อม”

“…”

“นางยังบอกอีกว่า ต้องการนอนกับกระหม่อมไปตลอดชีวิต”

เฟิงเทียนอวี้อึ้ง

ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของชิงเอ๋อร์ แล้วเขาจะพูดอะไรได้อีก

ลูกสาวของตัวเอง คงต้องตามใจนาง

“ข้าจะไปปล่อยข่าวเรื่องพวกเจ้าสักหน่อย อ้อ จริงสิ ข้าจะไปบ้านสกุลถังก่อน พอกลับถึงแคว้นหลิวอวิ๋นแล้ว ข้าจะประกาศเรื่องงานแต่งงานของพวกเจ้า”

เฟิงหรูชิงอึ้ง

เรื่องราวมัน…ดำเนินไปเร็วเหลือเกิน?

“เสด็จพ่อ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรอกเพคะ”

ที่สำคัญกว่านั้นคือ หากจะนอนกับกั๋วซือนางจำเป็นต้องเพิ่มกำลังความสามารถตัวเองให้สูงขึ้นอย่างน้อย…ก็ต้องสู้กับกั๋วซือได้!

“ไม่ต้องรีบร้อนจริงหรือ” เฟิงเทียนอวี้มองเฟิงหรูชิงอย่างงุนงง “บอกพ่อซิ กั๋วซือไม่ตอบตกลงเจ้าใช่หรือไม่ ไม่เป็นไร พอกลับไปถึงแคว้นหลิวอวิ๋น พ่อจะแต่งตั้งให้ลุงของเจ้าเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ให้เขาดูแลราชกิจแทนข้า หลังจากนั้นข้ากับแม่เจ้าจะตั้งใจฝึกตบะ รอให้ข้าเอาชนะกั๋วซือได้เมื่อไร ข้าจะจับเขามัดแขนมัดขาส่งตัวเข้าเรือนหอให้เจ้า”

หนานเสียนชำเลืองมองเฟิงเทียนอวี้

ในสายตาที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจ กลับซ่อนไว้ซึ่งความดีใจ

จับมัดส่งเข้าเรือนหอหรือ ดูเหมือนว่า…เขาจะตื่นเต้นไม่น้อย

“จริงสิ เสด็จพ่อ ท่านลุงล่ะ” เฟิงหรูชิงหยีตา “ทำไมเมื่อหลายวันก่อนตอนหม่อมฉันกลับไปแคว้นหลิวอวิ๋น ถึงไม่เจอท่านลุงกับพี่ชายหม่อมฉันเลยเพคะ”

“อ้อ ก่อนหน้านี้ด่านชายแดนมีเหตุคับขัน ลุงกับพี่ชายของเจ้านำทัพออกศึก เลยไม่อยู่ที่เมืองหลวง”

ด่านชายแดนมีเหตุคับขัน?

เฟิงหรูชิงใจเต้นแรง

อยู่ดีๆ เกิดเหตุคับขันขึ้นได้อย่างไร มันช่างประจวบเหมาะเกินไปไหมที่เกิดในเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

เฟิงหรูชิงสีหน้าไม่สู้ดี “เสด็จพ่อ เสด็จแม่พาตัวถังอวี้ไปบ้านสกุลถังหรือเปล่าเพคะ พวกเรารีบไปบ้านสกุลถังกันเถอะ!”

หวังว่าตอนนั้นมีมีฌานแก่กล้าทั้งหลายจะกลับมาที่เมืองหลวง ด่านชายแดนคงไม่มีผู้มีฌานระดับหลิงอู่อยู่ที่นั่น

มิฉะนั้น พี่ชายกับท่านลุงคง…

“แย่แล้ว เสด็จพ่อ ท่านรีบมีราชโองการให้ท่านตาไปด่านชายแดนโดยเร็วเถอะเพคะ เมืองหลวงอยู่ห่างจากด่านชายแดนไม่มาก หวังว่าท่านตาจะไปทัน!”

ช่วงนี้เฟิงเทียนอวี้สนใจแต่เรื่องของหรงเยียน จึงทำให้เขาไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่นๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงหรูชิง สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปทันที

“ได้ ข้าจะไปบ้านสกุลถังเดี๋ยวนี้ จะฆ่าพวกชาติชั่วพวกนั้นให้หมด!”

เมืองหลวงของแคว้นหลิวอวิ๋น

ในจวนแม่ทัพ

แม่ทัพเฒ่ากำลังจิบเหล้ากับฉินเฟยหยางอย่างสบายอุรา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข แต่ไม่รู้เพราะอะไร เขารู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง

ส่วนคำตอบว่าขาดอะไรไปนั้น ตอนนี้เขาเองก็นึกไม่ออก

“ท่านฉิน ท่านรู้สึกไหมว่า…ช่วงนี้จวนแม่ทัพของข้ามันดูเปล่าเปลี่ยว เหมือนขาดอะไรไป”

ฉินเฟยหยางหัวเราะ “หากให้คิดว่าจวนแม่ทัพขาดอะไรไป ข้าว่าน่าหลานจึงถึงวัยแต่งงานมีลูกแล้ว ท่านแม่ทัพ ก่อนนี้น่าหลานจิ้งถูกองค์หญิงจื่อเยียนถอนหมั้นไป ท่านคิดจะหาคู่หมั้นคนใหม่ให้เขาบ้างหรือไม่”

………………………….