ความโกรธและความเกลียดชังในอดีต

แปลโดย iPAT

 

ในอดีต นางมารผลาญสวรรค์ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีบนเส้นทางแห่งกาลเวลา นี่ทำให้นางต้องการมรดกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของไห่ฟาน

 

ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนชื่อของน้องสาวคนเล็กเป็นซูเซียนเอ๋อและส่งนางเข้าไปเป็นสายลับในเผ่าไห่

 

ไห่เจิ้งและซูเซียนเอ๋อตกหลุมรักกันและกลายเป็นคู่รักอมตะที่มีชื่อเสียง

 

แต่ซูเซียนเอ๋อยังไม่ลืมหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย นางพยายามสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับมรดกของไห่ฟานแต่ไห่เจิ้งกลับพบร่องรอยบางอย่างและคิดว่านางเป็นหนึ่งในแผนการของกองกำลังพันธมิตรภูเขาหิมะ

 

อย่างไรก็ตามซูเซียนเอ๋อรักไห่เจิ้งด้วยหัวใจที่แท้จริง ดังนั้นนางจึงไม่ออกจากเผ่าไห่ สุดท้ายจึงถูกไห่เจิ้งฉกชิงอายุขัย

 

หลังจากตระหนักถึงการเสียชีวิตของน้องสาว นางมารผลาญสวรรค์และเทพธิดาหลี่ซานรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

 

เทพธิดาหลี่ซานกล่าวโทษนางมารผลาญสวรรค์และเชื่อว่านางเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวคนเล็กเสียชีวิต

 

นางมารผลาญสวรรค์รู้สึกผิดและละอายใจแต่อาการบาดเจ็บของนางค่อนข้างสาหัส ดังนั้นนางจึงไม่สามารถแก้แค้น นอกจากนี้นางยังเป็นผู้นำกองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือ นางไม่สามารถทำทุกสิ่งตามอำเภอใจ สุดท้ายนางจึงเดินทางไปยังทะเลตะวันออก

 

เมื่อนางข้ามผ่านกำแพงภูมิภาค นางเกือบเสียชีวิต

 

ในทะเลตะวันออก นางได้รับโชคลาภหลายอย่างเช่นมรดกของผู้อมตะเฒ่ากงเจีย การค้นพบโดยบังเอิญทำให้อาการบาดเจ็บของนางทุเลาลงบางส่วน

 

นานแล้วที่เทพธิดาหลี่ซานไม่ได้ติดต่อนางมารผลาญสวรรค์

 

หลังจากดูแลไห่ลั่วหลันและสั่นสอนนางจนเติบใหญ่ ความโกรธและความเกลียดชังในอดีตของเทพธิดาหลี่ซานจึงเริ่มสงบลง

 

นางใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อติดต่อนางมารผลาญสวรรค์

 

ด้วยเหตุนี้นางมารผลาญสวรรค์จึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของซิงเซียงซื่อและเริ่มวางแผน

 

เนื่องจากฟางหยวนต้องการหลอมรวมวิญญาณอมตะความคิดดารา นางจึงทำข้อตกลงกับเขา

 

เมื่อนางกลับมายังภาคเหนือ นางต้องการแก้ไขความผิดพลาดในอดีตด้วยการสนับสนุนไห่ลั่วหลัน

 

แล้วสิ่งที่ไห่ลั่วหลันต้องการมากที่สุดคือสิ่งใด?

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันก็คือวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง

 

เหตุผลประการแรก ไห่ลั่วหลันครอบครองสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองเหมาะสมกับนางมากที่สุด

 

ประการที่สอง วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองเป็นมรดกที่ไห่ลั่วหลันได้รับมาจากซูเซียนเอ๋อ มันคือของที่ระลึกจากมารดาของนาง!

 

ดังนั้นนางมารผลาญสวรรค์จึงคิดหาวิธีนำวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองกลับมาจากฟางหยวน

 

แต่นางยังพบปัญหา

 

หลังจากเรื่องรู้เกี่ยวกับฟางหยวน นางตกใจมาก

 

นางเห็นภาพของตนเองซ้อนทับอยู่ในตัวของเขา

 

ในแง่หนึ่ง ฟางหยวนเชี่ยวชาญในการวางแผน ขณะเดียวกันเขาก็สามารถรับความเสี่ยงโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย

 

หากกล่าวให้ดูดีอาจใช้คำว่ากล้าหาญ แต่คำกล่าวที่ตรงไปตรงมาก็คือไร้ยางอาย หากข้าไม่ได้รับผลประโยชน์ ผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์!

 

ทัศนคตินี้ไม่ต่างจากนางมารผลาญสวรรค์

 

นี่เป็นเหตุผลที่นางมารผลาญสวรรค์ให้การสนับสนุนฟางหยวนในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความคิดดารา

 

เมื่อฟางหยวนใช้ทรัพยากร เขาจะติดหนี้นาง ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เขาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนในภายหลัง หากฟางหยวนไม่สามารถใช้หนี้ได้ภายในเวลาหนึ่งร้อยปี เขาต้องมอบวิญญาณอมตะดวงใดดวงหนึ่งชดเชยให้นาง

 

กุญแจสำคัญคือวิญญาณอมตะดวงใดดวงหนึ่ง

 

แน่นอนว่านางมารผลาญสวรรค์เล็งเป้าไปที่วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง

 

ตอนนี้เมื่อนางมารผลาญสวรรค์ตระหนักว่าฟางหยวนมองเห็นแผนการของนางแล้ว นางจึงขมวดคิ้วกล่าว “ถูกต้อง ข้าต้องการวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองเพื่อส่งคืนให้กับเสี่ยวหลัน”

 

หากนางมีโอกาสได้รับมันโดยตรง นางก็ไม่จำเป็นต้องวางแผนล่อลวงใดๆ

 

วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองถูกปรับแต่งโดยฟางหยวน เขาสามารถทำลายมันได้ตลอดเวลา

 

เว้นเพียงว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีทักษะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่สามารถหยุดความคิดของเป้าหมายหรือทักษะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

 

นางมารผลาญสวรรค์ เทพธิดาหลี่ซาน และไห่ลั่วหลันไม่มีวิธีการดังกล่าว มิฉะนั้นพวกนางจะขโมยวิญญาณอมตะที่ต้องการจากมิติช่องว่างของฟางหยวนโดยตรง

 

สิ่งสำคัญอีกประการก็คือฟางหยวนมีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นนางมารผลาญสวรรค์จึงต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

 

นางมารผลาญสวรรค์เรียกร้องวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองแต่ฟางหยวนยังเงียบ

 

คำร้องของนางไม่สมเหตุสมผล

 

ฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองมาอย่างยุติธรรมด้วยการช่วยชีวิตไห่ลั่วหลันจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

อาจกล่าวได้ว่าฟางหยวนเป็นผู้มีพระคุณของไห่ลั่วหลัน

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้

 

เรื่องที่ไร้ประโยชน์ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงโดยเฉพาะกับคนดุร้ายเอาแต่ใจเช่นนางมารผลาญสวรรค์

 

‘หมัดที่ใหญ่กว่าคือเหตุผลที่ดีที่สุด หากข้าแข็งแกร่งพอ ข้าไม่จำเป็นต้องกลัวการขู่กรรโชก แต่น่าเสียดายที่ระดับการบ่มเพาะของข้ายังต่ำเกินไป’

 

ฟางหยวนตระหนักถึงปัญหาของตนเอง

 

เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปฏิเสธนางมารผลาญสวรรค์

 

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ศัตรูแข็งแกร่งขณะที่เขาอ่อนแอ เขาไม่ต่างจากเนื้อที่วางอยู่บนเขียง แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีวิธีรับมือ

 

‘ประการแรก ข้อตกลงก่อนหน้านี้ระบุว่าพันธมิตรไม่สามารถเข่นฆ่ากันเอง แต่เทพธิดาหลี่ซานเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งข้อมูล นางสามารถละเมิดข้อตกลง เรื่องนี้ค่อนข้างไร้ประโยชน์’

 

‘ประการที่สอง วิญญาณอมตะเป็นเรื่องยากที่จะลักขโมย นี่เป็นสาเหตุที่นางมารผลาญสวรรค์ต้องวางแผนสร้างสถานการณ์ในวันนี้ แต่ข้ายังไม่สามารถไว้ใจ นางมารผลาญสวรรค์แข็งแกร่งเกินไป หากนางตัดสินใจทำกับข้าเช่นเดียวกับผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ มันจะเลวร้ายมาก’

 

‘ประการที่สาม เทพธิดาหลี่ซานกับไห่ลั่วหลันไม่รู้ว่าราชันภูเขาม่วงเป็นเรื่องโกหก เดิมทีข้าใช้มันล่อลวงไท่เป่ยหยุนเฉิง แต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะกลายเป็นไพ่ตายของข้าในเวลานี้’

 

ฟางหยวนคิดไม่ผิด

 

นางมารผลาญสวรรค์รู้เรื่องของราชันภูเขาม่วงและให้ความสำคัญกับข้อมูลนี้เป็นอย่างมาก

 

นางค่อนข้างระวังราชันภูเขาม่วงที่ลึกลับ

 

หากราชันภูเขาม่วงเป็นผู้อมตะระดับแปดและนางจับศิษย์รักของเขา ปัญหาจะเกิดขึ้นในอนาคต นางมารผลาญสวรรค์พึ่งวางแผนสร้างปัญหาให้กับปีศาจอมตะเซี่ยหู นางไม่ต้องการเห็นตนเองตกอยู่ในสภาพเดียวกัน

 

มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ราชันภูเขาม่วงจะเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดหลังจากพิจารณาความสามารถของฟางหยวน นอกจากนั้นฟางหยวนยังอ้างตนว่าเป็นเพียงศิษย์น้องเล็กเท่านั้น นั่นหมายความว่าเขายังมีศิษย์พี่ที่แข็งแกร่งกว่าอีกหลายคน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราชันภูเขาม่วงสามารถผลักดันให้ฟางหยวนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนิกายกระเรียนอมตะ นี่ไม่ใช่เรื่องทั่วไปที่ผู้ใดจะสามารถทำได้

 

แต่ราชันภูเขาม่วงมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่?

 

เรื่องนี้เทพธิดาหลี่ซานกับไห่ลั่วหลันปราศจากเบาะแสอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นนางมารผลาญสวรรค์จึงถูกหลอกลวงด้วยสิ่งนี้เช่นเดียวกัน

 

ความเงียบของฟางหยวนทำให้นางมารผลาญสวรรค์หมดความอดทน “ฟางหยวน เจ้าต้องการสิ่งใด เราสามารถพูดคุย”

 

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ เขาวางแผนไว้แล้ว

 

แต่เขาไม่ได้ตอบคำถามของนางมารผลาญสวรรค์ ตรงข้ามเขากลับตั้งคำถาม “ทรัพยากรที่ใช้ในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความคิดดาราถูกท่านปรับแต่งถูกต้องหรือไม่?”

 

นางมารผลาญสวรรค์ตอบ “แน่นอน”

 

นางยอมรับ!

 

และไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความละอายใจอยู่บนใบหน้า!

 

ฟางหยวนขมวดคิ้ว “อันที่จริงข้าเคยสงสัยเรื่องนี้ แต่ทุกครั้งที่ข้าหลอมรวมวิญญาณ ข้าตรวจสอบทรัพยากรอย่างละเอียดและไม่พบข้อบกพร่องใดๆ”

 

นางมารผลาญสวรรค์ตอบ “นั่นเป็นเพราะรากฐานบนเส้นทางแห่งไฟของเจ้ายังอ่อนด้อยเกินไป ข้าเพิ่มร่องรอยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟเข้าไปน้อยมาก แต่มันจะส่งผลกระทบร้ายแรงและทำให้การหลอมรวมวิญญาณล้มเหลว”

 

แน่นอนว่านางมารผลาญสวรรค์ต้องทำสิ่งนี้

 

มิฉะนั้นหากฟางหยวนประสบความสำเร็จ นางจะบังคับเขาได้อย่างไร?

 

ฟางหยวนพยักหน้าและกล่าวต่อ “ข้าสามารถส่งคืนวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง แต่ข้ามีเงื่อนไข”

 

เมื่อได้ยินประโยคนี้ เทพธิดาหลี่ซานกับไห่ลั่วหลันจึงเริ่มมีความหวัง

 

นางมารผลาญสวรรค์มองฟางหยวนด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะปรบมือ “ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเหตุใดน้องสาวของข้าจึงต้องการหยุดเจ้า? กล่าวมา เจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

“ก่อนอื่นข้าต้องการสร้างข้อตกลงใหม่”

 

ข้อตกลงนี้จะเป็นการรับประกันความปลอดภัยของเขา แม้เทพธิดาหลี่ซานจะมีทักษะบนเส้นทางแห่งข้อมูล แต่นางยังต้องเตรียมตัวก่อนจะลงมือทำ

 

“นี่คือสิ่งที่ต้องทำ” นางมารผลาญสวรรค์เห็นด้วย

 

ฟางหยวนกล่าวต่อ “ข้อสอง หนี้ของข้าต้องถูกชำระ”

 

“ตราบเท่าที่เจ้าส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง สิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหา” นางมารผลาญสวรรค์ตอบอย่างตรงไปตรงมา

 

“ข้าต้องการออกจากกองกำลังพันธมิตรผีดิบและยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด”

 

“ตกลง”

 

“สุดท้าย ข้าต้องการซากศพของผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ท่านต้องสัญญาว่าจะหามันมาให้ข้ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายสดใสเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้