ตอนที่ 221 : กลุ่มโทรล

หวังเย่าปล่อยให้เธอทุบอก แต่ในใจเขากลับรู้สึกดีเป็นอย่างมาก

เขาไม่คิดว่าการขโมยรังผึ้งครั้งนี้จะพบกับอสูรกายยักษ์โบราณ

หลังจากที่จ้าวเมิ่งซีใจเย็นลง หวังเย่าก็เช็ดน้ำตาที่หน้าของเธอและพูดขึ้น “เธอร้องไห้เหมือนกับแมวน้อยเลย”

จ้าวเมิ่งซีมองค้อนทันที

หวังเย่ายิ้มออกมาก่อนจะบอกกับทุกคน “นี่ไม่ใช่ที่ที่เหมาะจะคุยกัน ไปที่อื่นกันเถอะ”

เขาพาแฟนและคนอื่น ๆ มุ่งหน้าไปที่ต้นกินเลือดอีกครั้ง ระหว่างทางเขาก็ได้เจอกับคนอื่น ๆ ด้วย

เมื่อกลับมาที่บึง หวังเย่าก็ได้เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง

เมื่อได้ยินเรื่องการขโมยรังผึ้ง ทุกคนต่างก็พากันคึกขึ้นมาทันที

แม้ว่าผึ้งแปดปีกจะอยู่แค่ระดับทองแต่ยังสามารถวิวัฒนาการได้อีกหลายครั้ง แต่ถึงแม้จะอยู่แค่ระดับทอง แต่ทหารรับจ้างก็ไม่อาจจะหามันมาครอบครองได้ โดยพึ่งความสามารถของตัวเอง

ไข่ในรังนั้นมีหลายพันใบ เมื่อฟักมันออกมาแล้วมันจะมีสัตว์อสูรระดับทองหลายพันตัว กองกำลังแบบนี้ไม่อาจจะประมาทได้

หากผึ้งพวกนี้โตไปได้ 2-3 ปีจนเลเวล 20-30 พวกมันก็จะมีความสามารถในการบินที่ยอดเยี่ยม ตอนนั้นมันจะสามารถรับน้ำหนักคนได้ และเอามันเป็นพาหนะในการเดินทางได้ด้วย

หวังเย่าไม่ได้อธิบายอะไรมากในเรื่องบทบาทของผึ้งพวกนี้ เพราะบทบาทของพวกมันชัดเจนอยู่แล้ว ทุกคนต่างก็เข้าใจได้

เมื่อเขาพูดถึงอสูรกายยักษ์โบราณ ทุกคนต่างก็พากันกลั้นหายใจพร้อมกับเหงื่อตก พวกเขาต่างก็พากันสงสัยว่าหวังเย่าหนีออกมาจากที่นั่นได้ยังไง

“ถ้าไม่ใช่เพราะลูกแก้ววิญญาณดิน เกรงว่าฉันคงโดนขังอยู่ด้านล่างเป็นเพื่อนมันแล้วละ” หวังเย่าถอนหายใจออกมา

แม้ว่าทุกคนจะไม่ได้เจอกับตัว แต่ตามสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว พวกเขาก็ยังรับรู้ได้ถึงอันตราย พวกเขาคิดไม่ออกเลยว่าหวังเย่าหนีออกมาจากที่นั่นได้ยังไง เพราะมันอันตรายและเสี่ยงอย่างมาก

“สิ่งที่หัวหน้าได้เจอมานั้นอันตรายเกินไป โชคดีจริง ๆ ที่หัวหน้ารอดมาได้” พี่หลงอึ้ง

คนอื่น ๆ ต่างก็มองมาที่หวังเย่าด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ แม้ว่าจะมีตัวช่วยมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือโชคและไหวพริบ

หวังเย่ายักไหล่โดยไม่ได้ใส่ใจอะไร

“ครั้งนี้เหตุผลที่ฉันเรียกพวกนายมารวมตัวกันก็เพราะ หนึ่ง เพื่อต้องการที่จะเล่าเรื่องการขโมยรังผึ้ง สอง ฉันพบกับแม่น้ำใต้ดินในตอนที่หนี ดังนั้นฉันจึงปล่อยน้ำลงไปในเหวนั่น เดาว่าคงอีก 2-3 วันเหวนั่นก็จะมีน้ำขังอยู่ในนั้น ฉันไม่รู้ว่าสัตว์อสูรนั่นจะอยู่ในน้ำได้รึเปล่า ถ้ามันจมน้ำตาย งั้นเราจะลงไปเอาวัตถุดิบจากมัน แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยาก ฉันยังคิดแผนการไม่ออก พวกนายมีอะไรจะเสนอรึเปล่า ? ”

ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็พากันมองไปที่หวังเย่า …นี่คือความแค้นที่แท้จริง เมื่อโดนทำร้าย หวังเย่าก็คิดจะเอาคืน !

“ หัวหน้า น้ำนั่นลึกมากแค่ไหน ? ” ลัวจ้าวฮว่าถามขึ้นมา

“เกือบ 600 เมตร ” หวังเย่าแสดงท่าทีกังวลออกมา แม้ว่าน้ำใต้ดินนี้จะฆ่าอสูรกายยักษ์โบราณได้ แต่ถ้ามันตายจริง ๆ การที่พวกเขาจะเข้าไปเก็บสมบัติจากมันก็ถือว่าเป็นเรื่องยากอยู่ดี

น้ำลึก 600 เมตร แรงดันไม่ใช่น้อย มันยากที่จะดำลงไปในน้ำลึกแบบนั้นได้ แม้ว่าจะมีอุปกรณ์ดำน้ำแต่ก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี

ยิ่งกว่านั้นยังต้องหาร่างอสูรกายยักษ์โบราณอีก

ทุกคนได้แต่มองหน้ากัน

“หัวหน้า ผมลงไปใต้น้ำได้” ตอนนั้นเองเจ้าหนูก็ได้พูดขึ้นมา “ ผมทำสัญญากับหนูนี่ มันเป็นหนูน้ำ มันสามารถอยู่ในน้ำได้ประมาณ 30 นาที ผมสามารถใช้สกิลของมันในการหายใจใต้น้ำได้ ”

หวังเย่ามองไปที่เจ้าหนูด้วยความแปลกใจ เขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน เมื่อได้ฟังแบบนี้เขาจึงยิ้มและพูดขึ้นมา “งั้นก็ลองดู นายเตรียมตัวไว้ดี ๆ ผิวของอสูรกายยักษ์โบราณน่ะมันหนาและตัวของมันก็ยังหนักอีกด้วย ”

“ได้” หนูตอบรับทันที

ทุกคนต่างก็เข้าใจความรู้สึกของเขาว่ากังวลแค่ไหน หากเป็นการดำน้ำทั่วไป งั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่เขาต้องลงไปในเหวที่ลึกเกือบหมื่นเมตร ระหว่างทางอาจจะได้พบกับพวกผึ้งแปดปีก เมื่อลงไปในน้ำก็ต้องกังวลว่าอสูรกายยักษ์โบราณจะตายรึยัง และสุดท้ายคือเขาจะเอาของจากมันมายังไง

ตอนนี้ยังเช้าอยู่ หวังเย่ายังไม่ได้รีบจัดการกับต้นไม้กินเลือด เขาควรที่จะพักก่อน ยังไงซะวันนี้เขาก็เสียแรงไปไม่ใช่น้อย จิตใจเขายังเหนื่อยล้า

ทุกคนต่างก็รายงานผลการสำรวจในวันนี้ ตอนแรกหวังเย่าไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักแต่ก็ต้องแปลกใจกับสิ่งที่ฟ่านฉิงเหมยซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นมา

“ทางตะวันตกเฉียงใต้ไกลออกไป 500 ไมล์ ฉันพบกับกลุ่มสัตว์อสูรพิเศษ มันมีจำนวนไม่มาก มีแค่ 100 ตัวแต่มีขนาดใหญ่ มันสูงประมาณ 3 เมตร มันดูคล้ายกับคนมี 4 แขนและมีความสามารถในการล่าที่สูง มันสามารถสร้างเครื่องมืออย่างธนูและหอกขึ้นมาได้ มันวิ่งได้เร็วมาก พวกมันเหมือนจะเป็นธาตุหิน มันสามารถควบแน่นหินและเปลี่ยนรูปร่างของหินได้ ฉันเห็นตอนที่พวกมันออกล่า บางตัวโยนหอก บางตัวยิงธนูในระยะที่ไกลกว่า 1 ไมล์ได้ เมื่อพวกมันเข้าไปใกล้ มันก็จะใช้ลูกหินที่หนักอย่างน้อย 5,000 กิโลกรัม โยนเข้าใส่เหยื่อ ”

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันเงียบ เมื่อฟังจากคำอธิบายนี้แล้ว มันดูเหมือนยักษ์ในนิยายอย่างไรอย่างนั้น

“โทรล ? อสูรกายยักษ์โบราณ ? ”

หวังเย่าครุ่นคิด เขารู้สึกสับสน มันเป็นยักษ์ที่มีไอคิวต่ำ แต่ก็ยังมีความสามารถในการสร้างเครื่องมือและร่วมมือกันในการออกล่า หากทำสัญญากับพวกมันก็ต้องใช้พลังจิตที่สูง

แน่นอนว่าเขายังมีความคิดอีกอย่าง คำอธิบายแค่เบื้องต้นมันยังยากจะมองภาพออกได้ หากอยากรู้สถานการณ์ที่แน่ชัดแล้วเขาต้องไปดูด้วยตาตัวเอง

“ฉิงเหมย เธอบอกได้ไหมว่ามันอยู่ระดับไหน ? ”

ฟ่านฉิงเหมยตอบกลับโดยไม่ลังเล “ ประสาทสัมผัสของพวกมันค่อนข้างแย่ ขนาดฉันเข้าไปใกล้พวกมัน พวกมันก็ยังไม่รู้ตัวเลย ฉันไม่อาจจะบอกระดับได้แม่นยำ แต่อย่างน้อยต้องอยู่ระดับสวรรค์ แต่เลเวลคงไม่ได้สูงมากนัก อย่างมากก็น่าจะเลเวล 50 ”

หวังเย่าพยักหน้า สัตว์อสูรระดับสวรรค์เลเวล 50 นั้นถือว่าไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก และยิ่งเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลัง ก็ยิ่งยากที่จะพัฒนาได้

แต่หากทำสัญญากับคนแล้ว มนุษย์นั้นก็มีหลายวิธีในการเพิ่มระดับให้กับอสูรของตัวเอง ซึ่งแก้ปัญหานี้ได้ไม่ยากเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมากอยู่ดี

ยิ่งกว่านั้นการทำสัญญากับอสูรใหม่แต่ละตัวนั้นต้องดูแลมันตั้งแต่เลเวลแรกซึ่งนั่นต้องใช้เวลาอย่างมาก