ตอนที่ 449 เหนียนเสี่ยวมู่ ง้อผม! (3) / ตอนที่ 450 เหนียนเสี่ยวมู่ ง้อผม! (4)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 449 เหนียนเสี่ยวมู่ ง้อผม! (3)

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ขยับไหล่อย่างไม่สบายตัว

 

 

เธอมองไม่เห็นตัวเองในตอนนี้ เพียงแต่รู้สึกว่าสายตาของเขาเหมือนเป็นประกายไฟ ที่กำลังแผดเผาผิวหนังของเธอไปเรื่อยๆ

 

 

สายตานั้นทำให้เธอขนลุกไปทั่วร่าง เธอจึงยืดตัวตรงอย่างควบคุมไม่อยู่

 

 

หญิงสาวอยากจะยื่นมือไปปิดตาของเขาไว้ เพราะทนเห็นเขามองต่อไปไม่ไหว

 

 

“คิดว่าทั้งชีวิตนี้คงจะเลิกมองไม่ได้” นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานหยั่งลึกขึ้น มุมปากมีรอยยิ้มของความรักใครด้วย

 

 

อวี๋เยว่หานจูงเธอไปที่หน้ากระจกของห้องพักผ่อน

 

 

เครื่องหน้าโดดเด่น และใบหน้าสะสวยชองเธอ ถูกขับเน้นด้วยสร้อยเพชร รัศมีผู้ดีกระจายอยู่ทั่วร่าง และยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อรวมกับชุดราตรีสีดำ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตะลึงไปเช่นกัน

 

 

ครั้นได้เห็นตัวเองในสภาพที่ไม่คุ้นตา เธอก็ตะลึงงันจนพูดไม่ออกอยู่บ้างในทันที

 

 

หลังจากอึ้งอยู่หลายวินาที หญิงสาวถึงยื่นมือไปปลดสร้อยเพชรบนคอออกตามสัญชาตญาณ “มันมีค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก…”

 

 

ทว่าสร้อยคอยังไม่ทันหลุดจากลำคอของเธอ อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือมาจับมือของเธอไว้เสียแล้ว

 

 

สายตาของเขาซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ ส่วนนิ้วเรียวยาวบีบใบหน้าจริงจังของเธอ

 

 

“ของบริจาคที่จะเอาไปเข้าร่วมงานประมูลการกุศล ถ้าคุณไม่ใส่ ผมต้องเป็นคนใส่แทนใช่ไหม”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

ที่แท้ก็ไม่ได้ให้เธอหรอกเหรอ…

 

 

หญิงสาวถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

 

 

ทำงานการกุศล เธอไม่มีทางเกี่ยงอยู่แล้ว

 

 

ทว่าหลังจากปล่อยมือออกจากสร้อย ในใจกลับรู้สึกผิดหวังอย่างอดไม่อยู่เล็กน้อย

 

 

เธอหันไปชำเลืองมองชายหนุ่มข้างกายครั้งหนึ่ง

 

 

เขาไม่เคยคิดจะให้ของขวัญอะไรเธอเลยเหรอ กฎสามข้อของแฟนหนุ่มที่ว่ากันไว้ ต้องสร้างความสุขให้แฟนสาวอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ

 

 

“อย่าร้อนใจไป ของคุณก็มีเหมือนกัน” อวี๋เยว่หานเหมือนกับดูออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงขยับริมฝีปากบาง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งคิดจะถามว่าเขาหมายความว่าอะไร ผู้ช่วยก็เดินเข้ามากล่าวเตือนเสียแล้ว

 

 

“คุณชาย งานประมูลใกล้จะเริ่มแล้ว ควรเข้าไปในงานได้แล้วครับ”

 

 

ฝ่ายอวี๋เยว่หานยกแขนขึ้นอย่างสง่างาม เป็นการบอกให้เธอควงแขนเขา ก่อนจะพาเธอออกจากห้องพักผ่อนไป

 

 

งานประมูลการกุศลแบ่งออกเป็นสองส่วน

 

 

นอกจากงานเลี้ยงแล้ว สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในคืนนี้ ก็คือช่วงประมูลที่จะจัดขึ้นหลังงานเลี้ยงนั่นเอง

 

 

ตอนนี้แขกเหรื่อที่มาร่วมงานประมูลการกุศล ต่างก็กำลังทักทายกันอยู่ในห้องโถง

 

 

พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

 

 

แสงดาวระยิบระยับ

 

 

เหวินหย่าไต้ยืนอยู่กลางผู้คน เธอสวมชุดราตรีสีแดง มองดูแล้วสง่างามมีทีเดียว

 

 

เธอสวมรองเท้าส้นสูงถึงสิบสองเซนติเมตร ทำให้รูปร่างที่เดินทีไม่นับว่าสูงมาก ดูมีออกร่าของนางฟ้าอยู่หลายส่วน

 

 

ขณะนี้เธอกำลังถือแก้วไวน์แดง แต่กลับไม่มีกะใจพูดคุยกับคนที่อยู่ข้างๆ เธอเอาแต่ชะเง้อคอมองหาเงาร่างของอวี๋เยว่หานในโถงงานเลี้ยงอยู่ตลอด

 

 

บริษัทตระกูลอวี๋ให้การสนับสนุนงานประมูลการกุศลขนาดใหญ่แบบนี้เสมอมา

 

 

และก่อนหน้านี้เธอก็มาออกงานกับอวี๋เยว่หานอยู่เรื่อยๆ

 

 

เธอรู้ว่าเขาไม่ชอบคนเยอะ และจะข้ามส่วนของงานเลี้ยงไปโดยปริยาย

 

 

เมื่อถึงเวลาที่งานประมูลใกล้จะเริ่มขึ้น เขาถึงจะเข้ามาในงาน

 

 

แต่ตอนนี้งานประมูลใกล้จะเริ่มแล้ว ทำไมเขายังไม่ปรากฏตัวอีก…

 

 

“ได้ยินมาว่าคุณชายใหญ่ตระกูลอันมาถึงแล้ว ทำไมเธอยังไม่ไปหาเขา ยังยืนชะเง้อคอมองอะไรอยู่ตรงนี้อีก” เสียงถากถางดังมาจากข้างหลังของเหวินหย่าไต้

 

 

“…”

 

 

เหวินหย่าไต้บีบแก้วไวน์ในมือแน่นขึ้น ครั้นหันไปเห็นจางหมิงเยี่ยนที่กำลังลำพองใจ เธอก็ต้องกัดฟันกรอดในทันที

 

 

เธอสืบเรื่องของอันหลีมาแล้ว และรู้ว่าเขาเป็นลูกคนรวยที่เกเรคนหนึ่ง

 

 

วันๆ เอาแต่นอนเฉยไม่ทำอะไรก็ช่างเถอะ นี่ยังมักมากในกามอีกต่างหาก เพราะตอนนั้นเขาไม่ทำผู้หญิงคนหนึ่งท้องแล้วไม่รับผิดชอบ แถมยังยั่วโมโหพ่อแม่ของฝ่ายหญิง ถึงได้ถูกส่งไปอยู่เมืองนอก

 

 

คนแบบนี้จะเทียบกับอวี๋เยว่หานได้อย่างไร

 

 

เธอไม่มีทางแต่งกัยผู้ชายพรรค์นั้นแน่นอน…

 

 

ไม่มีทาง!

 

 

วันนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของเธอแล้ว เธอต้องคว้าไว้ให้ได้!

 

 

เหวินหย่าไต้กำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นเสียงร้องด้วยความตกใจพลันดังมาจากทางเข้า

 

 

 

 

ตอนที่ 450 เหนียนเสี่ยวมู่ ง้อผม! (4)

 

 

เงาร่างสูงส่งของอวี๋เยว่หานก้าวเข้ามาในสายตาของทุกคน

 

 

เขาอยู่ในชุดสูทสีดำสนิท ขับเน้นให้ใบหน้าได้เค้าโครงชัดเจนดูน่าหลงใหลหาใดเปรียบ

 

 

ผมสั้นของเขาถูกแต่งให้ตั้งขึ้น เปิดเผยใบหน้าให้ชัดเจนทุกมุมมอง

 

 

ชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสีดำแลดูคมกริบ ทำให้คนมองเห็นเกิดความหวาดหวั่นอย่างอดไม่อยู่

 

 

เมื่อเขาก้าวเข้ามา ไม่ว่าสตรีสูงวัยผู้มีชื่อเสียงในวงการ หรือลูกสาวตระกูลใหญ่โต ก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมาในเวลาเดียวกัน แถมยังเข้ามาใกล้ทางที่เขาเดินไปอย่างพร้อมเพรียง

 

 

งานที่เมื่อครู่เป็นระเบียบเรียบร้อยดี ตอนนี้วุ่นวายขึ้นมาในพริบตา!

 

 

เหวินหย่าไต้ข่มความอิจฉาในแววตาไว้ไม่อยู่ เธอพยายามเบียดไปข้างหน้า อยากจะเข้าไปใกล้เขาเช่นกัน

 

 

แต่เพิ่งเข้าไปใกล้ขึ้นได้บ้าง เธอพลันมองเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา

 

 

อวี๋เยว่หานไม่ได้มองคนรอบข้างเลยด้วยซ้ำ ดวงตาสีดำเต็มไปด้วยความรักลึกซึ้ง และมองไปที่เหนียนเสี่ยวมู่อยู่ตลอดเวลา

 

 

เขาจับมือเธอไว้แน่น

 

 

ทั้งสองมือของทั้งสองคนสอดประสานกันเอาไว้

 

 

เหวินหย่าไต้ชะงักฝีเท้าในทันที บนใบหน้าปรากฏความไม่พอใจในทันใด

 

 

หญิงสาวอยากจะเข้าไปแยกมือของทั้งสองคนออกจากกันใจจะขาด!

 

 

ทว่าเพิ่งจะก้าวขาออกไป บนเอวของเธอพลันมีมือข้างหนึ่งดึงเธอไปด้านหลัง

 

 

แรงดึงนี้ทำให้เหวินหย่าไต้ยืนไม่มั่นคง และชนเข้ากับหน้าอกของใครบางคนโดยตรง

 

 

เธอกำลังจะโมโห แต่ได้ยินเสียงไม่เอาจริงเอาจังดังมาจากข้างหูเสียก่อน “คุณคือผู้หญิงที่บ้านผมจัดไว้ให้เหรอ สวยเหมือนกันนะเนี่ย…”

 

 

ชายหนุ่มพูดพลางถือโอกาสใช้มือลูบคลำไปมาบนเอวของเธอ

 

 

เหวินหย่าไต้จำได้ว่าชายหนุ่มชีกอตรงหน้าคืออันหลี จึงปัดมือของเขาออกโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

 

 

“ให้เกียรติกันหน่อยเถอะ!”

 

 

เธอโมโหอยู่บ้าง เสียงพูดจาจึงดังขึ้นตามมาด้วย

 

 

อันหลีรู้สึกว่ากำลังจะเสียหน้า จึงหน้าดำคร่ำเคร่งขึ้น

 

 

“ผมถูกใจคุณ ก็ถือเป็นการให้เกียรติตระกูลเหวินแล้ว คุณอย่ามาทำเป็นรักนวลสงวนตัวหน่อยเลย ถ้ายั่วโมโหผมแล้วล่ะก็ คุณก็ต้องระวังตัวไว้หน่อยแล้วล่ะ!”

 

 

“…”

 

 

ตั้งแต่เล็กจนโต เหวินหย่าไต้ไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาก่อน

 

 

หญิงสาวโมโหจนหายใจแรง แต่กลับกล่าวคำหยาบใดไม่ออก

 

 

ครั้นเหลือบเห็นอวี๋เยว่หานพาเหนียนเสี่ยวมู่เข้ามาในงานประมูล เธอก็ร้อนใจอยากตามเข้าไป แต่กลับนกขึ้นได้ในทันที ว่าตัวเองยังไม่มีบัตรเข้าง่าย

 

 

ตระกูลเหวินกลัวว่าเธอจะไม่เชื่อฟัง จึงเก็บสร้อยและเครื่องประดับล้ำค่าทั้งหมดของเธอไป

 

 

เธอมาร่วมงานมือเปล่า

 

 

ถ้าอยากเข้าไปในงานประมูล เธอจำต้องบริจาคของขวัญ ไม่อย่างนั้นก็ต้องมีคนพาเธอเข้าไป…

 

 

เหวินหย่าไต้เกลียดอันหลี แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ มีเพียงอันหลีที่ช่วยเธอได้!

 

 

เธอหรี่ตาลง ข่มความรู้สึกทั้งหมดในใจไว้ และพยายามฝืนยิ้ม

 

 

“คุณชายอันเข้าใจผิดแล้ว เมื่อกี้ฉันจำคุณไม่ได้ ถึงได้ทำตัวอย่างนั้น…”

 

 

หญิงสาวพูดพลางเข้าไปควงแขนอันหลีด้วยตัวเอง

 

 

“คุณชาย งานประมูลจะเริ่มแล้ว พวกเรารีบเข้าไปในงานกันเถอะ!”

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น อันหลีก็หันหน้าไปมองเธอครั้งหนึ่ง สายตากะลิ้มกะเหลี่ยของเขามองผ่านใบหน้าที่ตกแต่งมาอย่างดีของเธอไป

 

 

จากนั้นเขาก็ยกยิ้มลำพองใจ และใช้มือชี้ไปที่ริมฝีปากของตัวเอง

 

 

“อย่าทำให้ผมโมโหแล้วกัน มา จูบตรงนี้”

 

 

“…” แขนของเหวินหย่าไต้ข้างที่ควงแขนอีกฝ่ายอยู่พลันเกร็งตัว สีหน้าของเธอบิดเบี้ยวไปเช่นดัน

 

 

แม้แต่จูบแรกของเธอ ก็เก็บไว้เพื่อคุณชายหาน

 

 

ผลปรากฏว่าตอนนี้…

 

 

แต่ถ้าไม่ตกลง เธอคงไม่มีโอกาสได้เจออวี๋เยว่หานอีก

 

 

เหวินหย่าไต้กัดฟัน ก่อนจะหลับตาเพื่อเข้าไปใกล้อันหลี และสัมผัมริมฝีปากของเขาเบาๆ ลมหายใจกลิ่นบุหรี่และเหล้าที่พุ่งมาจากเขา ทำให้เธอแทบจะอาเจียนออกมา!

 

 

หญิงสาวฝืนความผะอืดผะอมเอาไว้ แล้วตามอันหลีเข้าไปในงานประมูล

 

 

ทว่าเพิ่งเข้าไป เธอก็เห็นอวี๋เยว่หานและเหนียนเสี่ยวมู่นั่งอยู่ตรงแถวหน้าสุดแล้ว!