ตอนที่ 451 นางฟ้าก็เจ้าเล่ห์เป็น! (1) / ตอนที่ 452 นางฟ้าก็เจ้าเล่ห์เป็น! (2)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 451 นางฟ้าก็เจ้าเล่ห์เป็น! (1)

 

 

ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก มือของอวี๋เยว่หานจับมือของเหนียนเสี่ยวมู่ไว้แน่นอีกต่างหาก

 

 

ความรู้สึกไม่ยอมแยกจากกันแม้แต่วินาทีเดียวนั้น ทำให้คนรอบข้างต่างก็มองไปทางพวกเขา…

 

 

แม้จะอยากเข้าไปทักทาย แต่ก็ไม่กล้ารบกวน

 

 

เพราะทุกคนต่างรู้ว่า อวี๋เยว่หานผู้สูงส่งขึ้นชื่อเรื่องไม่เข้าใกล้ผู้หญิง

 

 

และไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้เขา

 

 

เมื่อก่อนมีเพียงเหวินหย่าไต้เท่านั้น ที่ปกติสามารถเดินเคียงข้างไปกับเขาได้ โดยไม่ทำให้เขารำคาญใจ

 

 

แต่ตอนนี้เหวินหย่าไต้ถูกไล่ออกจากบริษัทตระกูลอวี๋แล้ว

 

 

ข้างกายของอวี๋เยว่หานกลับมีเหนียนเสี่ยวมู่เพิ่มขึ้นมา และเขาก็รักใคร่เอ็นดูเธอราวกับของล้ำค่า…

 

 

มีคนในงานประมูลมองเห็นเหวินหย่าไต้ไม่น้อยเลย และพวกเขาต่างพากันมองมาทางเธอ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ…

 

 

เหวินหย่าไต้เดินอยู่ข้างๆ อวี๋เยว่หานมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าใคร ในบรรดาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน

 

 

ในวันนี้เธอตกอยู่ในฐานะที่ได้รับความเห็นใจจากคนอื่นอย่างคาดไม่ถึง มือที่อยู่ข้างลำตัวจึงกำหมัดอย่างแรง

 

 

เธอจ้องเขม็งไปที่เหนียนเสี่ยวมู่ จนลูกตาแทบจะถลนออกมาแล้ว!

 

 

“อย่ายืนตะลึงลานสิ ตามผมมา เดี๋ยวผมก็ขายหน้าหรอก!” อันหลีเห็นหญิงสาวเหม่อลอยอยู่ตลอด จึงขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์

 

 

“…” เหวินหย่าไต้ได้รับการต่อว่าจากชายหนุ่มเกเร แม้เธอจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าโวยวายอะไร

 

 

ทำได้เพียงเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย

 

 

ฐานะของตระกูลอัน แม้จะเทียบไม่ได้กับตระกูลใหญ่อื่นๆ แต่เหมือนกับว่าฝ่ายจัดงานยังรู้ว่าตระกูลอันร่วมงานกับบริษัทตระกูลอวี๋ จึงตั้งใจจัดที่นั่งของอันหลีให้อยู่แถวหน้าสุด

 

 

ถึงจะเทียบไม่ได้กับที่นั่งตรงกลางของอวี๋เยว่หาน แต่ก็ถือเป็นการให้เกียรติตระกูลอันมากแล้ว

 

 

อันหลีเห็นดังนั้นก็ต้องรู้สึกพึงพอใจอย่างแน่นอน

 

 

ชายหนุ่มยื่นมือไปหยิกเอวของเหวินหย่าไต้ครั้งหนึ่ง และถือโอกาสจูบเธออีกครั้งด้วย ก่อนจะพูดเสียงลอดไรฟันเหลืองๆ ออกมา “เห็นไหม ด้วยฐานะของผมในตอนนี้ พ่อของคุณก็เลยเห็นค่าผม แถมยังก้มหัวทักทายผมด้วย! ที่ผมยอมเอ็นดูคุณ คุณก็ควรสำนึกบุญคุณด้วย!”

 

 

“…” เหวินหย่าไต้ถูกเอาเปรียบโดยไม่ทันระวัง จึงหันไปมองอวี๋เยว่หานด้วยความเคร่งเครียด

 

 

เธอกังวลว่าเขาจะเห็นสภาพของตัวเองในตอนนี้ แต่ก็หวังว่าเขาจะมองเธอบ้าง

 

 

พวกเขาโตมาด้วยกัน ถ้าเขารู้สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ เขาจะต้องไม่ทนเฉยแน่นอน หรือแม่กระทั่งอาจจะเป็นห่วงเป็นใยเธอ…

 

 

แต่สิ่งที่เธอเห็นในตอนนี้ คืออวี๋เยว่หานจับมือของเหนียนเสี่ยวมู่ไว้ในฝ่ามือ ราวกับรอบข้างไม่มีใคร

 

 

ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร ถึงได้เอียงหน้าไปกระซิบข้างหูของเธอ

 

 

ทันใดนั้นเหนียนเสี่ยวมู่ก็หน้าแดง และทุบกำปั้นลงบนหน้าอกของเขาครั้งหนึ่ง…

 

 

ภาพต่อล้อต่อเถียงนั้น เหมือนกับตบหน้าเหวินหย่าไต้เข้าฉาดใหญ่!

 

 

คนที่อยู่ข้างหลังมองไม่เห็น แต่คนที่อยู่แถวหน้าแทบจะมองเห็นภาพเหล่านั้นทั้งหมด ทำเอาพวกเขาประหลาดใจ แต่กลับต้องพยายามใจเย็นเอาไว้

 

 

อยู่ๆ ก็รู้สึกว่างานประมูลการกุศลในวันนี้ จะกลายเป็นงานให้อาหารสุนัข!

 

 

ดีที่ไม่นานพิธีกรก็ขึ้นมาบนเวที

 

 

“ขอขอบคุณแขกทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ ทำให้งานประมูลการกุศลในค่ำคืนนี้คึกคัก ต่อจากนี้พวกเราจะทยอยแสดงของประมูลที่ได้มา ไม่ว่าจะประมูลเป็นเงินเท่าไหร่ พวกเราจะบริจาคมันทั้งหมด เพื่อช่วยงานการกุศลค่ะ!”

 

 

หลังจากพิธีกรพูดจบ ในงานพลันมีเสียงปรบมือดังกึกก้อง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะสงสัยว่างานประมูลการกุศลใหญ่โตหรูหราแบบนี้ ทำไมฟ่านอวี่ถึงไม่ปรากฏตัว

 

 

หรือเป็นเพราะแผลบนแขนของเขายังไม่หายดี…

 

 

ขณะที่เธอกำลังเหม่อลอย อยู่ๆ ชายหนุ่มข้างกายก็เข้ามาใกล้เธอ “กำลังคิดอะไรอยู่”

 

 

 

 

ตอนที่ 452 นางฟ้าก็เจ้าเล่ห์เป็น! (2)

 

 

“…” คิดถึงฟ่านอวี่

 

 

คำพูดนี้ผุดขึ้นในหัว แต่ไม่กล้าพูดออกไปโดยสิ้นเชิง!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยืดหลังตรงอย่างไม่มั่นใจ ก่อนจะพูดตะกุตะกัก “ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดว่าพวกเราออกมากันหมด เสี่ยวลิ่วลิ่วจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อบ้าน แล้วนอนตรงเวลาหรือเปล่า”

 

 

ครั้นได้ยินเธอพูดถึงเจ้าหญิงน้อยของตัวเอง สายตาของอวี๋เยว่หานก็อ่อนโยนขึ้น ขณะเดียวกันก็ยื่นมือไปขยี้หัวของเธอ

 

 

“วางใจเถอะ เสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นเด็กดีกว่าคุณอีก”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

จะชมเสี่ยวลิ่วลิ่วก็ชมสิ ทำไมยังต้องเกทับเธอด้วย คุณยังอยากมีแฟนอยู่ไหมเนี่ย

 

 

หญิงสาวโมโหมากทีเดียว เธอกำลังจะทำแก้มป่อง แต่ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นข้างหูเสียก่อน

 

 

“ถูกใจอะไรก็ประมูล ผมให้คุณเป็นของขวัญ”

 

 

“…” ไม่จริงใจ!

 

 

มีที่ไหนกัน ที่ให้แฟนสาวเลือกของขวัญ

 

 

แม้เหนียนเสี่ยวมู่จะแอบแขวะเขาอย่างนั้น แต่ก็รู้สึกดีใจมากทีเดียว

 

 

อย่างน้อยเขาก็รู้จักง้อเธอ

 

 

แต่อย่าได้คาดหวังกับเจ้าก้อนน้ำแข็งมากเกินไป!

 

 

ของประมูลชิ้นแรกคือตุ้มหูเพชรคู่หนึ่ง

 

 

ถึงจะเพิ่งเริ่มประมูล แต่ก็มีคนแย่งชิงกันไม่น้อยแล้ว

 

 

ไม่นานก็มีคนประมูลตุ้มหูคู่นั้นไปได้ในราคาสองล้านหยวน

 

 

ทำเอาเหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงอ้าปากค้าง

 

 

แค่ตุ้มหูคู่เดียวก็ทำให้คนบ้าคลั่งแย่งกันได้ขนาดนี้ อีกเดียวถึงตาสร้อยเพชรที่อวี๋เยว่หานบริจาคไป สถานการณ์จะยิ่งบ้าคลั่งขึ้นขนาดไหนกัน

 

 

“คุณคิดมาเกินไปแล้ว” อวี๋เยว่หานมองท่าทางอึ้งงันของเธอ ก่อนจะยื่นมือไปหยอกแก้มของเธอในทันที

 

 

เมื่อได้สบสายตางงงันของเธอ เขาก็จำต้องอธิบายด้วยความอดทน

 

 

“งานประมูลในวันนี้ จะเริ่มประมูลจากสิ่งที่มีค่าต่ำที่สุด ที่แย่งกันในตอนนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีภาระน้อยที่สุด สำหรับตระกูลและธุรกิจทั่วไป…”

 

 

ยิ่งถึงของประมูลชิ้นท้ายๆ ราคาประมูลก็จะยิ่งสูงขึ้น

 

 

ที่แย่งชิงกันได้ในตอนสุดท้าย ก็จะมีแค่ตระกูลระดับสูงสุดเท่านั้น

 

 

และที่อวี๋เยว่หานมาในวันนี้ เพราะเขามีเหตุผลพิเศษ…

 

 

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น แล้วจับมือของเหนียนมู่เอาไว้ กุมมือเธอไว้ในฝ่ามืออยู่ตลอด

 

 

เขาเล่นนิ้วหัวแม่มือของเธอเหมือนกับไม่มีเหตุผลอะไร แต่ถ้ามองให้ดีๆ นิ้วเรียวยาวของเขาขยับไปมาอยู่ที่นิ้วนางของเธออยู่ตลอด คล้ายกับกำลังประมาณขนาดของนิ้วนาง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ฟังเขาอธิบายแล้ว ถึงจะเข้าใจงานประมูลในครั้งนี้

 

 

เธอมองที่เวทีประมูลอีกครั้ง ตรงหน้าพลันปรากฏภาพที่ไม่คุ้นเคยจำนวนหนึ่ง

 

 

ข้างหูมีเสียงคำพูดของอวี๋เยว่หานดังขึ้นอีก

 

 

เหมือนกับเคยมีคนเคยพูดแบบนั้นกับเธอ แต่เธอกลับจำไม่ได้…

 

 

หญิงสาวยื่นมือไปนวดหน้าผาก ในหัวว่างเปล่าไปในพริบตา

 

 

ขณะที่เธอยังดึงสติกลับมาไม่ได้ บนเวทีประมูลก็เริ่มประมูลรอบต่อไปแล้ว

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่สะบัดศีรษะ เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง และไม่คิดถึงสิ่งที่จำไม่ได้พวกนั้นอีก เธอเงยหน้าขึ้นทันใด และเห็นพิธีกรนำของประมูลชิ้นใหม่ชิ้นใหม่ขึ้นมาพอดี

 

 

ของประมูลชิ้นนั้น ก็คือเข็มกลัดอัญมณีสุดเก๋

 

 

สีเขียวมรกตของอัญมณีนั้นให้ความรู้สึกมีเสน่ห์และเก่าแก่มาอย่างเห็นได้ชัด

 

 

มันดูไม่เหมาะกับคนหนุ่มสาวนัก แต่หากมอบให้คนเฒ่าคนแก่สวมใส่ กลับเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

 

 

โดยเฉพาะเมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ดูอัญมณีที่ฝังอยู่บนเข็มกลัดออก ว่ามันมีสีสันสวยงามอย่างยิ่ง เธอก็อดไม่ได้ที่จะยกป้ายประมูลขึ้นมา

 

 

“ห้าแสน”

 

 

เมื่อได้ยินเหนียนเสี่ยวมู่กล่าวราคา คนรอบข้างก็เงียบลงไปในพริบตา

 

 

ทุกคนพากันคาดเดา ว่าอวี๋เยว่หานเป็นคนอยากได้ หรือเธออยากได้เอง

 

 

ทำให้ในตอนนั้นไม่มีใครกล้าแย่งกับเธอ

 

 

อวี๋เยว่หานชำเลืองมองเธอที่เงียบเชียบไม่พูดจามาโดยตลอด และคิดว่าเธอไม่สนใจงานประมูลในครั้งนี้ อยู่ๆ เห็นเธอยกป้ายประมูลแบบนี้ เขาก็ต้องเสมองเธออย่างอดไม่ได้

 

 

เพราะเข็มกลัดนี้ไม่เหมาะกับเธอ

 

 

“ให้คุณย่าของคุณ” เหนียนเสี่ยวมองดวงตาสีดำขลับของเขา ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก