ตอนที่ 453 นางฟ้าก็เจ้าเล่ห์เป็น! (3) / ตอนที่ 454 นางฟ้าก็เจ้าเล่ห์เป็น! (4)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 453 นางฟ้าก็เจ้าเล่ห์เป็น! (3) 

 

 

รอยยิ้มหวานของเธอราวกับซึมลึกเข้าไปในใจของคนได้ 

 

 

ทำเอาอวี๋เยว่หานใจอ่อนยวบ 

 

 

ในดวงตาสีดำขลับเป็นประกาย เขาจับมือของเธอไว้ พลางขยับริมฝีปากบางเล็กน้อย “ก็เป็นย่าของคุณเหมือนกัน” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “คะ คุณ…คุณพูดให้มันดีๆ หน่อย!” 

 

 

ที่นี่มีคนอยู่มากมาย อยู่ๆ เขาพูดจาหวานๆ แบบนี้ ถ้าเข้าไปจูบเขาเพราะทนไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร 

 

 

หญิงสาวคิดอยู่ในใจ ก่อนจะหยิกต้นขาของตัวเองครั้งหนึ่ง 

 

 

ตั้งสติหน่อย! 

 

 

เธอเป็นนางฟ้า และนางฟ้าจะทำลายภาพลักษณ์ของตัวเองไม่ได้! 

 

 

“หกแสน!” 

 

 

ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งจากริมแถวหน้าสุดดังขึ้นทำลายบรรยากาศ 

 

 

เหวินหย่าไต้ยกป้ายประมูลขึ้นสูง พลางเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโส รอรับสายตาจ้องมองจากทุกคน 

 

 

ครั้นเห็นทุกคนถอนหายใจออกมา ถึงในใจของเธอจะกัลวลว่าอวี๋เยว่หานจะโมโห แต่ก็ยังเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ได้รับการจ้องมองอยู่ดี 

 

 

แถมเธอยังทำเรื่องที่คนอื่นไม่กล้าทำ ซึ่งดึงดูดความสนใจของอวี๋เยว่หานได้พอดี! 

 

 

“คุณบ้าไปแล้วเหรอ!” อันหลีต่อว่าเสียงเบา 

 

 

แม้เขาจะเกเรและดูไม่มีประโยชน์อะไร แต่เขาก็รู้ดีว่าหาเรื่องใครในเมืองเอชได้บ้าง และใครที่ไม่สามารถผิดใจด้วยได้ 

 

 

ตระกูลอันได้มีที่ยืนในวันนี้ ก็อาศัยการร่วมงานกับบริษัทตระกูลอวี๋ทั้งนั้น 

 

 

เหวินหย่าไต้เป็นคู่ควงของเขา แต่กลับแย่งของของอวี๋เยว่หานต่อหน้าเขา นี่เธอรนหาที่ตายใช่ไหมเนี่ย 

 

 

อันหลี่มีสีหน้าหม่นลง ก่อนจะยื่นมือไป คิดจะรั้งเหวินหย่าไต้ 

 

 

ทว่าเหวินหย่าไต้กลับพูดขึ้นมาเสียก่อน “ถ้าคุณชายอันอยากให้คุณชายหานให้ความสำคัญกับคุณ อย่าห้ามฉันจะดีที่สุดค่ะ!” 

 

 

“คุณพูดบ้าอะไรเนี่ย” อันหลีโมโหจนมีเส้นเลือดปูดขึ้นที่หน้าผาก แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาก็มีอันต้องชะงักไป 

 

 

หญิงสาวกลอกตาครั้งหนึ่ง แล้วกล่าวต่อว่า “ฉันกับคุณชายโตมาด้วยกัน แถมยังทำงานอยู่ที่บริษัทตระกูลอวี๋ตั้งหลายปี ไม่มีใครรู้จักคุณชายหานดีเท่าฉัน เขานับถือคนที่มีความกล้า และไม่หวาดกลัวเขาเป็นที่สุด” 

 

 

“…” 

 

 

“ด้วยฐานะของคุณชายหาน มีคนมากมายอยู่ต่อหน้าเขา ถ้าคุณชายอันอยากมีหน้ามีตา ให้คุณชายหานเห็นค่าตระกูลอันมากยิ่งขึ้น ก็ต้องทำสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น!” 

 

 

“…” 

 

 

อันหลีฟังคำโน้มน้าวของเธอแล้ว แม้จะไม่ได้เชื่อสนิทใจ แต่สีหน้าดุร้ายของเขาก็อ่อนลงมากแล้ว 

 

 

ชายหนุ่มไม่ได้รั้งเหวินหย่าไต้ไว้ทันที แต่ลองมองไปทางอวี๋เยว่หาน และเขาเห็นอวี๋เยว่หานมองมาทางพวกเขาพอดี 

 

 

เมื่อเห็นว่าคนที่ยกป้ายประมูลคือเหวินหย่าไต้ สีหน้าของอวี๋เยว่หานไม่มีแววของความโกรธเคืองแม้สักนิด เพียงแค่ชำเลืองตามองอย่างเย็นชาครั้งหนึ่งเท่านั้น แล้วเลื่อนสายตาไปราวกับไม่ใส่ใจเธอ 

 

 

เห็นดังนั้นอันหลีถึงจะถอนหายใจด้วยความโล่งใจออกมา 

 

 

ตอนนี้เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยกป้ายประมูลขึ้นเป็นครั้งที่สอง 

 

 

“เจ็ดแสน!” 

 

 

“แปดแสน!” เหวินหย่าไต้ยกป้ายขึ้นตามโดยไม่มีความลังเล 

 

 

เธอโน้มน้าวใจอันหลีไว้ได้อยู่หมัดแล้ว และสิ่งที่เธอพูดในวันนี้ ก็เพื่อไม่ให้เหนียนเสี่ยวมู่ได้สมดังใจหวัง 

 

 

ยิ่งเหนียนเสี่ยวมู่อยากได้เข็มกลัดมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งอยากแย่งมามากเท่านั้น 

 

 

คนที่ต้องเสียหน้าในครั้งนี้ ต้องเป็นเหนียนเสี่ยวมู่! 

 

 

ผู้หญิงที่เป็นแค่พยาบาลรับจ้าง มีสิทธิ์อะไรมาแย่งของกับเธอ 

 

 

“เก้าแสน!” เหนียนเสี่ยวมู่กล่าว 

 

 

“หนึ่งล้านห้าแสน!” 

 

 

เหวินหย่าไต้ดูออกว่าเหนียนเสี่ยวมู่อยากได้เข็มกลัดชิ้นนี้จริงๆ จึงตะโกนเพิ่มราคาออกมา 

 

 

เกิดเสียงโหร้องด้วยความประหลาดใจขึ้นภายในงานทันที 

 

 

ราคานี้เกือบจะเกินกว่าตัวราคาเข็มกลัดเองแล้ว 

 

 

แม้จะเป็นงานประมูลการกุศล แต่ราคาที่ทุกคนเสนอก็ยังค่อนข้างสูงทั้งนั้น 

 

 

ทว่าวิธีประมูลของเหวินหย่าไต้ เหมือนจะเป็นการจงใจทำให้เหนียนเสี่ยวมู่เสียหน้ามากกว่า… 

 

 

ทันใดนั้น ทุกคนในงานต่างก็มองไปทางอวี๋เยว่หาน 

 

 

แถมยังพากันคาดเดาว่าเขาจะโมโหหรือไม่ 

 

 

แต่กระนั้นทุกคนกลับเห็นเขามีสีหน้าเรียบเฉย นั่งอยู่ที่เดิมอย่างใจเย็น 

 

 

บนใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบไม่มีความรู้สึกใด ท่าทางสบายๆ ของเขาคล้ายกับกำลังปล่อยให้แฟนสาวของตัวเองก่อความวุ่นวายได้ตามใจชอบ… 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 454 นางฟ้าก็เจ้าเล่ห์เป็น! (4) 

 

 

เมื่อเห็นภาพนี้ สายตาของเหวินหย่าไต้พลันอำมหิตขึ้น 

 

 

เธอโมโหจนเริ่มเวียนหัว ในหัวเหลือเพียงความคิดเดียวเท่านั้น ‘ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่เสียหน้า!’ 

 

 

หลังจากได้ยินเหนียนเสี่ยวมู่ตะโกนว่าสองล้าน เธอก็ตะโกนออกมาว่าสามล้านโดยไม่ลังเลเลยสักนิด! 

 

 

“สามล้านครั้งที่หนึ่ง!” 

 

 

“สามล้านครั้งที่สอง!” 

 

 

พิธีกรหยิบค้อนเล็กๆ ขึ้นมา เสียงใสแจ๋วของเธอดังไปทั่วทุกมุมของงานประมูลการกุศลอย่างชัดเจน 

 

 

เหวินหย่าไต้ยักคิ้วขึ้นอย่างลำพองใจ ก่อนจะมองเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยความหยิ่งยโส ในสายตาเป็นประกายของความถากถาง 

 

 

“…” 

 

 

ครั้นเห็นดังนั้น ลูกตาของเหนียนเสี่ยวมู่พลันหดตัว ในแววตามีแต่ความไม่สบอารมณ์ 

 

 

ตั้งแต่เห็นว่าคนที่ประมูลแข่งกับเธอคือเหวินหย่าไต้ เธอก็ไม่ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเลย 

 

 

ทว่าเธออดกลั้นความชอบที่มีต่อเข็มกลัดชิ้นนั้นไม่ได้ และอยากซื้อของขวัญแสดงความกตัญญูให้คุณนายใหญ่อวี๋ เธอถึงได้ประมูลราคาแข่งกับอีกฝ่ายอยู่ตลอด 

 

 

เธอมีความรู้ในเรื่องอัญมณีทีเดียว ราคาของเข็มกลัดชิ้นนี้สูงสุดอยู่ที่สามล้าน 

 

 

ขืนประมูลต่อไป ไม่ว่าใครได้ไป ต่างก็ต้องเสียเปรียบกันทั้งนั้น 

 

 

ดังนั้นเธอจึงหยุด 

 

 

กระนั้นได้เห็นท่าทางจงใจพุ่งเป้ามาที่เธอของเหวินหย่าไต้ ในอกของเธอก็เริ่มมีไฟโกรธสุมขึ้นมาแล้ว… 

 

 

ขณะที่พิธีกรเตรียมเคาะค้อน พลันมีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “สี่ล้าน!” 

 

 

“โห” 

 

 

ครั้นได้ยินราคานั้น ภายในนั้นก็เกิดเสียงโห่ร้องด้วยความงงงันระลอกหนึ่ง 

 

 

ไม่ใช่เพราะราคานี้สูงมาก แต่ทุกคนต่างก็ดูออก ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างผู้หญิงสองคน 

 

 

เหวินหย่าไต้ตะลึงงันไปเช่นกัน ก่อนจะพบว่าทุกคนมองมาที่เธอและเหนียนเสี่ยวมู่ อย่างนั้นเธอจะยอมแพ้ได้อย่างไร 

 

 

เธอคว้าป้ายประมูลขึ้นมายก “ห้าล้าน!” 

 

 

“หกล้าน!” 

 

 

“เจ็ดล้าน!” 

 

 

“แปดล้าน!” 

 

 

“…” 

 

 

ราคาที่หญิงสาวทั้งสองคนตะโกนออกมาสูงขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

ราวกับทั้งสองคนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ จึงลืมไปโดยสิ้นเชิง ว่าสิ่งที่ประมูลอยู่เป็นเพียงเข็มกลัดเท่านั้น 

 

 

บรรยากาศภายในงานเคร่งเครียดขึ้นทุกขณะ 

 

 

ทุกคนต่างก็ตื่นเต้น รอดูว่าสุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้… 

 

 

ขณะเดียวกันนั้น ในสายตาเหนียนเสี่ยวมู่และเหวินหย่าไต้ที่แข่งกันประมูลอยู่ ก็หลงเหลือเพียงเข็มกลัดชิ้นนั้น ราวกับถูกผีร้ายเข้าสิงก็ไม่ปาน 

 

 

หรืออาจพูดได้ว่า คนที่ถูกผีร้ายเข้าสิงมีเพียงเหวินหย่าไต้ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ประมูลราคาแข่งกับเหวินหย่าไต้ไม่หยุดหย่อน ทำให้อีกฝ่ายเหมือนกับเป็นบ้า และเพิ่มราคาแข่งกับเธออยู่ตลอด ครั้นเห็นว่าเพิ่มราคาใช้ได้แล้ว อยู่ๆ เธอก็ยกป้ายประมูลขึ้น 

 

 

“สิบล้าน!” 

 

 

“ยี่สิบล้าน!” เหวินหย่าไต้โพล่งออกมาตามความเคยชิน! 

 

 

หลังจากพูดจบ เธอก็ไม่สังเกตเลยว่ามีตรงไหนผิดปกติ 

 

 

เมื่อดึงสติกลับมาได้ เธอพลันรู้สึกได้ถึงไอความหนาวเย็นระลอกหนึ่ง ที่พอกพูนขึ้นมาจากใต้ฝ่าเท้า 

 

 

เข็มกลัดราคายี่สิบล้าน มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะซื้อ! 

 

 

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เธอคงจะกัดฟันซื้อมันลง เพียงเพราะได้หักหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ 

 

 

แต่วันนี้ไม่เหมือนในอดีตแล้ว เธอไม่มีเงินในมือมากมายขนาดนั้น 

 

 

ถ้าประมูลเข็มกลัดชิ้นนี้ได้จริงๆ มีหวังพ่อของเธอได้ตีตายแน่! 

 

 

เหวินหย่าไต้คิดถึงตรงนี้ เธอก็เครียดจนต้องมองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่ เพื่อรอให้อีกฝ่ายประมูลราคาต่อ 

 

 

ขอเพียงเหนียนเสี่ยวมู่ตะโกนราคาออกมา เธอก็จะโยนมันเผาร้อนในมือให้คนอื่นได้แล้ว! 

 

 

ทว่าเธอรออยู่พักใหญ่แล้ว ก็ไม่ได้ยินเหนียนเสี่ยวมู่เอ่ยปากอะไรอีก กลับเป็นค้อนไม้เล็กๆ ของพิธีกร ที่เคาะลงสองครั้งแล้ว 

 

 

ถ้าไม่มีใครประมูลเพิ่มอีก เข็มกลัดนี้ก็ต้องตกเป็นของเธอแล้ว… 

 

 

หญิงสาวถึงกับเข่าอ่อน เกือบจะยืนไม่อยู่ 

 

 

ครั้นหันไปมองเหนียนเสี่ยวมู่ เธอเห็นเพียงอีกฝ่ายวางป้ายประมูลลงอย่างเด็ดขาด และมองมาทางเธออย่างสบายใจ 

 

 

และมองเธอด้วยสายตาถากถาง เช่นเดียวกับที่เธอทำก่อนหน้านี้! 

 

 

“ยี่สิบล้านครั้งที่สาม ขาย!” 

 

 

พิธีกรเคาะค้อนครั้งสุดท้าย ทำเอาเหวินหย่าไต้ยืนไม่ไหว เข่าอ่อนจนต้องนั่งลงบนเก้าอี้ 

 

 

สีหน้าของเธอซีดเผือดไปในทันที 

 

 

ตอนนี้เธอเพิ่งจะเข้าใจ ว่าตัวเองติดกับของเหนียนเสี่ยวมู่เสียแล้ว 

 

 

เธอน่าจะยอมแพ้กับเข็มกลัดชิ้นนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ… 

 

 

เหวินหย่าไต้เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ทั่วทั้งงานล้วนมองมาที่เธอ แต่ในสายตาไม่มีความชื่นชมเหมือนก่อนหน้านี้ เหลือเพียงสายตาหัวเราะเยาะเท่านั้น 

 

 

หัวเราะเยาะเธอเป็นคนโง่ 

 

 

คิดไม่ถึงว่าจะซื้อเข็มกลัดราคายี่สิบล้าน…