แต่สุดท้าย พอเขาเห็นดวงตาแดงก่ำคู่นั้นของเขา แต่ยังมีความดื้อรั้น จ้องเขาตาไม่กะพริบ ใจก็อ่อน โมโหไม่ลง
สุดท้ายแล้ว ก็เขาที่เป็นพ่อที่ทำผิด ถ้าเขาไม่โกรธเขาอย่างไม่มีเหตุผล เด็กคนนี้คงไม่โกรธจนเป็นแบบนี้
“บอกแด๊ดดี้ เมื่อกี๊ไปไหนมา?”
แสนรักคุกเข่าลงไปตรงหน้าเขา พยายามใช้น้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดถามเขา
กลับคิดไม่ถึงว่า พอเขาอ่อนโยน ทันใดนั้น เด็กที่ทำหน้าดื้อดึงใส่เขา จู่ๆก็อ้าแขนเล็กๆออก พุ่งไปหาเขา:“แด๊ดดี้——”
ชินจังร้องไห้!
หลังจากได้รับความน้อยใจจากหม่ามี๊ ในที่สุดเขาก็กลับมาอยู่ข้างกายของแด๊ดดี้ เวลานี้ เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป กอดแด๊ดดี้น้ำตาไหลกระซิกกระซิกออกมา
หม่ามี๊ไม่ต้องการเขา น้องชายกับน้องสาวก็ไม่ต้องการเขา
แต่ว่า เขายังมีแด๊ดดี้ แด๊ดดี้จะต้องการเขา เขาชินจังไม่ใช่ลูกแมวที่ไม่มีใครเอา
แสนรักเคยเห็นลูกชายแบบนี้ที่ไหนกัน?
ทันใดนั้น เขาก็ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย:“เป็นอะไรไป?แด๊ดดี้อยู่นี่ ลูกเป็นอะไรไป?เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?หือ?รีบบอกแด๊ดดี้สิ?”
เขาตื่นตระหนกอย่างมาก ถึงแม้คุยเรื่องออเดอร์ใหญ่พันล้านที่บริษัท ก็ยังไม่ตื่นตระหนกขนาดนี้
ขณะเดียวกัน ร่างกายที่ตัวก็เยือกเย็นจนน่ากลัว เหมือนว่าต่อจากนี้ถ้าเด็กคนนี้บอกว่าเป็นอะไรจริงๆ เขาน่าจะจัดการทั่วทั้งเมืองAแน่
แต่ว่า ชินจังไม่พูด เขาแค่นอนร้องไห้บนตัวแด๊ดดี้
สุดท้าย ร้องไห้จนเหนื่อย ก็พูดอยู่ในอ้อมแขนแด๊ดดี้ด้วยเสียงเศร้าๆว่า:“แด๊ดดี้ วันนี้ผมอยากนอนกับแด๊ดดี้”
แสนรัก:“……”
และก็งุนงงชั่วครู่หนึ่งอีกครั้ง พอดีขึ้น เขาก็อุ้มลูกขึ้นมา ความเยือกเย็นบนตัวก็มากขึ้นอีกครั้ง!
เด็กคนนี้ นิสัยสันโดษแต่เด็ก ถึงแม้เขาจะพึ่งพาเขามาก แต่ก็นานมากแล้วที่ไม่เคยขอนอนกับเขา หลายปีมานี้ เขาค่อยๆโตเป็นลูกผู้ชายตัวเล็กๆ หลายครั้ง เขาที่อ่อนไหวและเคารพตนเองมาก ก็ไม่ยอมขอนอนกับแด๊ดดี้เลย
แต่คืนนี้ จู่ๆเขากลับขอนอนกับเขา
แสนรักคิดว่าคืนนี้เด็กคนนี้ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่
ดังนั้นพอเขาขึ้นไป จึงออกคำสั่งไปที่บอดี้การ์ดในหิรัญชากรุ๊ปทุกคนทันที เขาให้คืนนี้พวกเขาสืบให้ได้ว่าช่วงที่คุณชายเล็กหายตัวไป เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงจะต้องพลิกทั่วทั้งเมืองตามหาก็ตาม!
——
ทางเส้นหมี่ก็หาลูกไม่เจอ
เธอหาไปทั้งคืนเลย แต่ว่า ก็ยังหาร่องรอยของลูกไม่เจอ
“คิวคิว คิวคิวลูกอยู่ไหน?หม่ามี๊ผิดไปแล้ว หม่ามี๊ไม่ควรบังคับให้ลูกกลับไป คิวคิว”
เธอจะบ้าอยู่แล้ว ทั้งคืนนี้ เธอถือไฟฉายค้นหาไปทั่วทุกมุมของโซนเมืองเก่าอย่างไร้สติ กระทั่งว่า ภายใต้ความหวาดกลัวอันมหาศาลสุดท้ายของเธอ ก็ยังเสียการควบคุมจนไปเคาะประตูบ้าน ถามว่ามีใครเห็นลูกเธอไหม?
เธอใจสลายแล้วจริงๆ
ยังดีที่ในเวลานี้ยังมีรินจัง เธอเห็นพี่กับหม่ามี๊ออกไปนานมากแล้วยังไม่กลับมา ภายใต้ความหวาดกลัว ก็หยิบโทรศัพท์ในบ้านโทรหาปู่เล็ก
“ปู่เล็ก หม่ามี๊กับพี่หายไป ทำไงดีคะ?ฮือ……”
เด็กสาวโทรหาปู่เล็ก ก็ร้องไห้ออกมาทันที
ที่จริงธนาตย์กับสาธินีหลับไปแล้ว วันที่หนาวแบบนี้ และยังห้าทุ่มเที่ยงคืนแล้วด้วย ต้องหลับแล้วแน่นอน
จู่ๆก็ได้ยินเสียงของเด็กสาวคนนี้ ธนาตย์ก็ตื่นขึ้นมาทันที:“รินจัง?หนูรินจังใช่ไหม?”
รินจังก็ร้องไห้เสียงดังไปที่ปลายสายอีกครั้ง:“ค่ะ……นี่รินจังลูกรัก ปู่เล็ก รีบมานะคะ หม่ามี๊……หม่ามี๊กับพี่หายไป เหลือแต่รินจัง ฮือ~~~”
เสียง้รองไห้นั้น ทำให้คนฟังแล้วใจสลายจริงๆ
ธนาตย์วางสายแล้วลุกขึ้นจากเตียงทันที เขาอยากรีบมา แต่ตอนนี้สาธินีกลับหยุดเขาไว้
“อากาศหนาวแบบนี้ คุณจะทำอะไร?เอาล่ะ ฉันจัดการเอง”
จากนั้นผู้หญิงคนนี้ก็ลุกขึ้นจากเตียงทันที สวมเสื้อหนาวผ้าฝ้ายหนาๆ โทรศัพท์เรียกคนมา จากนั้น ก็ไปที่เขตเมืองเก่าด้วย
ประมาณยี่สิบนาที สาธินีที่รีบมา ในที่สุดก็เห็นผู้หญิงที่เคาะประตูเรียกคนเหมือนคนบ้าไปตามบ้านช่อง บนถนนที่แสนเยือกเย็นในยามวิกาล
“เปิดประตู เปิดประตู พวกคุณเห็นลูกของฉันไหม ห๋า?เปิดประตูสิ”
คอของเธอแหบไปหมดแล้ว น้ำตาก็แห้งแล้ว แต่ว่า เธอก็ยังเคาะประตูบ้านคนอื่นอยู่เหมือนเครื่องจักรอย่างนั้น เพื่อให้คนอื่นออกมาบอกเธอว่า ได้เห็นคิวคิวของเธอหรือไม่
เธอบ้าแล้วจริงๆเหรอ?
สาธินีเห็น จึงรีบไปหยุดเธอ:“เส้นหมี่ เธอทำอะไร?เธอดูสินี่กี่โมงแล้ว?”
เส้นหมี่:“……”
เวลาเนิ่นน่าน ใบหน้าเธอที่ทั้งแดงและบวม เหี่ยวเฉาจนไม่อาจมองดูได้อีก จึงค่อยๆหันมา มองไปที่ป้าของตัวเอง
“คุณป้า คิว……คิว คิวคิวเขาหายไป คุณป้า……”
พอเห็น ทันใดนั้น เธอก็เหมือนปลาที่จมอยู่ในน้ำนานแล้ว ในที่สุดก็คว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายได้ คว้าไว้จนเธอร้องไห้เสียงดังอีกครั้ง
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะร้องไห้จนตาคู่นั้นบวม ไม่มีน้ำตาไหลแล้วก็ตาม