“ได้ เช่นนั้นก็เดินทางกลับดีๆ ล่ะ”
หลายวันต่อจากนี้ เหยาเยี่ยนอวี่มัวแต่เก็บข้าวเก็บของ
ข้าหลวงเหยา เหยาเหยียนอี้และเว่ยจางปรึกษาหารือกันเสร็จ จึงกำหนดวันที่ออกเดินทางจากเจียงหนิงเป็นเช้าวันที่สิบสามเดือนห้า เรือสิบกว่าลำจะมุ่งหน้าไปเมืองหลวงอวิ๋น ใช้เวลาการเดินทางสิบเอ็ดถึงสิบสองวัน น่าจะถึงเมืองหลวงอวิ๋นตอนปลายเดือนห้า
ขามาก็กลับมาอย่างเร่งรีบ และขากลับก็กลับอย่างรีบร้อน เหยาเยี่ยนอวี่มองสวนหย่อมเล็กๆ ของตนเองอีกครั้ง ก็นึกถึงบรรยากาศตอนจากไปเมื่อครั้งที่แล้ว
ครั้งที่แล้วบิดาส่งตนไปจวนติ้งโหว เหมือนคาดการณ์ได้ว่าจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว จึงนำยาสมุนไพรที่ปลูกไว้มาตากแห้งแล้วบดเป็นผงพร้อมห่อไปด้วย ส่วนสัตว์เลี้ยงพวกกระต่าย สุนัข แมวและสัตว์อื่นๆ ก็แบ่งให้บ่าวไพร่จนหมด
การจากไปครั้งนี้ อนาคตยังจะได้กลับมาอีกไหม
เหยาเยี่ยนอวี่หรี่ตาลงมองต้นหนี่ว์เอ๋อร์ถางที่อยู่กลางสวน ใบไม้ผลิขึ้นใหม่อย่างหนาแน่น ดอกไม้ร่วงหล่นไปนานแล้ว ลูกไห่ถางอันเขียวขจีที่ยังไม่สุกและมีรสฝาดถูกใบไม้บดบังเอาไว้ หากไม่ตั้งใจสังเกตก็คงมองไม่เห็น ก็เหมือนตนเองในที่ผ่านมา
ในตอนนี้ ตนเป็นลูกไห่ถางที่สุกจนกลายเป็นสีแดง แม้นยังมีรสเปรี้ยวฝาดเล็กน้อย ทว่าก็ได้ดึงดูดผู้คนมากมายมาสนใจ มีคนมากมายต้องการเล่นงานนางเยี่ยงนั้น พวกเขากำลังคิดว่าควรทำอย่างไรถึงจะเด็ดผลไม้ลูกนี้เข้าไปในปาก
เหยาเยี่ยนอวี่หลุดหัวเราะในความคิดเช่นนี้ของตนเอง พอครุ่นคิดอีกครั้ง สุดท้ายแล้ว ตนจะถูกคนๆ นั้นกลืนกินเข้าไปในปากจริงหรือ
อือ ห้ามเป็นเช่นนี้เด็ดขาด! ต้องเป็นไอ้หมอนั่นสิที่จะตกเข้ามาอยู่ในถ้วยของตน!
“คุณหนูรอง?” ตรงประตูสวนหย่อมมีเสียงขานเรียก
เหยาเยี่ยนอวี่หันไปก็เห็นผัวจื่อคนหนึ่งเดินมาด้วยรอยยิ้ม พอเดินมาถึงตรงหน้าก็ค้อมตัวลง พร้อมกล่าวขึ้น “คุณหนูรองเจ้าคะ ฮูหยินบอกว่าหากมีเวลาว่าง ให้ไปที่เรือนหน้าหน่อยเจ้าค่ะ”
“ได้” เหยาเยี่ยนอวี่ยื่นตำราในมือให้ชุ่ยเวย “ไปเถอะ”
“เชิญเจ้าค่ะ” ผัวจื่อคนนั้นพูดอย่างเกรงใจ
หวางฮูหยินเรียกเหยาเยี่ยนอวี่ไป ต้องเป็นเรื่องสุขภาพร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าแน่นอน
สองปีมานี้ สภาพร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าย่ำแย่ลง ช่วงนี้เหตุเพราะรู้สึกโมโห ทำให้กินอะไรไม่ลง สาวใช้ที่คอยปรนนิบัติรับใช้ก็บอกว่าตอนกลางดึกฮูหยินผู้เฒ่ามักจะตื่นมาสองรอบ ทำให้เห็นว่านางหลับไม่สนิท หวางฮูหยินวิตกกังวลจริงๆ ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะเป็นอะไร
เหยาเยี่ยนอวี่ได้ยินคำพูดของหวางฮูหยิน จึงพูดขึ้น “ท่านแม่อย่ากังวลเลย ลูกจะปรุงยาเม็ดบำรุงร่างกายสามชนิดให้ท่านย่า ควรกินในยามใด เดี๋ยวจะเขียนไว้ให้ในกระดาษ ท่านแม่แค่ให้คนนำยาให้ท่านย่ากินตามเวลาในทุกวัน ราวๆ หนึ่งเดือน ร่างกายของท่านย่าคงจะดีขึ้นเอง อีกทั้งลูกจะเกลี้ยกล่อมให้ท่านย่าเชื่อ คุณชายใหญ่ซ่งคงจะหายดีในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หากอาการฝั่งโน้นดีขึ้น ฮูหยินผู้เฒ่าก็คงไม่มีทางโกรธเคืองอีกต่อไป”
หวางฮูหยินถอนหายใจ “เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็วางใจแล้ว!”
เหยาเยี่ยนอวี่พูดขึ้นอีกครั้ง “ลูกยังมีเรื่องไม่ไว้วางใจอีกเรื่อง ได้โปรดท่านแม่ตัดสิน”
“มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ” ถึงเวลานี้ หวางฮูหยินต้องตอบรับความต้องการของเหยาเยี่ยนอวี่อยู่แล้ว
เหยาเยี่ยนอวี่พูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจ “สำหรับเรื่องของน้องสาม ข้าได้ยินมาว่า หลังจากครั้งนี้ที่น้องสามป่วย ก็จงเกลียดจงชังลูกตลอดมา เหมือนลูกเป็นคนทำให้นางเป็นเช่นนี้ ลูกอยากไปเยี่ยมเยียนนางเจ้าค่ะ”
หวางฮูหยินพยักหน้า “เจ้าไปเถอะ เจ้าอาจจะเกลี้ยกล่อมนางได้บ้าง สภาพเช่นนี้ของนาง ทำให้คนรู้สึกเศร้าใจนัก”
เหยาเยี่ยนอวี่เหยียดกายลุกขึ้น “เช่นนั้นลูกจะไปทันที”
หวางฮูหยินพยักหน้า แล้วสั่งสาวใช้คนสนิท “เจ้าส่งคุณหนูรองไป แล้วบอกคนทางโน้นว่าจะไปเยี่ยมเยียนยัยหนูสาม อย่าให้นางเสียสติมาทำร้ายคุณหนูรองเด็ดขาด”
สาวใช้รับคำ แล้วถอยออกไปพร้อมกับเหยาเยี่ยนอวี่
ในเรือนของเหยาเชวี่ยหวา เหลือเพียงผัวจื่อไม่กี่คนที่กำลังปรนนิบัติรับใช้นางในตอนนี้ สาวใช้ที่รับใช้นางก่อนหน้านี้ นอกจากจื่อหลิงแล้ว ต่างก็ถูกส่งตัวออกจากที่นี่จนหมด บ้างก็ถูกส่งไปที่บ้านสวน บ้างก็ให้ออกเรือนกับบุรุษ เรื่องพวกนี้เจียงฮูหยินน้อยและหนิงฮูหยินน้อยเป็นคนจัดการ หวางฮูหยินจึงไม่ต้องคอยกังวลใจ
พอเข้าไปในเรือน ผัวจื่อไม่กี่คนได้ข่าวว่าคุณหนูรองมาตามคำสั่งของฮูหยิน จึงได้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ จากนั้นเปิดประตูเชิญเหยาเยี่ยนอวี่เข้าไปทันที พร้อมกับรินน้ำชามาให้นาง
เหยาเยี่ยนอวี่ให้พวกนางออกไป เหลือเพียงน้าตู้ซานที่อยู่ข้างกายนาง
ผัวจื่อพวกนั้นต่างไม่วางใจ เหยาเยี่ยนอวี่กลับพูดด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถอะ น้องสามทำร้ายข้าไม่ได้หรอก ข้าให้น้าตู้ซานคอยคุ้มกันในเรือนแล้วไม่ใช่หรือ”
ทุกคนได้ยินจึงค้อมตัวถอยออกไป
เหยาเชวี่ยหวาไม่ได้ไร้เดียงสาและใสซื่อบริสุทธ์เหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไป ดวงตากลมโตคู่นั้นไร้ชีวิตชีวา พอปรายตามองเหยาเยี่ยนอวี่ แววตาประกายฉายความเคียดแค้นออกมา ทันใดนั้นนางก็ละสายตาไปทางอื่น พร้อมก้มหน้าลงปักดอกโบตั๋นด้วยความประณีต ดอกโบตั๋นที่ใหญ่เท่าถ้วยกำลังผลิบานอยู่บนผ้าสีขาวโพลน แค่ลวดลายเส้นด้ายสีแดงก็ปักด้วยลายหลายสิบแบบทำให้เสมือนของจริง ดูงดงามตายิ่งนัก
“อาการของเจ้าดีขึ้นหรือยัง” เหยาเยี่ยนอวี่ค่อยๆ นั่งลง พร้อมเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มจางๆ
“เหอะ” เหยาเชวี่ยหวาแค่นเสียงเย็นชาในลำคอ “ไม่ต้องมาเสแสร้งหรอก”
“ทั้งวันเอาแต่อุดอู้อยู่ในเรือน ไม่ทุกข์ทรมานหรือ” เหยาเยี่ยนอวี่ยังคงรอยยิ้ม แล้วเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน
ท้ายที่สุดเหยาเชวี่ยหวาก็โมโห จึงยกมือโยนผ้าที่กำลังปักลายเข้าไปในหีบเก็บเข็มและด้าย พร้อมมองเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยแววตาโมโห “ท่านพี่พอใจหรือยัง! มีปัญญาก็ขังข้าไว้ในเรือนนี้ตลอดชีวิตสิ!”
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” เหยาเยี่ยนอวี่มองสตรีอายุสิบเอ็ดปีด้วยความรู้สึกขบขัน “คนที่กักขังเจ้าไม่ใช่ข้า แต่เป็นตัวเจ้าเอง”
เหยาเชวี่ยหวายิ้มเยือกเย็น “มองไม่ออกจริงๆ ว่าพี่รองจะโหดเหี้ยมเช่นนี้”
“ฉะนั้นก็บอกได้ว่าเจ้าก็ยังโง่เกินไป แม้แต่ข้าเป็นคนอย่างไรก็ยังไม่รู้ แล้วยังคิดจะเล่นงานข้าอีก?” เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มน้อยๆ “คนที่คิดว่าตัวเองฉลาด สุดท้ายกลับถูกความฉลาดลวงหลอกให้เข้าใจผิดว่าตนเองฉลาดหลักแหลม! เจ้าว่าข้ากล่าวถูกหรือไม่”
“ไสหัวออกไป!” เหยาเชวี่ยหวาชี้ไปยังประตู “ข้าไม่อยากเจอหน้าเจ้า!”
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่โปรดปรานข้า” เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้า “เจ้าไม่เพียงแต่ไม่โปรดปรานข้า แม้กระทั่งยังเกลียดชังข้าจนใคร่จะให้ข้าถูกไอ้สารเลวซ่งเหยียนชิงกระทำชำเราจวนใจจะขาด จากนั้นก็ให้ข้าตาย ดังนั้นเจ้าถึงได้ร่วมมือกับสัตว์เดรัจฉานนั่นเพื่อทำร้ายข้าใช่ไหม”
“เจ้าพูดจาเหลวไหล!” เหยาเชวี่ยหวารู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที จึงขยับหลบไปด้านหลัง
“จื่อหลิงพูดออกมาทุกอย่างแล้ว” เหยาเยี่ยนอวี่แย้มยิ้มจางๆ “เจ้าเชื่อใจนางมากเพียงใดกันเชียว เจ้าคิดว่านางจะฝ่าฝืนกฎระเบียบในจวนพวกเราได้หรือ ซุกซ่อนผ้าเช็ดหน้าของบุรุษคนอื่นไว้ในกลางอก ผ้าเช็ดหน้ายังมียาปลุกกำหนัดติดอยู่ เจ้าคิดว่าท่านพ่อจะคิดอย่างไร”
“เจ้า…” เหยาเชวี่ยหวานิ่งงันไปชั่วขณะ พิงอยู่บนตั่งไม้ และพูดอะไรไม่ออก
ช่วงนี้เหยาเชวี่ยหวาคิดถึงแต่เรี่องนี้ นางก็เคยคิดว่าเรื่องนี้คงจะถูกเปิดโปงแล้ว ทว่าก็รู้สึกว่าหากความจริงถูกเปิดโปงจริงๆ ตนเองคงไม่เพียงถูกกักขังไว้ในเรือนแน่นอน สุดท้ายนางยังคงคาดหวังว่าฉื่อหลิงจะไม่พูดอะไรออกมา ฮูหยินจับผิดอะไรนางไม่ได้ ดังนั้นนางถึงได้อดทนทำงานฝีมือที่นี่
ที่แท้พวกเขาต่างก็รู้กันหมดแล้ว? จื่อหลิงพูดออกมาหมดแล้ว?! เหยาเชวี่ยหวานิ่งงันไปสักพัก จู่ๆ ก็หันไปพุ่งเข้าใส่เหยาเยี่ยนอวี่
เหยาเยี่ยนอวี่ผุดลุกขึ้นพลางหลบไปด้านหลัง น้าตู้ซานก็เดินเข้าไปกดร่างเหยาเชวี่ยหวาไว้
“พี่รอง! ไม่ใช่เช่นนั้น!” เหยาเชวี่ยหวาจับตั่งไม้เอาไว้ แล้วมองเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยความหวาดผวา ท่าทางของนางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นางขอร้องอ้อนวอน “ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านฟังข้าก่อน…”