บทที่ 180 ฉันล้อมพวกเธอไว้หมดแล้ว

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

เห็นได้ชัดเลยว่านิโคลัสเถียซูนั้นกำลังโกรธหลังจากที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร นั่นเพราะในฐานะที่ติด 1 ใน 50 อันดับกิลด์ที่เยี่ยมยอดที่สุดแล้ว เดอะวูล์ฟน่ะ ถือเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่เลย… เป็นกลุ่มที่ไม่ควรไปยุ่งด้วยอย่างเด็ดขาด ทุกคนภายในกิลด์นี้ต่างรู้กันดีว่า เมื่อไหร่ที่สงครามเริ่ม…มันจะไม่หยุดลงจนกว่าชีวิตของพวกเขาจะหาไม่

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เหล่าหัวหน้ากิลด์ใหญ่ ๆ หลายกิลด์ไม่ว่าจะเป็นไดนัสตี้หรือกลอรี่ ต่างก็ต้องหวาดหวั่น พวกเขาไม่ยุ่งหรือแม้แต่กล้าที่จะก่อกวนเดอะวูล์ฟเลยแม้แต่นิดเดียว

เทียบกับปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่เป็นกลุ่มของเพื่อนเก่าบวกกับซางกวน อาโอเชินและจืออี้ รวม ๆ กันแล้วยังมีแค่ 9 คน…ตั้งปาร์ตี้ 10 คนยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป! ในขณะที่อีกฝ่ายมีมากเกือบจะ 50 คน ความต่างชั้นกันเรื่องปริมาณนี้เทียบกันได้ซะที่ไหน? แล้วแบบนี้จะยังคงให้พวกเขาดื้อดึงที่จะสู้กับอีกฝ่ายได้อย่างไร?

น้ำเสียงที่ขี้เกียจและเย้ายวนดังขึ้นจากท้ายสุดของปาร์ตี้เถียซู “เดอะวูล์ฟกลายเป็นกิลด์ที่หาเรื่องคนอื่นไปทั่วตั้งแต่เมื่อไหร่นะ? ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ” จากนั้นเจ้าของเสียงอย่างจืออี้ถึงได้เดินทอดน่องออกมาด้านหน้า เรือนร่างอันงดงามของเธอดูทรงเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมเมื่อมันได้สับส่ายไปตามจังหวะก้าวที่หนักแน่นนั้น

เธอเป็นผู้เล่นหญิงเพียงคนเดียวท่ามกลางปาร์ตี้ที่มีผู้เล่น 9 คนนี้ เหนือบรรทัดชื่อบนหัวของเธอยังมีอีก 1 ข้อความที่ดูโดดเด่นอยู่ นั่นคือชื่อกิลด์วอร์สปิริต

ในขณะเดียวกัน เสียงที่น่าดึงดูดไม่ต่างกันก็ดึงขึ้นมาจากด้านหลังของกลุ่มคนที่มาจากกิลด์เดอะวูล์ฟ “โอ้ ฉันก็กำลังคิดอยู่แล้วเชียวว่าเธอคนนี้เป็นใคร นั่นมันคุณหัวหน้ากองจืออี้แห่งวอร์สปิริตไม่ใช่เหรอคะนั่น? แหม ๆๆ ลมอะไรพัดคุณหัวหน้าคนสวยมาถึงเขตออร์คได้ล่ะคะ?” สิ้นเสียงนั้นสาวเจ้าของเสียงก็เดินฝ่าพรรคพวกของตนออกมาด้วยทีท่าดึงดูดทุกสายตาเช่นกัน แต่เธอน่ะเหมือนนางแมวยั่วสวาทเสียมากกว่า

เธอผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์เย้ายวนไม่น้อยไปกว่าใครเลยในเดอะวูล์ฟ ชื่อเล่นบนหัวนั้นคือลิตเติ้ลฟ็อกซ์ แต่ถึงจะเป็นแค่สุนัขจิ้งจอก เมื่อครั้งที่เดินมาด้านหน้า ผู้เล่นนักรบที่เป็นเสือก็ยังต้องยอมถอยออกจากเธอด้วยความเคารพ เห็นได้ชัดเลยว่าแม่สาวคนนี้คือหัวหน้าของเหล่าวูล์ฟกลุ่มนี้อย่างแน่นอน

นอกจากลิตเติ้ลฟ็อกซ์แล้ว ด้านหลังของเธอยังมีผู้เล่นหญิงหน้าตาน่ารักที่ชื่อคิทเท่นด้วยอีกคน เซียวเฟิงน่าจะจำเธอคนนี้ได้

ด้วยท่ากอดอกอันเป็นเอกลักษณ์ของจืออี้ ที่ทำให้ทรวงอกอันเป็นอาวุธของเธอดูยิ่งใหญ่มากขึ้น สาวเจ้าก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงละมุนแต่ก็แฝงด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เอ๋…แปลกจริง ๆ ด้วย เขตแดนของออร์คอันกว้างใหญ่ไพศาลเนี่ย กลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเดอะวูล์ฟไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันน้า?”

เรือนร่างอันเย้ายวนของลิตเติ้ลฟ็อกซ์ขยับอวดสัดส่วนก่อนที่มือของเจ้าตัวเองจะเท้าลงไปที่สะโพกอิ่มของตน ดวงตาที่งดงามทั้ง 2 ข้างช้อนมองไปยังสาวสวยฝั่งตรงข้ามก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ให้ “งั้นพวกคุณเองก็คงจะโชคไม่ดีแล้วล่ะค่ะ ที่ดันเข้ามาในเขตฟาร์มของพวกเรา และในเมื่อนี่เป็นถิ่นของพวกฉัน ดังนั้นจะถือว่าสมาชิกกิลด์วอร์สปิริตเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตก็แล้วกันเนอะ เอ หรือว่ารู้อยู่แล้วแต่มีจุดประสงค์อย่างอื่นกันน้า…นี่ใช่การประกาศสงครามกับเดอะวูล์ฟหรือเปล่าคะเนี่ย?”

สองสาวที่อยู่ในวัยเดียวกันแถมยังมีรูปร่างแบบเดียวกัน และที่สำคัญ…พวกเธอยังเซ็กซี่พราวเสน่ห์ไม่แพ้กันด้วย ภายใต้รอยยิ้มอันหวานเยิ้มของทั้งคู่ มันแอบซ่อนการข่มกันอยู่แบบเงียบ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นต่างพึงพอใจไปตาม ๆ กัน

อย่างไรก็ตาม จิตสังหารของพวกเธอที่ซ่อนกันเอาไว้ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครรู้สึกด้วย ดังนั้นแล้วผู้เล่นที่ต่างฝ่ายต่างอยู่หลังสาว ๆ จึงรู้สึกขนลุกซู่กันอยู่ตลอด ยามที่พวกเขามองหน้ากันเองก็จะสามารถเห็นได้ชัดว่าต่างฝ่ายต่างก็มีเหงื่อไหลพรากออกมาจากหน้าผากกันหมด

อันที่จริง เดอะวูล์ฟนั้นไม่ได้วางแผนจะสร้างปัญหาใด ๆ เลย พวกเขาน่ะโด่งดังก็จริงแต่ก็ไม่ได้อยากจะใช้พลังอันยิ่งใหญ่นี้ข่มเหงผู้อื่น แม้ว่ารูปแบบกิลด์จะทำให้พวกเขาดูเหมือนพวกบ้าสงคราม แต่จากกาลเวลาที่ผ่านมา พวกเขายังไม่เคยกลั่นแกล้งหรือเอาเปรียบผู้เล่นอื่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว เหมือน ๆ กับวอร์สปิริตที่มีชื่อเสียงในทางที่ดีท่ามกลางเหล่าผู้เล่นในเขตฮัวเซีย และเพราะความรักสงบของพวกเขาเหล่านี้นั่นแหละที่ทำให้คนอื่นเกรงกลัว

ตามเดิมแล้ว เดอะวูล์ฟเตรียมจะไปตามล่าทวารบาลปีศาจจากแหล่งอื่นต่อแล้ว แต่ก็เห็นว่าพวกของสองพี่น้องนิโคลัสมาเจอตนนี้ก่อน

และเพราะหัวหน้ากลุ่มอย่างลิตเติ้ลฟ็อกซ์ดันเห็นเสียก่อนว่าอีกฝ่ายคือจืออี้

ความเกลียดที่ราวกับแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนของสาว ๆ ที่มีแทบจะทุกอย่างเหมือนกันนั้น ไม่ต่างอะไรกับแรงอาฆาตที่นักล่าสองตัววนมาเจอกันเอง

การที่ลิตเติ้ลฟ็อกซ์กลายเป็นที่รู้จักก็เพราะว่าเธอนั้นอยู่อันดับที่ 7 ในอันดับเทพธิดา อันดับที่ 7 จากผู้เล่นกว่า 100 ล้านคนในเขตฮัวเซียนั้นหมายถึงเธอนั้นอยู่ในระดับที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้

ทว่าสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเธอตอนนี้คือจืออี้ และจืออี้ก็อยู่ในอันดับที่ 3 แบบนี้หมายความว่ายังไง?!

ไม่ว่าจะเป็นเพราะสองสาวนั้นอยากจะเผชิญหน้ากันเอง ฝ่ายวูล์ฟอยากทำให้จืออี้เสียโฉม หรือลิตเติ้ลฟ็อกซ์แค่อยากเจอเทพธิดาที่อยู่อันดับเหนือตน แต่เหตุการณ์มันก็ดูจะไม่จบลงง่าย ๆ กลุ่มของผู้เล่นจากกิลด์เดอะวูล์ฟกำลังเผชิญหน้ากับปาร์ตี้ 9 คนของสองพี่น้องนิโคลัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“หรือว่านี่คือ…จะบอกว่ากิลด์เดอะวูล์ฟเตรียมจะเข้าต่อสู้แล้วเหรอ?” ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับกลุ่มของผู้เล่นที่มีจำนวนมากกว่าตนหลายเท่า แต่จืออี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าแต่อย่างใด เธอยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนจนทำให้ทุก ๆ สายตาที่มองมายังรอยยิ้มนั้นต้องหน้าซีดไปตาม ๆ กัน

“ฉันไม่ใช่คนพูดมาก สิ่งที่พวกเราต้องการตอนนี้คือบอสตรงนั้น ตราบใดก็ตามที่เธอยอมถอยให้ พวกเราก็จะยังอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข” ลิตเติ้ลฟ็อกซ์เองก็ยังเผยรอยยิ้มที่ยั่วยวนบนใบหน้าดังเดิม แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังคิดว่าตนเองเป็นผู้ชนะเสียแล้ว

ในบรรดาคนเหล่านี้ ซางกวน อาโอเชินดูจะเป็นคนเดียวที่ไม่รู้สึกถึงการข่มขู่เหล่านี้ เขากระโดดขึ้นไปข้างหน้าพร้อมตะโกนในขณะที่เถียซูคิดจะถอยออกมาด้วยความโกรธแล้ว “เลิกพูดได้แล้ว! ลงมือไปเลย พวกเราไม่กลัวแกหรอก!”

“แล้วถ้าพวกเราปฏิเสธที่จะยอมปล่อยให้ล่ะ?” จืออี้ที่ไม่ได้ตกใจไปกับเสียงของเด็กน้อยพูดขณะที่รอยยิ้มกำลังจางหายไปจากใบหน้าของเธอช้า ๆ

“ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราคงต้องฆ่าพวกเธอทุกคนแล้วล่ะ” ลิตเติ้ลฟ็อกซ์หัวเราะในลำคอโดยที่ด้านหลังเธอนั้นก็ยังมีคิทเท่นคอยกระตุกเสื้อเธออยู่หลายครั้งด้วย หากแต่เธอไม่สนใจการกระทำนี้

“ฆ่าพวกเราเหรอ? มั่นใจเหรอว่าทำได้?” คำพูดของจืออี้นั้นดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เกรงกลัวสมาชิกกิลด์เดอะวูล์ฟที่มีเยอะกว่าทางฝั่งเธอหลายเท่าเลย ความกล้าของเธอนั้นราวกับเธอรู้อยู่แล้วว่ายังไงเธอก็จะเป็นฝ่ายชนะแน่ ๆ

จิ้งจองสาวหันไปมองผู้เล่นกว่า 50 คนด้านหลังตนเองก่อนจะเหลียวไปมองผู้เล่นเพียงหยิบมือด้านหลังจืออี้ จากนั้นก็พูดออกมาโดยไม่รู้สึกกระดากปาก “มองจากความห่างชั้นของความแข็งแกร่งแล้ว ฉันคิดว่าน่าจะทำได้ง่าย ๆ เลยล่ะ”

ทว่าตอนนั้นเอง ลิตเติ้ลฟ็อกซ์ถึงได้สังเกตเห็นว่าเหล่าผู้เล่นที่อยู่ด้านหลังจืออี้เองก็ไม่ได้เกรงกลัวเธอเหมือนที่จืออี้เป็นเช่นกัน คนเหล่านั้นต่างแสดงให้เห็นถึงท่าทีสบายอกสบายใจไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามด้วย

สิ่งนี้มันทำให้เธอเริ่มจะกังวลขึ้นมานิด ๆ “เธอมีคนของวอร์สปิริตอยู่ด้วยหรือไง? เพราะพวกข้างหลังเธอดูจะไม่ได้มาจากวอร์สปิริตนี่”

“ไม่จำเป็นต้องให้วอร์สปิริตส่งคนมาหรอก ที่นี่น่ะ แค่ฉันก็พอ อ้อ แล้วก็พวกเรายังมีเพื่อนร่วมทีมอีกหนึ่งคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ แค่นี้ก็รับมือพวกเธอได้สบาย ๆ แล้ว” จืออี้ยืนสบาย ๆ อย่างไร้กังวล เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่ด้านหลัง ความตึงเครียดก่อนหน้ามันมลายหายไปหมดแล้ว และท่าทีผ่อนคลายของพวกเขาทำเอาเหมือนกลุ่มของผู้เล่นจากเดอะวูล์ฟร่วม ๆ 50 คนตรงหน้านั้นไม่มีอยู่จริงเสียอย่างนั้น

ทั้งหมดนี่เป็นเพราะพวกเขาได้ยินเสียงประกาศแจ้งการเข้าร่วมปาร์ตี้

[แด๊ดเข้าร่วมปาร์ตี้]

“พวกเธอมีกันแค่ 10 คนแค่นั้น! เธอคิดเหรอว่าคน 10 คนจะสามารถเอาชนะผู้เล่นระดับสูงของเดอะวูล์ฟได้? ช่วยอย่าเอาเดอะวูล์ฟไปเปรียบเทียบกับกิลด์เล็ก ๆ ได้มั้ย” ลิตเติ้ลฟ็อกซ์ดูจะหัวเสียขึ้นมานิดหน่อยหลังจากได้ยินสิ่งที่จืออี้พูด เธอรู้สึกเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังดูถูกตนอยู่

ด้านหลังลิตเติ้ลฟ็อกซ์ เหล่าผู้เล่นของเดอะวูล์ฟกว่า 50 คนนี้ถือเป็นผู้เล่นระดับสูงของกิลด์ทั้งหมดวัดจากเลเวลและอุปกรณ์ที่สวมใส่ พวกเขามองหน้ากันเองหลังจากที่ฟังคำพูดของจืออี้ ตามปกติแล้วพวกเขาจะมองว่าการกลั่นแกล้งผู้อื่นเป็นเรื่องน่าอาย แต่ในเวลานี้พวกเขากลับพร้อมที่จะเข้าสู้แล้ว

จืออี้ยังคงใจเย็นและเงียบนิ่ง ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “เอ๋? จริงเหรอ? งั้นทำไมพวกเราไม่พนันกันหน่อยล่ะ?”

“พนัน? พนันอะไร?” ลิตเติ้ลฟ็อกซ์หุบยิ้มในบัดดล

“ฉันพนันว่าปาร์ตี้ 10 คนของฉันจะสามารถเอาชนะสมาชิกระดับสูงทั้ง 10 คนของเธอได้” จืออี้พูด

“เธอนี่ก็ขี้โม้เหมือนกันนะ ดูถูกเดอะวูล์ฟกันซะเหลือเกิน แล้วถ้าเกิดเธอแพ้พนันล่ะ?” แววตาคู่สวยของลิตเติ้ลฟ็อกซ์แสดงให้เห็นถึงความหนาวเย็นเล็กน้อย

“ถ้าฉันแพ้ จะยอมให้เธอทำอะไรฉันก็ได้เลย เพราะเธอเองคงจะใช้ชีวิตไม่สะดวกสักเท่าไหร่ถ้ายังมีฉันอยู่ใช่ไหมล่ะ?” ถึงจะดูเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ แต่จืออี้ก็ดูจะไม่ใส่ใจมันเอาเสียเลย

“ทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ? มั่นใจในตัวเองซะเหลือเกินนะ! ในเมื่อเธอเลือกหนทางแห่งการดับสูญด้วยตัวเองแล้วก็อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน! ลุยเลย!” ลิตเติ้ลฟ็อกซ์พูดด้วยความโกรธ ด้วยข้อเสนอในการเดิมพันจากจืออี้ที่ดูจะเข้าตาเธอมาก ๆ นั้นมันได้ปลุกความเหิมเกริมของเธอขึ้นมาเสียแล้ว และมันยิ่งทำให้ดวงตาของเธอนั้นดูเยือกเย็นมากขึ้นไปอีก

“เดี๋ยวสิ เพื่อนร่วมทีมของฉันอีกคนยัง…อ๊ะ โอเค เขามาแล้ว งั้นก็ เริ่มกันเลยแล้วกัน” จืออี้หยุดคำพูดของเธอไว้กลางอากาศขณะหันมองไปทางขวาพอดี ในระยะที่ไม่ไกลนัก ร่างสีขาวของบางสิ่งบางอย่างก็ค่อย ๆ เข้ามายังที่แห่งนี้

อย่างไรก็ตาม ถึงจะสั่งลุยกันทั้งสองฝั่ง แต่ก็ไม่มีใครขยับไปไหนหรอกนะ นั่นเพราะร่างสีขาวดังกล่าวนั้นมันดึงดูดสายตาของทุกคนเอาไว้ ไม่กี่วินาทีก่อนมันยังเป็นเพียงจุดสีขาวเท่านั้น แต่ในตอนนี้มันกลายเป็นร่างของสัตว์ขี่ตัวสีขาวขนาดใหญ่ที่มีคนนั่งมาด้วยเสียแล้ว

“นั่นมัน…สัตว์ขี่เหรอ? ทำไมเร็วได้ขนาดนั้นล่ะ! เป็นสัตว์ประเภทไหนกัน!”

“เดี๋ยว! ดูที่สัตว์ขี่ตัวนั้นดี ๆ สิ! มันคุ้น ๆ นะ!”

“ม้าขาวเหรอ? ไม่! มันมีปีกกับเขาด้วย! นั่นมันยูนิคอร์น! ยูนิคอร์นแสงศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นอันดับ 1 ในอันดับสัตว์เลี้ยงนี่! เร็วมาก!”

“เดี๋ยวนะ ยูนิคอร์นแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์เหรอ? นั่นมันสัตว์ขี่ของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่ใช่หรือไงน่ะ?”

ผู้เล่นหลายคนของเดอะวูล์ฟเริ่มกระซิบกระซาบกันเองแล้ว พวกเขาคุ้นเคยกับม้าตัวนั้นนิดหน่อย และใครบางคนในหมู่พวกเขาก็จำมันได้อย่างถูกต้อง ม้าตัวนี้คือยูนิคอร์นแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่อันดับ 1 ในอันดับสัตว์เลี้ยง! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้เร็วนัก!

ทว่าตอนนั้นเอง พวกเขาถึงได้เริ่มตระหนักได้ว่าบางสิ่งบางอย่างไม่ชอบมาพากล ยูนิคอร์นแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ผู้ที่ถูกพูดถึงว่าเป็นอันดับ 1 ในเขตฮัวเซีย แถมเมื่อหลายชั่วโมงก่อน พวกเขาก็เพิ่งจะได้เห็นการต่อสู้ของคนคนนี้กับกิลด์กลอรี่ที่ด้านนอกเมืองซือหรานด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงคุ้น

“ปะ…เป็นไปไม่ได้น่า!?” บางคนพูดออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพราะถ้าหากม้าตัวนั้นเป็นยูนิคอร์นแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ คนที่อยู่บนหลังม้าก็ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร

ซู่ม!

ทันทีที่พวกเขากำลังชั่งใจ ร่างของเสี่ยวเสวี่ยก็ทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า ด้วยเสียงลมที่ถูกแหวกออกนั้น ในพริบตาเดียวร่างของมันก็มายืนอยู่ท่ามกลางความอลหม่านแล้ว ร่างสีขาวประดุจเกล็ดหิมะขนาดใหญ่กำลังยืนตัวสูงราวกับมนุษย์ ด้วยปีกสีขาวขนาดใหญ่ที่หลังนั้น มันทำให้เกิดสายลมกระโชกไปมารุนแรงจนทั้งจืออี้และลิตเติ้ลฟ็อกซ์ต้องถอยหลังไป

แบบนี้แล้วบนหลังเสี่ยวเสวี่ยจะเป็นใครได้อีก? เซียวเฟิงได้รับข้อความจากซางกวน อาโอเชินขณะมุ่งหน้ามาทางทิศนี้ เพราะงั้นเขาจึงไม่ซ่อนไอเทมของเขา นอกจากชุดเกราะโครงกระดูกทองคำที่ได้มาใหม่แล้ว อุปกรณ์ชิ้นอื่นก็ยังเป็นเกราะโครงกระดูกธรรมดาเหมือนเมื่อตอนสู้กับกิลด์กลอรี่เมื่อหลายชั่วโมงก่อนอยู่เลย

“การต่อสู้ยังไม่เริ่มใช่ไหม? เธอมีกิลด์ใหญ่มาด้วยหรือเปล่า? ถ้ายังไงให้กิลด์ของเธอส่งคนมาเพิ่มที่นี่จะดีกว่านะ เพราะฉันล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว”

บนหลังของเสี่ยวเสวี่ย เซียวเฟิงกำลังมองลงมายังลิตเติ้ลฟ็อกซ์และสมาชิกของกิลด์วูล์ฟคนอื่น ๆ เขาพูดออกไปอย่างไม่ลังเลทันทีที่เห็นชื่อกิลด์ที่อยู่เหนือหัวคนเหล่านี้