หลิงเหยาดูตึงเครียดเล็กน้อย เธอไม่ได้เครียดที่ลู่ฝานแพ้ แต่เครียดเรื่องเหรียญทองสิบกว่าเหรียญของตัวเอง ไม่มีใครรู้ว่าฐานะทางบ้านของหลิงเหยาไม่ได้ร่ำรวย เหรียญทองสิบกว่าเหรียญนี้ เป็นเงินค่าใช้จ่ายของเธอหนึ่งปี

เมื่อฝุ่นควันหายไป เผยให้เห็นเหตุการณ์ด้านใน

อี้ว์หวาหอบหายใจไม่หยุด ขวานในมือ โดนฟันจนเป็นรอยร้าว

กระบี่หนักตั้งอยู่ตรงนั้น บังลู่ฝานเอาไว้

“อี้ว์หวาชนะแล้วเหรอ”

มีคนหนึ่งถามขึ้น

ต่อมา กระบี่หนักถูกยกขึ้นเบาๆ ลู่ฝานร่างกายปลอดภัย ไม่เป็นอะไร

ลู่ฝานมีรอยยิ้มบนใบหน้า รู้สึกว่าวิชากระบี่ขั้นพื้นฐานของตัวเอง สมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อยๆ การโจมตีแค่นี้ คิดจะทำลายการป้องกันของเขา น่าขำจริงๆ

อี้ว์หวาแผดเสียงออกมา ใช้ขวานฟันลงไปอีกครั้ง

แสงขวานขนาดใหญ่ เป็นรูปจันทร์เสี้ยว แต่ยังไม่ทันฟันโดน กระบี่หนักของลู่ฝาน เหมือนวิญญาณ แตะลงมาบนด้ามขวานของเขา

นี่เป็นจุดที่อี้ว์หวาพลังอ่อนแอที่สุด ต่อสู้นานขนาดนี้ ถ้าลู่ฝานยังจับทางกลอุบายของอี้ว์หวาไม่ได้ เขาคงฝึกวิชากระบี่ขั้นพื้นฐานมาสูญเปล่า

แตกต่างกับการวางแผนของศิษย์พี่ฉู่สิง วิชากระบี่ขั้นพื้นฐานของลู่ฝาน อาศัยความรู้สึกและสัญชาตญาณมากกว่า

เขาเอากระบวนท่า การโจมตีกลับและกลอุบายต่างๆ มาเป็นสัญชาตญาณ ไม่ต้องคิดอะไรมาก หลังจากคุ้นชินกับการลงมือของอี้ว์หวา ตอนเห็นอี้ว์หวาฟันขวาน ลู่ฝานจึงแตะกระบี่ออกไปตามสัญชาตญาณ

ระยะเวลาและพลัง เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ

กระบี่เดียว สามารถทำลายพลังป้องกันของอี้ว์หวาได้ ครั้งนี้ลู่ฝานก็ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด อี้ว์หวายังไม่เหมาะสม ให้เขาใช้พลังปราณยี่สิบเท่าออกมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพลังวิญญาณกับปราณชี่เลย ตอนนี้ ลู่ฝานใช้พลังน้อยมาก แต่ประสิทธิภาพน่าตกใจมาก

แค่กระบี่ง่ายๆ โจมตีจนอี้ว์หวากระเด็น

พลังอันแข็งแกร่ง ทำให้อี้ว์หวากระอักเลือดออกมา อย่างมากมาย เลอะแขนเสื้อไปหมด

ลู่ฝานเดินเข้ามาเตะหน้าอี้ว์หวาอีก

ไม่ต้องใช้แรงมาก ลู่ฝานเตะอี้ว์หวา จนกระเด็นออกไป

การเคลื่อนไหวงดงาม สบายๆ และสุขุม เหมือนเจอหินอยู่ข้างทางก้อนหนึ่ง เลยเตะมันออกไปเบาๆ

อี้ว์หวาโดนเตะจนลอยไปสิบเมตร จากนั้นหล่นตุ้บลงบนพื้น ขวานหล่นอยู่ข้างๆ

เขาไม่ได้สลบ แต่ไม่สามารถตะเกียกตะกายขึ้นมาได้

อี้ว์หวาร่วงลงบนพื้น เหมือนหินกระแทกลงบนใจนักเรียนคนอื่น ทำให้สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไป

ลู่ฝานเอาชนะได้อย่างง่ายดาย เป็นเรื่องที่พวกเขาคาดไม่ถึง

เหมือนพวกเขากลืนของสะอิดสะเอียนเข้าไป สีหน้าบูดเบี้ยว และพูดอะไรไม่ออก

หานเฟิงหัวเราะออกมา “ศิษย์น้องลู่ฝาน ทำได้ดีมาก”

หานเฟิงหันมาพูดกับเหลิ่งหาน “ฉันบอกแล้ว สายตานายจะมองอะไรได้”

เหลิ่งหานกัดฟัน ไม่พูดอะไร โกรธจนสั่นไปทั้งตัว เหลิ่งหานมองหานเฟิง แล้วกัดฟันกรอด “นายมาสู้กับฉัน กล้าหรือเปล่า”

หานเฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่กล้า ฉันไม่กล้าจริงๆ ฮ่าๆ ฉันชนะแล้ว ทำไมต้องพนันกับนายอีกล่ะ เมื่อชนะ ได้ของพนันก็กลับ เป็นเรื่องที่ฉันชอบทำที่สุด ตอนนี้ นายเอาหน้านายมานี่ ให้ฉันเตะสักที วางใจเถอะ ฉันไม่ทำแรงมากหรอก อย่างมากก็เตะจนหน้านายเป็นอัมพาตเท่านั้น ไม่อันตรายถึงชีวิตหรอก”

เหลิ่งหานอยากฟันไอ้เลวนี่ให้ตายจริงๆ แต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้ แพ้แล้วฆ่าคน ข่าวทุเรศแบบนี้ ต้องทำให้เขาโดนไล่ออกจากคณะหยินหยาง

หานเฟิงกระดิกนิ้วให้เหลิ่งหาน ด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า