ตอนที่ 179.2 ชายผู้โดดเด่น (2)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

เธอเกิดมาจนอายุเท่านี้ เป็นครั้งแรกที่พบว่าความจริงชายหนุ่มก็สามารถมีรูปโฉมที่งดงามโดดเด่นเช่นนี้ได้ และยังร้องไห้อย่างน่าสงสาร ทำให้คนแปลงกายเป็นหมาป่าบุกเข้าไป!

แน่นอน เล่อเหยาเหยาคือใจจดใจจ่อ!

สำหรับความคิดในใจ เพียงคิดแวบขึ้นมาเท่านั้น

เพราะตอนนี้สิ่งที่เธออยากรู้ที่สุดคือ เกิดเรื่องใดขึ้นกับเธอกันแน่ ชายผู้นี้คือผู้ใด!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาเอ่ยถามชายหนุ่มที่ร้องไห้อย่างน่าสงสารนั้น

“เจ้า เจ้าคือผู้ใด และข้า ข้าคือผู้ใด”

“อะไรนะ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา ร่างกายชายหนุ่มดุจถูกฟ้าผ่า ใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นนั้นตะลึงชั่วขณะ และหยุดร้องไห้ เพียงมองเล่อเหยาเหยา

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มเผยอริมฝีปาก เอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูว่า

“ซินเอ๋อร์ เจ้า เจ้า สูญเสียความทรงจำหรือ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้”

“เอ่อ”

สูญเสียความทรงจำ!

หากเธอข้ามมาอยู่ในร่างของผู้อื่นจริง ใช้วิธีสูญเสียความทรงจำเช่นนี้ถือว่าไม่เลว เพราะเธอไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับร่างนี้ และลืมว่าชายตรงหน้าคือผู้ใด

ทว่าเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นลึกซึ้งของชายหนุ่ม น่าจะมีความสนิทสนมกับร่างของเธอตอนนี้อย่างมากแน่

หรือจะเป็นคนรัก

เล่อเหยาเหยาคิดอย่างสงสัย สุดท้ายเธอไม่มั่นใจ ดังนั้นจึงเอ่ยกับชายหนุ่มที่มีสีหน้าตื่นเต้นว่า

“คือ ช่วยนำกระจกมาให้ข้าได้หรือไม่”

หน้าตาดั่งหญิงงาม ผิวขาวเกลี้ยงเกลา คิ้วดุจพระจันทร์ แววตาชุ่มฉ่ำ ริมฝีปากแดงจมูกงอน

นี่คือใบหน้าดุจหยกแกะสลักและคุ้นตาอย่างมาก!

หลังส่องกระจกจนชะงักชั่วขณะ เล่อเหยาเหยาอดขมวดคิ้วไม่ได้ แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

เพราะใบหน้าในกระจกนี้ ก็คือเธอที่ข้ามเวลามายังยุคสมัยนี้ แล้วใช้มาตลอด กระทั่งปานดำเล็กๆ ที่ข้างหูยังมีอยู่ แต่เหตุใดชายหนุ่มตรงหน้ากลับเรียกเธอว่าซินเอ๋อร์!

ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย เล่อเหยาเหยาหลังปล่อยกระจกในมือลง หันมองชายหนุ่มข้างกาย

เห็นเพียงชายผู้นี้อายุประมาณยี่สิบห้า รูปโฉมนั้นงามล่มเมืองจริงๆ และรูปร่างนั้น เมื่อครู่แอบมองขณะที่เขาไปหยิบกระจก ประเมินจากสายตาน่าจะสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร

ไหล่กว้างเอวคอด สะโพกผาย ขาเรียวตรง เหมาะสมกับชุดสีแดงที่สวมใส่ จึงงดงามไม่เป็นรองผู้ใด สุดยอดแห่งยุค!

ชายหนุ่มโดดเด่นเช่นนี้ หาได้ยากในโลกใบนี้

และความงดงามของชายหนุ่มนี้ แต่กต่างกับพวกเหลิ่งจวิ้นอวี๋

หลังเธอมาถึงยุคนี้ รอบกายล้อมรอบด้วยชายหนุ่มโดดเด่นสามคน

ตัวอย่างเช่น เหลิ่งจวิ้นอวี๋!

เขามีทั้งอำนาจบารมี วรยุทธ์สูงส่ง เด็ดเดี่ยวเย็นชา เลือดเย็นเป็นที่สุด

คล้ายกับพระจันทร์หนาวเย็น ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ไม่กล้าดูหมิ่น

ต่อมาคือตงฟางไป๋

นั่นคือชายหนุ่มหล่อเหลาเป็นสุภาพชนเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ รูปร่างงามสง่า องอาจน่าเกรงขาม ดุจหยกงามอ่อนละมุน ทำให้คนชื่นชอบ

สุดท้ายคือหนานกงจวิ้นซี

แม้ปกติจะมักลับฝีปากกับเขา แต่ต้องพูดว่าหน้าตาหนานกงจวิ้นซีถือว่าไม่เลว

จัดอยู่ในพวกสดใสดั่งพระอาทิตย์ อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าประณีตงดงาม ดุจดอกทานตะวันที่เปี่ยมไปด้วยพลัง

ส่วนชายตรงหน้า ใบหน้างดงามของเขานั้น อยู่ในพวกงดงามจนมิอาจแยกแยะ

หากไม่เห็นหน้าอกของเขาแบนราบ มีลูกกระเดือก มองดูแล้วยังคิดว่าเขาเป็นผู้หญิง!

ขณะเล่อเหยาเหยามองเขาอย่างละเอียด ดวงตาหงส์ของชายหนุ่มก็ไม่ละไปจากเธอเลย

อาจเพราะเห็นความสงสัยในแววตาของเล่อเหยาเหยา ดวงตาหงส์ของชายหนุ่มนั้นจึงเป็นประกายครู่หนึ่ง พลันฉุกคิดขึ้นมาได้ สองมือพลันดึงมือเล่อเหยาเหยา ก่อนเอ่ยอย่างซึ้งใจว่า

“ซินเอ๋อร์ เจ้าจำเรื่องก่อนหน้านี้ของพวกเราไม่ได้ ไม่เป็นไร เพียงเจ้ามีชีวิตกลับมาเพียงพอแล้ว”

เห็นเพียงชายหนุ่มพูดอย่างรักอย่างลึกซึ้ง โดยไม่โกหกเลยสักนิดเดียว เพียงพอให้มองออกว่าเขาดีกับเธอจากใจจริง

แต่…

“ขออภัย ข้าว่าเจ้าจำคนผิดแล้ว ข้าไม่รู้จักเจ้า”

แม้จะรู้สึกว่าคำพูดนี้ สำหรับชายหนุ่มเป็นเรื่องที่โหดร้ายอย่างยิ่ง

เพราะหลังเธอตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มพูดจาดีใจราวกับเสียสติ และยังพูดไม่หยุดว่า ‘เธอฟื้นคืนชีพมาแล้ว’ พวกนี้

เล่อเหยาเหยาจึงเดาว่าคนรักของชายผู้นี้เสียชีวิตไปแล้วแน่นอน ดังนั้นจึงจำผิดว่าเธอคือคนรักที่ตายไปแล้วของเขา

แต่หญิงสาวในกระจก เห็นชัดว่าเป็นใบหน้าของเธอในยุคสมัยนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่นิดเดียว และเธอไม่เคยพบหน้าชายผู้นี้ นี้มันเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่!

และเหตุใดเธอจึงมาปรากฎตัวอยุ่ในสถานที่เช่นนี้!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยามองสภาพแวดล้อมรอบด้านอีกครั้ง ทั้งหมดต่างเป็นน้ำแข็ง มากเพียงพอที่จะทำให้คนแข็งตายได้

ขณะเล่อเหยาเหยาสงสัยไม่เข้าใจ ชายหนุ่มหลังได้ยินคำพูดของเธอ สีหน้าดูตื่นเต้นขึ้นมา ยื่นสองมือกุมไหล่เล่อเหยาเหยาไว้แน่น ก่อนเอ่ยว่า

“ไม่ ข้าไม่ได้จำคนผิด ข้าจะจำคนผิดได้เช่นไร เจ้าคือซินเอ๋อร์ของข้า เป็นภรรยาของข้า ไม่ว่าเจ้าจะกลายเป็นธุลี ข้ายังจำเจ้าได้!”

ทุกคำทุกประโยคของชายหนุ่ม เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น

และเขาคล้ายหวาดกลัวจะสูญเสียเธอไปอย่างหนัก จนแรงที่จับบนไหล่ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด

คิ้วเข้มขมวดแน่น เล่อเหยาเหยารู้สึกเจ็บจึงเอ่ยกับชายหนุ่มว่า

“เจ็บ ปล่อยมือ”

“เอ่อ ขออภัย ขออภัย ซินเอ๋อร์ ข้าทำให้เจ้าเจ็บ ขออภัย”

หลังได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา ชายหนุ่มตกใจจนรีบปล่อยมือออก ก่อนจะขอโทษเล่อเหยาเหยาไม่หยุด

จากนั้นกลัวตนจะทำให้เล่อเหยาเหยาบาดเจ็บ จึงคิดถอดเสื้อผ้าบนกายเธอลง พลางเอ่ยว่า

“เจ็บที่ใด ให้ข้าดูหน่อยเถิด”

ชายหนุ่มเอ่ยจบ คิดดึงเสื้อผ้าบนกายเล่อเหยาเหยาลง เล่อเหยาเหยาพอเห็นดวงตาคู่งามก็เบิกกว้าง กรีดร้องออกมา ก่อนรีบถอยหลังไป

“ไม่ ข้าไม่ได้บาดเจ็บ เจ้าอย่าเข้ามา”

เล่อเหยาเหยาตกใจ สองมือจึงกอดหน้าอกเอาไว้แน่นตามสัญชาตญาน สายตาที่มองชายหนุ่มเต็มไปด้วยความระแวง

ทว่าความระแวงในแววตาเธอ เห็นชัดว่าทำร้ายใจของชายหนุ่ม

เห็นเพียงชายหนุ่มขณะได้ยินคำพูดของเธอ บนใบหน้าพลันปรากฎความโศกเศร้าเสียใจออกมา ก่อนเอ่ยอย่างเสียใจว่า

“ซินเอ๋อร์ เจ้าคือภรรยาของข้า ข้าคือสามีของเจ้า”

“ไม่ ข้าไม่ใช่ภรรยาเจ้า เจ้าจำคนผิดแล้ว ข้าจำไม่ได้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร แต่ข้ามั่นใจว่า ข้าไม่ใช่ภรรยาของเจ้าจริงๆ”

แม้จะเห็นชายหนุ่มจะเสียใจ เจ็บปวดใจ เล่อเหยาเหยามองอย่างไม่สบายใจ

เพราะชายผู้นี้รูปโฉมงามล่มเมือง เวลานี้ขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด คนที่เห็นต่างปวดใจ

เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาอดถอนหายใจไม่ได้

ชายผู้นี้ เป็นตัวสร้างปัญหาจริงอย่างที่คิด!

เหตุใดชายหนุ่มผู้หนึ่ง จึงมีรูปโฉมที่งดงามเช่นนี้!

หากหญิงอื่นเห็นเข้า ต่างน้อยเนื้อต่ำใจกลับรูปโฉมของตนแน่!

ขณะเล่อเหยาเหยาถอนหายใจ ชายหนุ่มที่ได้ยินคำพูดนี้ เห็นชัดว่าเสียใจ น้ำตาที่หยุดลงอย่างไม่ง่ายดาย ไหลทะลักออกมาจากดวงตาหงส์ของเขาอีกครั้ง

เมื่อเห็นดวงตาหงส์เรียวยาวงดงามคู่นั้น มีละอองน้ำทะลักขึ้นมาอย่างรวดเร็ว น้ำตาเป็นประกายแวววาวนั้น เกลือกกลิ้งไปมาอยู่ภายในดวงตาเขาไม่หยุด มีท่าทางร้องห่มร้องไห้ เล่อเหยาเหยาที่มองอดหนังศีรษะชาวาบไม่ได้

สวรรค์!

ชายผู้นี้สร้างมาจากน้ำหรือ!

เหตุใดเอะอะก็ร้องไห้ และขณะะร้องไห้ น้ำตาคล้ายไข่มุกที่ร่วงหล่นจากสร้อยลงมา ท่าทางเหมือนดอกหลีว์กลางสายฝนนั้น ทำให้คนสงสารจากก้นบึ้งของหัวใจ

เห็นเพียงชายหนุ่มยังมีสีหน้าไม่คลายความโศกเศร้า และเมื่อเห็นดวงตาเปื้อนน้ำตาน่าสงสารตรงหน้า น้ำตาในดวงตา แวววาวเป็นประกาย หยดน้ำตาที่สองแก้ม ทำให้ผิวขาวดุจกระเบื้องของเขา งดงามอย่างยิ่ง!

ชายหนุ่มตรงหน้า คล้ายสุนัขตัวน้อยที่ถูกเจ้าของทอดทิ้ง ทั้งงดงามและน่าสงสาร

เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาอดใจอ่อนไม่ได้ และรู้สึกจนใจ

“ท่านหยุดร้องไห้ได้แล้ว”

น้ำเสียงเล่อเหยาเหยาอ่อนลง เพราะเธอกลัวน้ำตาของผู้อื่นเป็นที่สุด

และยังมีชายหนุ่มงดงามโดดเด่นร้องไห้อยู่ตรงหน้า

หากถูกคนอื่นเห็นเข้า รับรองใจต้องแตกสลายเป็นแน่

ชายหนุ่มได้ยิน เจ็บปวดจนร้องไห้อย่างเสียใจผิดหวัง

“ซินเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ เจ้าลืมข้าได้เช่นไร เจ้าทำได้เช่นไร…”