ยาระดับ4 แค่เม็ดเดียวราคาอย่างน้อยเป็นพันขึ้นไป สิบขวดเต็มๆ ถึงเขาขายตัว ก็ยังชดใช้ไม่ได้

ผางไห่เอายาออกมาหนึ่งเม็ด ให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน ทุกคนมีสีหน้าแปลกประหลาด ทุกคนล้วนเป็นศิษย์หัวกะทิของสถาบันสอนวิชาบู๊ เคยเห็นยาอยู่แล้ว เมื่อมองลายของยาอย่างละเอียด และลองดมกลิ่น นักเรียนสองสามคนพยักหน้า “เป็นยาระดับ4 จริงๆ”

สายตาที่มองอี้ว์หวา แปรเปลี่ยนเป็นสายตาเศร้าโศก สะใจ รวมไปถึงเห็นใจ

หานเฟิงหัวเราะ แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายโหดมาก ยาสิบขวดเต็มๆ ให้ตายเถอะ ถ้าวันนี้ไอ้หมอนี่ไม่ออกไปตัวเปล่า ฉันไม่มีทางให้เขาออกไปแน่นอน”

หานเฟิงเดินมาข้างอี้ว์หวา ก้มมองอี้ว์หวาแล้วพูดว่า “แกล้งตายไม่ได้ผลหรอกนะ ถ้านายชดใช้ไม่ไหว ฉันจะแก้ผ้านายให้หมดแทน แล้วโยนไปบนถนน กล้าพนัน ก็ต้องยอมรับผล นักพนัน เหลือแต่ตัว เป็นเรื่องปกติ ฉันว่าอาจารย์คณะหยินหยาง คงไม่ถือสาหรอก”

อี้ว์หวากระอักเลือดออกมาอีก เขาหันไปมองรอบๆ เพื่อขอความช่วยเหลือจากศิษย์พี่เหลิ่งหาน เพราะศิษย์พี่เหลิ่งหานเป็นคนบอกให้เขาต่อสู้ แต่น่าเสียดาย ศิษย์พี่เหลิ่งหานไปตั้งนานแล้ว

อี้ว์หวาปากสั่น พูดอะไรไม่ออกสักคำ

หานเฟิงเลิกคิ้วขึ้น “ดูท่านายจะจ่ายไม่ไหวสินะ งั้นคงไม่มีทางเลือก ศิษย์น้องลู่ฝาน มาช่วยฉันแก้ผ้าหน่อย เสื้อผ้าของไอ้หมอนี่คุณภาพไม่เลวเลยนะ”

พูดพลาง หานเฟิงจะถอดกางเกงของอี้ว์หวา

เมื่อเห็นว่าอี้ว์หวากำลังจะโชว์ก้น ทันใดนั้น อี้ว์หวาตะโกนเสียงดัง

“เดี๋ยว ฉันจ่ายไหว ฉันจ่าย”

อี้ว์หวาปลดเข็มขัดตัวเองออก แล้วส่งให้หานเฟิง “นี่คือเข็มขัดอากาศธาตุของฉัน ข้างในมีพื้นที่จัดเก็บภายในรัศมีสามร้อยกว่าเมตร พอกับราคาของยาสิบขวดนั่นแล้วใช่ไหม”

หานเฟิงได้ยินว่าเข็มขัดอากาศธาตุ เขารีบคว้าเข็มขัดมาทันที

ใส่พลังปราณเข้าไป หานเฟิงหัวเราะออกมา “ไม่เลวๆ แม้จะแย่นิดหน่อย แต่สมุนไพรกับเหรียญทองข้างใน นับว่าพอชดเชยได้”

อี้ว์หวาเกือบกระอักเลือดออกมาอีก ให้ตายเถอะ เข็มขัดอากาศธาตุ ยังเทียบยาสิบขวดไม่ได้เหรอ ยังต้องการสมุนไพรกับเหรียญทองมาชดเชยอีกเหรอ

อี้ว์หวากลอกตามองบน ครั้งนี้เขาเป็นลมล้มพับไปเลย

หานเฟิงยื่นเข็มขัดให้ลู่ฝาน “เข็มขัดอากาศธาตุ ของดีเลยนะ เก็บไว้สิ”

หานเฟิงพูดเบาๆ ข้างหูลู่ฝาน “แบ่งเหรียญทองข้างในให้ฉันครึ่งหนึ่ง ให้ตายเถอะ นายรวยจริงๆ”

ลู่ฝานยิ้ม แล้วรับเข็มขัดมา จากนั้นจึงเปลี่ยนเข็มขัดตัวเองทันที

มาไว้ในนี้ แม้พื้นที่จัดเก็บในแหวนจิ่วเซียว จะใหญ่กว่ามาก แต่แหวนจิ่วเซียว เป็นของที่อาจารย์อู๋เฉินให้เขา อย่าเปิดเผยออกมาง่ายๆ ดีกว่า

หลิงเหยาเดินมาข้างหน้าผางไห่เช่นกัน “ฉันพนันว่าคุณชายลู่ฝานชนะเหมือนกัน”

ผางไห่ยิ้มแล้วพูดว่า “รู้แล้วๆ หนึ่งต่อสิบ แม่นางหลิงเหยา นี่คือของเธอทั้งหมด”

เหรียญทองกองหนึ่ง วางไว้บนมือหลิงเหยา ทันใดนั้น หลิงเหยาดีใจจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ผางไห่กับผางเทา เอาเหรียญทองที่เหลืออยู่ ให้ลู่ฝานครึ่งหนึ่ง “คุณชายลู่ฝาน นี่คือของนาย”

ลู่ฝานรับเหรียญทองมา ยิ้มแล้วมองผางไห่ “ขอบใจมาก”

นายสมควรได้รับ ศิษย์น้องลู่ฝาน แม้เราเจอกันครั้งแรก แต่ฉันได้ยินชื่อนายจากอาจารย์มาไม่น้อยเลย นายอาจไม่รู้ว่า อาจารย์เซินถู โกรธอยู่หลายวัน เพราะนายเลือกคณะหนึ่งเดียว ฉันขอพูดแทนอาจารย์สักประโยค ถ้าวันไหน

ลู่ฝานพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”

นักเรียนคนอื่นก็แยกย้ายเช่นกัน คิดว่าผ่านไปไม่กี่วัน ข่าวที่อี้ว์หวาแห่งคณะหยินหยางแพ้ให้กับลู่ฝานแห่งคณะหนึ่งเดียว คงดังไปทั่วสถาบันสอนวิชาบู๊ ก่อนไป ยังมีนักเรียนสองคนที่มีจิตใจงาม ช่วยแบกอี้ว์หวากลับไปด้วยกัน อี้ว์หวาที่สลบอยู่ ดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก นักเรียนสองคนที่แบกเขากลับไป ถอนหายใจออกมาไม่หยุด

หลิงเหยานับเหรียญทองเสร็จ จากนั้นเก็บเข้าไปในถุงเล็กๆ ของตัวเอง เมื่อหันกลับมา หลิงเหยาไม่เห็นศิษย์พี่เยียนหรานแล้ว

ให้ตายสิ ศิษย์พี่เยียนหรานไปไหนแล้ว เธอกลับไปคนเดียวได้ยังไง

หานเฟิงเบิกตาโต มองเหรียญทองบนมือลู่ฝาน กระแอมออกมา แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ในเหรียญทองพวกนี้ มีความดีความชอบของศิษย์พี่คนนี้อยู่ด้วยหรือเปล่า”

ลู่ฝานเอาเหรียญทองบนมือ ให้หานเฟิงทั้งหมด

หานเฟิงอึ้งไป จากนั้นหัวเราะ “ฮ่าๆ ศิษย์น้องลู่ฝาน เกรงใจเกินไปแล้ว แม้ความดีความชอบของฉันจะมาก แต่เยอะขนาดนี้……ก็ได้ เพราะนายรวยแล้ว งั้นฉันฝืนใจเก็บไว้แล้วกัน จำไว้นะ ว่าฝืนใจ”

ขณะนั้น หลิงเหยาเดินเข้ามา พูดกับลู่ฝานว่า “ลู่ฝาน นายชนะ ได้เงินเยอะขนาดนี้ เลี้ยงข้าวฉันสักมื้อได้ไหม”

ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหา”