ตอนที่ 228 : ยูนิคอร์นอสนีเขาเดียว

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 228 : ยูนิคอร์นอสนีเขาเดียว

ตือโป๊ยก่ายทำการกลืนคลื่นปิศาจอย่างต่อเนื่อง ตอนที่มันโผล่ออกมาจากผลึกนั้น มันก็ได้แผ่หมอกดำที่มีคลื่นพลังปิศาจออกมา

“หิว” สุดท้ายตือโป๊ยก่ายบอกความต้องการของมันออกมา แท้จริงคือมันต้องการอาหาร

หวังเย่ามองไปที่ตือโป๊ยก่ายด้วยความสับสน แต่ยังไงซะ ตือโป๊ยก่ายก็เป็นอสูรของเขา ด้วยสัญญาแล้วเขาก็สามารถตัดสินความเป็นความตายของมันได้ แค่เพียงคิด

“ดูสภาพแกสิ” หวังเย่าส่ายหน้าก่อนจะเอาผลเลือดออกมา เมื่อตือโป๊ยก่ายหิว งั้นเขาก็จะให้มันลองชิมผลเลือดดูก่อน

ถึงตือโป๊ยก่ายจะเป็นหมอกดำ แต่มันกลับกินอาหารได้เป็นจำนวนมาก มันไม่ชอบกินอาหารที่เป็นของแข็ง มันกินแค่น้ำยา มันค่อนข้างเลือกกิน แต่ผลเลือดนี้มีเลือดอยู่เป็นองค์ประกอบสำคัญและมีอยู่เป็นจำนวนมาก มันอาจจะตรงกับความต้องการของมันก็ได้

สำหรับการ์ฟิลด์แล้ว แม้ว่ามันจะมีระดับสูงที่สุดในหมู่อสูรของเขา แต่มันก็เป็นแค่แมว อาหารของมันหลากหลาย ส่วนหงอคงเป็นลิง มันกินแต่ผักผลไม้ เขาไม่คิดว่ามันจะกินผลเลือดนี่ได้

เมื่อตือโป๊ยก่ายอยากจะกิน งั้นเขาก็จะทดลองให้มันกินดู ยังไงซะเขาก็เสียแรงไปมาก กว่าจะได้ผลเลือดนี้มาไม่ใช่รึ?

เขาจะได้รู้ด้วยว่าผลเลือดนั้นมีพลังยังไง

เมื่อเห็นผลเลือด ตือโป๊ยก่ายก็แผ่หมอกดำเข้าไปครอบคลุมผลเลือดเอาไว้ จากนั้นหมอกเลือดก็แผ่เข้าไปในตัวของมัน เป็นจำนวนมา หมอกดำเพิ่มขึ้นมาพร้อมกับคลื่นพลังที่แข็งแกร่งขึ้น

แจ้งเตือน : ตือโป๊ยก่ายได้กินผลเลือด เพิ่มค่าประสบการณ์ 125,000 หน่วย

“หือ” หวังเย่าเห็นแจ้งเตือนจากระบบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ผลเลือดนี่สามารถเพิ่มค่าประสบการณ์ได้เป็นจำนวนมาก

ต้องรู้ก่อนว่าตือโป๊ยก่ายในตอนนี้อยู่ระดับสวรรค์เลเวล 45 เมื่อก่อนการกินน้ำยาวิวัฒนาการจะเพิ่มค่าประสบการณ์ได้ในหลักพัน แต่ตอนนี้มันกลับเพิ่มได้แค่ 300-400 หน่วยเท่านั้น

แต่ผลเลือดนี่กลับเพิ่มค่าประสบการณ์ได้กว่า 125,000 หน่วย มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ

หวังเย่าแปลกใจอย่างมาก เขาอดคิดบางอย่างไม่ได้ การที่อสูรระดับสวรรค์จะวิวัฒนาการเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์นั้น มันต้องใช้ค่าประสบการณ์ 10 ล้านหน่วย ตอนนี้เขามีผลเลือดกว่า 170 ผล เขาน่าจะลองดู

เมื่อคิดแบบนั้นหวังเย่าก็เรียกการ์ฟิลด์ออกมา เขาเอาผลเลือดให้มันกิน การ์ฟิลด์ก้มหน้าก่อนจะเข้าไปดมกลิ่น จากนั้นก็อ้าปากแล้วกินมันเข้าไปทันที

แจ้งเตือน : การ์ฟิลด์ได้กินผลเลือด เพิ่มค่าประสบการณ์ 75,000 หน่วย

หวังเย่าคิ้วขมวด ผลเลือดเหมือนกันแต่การ์ฟิลด์กลับได้ค่าประสบการณ์น้อยกว่าถึง 50,000 หน่วย

ตอนนี้การ์ฟิลด์เลเวล 56 แล้ว มันเลเวลสูงกว่าตือโป๊ยก่ายถึง 11 เลเวล ดังนั้นแม้จะกินผลเลือดเหมือนกัน แต่ค่าประสบการณ์น้อยกว่าก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตัวเลขนี้แค่มากไปหน่อยเท่านั้นเอง

“ถ้าเอาผลเลือดให้การ์ฟิลด์กิน มันก็อาจจะได้ค่าประสบการณ์กว่าล้านหน่วย แต่ผลเลือดนี้มีพลังงานจำนวนมาก แบบนี้มันจะถือว่าเสียเปล่า”

ตอนนี้หวังเย่าไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว เขาต้องคิดเผื่อคนอื่นด้วย

ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเสียดายขึ้นมา ถ้าคนอื่นสามารถหาผลเลือดได้เอง งั้นมันก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร

“งั้นก็วิวัฒนาการตือโป๊ยก่ายก่อนก็แล้วกัน”

หวังเย่าคาดหวัง แต่ก็ยังกังวลอยู่ ยังไงซะ ตือโป๊ยก่ายในตอนนี้ก็เป็นสัตว์อสูรประเภทปิศาจ หากมันวิวัฒนาการไประดับศักดิ์สิทธิ์ มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เขาคาดไม่ถึงรึไม่ ?

การ์ฟิลด์และหงอคงถูกเรียกกลับไปที่กำไล การ์ฟิลด์นั้นดูอิจฉาตือโป๊ยก่ายเป็นอย่างมาก มันเหมือนกับว่าได้รับความสำคัญน้อยลงในตอนนี้

หวังเย่าได้ให้ผลเลือดกับตือโป๊ยก่าย ผลเลือดนี้มีไม่มากนัก แม้ว่าตือโป๊ยก่ายจะกินจุแต่ผลเลือดก็มีจำกัด เขาไม่อาจจะให้มันกินตามใจได้

หลังจากที่กินผลเลือดไป ตือโป๊ยก่ายก็ได้กลับไปที่ผลึกนั่นก่อนที่จะกลับเข้าไปในกำไล

“เอานี่ให้อสูรของเธอกินสิ ” หวังเย่าเอาผลเลือดออกมา 5 ผลก่อนจะป้อนให้กับเทอร์โรซอร์ไฟของจ้าวเมิ่งซี 3 ผลและดาบเพลิงสุบรรณอีก 2 ผล หลังจากที่อสูรทั้งสองกินผลเลือดเข้าไป มันก็เพิ่มเลเวลขึ้นมาทันที

จ้าวเมิ่งซีแปลกใจอย่างมาก ผลเลือดนี่มีพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงอสูรของเธอได้ในพริบตา

หวังเย่ายิ้มออกมาก่อนจะมองไปที่ต้นไม้กินเลือด สุดท้ายเขาก็ได้ทำการควบคุมอัญมณีความทรงจำบรรพกาลให้พุ่งไปที่ต้นไม้กินเลือด การจะเก็บต้นไม้นี่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

อัญมณีความทรงจำบรรพกาลพุ่งไปที่ต้นไม้กินเลือดและดูดซับพลังอย่างบ้าคลั่ง กิ่งไม้และใบไม้ของมันค่อย ๆ เหี่ยวเฉาลงไป กิ่งของมันเริ่มแห้ง แม้แต่รากของมันก็ยังแห้งไปด้วย

ต้นไม้กินเลือดที่แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ก็ไม่น่าจะเน่าได้ในเวลาหลายร้อยปี แต่ตอนนี้คงใช้เวลาไม่ถึง 1-2 ปีก็คงเน่าไป

ในทางกลับกันแล้ว อัญมณีความทรงจำบรรพกาลนั้นกลับใหญ่ขึ้น แสงจากอัญมณีชัดเจนขึ้น แสงสีทองนั้นสว่างขึ้นไปด้วย

หวังเย่าเดินวนไปมาอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอีก เขาก็ได้ดึงอัญมณีกลับมา

ทั้งสองคนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้กัน สุดท้ายพวกเขาก็ได้ผลเลือดกลับมา แม้ว่าขั้นตอนนั้นจะยุ่งยากแต่ผลลัพธ์ก็ถือว่าดี พวกเขาได้ผลเลือดกลับมากว่า 170 ผล หัวใจแห่งพฤกษา และผลึกเม็ดเล็กที่มีคลื่นพลังปิศาจด้วย

พวกเขาได้ขึ้นไปบนหลังของเทอร์โรซอร์ไฟก่อนจะบินไปยังถ้ำเพื่อสมทบกับคนที่เหลือ

เมื่อจัดการกับเรื่องผลเลือดได้แล้ว มันก็เหลืออีกสองเรื่องที่พวกเขาต้องจัดการ

หนึ่งคืออสูรกายยักษ์โบราณ

สองคือไข่สัตว์อสูร หวังเย่าได้รับปากกับหลงปู้หยู๋ว่าจะหาสัตว์อสูรระดับสวรรค์ให้ เขารับปากเรื่องนี้มานานแล้ว พวกเขาอยู่ที่นี่ได้อีกไม่กี่วัน เขาต้องรีบจัดการกับเรื่องนี้

“โทรลงั้นหรือ ? ”

เขานึกถึงสิ่งที่ฟ่านฉิงเหมยเจอ แต่ในใจกลับรู้สึกลังเล พวกโทรลเลเวลสูงก็จริง แต่บางอย่างก็ไม่เหมาะกับทหารรับจ้าง เขาไม่คิดจะทำสัญญากับสัตว์อสูรพวกนี้

ตอนที่เขายังลังเลอยู่นั้นก็มีทหารกลับมารายงานเขาด้วยความยินดี พวกนั้นกลับมารายงานเรื่องการสำรวจ

ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ ฟานฉิงเหมยก็กลับมารายงานด้วย

“หวังเย่า ฉันเจอบางอย่างอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ไกลออกไปประมาณ 800 ไมล์” ฟ่านฉิงเหมยพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็มองไปที่ฟ่านฉิงเหมยด้วยท่าทีคาดหวัง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นข่าวดี

หวังเย่าเองก็ยิ้มและมองไปที่ฟ่านฉิงเหมย

“ม้า มันมีฝูงสัตว์อสูรม้า ” ฟ่านฉิงเหมยพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ ฉันเห็นฝูงม้า 6 ขาระดับสวรรค์ขั้นกลาง ขนของมันเป็นสีม่วงราวกับหยก มันมีเขาข้างเดียวเป็นสีม่วงที่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าสีม่วงออกมาได้ มันวิ่งได้เร็วมาก พวกมันมีจำนวนมาก และดูเหมือนกำลังย้ายถิ่นกันอยู่ ฉันเห็นลูกม้าที่เกิดใหม่จำนวนมากด้วย”