หนวดสีดำนั้นเข้าไปพันอสูรปีศาจที่อยู่ด้านหน้าและแทงเข้าไปให้ผิวหนังของเขาอย่างรุนแรง แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจก็คือหนวดนั้นกลายเป็นหลอดและเริ่มดูดเลือดของอสูรปีศาจตนนั้นไปไม่หยุด จากนั้นหนวดสีดำก็ค่อยๆ เปลี่ยนสีกลายเป็นสีแดง อสูรปีศาจที่อยู่ด้านหลังรีบไปตัดหนวดนั้นออก แล้วก็มีอสูรปีศาจที่ใช้เวทไฟเผาพืชนั้นไปซะ
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือหนวดที่แทงอยู่นั้นกลับไม่หลุดออกไปแต่ยังคงดูดเลือดจากอสูรปีศาจตนนั้นออกมาไม่หยุด จากนั้นเลือดก็ไหลออกจากหนวดที่เป็นเหมือนหลอดนั้นและไหลไปเปื้อนที่เสื้อผ้าบนร่างของเขาและพื้นที่ตรงนั้นจนกลายเป็นสีแดงไปหมด
สุดท้าย เสียงคำรามที่ร้อนใจของอสูรปีศาจตนหนึ่งก็ทำให้อสูรปีศาจที่กลิ้งอยู่ที่พื้นตัดแขนตัวเองและหลบออกมาก่อนจะถูกรมควัน
พืชอันตรายเช่นนี้มีอยู่มากมายในป่าทึบแห่งนี้ และในทุกๆ บริเวณมีเสียงกรีดร้องอยู่ตลอดเวลา
พวกสัตว์อันตรายก็ยิ่งยากที่จะป้องกัน
สัตว์ที่มีขนาดใหญ่และน่ากลัวมักไม่เป็นอันตราย แต่สัตว์ที่มีขนาดเล็กเท่าแมลงนั้นร้ายแรงมาก และยังมีสัตว์อันตรายที่สร้างภาพลวงตาได้อีกด้วย
สัตว์ที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของชีอ้าวชวางและคามิลล์ก็คือสัตว์อันตรายเช่นนี้
บนต้นไม้ใหญ่ มีสาวงามสง่าและชายหนุ่มรูปงามนั่งอยู่บนต้นไม้นั้นแล้วมองคามิลล์และชีอ้าวชวางด้วยความรักใคร่
สาวงามสวมชุดหรูหราด้วยผ้าคลุมบางเบาเผยให้เห็นรูปร่างที่สง่างามของนางได้ในพริบตา การสวมผ้าคลุมเช่นนี้ดูเหมือนจะน่าดึงดูดยิ่งกว่าไม่มีเสื้อผ้าเสียอีก ใบหน้าที่สวยงามของนางไร้ที่ติ และผมสีทองยาวสยายอยู่รอบแขนของนาง ดวงตาสีฟ้า ริมฝีปากเล็กๆ สีเชอร์รี่สดใสและน่าหลงใหล เท้าเล็กๆ สีขาวคู่หนึ่งห้อยลงอย่างขี้เล่น มันทำให้หลายคนแทบจะเลือดกำเดาไหล นางถือพิณสีขาวเงินอยู่ในมือแล้วดีดเบาๆ แต่สายตาของนางกลับมองไปที่คามิลล์อย่างรักใคร่
ผู้ที่อยู่ข้างสาวงามคือชายหนุ่มรูปงามที่เย้ายวนใจที่สุด เขามีผมสีน้ำตาลอ่อนและดวงตาอ่อนโยนก็มองไปที่ชีอ้าวชวางด้วยความเสน่หา ใบหน้ารูปงามไม่มีใครเทียบได้ รูปงามยิ่งกว่าตงเฟิงโฮ่วที่ชีอ้าวชวางเคยเจอเสียอีก นอกจากนี้เขายังสวมผ้าคลุมสีขาวเผยให้เห็นรูปร่างแข็งแกร่งของเขาอย่างสมบูรณ์ ความสง่างามเบื้องล่างของเขาก็ยิ่งทำให้ผู้คนอึ้งค้าง
สองคนที่งดงามเกินบรรยายกำลังลอยลงมาจากต้นไม้พร้อมกันและลอยมาอยู่ตรงหน้าชีอ้าวชวางและคามิลล์
“สาวสวย ข้าเดินไปกับเจ้าได้หรือไม่? ข้าจะอยู่เคียงข้างคอยปกป้องเจ้าตลอดไป” ชายรูปงามไร้ที่ติยืนอยู่ตรงหน้าชีอ้าวชวางและพูดอย่างอ่อนโยน แถมยังไปจับมือของชีอ้าวชวางเตรียมจะจูบที่หลังมือของชีอ้าวชวางด้วย
ส่วนสาวงามไร้ที่ตินั้นยืนอยู่ตรงหน้าคามิลล์และพูดอย่างนุ่มนวล “ชายผู้แข็งแกร่ง เจ้าเต็มใจที่จะปกป้องข้าหรือไม่?”
ใบหน้าของชีอ้าวชวางเปลี่ยนไปทันที เพราะคำพูดของทั้งสองคนทำให้นางนึกถึงคนๆ หนึ่ง คนที่เคยบอกว่าจะอยู่เคียงข้างนางตลอดไปคนที่คอยปกป้องอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ เสมอ…จินเหยียน!
“ไปตายซะ! แมงมุมน่าเกลียด” ดวงตาของชีอ้าวชวางเย็นชาและนางก็ยกมือขึ้นเล็กน้อย จากนั้นแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือซ้าย และดาบก็ปรากฏบนฝ่ามือซ้าย ชีอ้าวชวางชักดาบออกมาอย่างเย็นชา รูปร่างของดาบเล่มนี้เป็นเหมือนกับดาบแห่งความตายที่จินเหยียนใช้ทุกประการ! ในตอนนี้ ชีอ้าวชวางนึกถึงจินเหยียน รูปร่างของอาวุธที่ดึงออกมาจึงเหมือนกับดาบในมือของจินเหยียน!
ชีอ้าวชวางจัดการกับชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าโดยไม่ลังเล เขตกั้นจางๆ ปกคลุมร่างของชีอ้าวชวางไว้ สิ่งนี้คามิลล์เป็นผู้สร้างขึ้น ของเหลวสีเขียวฉีดพ่นลงบนเขตกั้น สิ่งนั้นคือเลือดของชายรูปงามไร้ที่ติ แต่อาวุธของชีอ้าวชวางไม่ได้มีร่องรอยของเลือดแม้แต่น้อย
เสียงกรีดร้องแปลกๆ ดังขึ้น ชีอ้าวชวางเฉือนสาวสวยไร้ที่ติที่ดูหวาดกลัวตรงหน้าคามิลล์โดยไม่ลังเลเช่นกัน
มีเสียงเกิดขึ้น นี่คือเสียงของดาบที่ทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อนั่นเอง
คามิลล์ส่งเสียงเย็นชา เขารีบตั้งเขตกั้นห่อหุ้มตัวเองไว้ เขากลัวว่าของเหลวสีเขียวที่น่าขยะแขยงนั้นจะกระเด็นใส่เขา
คนรูปงามทั้งสองล้มลงไปที่พื้นแล้วชัก ของเหลวสีเขียวไหลไปทั่วทุกที่และเวลาต่อมาทั้งสองก็หายไปจากพื้นตรงนั้นแล้วตรงหน้าของชีอ้าวชวางและคามิลล์ก็คือแมงมุมแปดขาน่าเกลียดที่กำลังชักอยู่ที่พื้นอย่างเจ็บปวดและค่อยๆ นิ่งไปอย่างช้าๆ ตัวของแมงมุมแปดขาน่าเกลียดนั้นเต็มไปด้วยของเหลวสีเขียว ไม่มีเค้าโครงของคนรูปงามทั้งสองเมื่อสักครู่นี้สักนิด
คามิลล์กระตุกมุมปากและมองสัตว์น่าเกลียดและน่าขยะแขยงทั้งสองบนพื้น ทันใดนั้นรอยยิ้มแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาหันไปมองชีอ้าวชวางและพูด “เสี่ยวอ้าวชวาง เจ้าว่าหากอสูรปีศาจที่หลงกลและไปจับหรือจูบแมงมุมน่าเกลียดพวกนี้จะเป็นอย่างไร?”
ชีอ้าวชวางได้ยินก็ตัวสั่น ความหนาวเย็นเพิ่มขึ้นในใจของนางทันที
จับและจูบสัตว์ที่น่าเกลียดเช่นนี้หรือ…
อุแหวะ…
“ไปเถอะ อย่าเสียเวลาที่นี่” ชีอ้าวชวางเก็บอาวุธและพูดเบาๆ
ทันทีที่คำพูดของชีอ้าวชวางจบลง ที่พื้นก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ที่พื้นด้านหน้าของคามิลล์และชีอ้าวชวางมีแมงมุมแปดขาตัวมหึมาโผล่ขึ้นมา ดวงตาสีเขียวทั้งสองมองไปที่ชีอ้าวชวางอย่างดุเดือด ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะมาล้างแค้นให้กับสัตว์ทั้งสองตัวเมื่อกี้นะ
แต่ผลที่จะตามมาก็เหมือนกัน
ชีอ้าวชวางกำลังจะดึงอาวุธออกมา แต่เงาดำก็มาปรากฏขึ้นตรงหน้าของนาง
ชีอ้าวชวางจำเงาดำนี้ได้ นางยังจำลมหายใจของเงาดำนี้ได้ด้วย
คนที่ปรากฏตัวก็คือนายน้อย!
ใช่ คนที่มาปรากฏตัวคือนายน้อยจริงๆ
นายน้อยลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็รวบรวมแสงสีดำในมือและตะโกนใส่แมงมุมยักษ์นั้น
ในพริบตาระเบิดแสงสีดำก็สัมผัสเข้ากับแมงมุมยักษ์และแมงมุมก็กลายเป็นขี้เถ้าทันที
พื้นดินตรงนั้นยังคงเป็นหลุมบ่อจากการปรากฏตัวของแมงมุมเมื่อสักครู่นี้ แต่ไม่มีร่องรอยการมีชีวิตอยู่ของมันแล้ว
นายน้อยสาวสวยพลิกตัวและร่อนลงมาตรงหน้าชีอ้าวชวางอย่างมั่นคง
ชีอ้าวชวางมองนายน้อยตรงหน้าด้วยความตื่นตัว แม้ว่าชีอ้าวชวางจะไม่เคยโกรธหรือเกลียดนายน้อยที่จะฆ่านาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชีอ้าวชวางจะวางใจเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากันคนที่อันตรายคนนี้ แม้ว่านายน้อยเคยจะอยากจะฆ่านางแต่นางก็ไม่เกลียดนายน้อยไม่ได้ ชีอ้าวชวางชอบนิสัยของนายน้อยมาก ยิ่งไปกว่านั้น อย่างไรนายน้อยก็เคยช่วยนางตอนที่อยู่ในอาณาจักรปีศาจและยังเคยช่วยคลิฟผู้เป็นอาจารย์ของนางให้บรรลุอีก ชีอ้าวชวางจำบุญคุณเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน
คามิลล์ยิ้มและมองนายน้อยตรงหน้าด้วยความเงียบ
นายน้อยมองชีอ้าวชวางเพียงแค่มองตรงไปโดยไม่พูดอะไรสักคำอยู่สักพัก
ชีอ้าวชวางก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน เพียงแค่ยืนมองนายน้อยเงียบๆ
ทั้งสองจ้องตากันอยู่แบบนี้
ชีอ้าวชวางไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่านายน้อยต้องการจะทำอะไร จะบอกว่านายน้อยมาด้วยจุดประสงค์เดียวกับครั้งที่แล้วที่ต้องการจะฆ่านางหรือ แต่ตอนนี้นายน้อยไม่มีกลิ่นอายสังหารนะ
ในทางตรงกันข้าม ชีอ้าวชวางกลับเห็นความลำบากใจในสายตาของนายน้อยนายน้อย ลำบากใจ? จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? นางมองผิดไปหรือไม่นะ? ภาพลวงตาหรือ? ชีอ้าวชวางคิดอย่างอ่อนแรง
“เฮ้!” ในที่สุดนายน้อยก็พูดขึ้นและเชิดจมูกใส่ชีอ้าวชวาง
“อะไร?” ชีอ้าวชวางถามอย่างสงสัย
“เจ้า! เมื่อกี้เจ้าเห็นหรือไม่?” นายน้อยหลบสายตาเล็กน้อย
“อะไร?” ชีอ้าวชวางยิ่งงงไปใหญ่ ทำไมนายน้อยตรงหน้าถึงดูผิดปกติเช่นนี้ล่ะ?
“หรือว่าเมื่อกี้เจ้าไม่เห็นว่าข้าช่วยเจ้าไว้” นายน้อยกระโดดอย่างกระวนกระวายและถามด้วยความโกรธ
“หืม? โอ้ ดูเหมือนจะใช่นะ” ชีอ้าวชวางสับสนเล็กน้อยและพยักหน้า ที่จริงนางจัดการสัตว์ระดับต่ำเช่นนี้ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องถือมือนายน้อย นายน้อยพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน?
“อะไรคือดูเหมือนจะใช่! ข้าช่วยเจ้านะ!” นายน้อยกระโดดขึ้นชี้จมูกของชีอ้าวชวางและตะโกน “เมื่อครู่ข้าช่วยเจ้าอย่างกล้าหาญ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องพบกับความทุกข์ทรมานกับสัตว์นั้นไปแล้ว ไม่สิ เจ้าจะต้องถูกสัตว์นั้นโจมตีจนถึงแก่ชีวิตไปแล้ว”
ชีอ้าวชวางสับสนและไม่เข้าใจว่านายน้อยกำลังพูดอะไร
พอเห็นว่าชีอ้าวชวางไม่พูด นายน้อยก็รู้สึกกังวลและพูด “ทำไมเจ้าไม่พูดล่ะ? เมื่อครู่ข้าช่วยเจ้าไว้ ใช่หรือไม่?”
“ห้ะ? อื้มใช่แล้ว” ชีอ้าวชวางยังคงไม่เข้าใจว่านายน้อยต้องการจะทำอะไร แต่พอเห็นนายน้อยอยู่ในอาการวิตกกังวลเช่นนี้ นางก็พยักหน้าให้ความร่วมมือไป แม้ว่าเมื่อครู่นางไม่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือด้วยซ้ำ แต่นายน้อยเป็นคนกำจัดแมงมุมนั่นจริงๆ
คามิลล์เหลือบมองเรื่องตลกตรงหน้าเขาอย่างสนใจ แต่ก็เงียบอยู่ตลอด
“ดังนั้น ข้าช่วยเจ้าไว้ เจ้าก็เกลียดข้าไม่ได้นะ! รู้หรือไม่?” นายน้อยหลบสายตา หันหน้าหนีมองไปอีกด้านหนึ่งและพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ชีอ้าวชวางตะลึง
อะไรนะ? หมายถึงอะไร? นี่นายน้อยหมายความว่าอะไร?
“ได้ยินหรือไม่? ไม่อนุญาตให้เกลียดข้า ข้าเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยเจ้าไว้ แม้ว่าวันนั้นข้าจะโหดร้ายกับเจ้ามากไปหน่อย แต่ว่า…” นายน้อยเงียบ สายตาของนางมองซ้ายมองขวาไม่กล้าสบตากับชีอ้าวชวาง
ชีอ้าวชวางกะพริบตา หลังจากที่สับสนไปตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเข้าใจแล้ว
นายน้อยทำเช่นนี้เพื่อเฟิงอี้เซวียนใช่หรือไม่?
พอนึกถึงจุดนี้ ก็อธิบายท่าทีประหม่าของนายน้อยตอนนี้ได้
“เอาละ ตามนั้นนะ จำไว้ว่าห้ามเกลียดข้า!” นายน้อยกัดฟันพูดคำเหล่านี้ จากนั้นก็หันหลังและวิ่งหนีไป จากนั้นร่างของนายน้อยก็หายไปในป่าทึบอย่างรวดเร็ว
เหลือเพียงชีอ้าวชวางที่ยังตกตะลึงอยู่ที่เดิม ชีอ้าวชวางมองพื้นดินที่ยุ่งเหยิงตรงหน้า จากนั้นก็มองไปยังทิศทางที่นายน้อยหายไป และรอยยิ้มที่รู้ใจก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง นายน้อยน่ารักจริงๆ นายน้อยแห่งโลกภูตผีปีศาจมีนิสัยที่น่ารักขนาดนี้เลย