ชีอ้าวชวางหยิบเศษเหล็กนั้นขึ้นมาด้วยความรู้สึกไม่พอใจ ชายชราซือคงหลินให้ของอะไรกับนางกันแน่? ดาบชังหลันต้องมาหายไปแบบนี้หรือ
ชีอ้าวชวางเพิ่งคิดถึงตรงนี้ เศษเหล็กในมือกลับเริ่มเปลี่ยนไป และมันก็กลายเป็นดาบชังหลันเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว! ชีอ้าวชวางตะลึงมองดาบชังหลันในมือด้วยความประหลาดใจ ทำไมเศษเหล็กถึงกลายเป็นเหมือนดาบชังหลันไปได้ล่ะ? ชีอ้าวชวางเหยียดนิ้วออกไปแล้วสะบัดดาบในมือ จากนั้นดาบในมือก็ส่งเสียงที่ชัดเจนและไพเราะออกมาและตัวดาบก็เปล่งแสงสีทองจางๆ
ดาบดี!
แต่ว่าดาบเล่มนี้ไม่ใช่ดาบชังหลันแบบดั้งเดิมอย่างแน่นอน เพราะดาบเล่มนี้ดีกว่าดาบชังหลันก่อนหน้านี้อีก!
ทันใดนั้นชีอ้าวชวางก็นึกถึงคำพูดของซือคงหลิน ‘คิดว่ามันคืออะไรมันก็จะเป็นสิ่งนั้น’
หรือว่า? หรือว่า?!
ชีอ้าวชวางจ้องดาบในมือด้วยดวงตาเบิกกว้าง ในใจของนางก็คิดบางอย่าง หรือว่าเศษเหล็กที่ไม่น่าสนใจนั้นมันจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่างๆ ตามความปรารถนาของเจ้าของได้ใช่หรือไม่? เช่นนั้นทำไมต้องกลืนกินดาบชังหลันไปล่ะ? ชีอ้าวชวางมองดาบในมือแล้วคิด
ชีอ้าวชวางหลับตาและใจเต้น ดาบในมือเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปอย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นแส้ยาวแล้ว! ชีอ้าวชวางลืมตาขึ้นมองแส้ในมือแล้วคิด จากนั้นแส้ในมือก็กลายเป็นดาบคู่ที่มีความเบา ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร พลังเวทยิ่งใหญ่ที่มีอยู่ในอาวุธนี้ก็ยังคงทำให้ชีอ้าวชวางพูดไม่ออกเลย
ของดี! ของดีแน่นอน!
แต่ทำไมดาบชังหลันถึงถูกกลืนกินล่ะ? หรือว่าเศษเหล็กชิ้นนี้เป็นอาวุธประเภทที่เติบโตและกลืนอาวุธอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวมันเองได้?
พอคิดถึงเรื่องนี้ ชีอ้าวชวางก็ตกใจ แต่ในใจมีความสุขมากขึ้นอีก หากเป็นเช่นนี้ คู่ต่อสู้ของนางก็ต้องแย่แล้วน่ะสิ คู่ต่อสู้ที่เข้ามาในระยะใกล้ ถ้ามาถูกกับอาวุธของนางก็จะต้องสูญเสียอาวุธไป นักรบที่สูญเสียอาวุธก็เท่ากับว่าสูญเสียพลังการต่อสู้ไปครึ่งหนึ่งเลยไม่ใช่หรือ?
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ แต่ลูกบอลเล็กๆ ที่ซือคงหลินให้มาก่อนหน้าสิ่งนี้คืออะไรล่ะ? มันทำให้พลังเวทของนางเพิ่งขึ้นได้งั้นหรือ? แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้สึกอะไรเลยนะ?
ช่างเถอะ อย่าเพิ่งไปคิดเลย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชายชราซือคงหลินจะเป็นคนแปลกๆ แต่เขาก็ไม่ทำร้ายนาง ตอนนี้พักผ่อนให้เพียงพอและรอการประลองเริ่มขึ้นดีกว่า
ทันทีที่เตรียมจะวางอาวุธและนอนต่อ อาวุธนั้นก็บินขึ้นพร้อมเสียงหวีด จากนั้นมันก็บินขึ้นแล้วก็ตกลงมาในแนวตั้งในทิศทางมุ่งไปยังหน้าอกของชีอ้าวชวางอย่างแรง ชีอ้าวชวางตกใจและพลิกตัวหลบ แต่อาวุธนั้นกลับไล่ตาม นางเห็นแค่แวบๆ เท่านั้น จากนั้นอาวุธก็แทงเข้าที่ด้านหลังตรงหัวใจของชีอ้าวชวางชีอ้าวชวางตะลึงเพราะนางไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย แต่รู้สึกถึงอาวุธที่อยู่ในร่างกายของนาง
ชีอ้าวชวางยืนเท้าเปล่าบนพื้น จากนั้นก็หลับตาและรู้สึกถึงอาวุธในร่างกายของนาง อาวุธนั้นกำลังอยู่ในความคิดของนาง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรเลย มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของนางเลย ชีอ้าวชวางค่อยๆ ยกมือทั้งสองข้างขึ้น มือขวาขยับไปใกล้กับมือข้างซ้ายแล้วค่อยๆ ขยับอาวุธอย่างมีสมาธิ
แสงสีทองจางๆ พุ่งออกมาจากฝ่ามือซ้ายของชีอ้าวชวาง และด้ามของดาบชังหลันก็ปรากฏขึ้นจากฝ่ามือขวา ชีอ้าวชวางจับด้ามดาบและดึงดาบออกมาอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย
หากว่าในตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วยจะต้องตกใจมากแน่ๆ เพราะหญิงสาวตรงหน้าชักอาวุธออกจากร่างของนางเองเลย โดยปกติแล้วคนที่ทรงพลังจะไม่พกอาวุธไว้กับตัว แต่จะใส่ไว้ในมิติเล็กๆ ของตัวเอง แต่ก็อยู่ใกล้ๆ ตัว อย่างเช่นเคียวขนาดใหญ่ของเฮยหยู่ที่เก็บไว้ในมิติของตัวเอง เอาออกมาใช้ได้ตลอดเวลา ที่จริงมันก็คล้ายกับการเรียกออกมานั่นละ แต่อาวุธของชีอ้าวชวางกลับอยู่ที่ร่างกายของนางและเก็บอยู่ในฝักดาบ
บอกเลยว่านี่เป็นสิ่งของที่ดี
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อคามิลล์เห็นชีอ้าวชวาง ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเขาก่อนจะหายไป จากนั้นรอยยิ้มเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่แปลกใจเลยที่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวของนาง
นางคือข้อยกเว้น…
สามวันต่อมา การประลองเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
โลกอสูรปีศาจมีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง
ในวันนี้ อสูรปีศาจจำนวนมากพากันมาที่ใจกลางเมืองเฟิงหลิว ทั้งหมดนั้นเป็นอสูรปีศาจที่จะมาเข้าร่วมการประลอง
ใจกลางเมืองเฟิงหลิวมีช่องรับแสงที่มีการป้องกันอย่างหนาแน่นอยู่ นั่นก็คือประตูทางเข้างานประลอง ไม่ว่าเหล่าอสูรปีศาจจะตื่นเต้นแค่ไหนก็จะต้องเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบและแสดงสัญลักษณ์เข้าร่วมการประลองและเดินเข้าไป จากนั้นก็จะหายไปในช่องรับแสงนั้น
พอมีอสูรปีศาจจำนวนมากก็คึกคักมาก ชีอ้าวชวางพยายามอย่างหนักเพื่อมองหาเฟิงอี้เซวียนและเหลิ่งหลิงยวิ๋นท่ามกลางคนมากมายเหล่านี้ แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่ไป๋ตี้และเฮยหยู่ก็ยังไม่เห็นเลย
คามิลล์และชีอ้าวชวางเดินเข้าไปในช่องรับแสงอย่างใจเย็น
ว่านเฟิงหลิวเหลือบมองอสูรปีศาจที่เข้ามาในช่องรับแสงอย่างต่อเนื่องและมีประกายเกิดขึ้นในดวงตาของเขา
มีอสูรปีศาจจำนวนมากขนาดนี้เข้าไป แต่มีสักกี่ตนที่รอดชีวิตออกมาได้?
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อผู้เข้าแข่งขันทุกคนเข้าสู่ช่องรับแสงแล้ว ว่านเฟิงหลิวก็พาคนของเขาเข้าไปในช่องรับแสงในตอนสุดท้าย
หลังจากผู้เข้าร่วมการประลองกลุ่มสุดท้ายเข้าสู่ช่องรับแสงแล้ว ช่องรับแสงนั้นก็หายไป
สิ่งที่รอพวกเขาอยู่คืออันตรายที่ไม่มีใครรู้
ช่องรับแสงหายไปแล้ว
ทุกคนที่เข้ามาในช่องรับแสงเริ่มรู้สึกว่าข้างหน้ามีแสงสว่างขึ้น และพวกเขาก็มาถึงพื้นที่ว่าง
ชีอ้าวชวางและคามิลล์ก็ยืนอยู่บนผืนดินที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่านี้เช่นกัน
“ยินดีต้อนรับผู้เข้าร่วมทุกท่านสู่การประลองครั้งนี้ ในเกมนี้ กฎของเกมนั้นง่ายมาก ทุกท่านเชิญดูแผนที่ตรงหน้า” มีเสียงดังขึ้นในอากาศ แม้ว่ามันจะไม่ดังมาก แต่ก็ทุกคนก็ได้ยินอย่างชัดเจน มันคือการขยายเสียงด้วยเวทมนตร์นั่นเอง
แผนที่เวทมนตร์ปรากฏขึ้นกลางอากาศ แผนที่นั้นแสดงให้เห็นถึงภูเขาและแม่น้ำที่หนาแน่น ในตอนท้ายของแผนที่มีป้ายสีเขียวป้ายหนึ่งอยู่
“ทุกท่านโปรดจำแผนที่นี้ให้ชัดเจน สีเขียวคือจุดหมายปลายทางของทุกท่าน เมื่อไปถึงที่นั่นจะมีการประกาศผู้ชนะ อย่างที่บอกไปว่ากฎของเกมนั้นง่ายมาก นั่นก็คือการไม่มีกฎ ไม่ว่าทุกท่านจะใช้วิธีใด ขอแค่ไปถึงที่นั่นได้ก็พอแล้ว แต่จำไว้ว่าจะมีผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น หากผ่านถ้ำข้างหน้านี้ไป การประลองจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการทันที ในขณะที่อยู่ในพื้นที่ของการประลอง ทุกท่านจะฃบินไม่ได้” เสียงนั้นประกาศกฎของการประลอง ความหมายง่ายมากนั่นก็คือขอแค่ไปให้ถึงที่นั่น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และระหว่างทางนั้น วิธีที่ดีก็คือกำจัดคู่แข่งไปซะ
“เริ่มได้” หลังจากเสียงนั้นเงียบไป แผนที่ก็หายไปเช่นกัน อสูรปีศาจที่จำแผนที่ไม่ได้ก็บ่นกันระงม แต่อสูรปีศาจบางตนก็ได้เริ่มโจมตีอสูรปีศาจรอบๆ ตัวที่อ่อนแอกว่าตัวเองแล้ว
“ไป ไปผ่านถ้ำนั้นก่อน” ชีอ้าวชวางพูดกับคามิลล์เสียงต่ำและคามิลล์ก็พยักหน้า
ความวุ่นวายตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่ทันที่จะได้เข้าถ้ำก็เกิดการตะลุมบอนขนาดใหญ่กันก่อนแล้ว
“ไปตายซะ!” เสียงโกรธที่หยิ่งผยองดังออกมา
เสียงที่คุ้นเคย นั่นคือนายน้อย
ชีอ้าวชวางหันไปมองที่มาของเสียงและเห็นเสื้อผ้าสีดำของนายน้อยบินไปมาทั่วไปหมด ใบหน้าของนางทั้งดุร้ายและเย่อหยิ่ง ที่ตรงหน้านางนั้น มีอสูรปีศาจจำนวนมากอยู่กันเป็นแถวแล้วก็ล้มกันไปราวกับโดมิโน่ และหลังจากล้มไปก็ไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย
เฟิงอี้เซวียนไม่ได้อยู่ข้างๆ นาง
“ไป” คามิลล์พูดด้วยเสียงต่ำ เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกอสูรปีศาจระดับต่ำที่มาเข้าร่วมการประลองตรงนี้
ชีอ้าวชวางพยักหน้า
เหล่าอสูรปีศาจที่อยู่ตรงหน้านายน้อยถูกกวาดล้างไปหมด ฉากนี้ทำให้อสูรปีศาจหลายตนหวาดกลัว อสูร ปีศาจบางตนเริ่มวิ่งไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง ขอแค่พวกเขาผ่านถ้ำตรงหน้านี้ไปได้ พวกเขาก็จะเข้าถึงเขตพื้นที่กว้าง และที่นั่นก็ห้ามบินด้วย โอกาสรอดก็จะมีมากขึ้น
อสูรปีศาจบางตนที่มีพละกำลังสูงหน่อยก็บินขึ้นและรีบไปที่ถ้ำทันที
“ลงมา” หลังจากเสียงโห่ร้องเสียงดัง อสูรปีศาจที่หนาแน่นอยู่บนท้องฟ้าก็ร่วงหล่นราวกับดอกไม้ที่กระจัดกระจาย
เสียงตะโกนดังนั้นมาจากเฮยหยู่
หลังจากเฮยหยู่จัดการเส้นทางบนท้องฟ้าแล้วเขาก็บินไปที่ถ้ำด้วยท่าทางสบายๆ
ชีอ้าวชวางและคามิลล์มาถึงหน้าถ้ำขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วแล้วทั้งสองก็เข้าไปในถ้ำโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นรีบไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
จากความเร็วของทั้งสอง ใช้เวลาไม่นานก็ผ่านถ้ำไปได้แล้ว สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็คือป่าทึบและพื้นที่ข้างหน้านี้จะถูกจำกัด บินไม่ได้ มีอสูรปีศาจตามมาด้านหลังเป็นจำนวนมาก ส่วนมากพอพวกอสูรปีศาจผ่านถ้ำมาแล้วก็จะแยกตัวออกไปและตรงไปข้างหน้าทันที ถ้าเจอผู้ที่อ่อนแอกว่าตัวเองก็ดีหน่อย แต่ถ้าเจอผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองมากก็รอความตายได้เลย ดังนั้นการพยายามหาที่ซ่อนให้เร็วที่สุดก็คือวิธีที่ฉลาดที่สุด
ชีอ้าวชวางหันไปมองที่ถ้ำมืดๆ นั้นแล้วเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ จากนั้นร่างกายก็เริ่มนิ่งและยกสองมือขึ้นเล็งไปที่ทางเข้าถ้ำแล้วตะโกนออกมา “เพลิงมังกร!”
มังกรไฟขนาดใหญ่ส่งเสียงคำรามไปที่ถ้ำลึกนั้น ลมหายใจแผดเผาของมังกรไฟขนาดใหญ่สาดไปในถ้ำที่มืดมนนั้น แต่มันก็เป็นเพียงชั่วครู่และจากนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นไม่หยุดและมีเสียงสาปแช่งที่รุนแรงอีกด้วย
คามิลล์มองการกระทำของชีอ้าวชวางและยิ้มอย่างสดใส นี่คือนิสัยที่แท้จริงของเสี่ยวอ้าวชวาง นางเก่งในเรื่องความโหด แต่เขาก็ชอบเสี่ยวอ้าวชวางแบบนี้แหละ
หลังจากชีอ้าวชวางลงมือเสร็จก็รีบไปหาคามิลล์ “ไป”
ร่างของคามิลล์และชีอ้าวชวางซ่อนตัวเข้าไปในป่าทึบข้างหน้าและเหล่าอสูรปีศาจที่อยู่ข้างหลังก็รีบวิ่งไปและซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบกันทั้งหมด
แต่ในป่าทึบนั้นมีอันตรายทุกทิศทาง มันมีพืชชนิดต่างๆ ที่มีรูปร่างแปลกและอันตราย
“อ๊า…” เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วท้องฟ้าจนได้ยินลึกเข้าไปในป่าทึบ เสียงกรีดร้องของอสูรปีศาจที่กำลังกลิ้งไปบนพื้นด้วยความเจ็บปวด และเพื่อนอสูรปีศาจที่อยู่ข้างๆ เขาก็พยายามจะช่วยเขา ตอนนี้ร่างกายของเขาและพื้นที่เขากลิ้งไปมานั้นล้วนเต็มไปด้วยเลือดสีแดงของเขาทั้งสิ้น
อสูรปีศาจเหล่านี้ไม่ได้ถูกซุ่มโจมตีจากอสูรปีศาจตนอื่น แต่พวกเขาถูกพืชโจมตี ตอนที่พวกเขามาเหยียบที่นี่ อสูรปีศาจหนึ่งในนั้นรู้สึกได้ว่ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติในอากาศและตรงหน้าของพวกเขาคือต้นไม้ที่แกว่งไปมาอยู่อย่างช้าๆ หนวดสีดำยาวค่อยๆ แกว่งไปมาในอากาศแม้ไม่มีลม พวกเขาไม่ได้สนใจอะไรมากนักและเตรียมจะเดินทางต่อแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าอสูรปีศาจที่เดินอยู่ข้างหน้าสุดจะเดินไปที่หน้าต้นไม้นั้น จากนั้นหนวดของพืชนั้นก็ไม่ได้แกว่งด้วยความเร็วเท่าเมื่อครู่นี้อีก แต่มันเข้าโจมตีอสูรปีศาจตรงหน้านั้นอย่างรวดเร็ว