“ไม่รู้สิ ฉันจะลองดูอีกที หวังว่าจะไม่ออกมาเป็นอย่างที่ฉันคิดนะ” ลูก้าพูดจบก็ส่งไวรัสไปอีกครั้ง เตรียมจะบุกเข้าไป ผลคือสำเร็จอย่างราบรื่น

ฟางเจิ้งกำลังกินข้าว มือถือสั่นเล็กน้อย นี่คือมีข้อความเข้ามา เขาหยิบมือถือมาดูก็พบว่าหน้าจอแดง เลยตอบกลับไปอย่างรำคาญ “อาตมากำลังกินข้าวอยู่ เสร็จแล้วค่อยว่ากัน”

“เขาบอกว่ากำลังกินข้าวอยู่ ไม่มีเวลาสนใจพวกเรา?” ลูก้าอ่านจบพลันโมโห

สมิธพูดด้วยความโกรธเช่นกัน “จะปล่อยไว้ไม่ได้ เล่นมันเลย!”

“ฉันจะให้มันต้องสำนึกเสียใจ ให้มันต้องร้องไห้คุกเข่าร้องหาพ่อ!” ลูก้าพูดพลางลงมืออย่างว่องไว ฝากข้อความไว้ให้ฟางเจิ้งว่า “แกจะต้องร้องไห้ ฉันจะลบทุกอย่างของแก แกจะควบคุมอะไรไม่ได้ คอยดูมือถือแกเป็นขยะเถอะ!”

ลูก้าใส่รหัสเข้าไปอย่างราบรื่น เหลือเพียงออกคำสั่งสุดท้าย ทว่าลูก้ากลับไม่กดลงไป เขาอยากเห็นท่าทีอ้อนวอนของอีกฝ่าย ไม่อย่างนั้นเขาไม่ยอม

ลูก้าพูดด้วยความมั่นใจ “นี่คือไม้ตายของฉัน มันจบแล้ว!”

ฟางเจิ้งที่กำลังกินข้าวรู้สึกว่ามือถือสั่นจึงมองข้อความบนหน้าจอ คิ้วขมวดขึ้น เป็นหน้าจอสีแดงอีกแล้ว ทั้งยังพูดในสิ่งที่น่าตกใจ เขากดเครื่องหมาย X สีดำตรงมุมขวาล่าง ปิดไปโดยพลันแล้วกินข้าวต่อ

ลูก้ารออยู่นานอีกฝ่ายไม่โต้ตอบจึงโกรธจนกลีบปอดแทบระเบิด หยิบโค๊กบนโต๊ะขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ “ฉันคงต้องเอาจริงแล้ว ให้มันรู้สำนึก!”

ลูก้าจะออกคำสั่ง แต่ในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหวที่หน้าจอ

ฟางเจิ้งตอบกลับมาเนิบๆ “โยม พวกต้มตุ๋นลงนรกไปต้องถูกตัดลิ้นนะ อมิตาพุทธ ประเสริฐๆ เกมนี่ไม่สนุกสักนิด”

“พรวด!” ลูก้าพ่นโค๊กออกมา ก่อนด่าทอด้วยความโกรธ “ไอ้ห่านี่บอกว่าฉันหลอกมันเหรอ? แกไปตายซะ!”

พูดจบลูก้าก็กดดำเนินการ!

ต่อมา…

“แจ้งเตือน พบไวรัสบุกรุก แจ้งเตือน…”

ลูก้ามองคอมพิวเตอร์ที่หน้าจอเป็นสีแดงในฉับพลัน ก่อนคอมพิวเตอร์จะเสียการควบคุมไป สุดท้ายเด้งมาเป็นหน้าจอสีแดง บนหน้าจอปรากฏรูปแมงมุมหน้าประหลาดสีดำตัวหนึ่ง…

“เกิดอะไรขึ้นวะ? พระเจ้า นี่มันอะไรกัน? นี่มันไวรัสของเราไม่ใช่เหรอ…” ลูก้าดึงเส้นผมพลางร้องโวยเสียงดัง เขาจะเป็นบ้าแล้ว

สมิธที่อยู่ข้างๆ ตะลึงงันไปเหมือนกัน “ลูก้า นายจะมีชื่อเสียงแล้ว แฮกเกอร์สุดยอดของโลกปล่อยไวรัสใส่ตัวเอง คอมพิวเตอร์พังแล้ว…ยอดเยี่ยม!”

“ไอ้ห่าสมิธ! นายไม่รู้เหรอว่าฉันทำอะไร? บ้าชิบ พวกเราเจอยอดฝีมือเข้าแล้ว!” ลูก้าตะคอกใส่

สมิธกล่าว “เจอยอดฝีมือจริงๆ แล้วนายจะทำยังไง?”

“หาพวกเดวิด ฉันจะแก้แค้น! จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ฉันจะให้มือถือมันเป็นหิน” ลูก้าตะโกน

“ช่างเถอะน่าลูก้า นายก็เห็นมือถือของมัน…ไม่มีค่าอะไรเลย” หลังลูก้าบุกรุกมือถือฟางเจิ้งแล้วก็ค้นดูรุ่นมือถือ ระบบเขาจะเสนอราคาขายในพื้นที่จีนโดยอัตโนมัติ หนึ่งพันกว่าหยวนแปลงเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐได้ร้อยกว่าดอลลาร์

“ไอ้โง่ มือถือมันไม่มีราคา แค่คอมฉันมีราคาโว้ย! หมื่นยูโร! แถมยังมีข้อมูลอีกเยอะ ฉันจะบ้าแล้ว…” ลูก้าทุบโต๊ะดังปัง เห็นได้ว่าโมโหมาก

ลูก้ากล่าว “สมิธ ครั้งนี้นายต้องช่วยฉันเล่นงานมัน!”

สมิธส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด “ไม่ ตอนนี้ฉันยังแก้ไม้ตายของนายไม่ได้เลย แต่อีกฝ่ายแก้ได้ เขาเป็นยอดฝีมือ ฉันไม่อยากถูกระเบิดคอมเหมือนกันนะ ลูก้า ติดต่อเดวิดเถอะ พวกเราน่าจะต้องประชุมกัน”

“ก็คงได้แต่อย่างนั้น” ลูก้าพูดเศร้าๆ

ตอนนี้เองฟางเจิ้งไม่รู้ว่ามีคนใกล้จะบ้าเพราะเขา ฟางเจิ้งจัดการชามกับตะเกียบเรียบร้อยแล้วก็ไปสวดมนต์ที่อุโบสถ ส่วนลิงไปดูที่หน้าลาน มีใบไม้ร่วงอีกแล้ว จึงต้องกวาดใบไม้ต่อด้วยความจำใจ

หมาป่าเดียวดายนั่งเหม่ออยู่หน้าประตู กระรอกไม่รู้หายไปไหน หนึ่งวันผ่านไปแบบนี้ เงียบสงบและเป็นมงคล

ตกกลางคืน ฟางเจิ้งหยิบมือถือออกมาเปิดอ่านข่าวไปเรื่อยเปื่อย ก็พบว่ามีหัวข้อข่าวหนึ่งใช้อักษรแดง

‘แรนซัมแวร์แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซ้ำยังยกระดับขึ้น เริ่มบุกรุกมือถือ ตอนนี้มีผู้เสียหายสามแสนเจ็ดหมื่นคน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่า…ให้เข้าอินเทอร์เน็ตน้อยๆ’

ฟางเจิ้งมองบน “ผู้เชี่ยวชาญอะไร?”

แต่ฟางเจิ้งก็ยังกดเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น หน้าแรกที่เห็นคือภาพที่คุ้นเคย ภาพสีแดง เตะตาแบบนี้ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ไม่รู้จักประโยคแรกที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว

“อาตมาคงไม่โดนไวรัสจริงๆ หรอกใช่ไหม?” ฟางเจิ้งตกใจสะดุ้ง แต่อ่านต่อไปก็หัวเราะ ส่ายหน้าพลางว่า “อาตมาเจอพวกต้มตุ๋นจริงๆ คนอื่นโดนไวรัสจะถูกล๊อคเครื่อง ล๊อกข้อมูล แต่อาตมานี่…ก็ยังใช้ได้ปกติทุกอย่าง”

คิดได้ดังนั้นฟางเจิ้งจึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้

ทันใดนั้นเองฟางอวิ๋นจิ้งตอบกลับข้อความมา

“หลวงพี่ฟางเจิ้ง ถามคำถามข้อหนึ่งได้ไหมคะ?” ฟางอวิ๋นจิ้งถาม

ฟางเจิ้งตอบ “ได้แน่นอน”

“หลวงพี่ ในความฝันวันนั้นเป็นท่านจริงๆ เหรอคะ?” ความสงสัยนี้รบกวนฟางอวิ๋นจิ้งมานานมาก มีคนเข้ามาในความฝันห่างไปพันลี้จริงๆ? นี่…ไม่น่าจะเป็นไปได้?

ฟางเจิ้งตรึกตรองสักครู่แล้วตอบ “ฝันไม่ใช่ฝัน ความจริงกับมายาไม่อาจคาดเดา สีกาคิดว่าเป็นจริงก็จะจริง คิดว่าปลอมก็จะปลอม สำคัญคือสีกาตระหนักอะไร นั่นต่างหากที่มีอยู่จริง”

ฟางอวิ๋นจิ้งนอนอ่านข้อความนี้อยู่บนเตียง นัยน์ตาไม่แน่ใจเล็กน้อย “ฝันไม่ใช่ฝัน ความจริงกับมายาไม่อาจคาดเดา…สิ่งที่ฉันตระหนักคือความจริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเขาเองก็คงไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันตระหนักคืออะไร” พูดถึงตรงนี้ ฟางอวิ๋นจิ้งมีสีหน้าแปลกใจเพิ่มมาเสี้ยวหนึ่ง

ฟางอวิ๋นจิ้งพลิกตัว ถามไปว่า “หลวงพี่ฟางเจิ้ง บนโลกนี้มีพระพุทธอยู่จริงๆ ไหมคะ? ทำไมฉันรู้สึกว่าท่านเก่งมากเลย? คนจะเรียนวิชาอภินิหารได้จริงๆ ไหมคะ?”

ฟางเจิ้งขบคิดอีกครู่แล้วตอบไปว่า “สีกา พระพุทธที่สีกาพูดถึงคือพระพุทธอะไร? อาตมาคิดว่าในใจทุกคนมีพุทธ ทุกคนสำเร็จอรหันต์ได้ ขอเพียงจิตใจมุ่งสู่ความดีนั่นคือพระพุทธ เดิมทีพระพุทธไม่ใช่สิ่งทั่วไป แต่มีอยู่ทุกที่ จะตอบรับแต่ความดีเท่านั้น ส่วนอภินิหาร เครื่องบินบนฟ้า เรือดำน้ำใต้น้ำในสายตาคนโบราณก็เป็นอภินิหาร อาตมาเพียงแค่เข้าใจกว่าสีกาเล็กน้อยเท่านั้น”

ฟางอวิ๋นจิ้งอ่านข้อความฟางเจิ้งแล้วเหมือนจะเข้าใจ ขณะจะถามต่อ หม่าเจวียนเข้ามาเรียกฟางอวิ๋นจิ้งออกไปกินข้าว เธอเลยได้แต่ล้มเลิกไป

ฟางเจิ้งเห็นฟางอวิ๋นจิ้งมีธุระจึงเก็บมือถือไปเหมือนกัน

ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เขาพาลิง หมาป่าเดียวดายและกระรอกออกจากวัดเอกดรรชนีไปเดินเล่นบนเขาอย่างสบายใจ…

แต่มีคนจะเป็นบ้า

“เดวิด นายต้องช่วยฉันนะ” ลูก้ากำลังใช้โทรศัพท์

“ลูก้า ฉันช่วยนายได้นะ แต่ตอนนี้ไม่ได้ ฉันเพิ่งแฮกไปสามโรงพยาบาล นั่นน่ะปลาตัวใหญ่! รอฉันได้เงินแล้วจะช่วยนายจัดการยอดฝีมือคนจีนนั่นให้” เดวิดตอบ