บทที่ 184 ภารกิจต่อเนื่อง

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

อาจารย์ตี้ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองเสียด้วยซ้ำ เขาพูดกับเซียวเฟิงด้วยน้ำเสียงรีบร้อนแบบสุด ๆ

อ้างอิงจากข้อมูลประกอบของเกมนี้ เผ่าคนแคระเป็นเผ่าที่นับถือเทพธิดาแห่งโลกผู้ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับวิหารแห่งแสงเลย เพราะงั้นแล้วเหล่าคนแคระจึงไม่ได้ให้ความเคารพใด ๆ แก่ตำแหน่งอาร์คบิชอป ของเซียวเฟิงนัก

“อ่า…ท่านอาร์คบิชอป ท่านอาจจะไม่เคยเห็นคนคนนี้ เขาเป็นเพื่อนเก่าของข้านามว่าตี้ลู่ ตอนนี้ข้าและเขากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการค้นคว้าที่สำคัญมาก ๆ ชิ้นหนึ่งอยู่ ถ้ายังไงท่านกลับมาอีกครั้งหลังจากที่พวกข้าเสร็จงานกันแล้วได้ไหม?” ตี้อู่หยาหันมาพูดทำนองเอ่ยขอด้วยท่าทีกระอักกระอ่วนใจ

เซียวเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถาม “ท่านคาดว่าต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่?”

“อีกซักวันสองวันค่อยมาใหม่ก็แล้วกันไอ้หนู พวกข้าไม่มีเวลามาให้เจ้าถามเยอะแยะหรอกนะ ไปหาอะไรทำรอแล้วเลิกก่อกวนพวกข้าสักที” คำตอบนั้นมาจากปากของอาจารย์ตี้ เพราะเขารู้สึกว่างานของตัวเองถูกเซียวเฟิงก่อกวน ดังนั้นเจ้าตัวจึงแอบหัวเสียไม่น้อย

คนแคระสูงวัยหันไปหาบางสิ่งบางอย่างในห้องทำงานนั้น ก่อนจะพูดขึ้น “ทำไมเหล็กกลั่นของเราถึงได้หมดอีกแล้ว? นี่สรุปเรามีพวกลูกศิษย์กันไว้ทำไมน่ะ?”

ได้ยินเช่นนั้นเซียวเฟิงก็เหลียวมองและถามขึ้นในทันที “มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ไหม?”

“หือ? เจ้าน่ะเหรอ?” อาจารย์ตี้หันกลับมามองยังเซียวเฟิงหลังจากที่ได้ยินเขาเสนอตัว เขาพินิจพิเคราะห์ก่อนจะยินยอม “ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นก็ได้ และถ้าทำสำเร็จ งานของพวกข้าก็จะเสร็จเร็วขึ้น ส่วนเจ้าเองก็จะได้ในสิ่งที่เจ้าต้องการเร็วขึ้นด้วย”

“ไม่มีปัญหาครับ ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยได้ ผมก็พร้อมจะทำอย่างไม่ลังเลอยู่แล้ว”

“งั้นจงไปที่ถ้ำเหมืองแห่งเงาแล้วเก็บเหล็กกลั่นมาให้ได้ 10 ชิ้นเพื่อพวกข้า จำไว้ให้ดีว่าเหล็กกลั่นเหล่านั้นน่ะ จะต้องเป็นเหล็กกลั่นบริสุทธิ์เท่านั้นนะ!” อาจารย์ตี้พูดย้ำหลังมอบภารกิจให้เซียวเฟิงอย่างไม่อ้อมค้อม

[ติ๊ง! ยอมรับภารกิจ ‘สะสมเหล็กกลั่น’ หรือไม่? กรุณาไปที่ถ้ำเหมืองแห่งเงาทางทิศตะวันออกของเมืองเฮ่ยฉี จากนั้นเก็บสะสมเหล็กกลั่นบริสุทธ์ 10 ชิ้น เพื่อนำมาส่งให้อาจารย์ตี้]

“ยอมรับ”

ในจังหวะเดียวกับที่เซียวเฟิงได้รับข้อความแจ้งเตือนภารกิจ ชายหนุ่มก็ตอบรับมันอย่างไม่ลังเล และในตอนที่เขาจะจากไป ตี้อู่หยาก็รั้งเขาไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อน ท่านอาร์คบิชอป ที่ถ้ำเหมืองแห่งเงาน่ะ ถูกพวกสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวยึดครองเอาไว้ ข้าเชื่อว่าท่านสามารถเอาตัวรอดได้อยู่แล้วด้วยพลังของท่านเอง แต่เพื่อให้การเก็บหินแร่เป็นไปด้วยความง่ายขึ้น ได้โปรดอนุญาตให้ข้าได้สอนเทคนิคการเก็บของขั้นสูงให้ท่านด้วยเถิด อย่างน้อย ๆ ข้าเชื่อว่าด้วยทักษะนี้มันจะช่วยทำให้ท่านหาแร่เหล็กบริสุทธ์ได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน”

ตี้อู่หยาพูดพร้อมโบกมือไปทางเซียวเฟิง และทันใดนั้นเสียงของระบบก็ดังขึ้นในหูของเซียวเฟิง

[‘ทักษะเก็บของ’ ของคุณเลเวลอัพ!]

[‘ทักษะเก็บของ’ ของคุณเลเวลอัพ!]

[คุณได้เรียน ‘ทักษะเก็บของระดับสูง’!]

เซียวเฟิงตกใจกับสิ่งที่ได้มาจากการรับภารกิจนี้ บางทีนี่อาจจะเป็นเพราะตำแหน่งอาร์คบิชอปด้วยก็ได้ ถ้าหากเขาไม่ได้ติดตั้งฉายานี้ไว้ ดีไม่ดีตี้อู่หยาเองก็คงจะปฏิบัติกับเขาไม่ต่างอะไรกับผู้เล่นทั่ว ๆ ไปหรอก

เขาลาตี้อู่หยาและตรงไปยังถ้ำที่อยู่นอกเมือง เซียวเฟิงตั้งใจจะทำภารกิจนี้เสร็จให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะได้ให้ตี้อู่หยาสร้างอุปกรณ์เก็บของชิ้นใหม่ให้เขาได้เร็วขึ้น ยิ่งถ้ามันสามารถเสร็จทันเข้าร่วมอีเวนท์เซิร์ฟเวอร์ได้ก็ยิ่งดี

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ จะออกไปทำภารกิจเหรอ?” ลิตเติ้ลฟ็อกซ์ที่ยืนรออยู่ด้านหน้าห้องทำงานเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เธอได้แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอก

“ใช่แล้วล่ะ”

ชายหนุ่มตอบไปตามปกติและรีบเร่งฝีเท้าเดินไปยังทิศตะวันออกของเมืองเฮ่ยฉี

ด้วยความเร็วของเขา มันทำให้ลิตเติ้ลฟ็อกซ์ต้องพยายามสาวเท้าให้เร็วจนเผลอวิ่งมาหลายครั้งเพื่อตามเขาให้ทัน เมื่อตามทันแล้ว หญิงสาวก็ถามต่อด้วยความจริงใจ “มีอะไรที่กิลด์เดอะวูล์ฟสามารถช่วยนายได้ไหม?”

“เอ๊ะ? อืมม…ถ้าอย่างงั้นช่วยหาคนในกิลด์เธอที่พอจะรู้จักพื้นที่ถ้ำเหมืองแห่งเงาให้ที” เซียวเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ยังไงเสียเขาก็ยังอยากเป็นพันธมิตรที่ดีกับเดอะวูล์ฟ เขาไม่อยากถูกดักซุ่มโจมตีอีกเพราะงั้นจึงกล่าวถามเธอไปตรง ๆ

อันที่จริงสิ่งที่เซียวเฟิงทำลงไปในวันนี้ มันช่วยเพิ่มความน่าเกรงขามให้เขาอย่างมากเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะกับกิลด์ไหน ๆ ก็ตาม

ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่และน่ากลัวนี้ มันเปรียบเสมือนดาบสองคมที่ทำให้หลาย ๆ กิลด์เลือกที่จะมีเซียวเฟิงแม้จะกลัวเขากันก็ตาม

“ถ้ำเหมืองแห่งเงาสินะ? เดี๋ยวฉันถามให้”

ลิตเติ้ลฟ็อกซ์สอบถามเข้าไปในช่องแชทของกิลด์ ตัวเธอนั้นอยู่ในระดับสูงท่ามกลางสมาชิกกิลด์เดอะวูล์ฟคนอื่น ๆ เพราะงั้นเธอจึงได้รับการตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

“มีสมาชิกกิลด์ของฉัน 1 คนรู้จักที่นั่น แล้วฉันก็บอกให้เขามาที่เมืองเฮ่ยฉีแล้ว ไปรอเจอเขาที่จุดวาร์ปกันดีกว่า”

ยังไงเสียเซียวเฟิงก็ตรงเดินผ่านกลางเมืองอยู่แล้วหากจะมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก เพราะงั้นเขาจึงไปรอพบกับผู้เล่นจากเดอะวูล์ฟที่นั่นด้วย ผู้เล่นคนนี้เองก็เป็นเผ่าคนแคระเหมือนกัน ดูทรงแล้วเขาน่าจะอยู่คลาสโจรขั้นสูง

“ขอบคุณเธออีกครั้งนะ ถ้ายังไงต่อจากนี้เดี๋ยวฉันจะไปกับเขาก็แล้วกัน เธอเองก็เดินตามไม่ไหว เพราะงั้นไม่ต้องตามก็ได้นะ”

เซียวเฟิงหันไปกล่าวขอบคุณเธอก่อนจะจากไปพร้อมกับโจรเผ่าคนแคระ ทิ้งให้ลิตเติ้ลฟ็อกซ์ยืนอยู่ด้านหลัง

หญิงสาวยังคงยืนอยู่ที่เดิมอีกพักใหญ่ด้วยสมองที่โล่งไปหมด มันน่าเจ็บใจนิดหน่อยที่ว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่เสน่ห์อันน่าเย้ายวนของเธอถูกปฏิเสธโดยผู้ชายชนิดที่ไม่มีแม้แต่จะหลงเธอสักนิดสักหน่อยเลยด้วย

สัตว์ขี่ของโจรแคระผู้นี้เป็นสุนัขล่าเนื้อ มันวิ่งได้เร็วมาก ถึงจะเร็วไม่เท่าเซียวเฟิงแต่ก็น่าจะเร็วกว่าสัตว์ขี่ที่แพงที่สุดที่ขายในระบบตอนนี้แล้ว

ภายใน 10 นาที พวกเขาจึงมาถึงหน้าทางเข้าเหมืองแห่งเงาได้อย่างง่ายดาย

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ พวกเรามาถึงเหมืองแห่งเงาเรียบร้อยแล้วครับ ข้างในนี้ประกอบไปด้วยมอนสเตอร์ 2 ประเภทใหญ่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองประเภทก็ล้วนมีเลเวล 20 กันทั้งหมด ประเภทหนึ่งคือ วิญญาณลักซ่อน ส่วนอีกหนึ่งคือ ซอมบี้เหมือง พวกมันแทบจะไม่เป็นอันตรายสำหรับพวกเราเลย แต่มันสามารถก่อกวนระหว่างที่พวกเรากำลังเก็บของกันได้น่ะครับ นั่นแหละที่เป็นปัญหา เพราะงั้นพ่อค้าในกิลด์ของเราที่มาหาของที่นี่ส่วนใหญ่ก็จะมากับคนที่คอยคุ้มครองปกป้องอีกที”

โจรแคระผู้นี้รู้ว่าเซียวเฟิงเป็นใคร ดังนั้นเขาจึงบอกทุกอย่างที่ควรรู้กับเซียวเฟิงด้วยน้ำเสียงจริงใจเมื่อมาถึงหน้าถ้ำ

“วิญญาณลักซ่อนเหรอ? แบบนี้พวกเรารับมือกับมันยังไงล่ะ?” เซียวเฟิงลังเลก่อนจะถาม

“พวกมันจะปรากฏตัวขึ้นมาทันทีที่จะโจมตีน่ะครับ” โจรแคระมองไปยังเซียวเฟิงที่ดูสงสัยเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วยความรู้สึกที่ว่า ‘มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว’

“เราสามารถเปิดเผยตัวมันได้หรือเปล่า? แบบว่าถ้ามีมอนสเตอร์ที่แม้จะโจมตีก็ไม่ปรากฏตัวออกมาแบบนี้จะทำยังไงได้บ้าง?”

“ขนาดโจมตีก็ยังไม่เปิดเผยตัวเหรอครับ? ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ” ร่างเล็กส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะคิดต่ออีกหน่อย “ถ้าเป็นแบบนั้นต้องพึ่งสกิล ‘ดวงตาแห่งความจริง’ ของพวกนักธนูที่จะสามารถมองเป้าหมายล่องหนได้น่ะครับ นอกจากนั้นแล้วมันคงจะเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่คลาสอื่นจะไปสู้กับมอนสเตอร์ประเภทที่คุณว่ามาแน่ ๆ เลยครับ”

“งั้นสินะ ขอบคุณมาก”

เซียวเฟิงส่ายหน้าอย่างเสียดาย จากนั้นเขาก็กล่าวคำลากับโจรแคระผู้นั้นและเดินเข้าเหมืองแห่งเงาไป

โจรแคระไม่ได้เสนอตัวเข้าไปช่วยปกป้องเซียวเฟิงด้วย อันที่จริงไม่มีใครในเขตฮัวเซียกล้าเสนอตัว เพราะก็อย่างที่เห็น ๆ กันว่าชายหนุ่มน่ากลัวขนาดไหน!

ถ้ำเหมืองแห่งนี้ลึกมาก ๆ ตลอดทางที่เดินผ่านมาก็จะสามารถเห็นแร่ปรากฏออกมาจากกำแพงได้ตลอดทาง ยิ่งเขาลงไปลึกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งพบเจอเหล่าผู้เล่นกำลังขุดแร่เหล่านี้อยู่โดยมีผู้เล่นอื่นคอยต่อสู้เพื่อปกป้องพวกเขาไปด้วย

เซียวเฟิงได้เรียนทักษะการเก็บของขั้นสูงมาแล้ว และเขาก็พยายามฝึกใช้มันมาตลอดทางตั้งแต่ยังไม่ลึกมาก แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นเพียงแร่ทั่ว ๆ ไปหรือไม่ก็ไร้ประโยชน์เลย ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลงไปให้ลึกกว่านี้

จากนั้นไม่นาน เขาก็พบเข้ากับมอนสเตอร์ทั้งสองประเภทที่โจรเผ่าคนแคระได้พูดไว้ก่อนหน้า แต่เพราะมอนสเตอร์ทั้งสองประเภทนี้จัดเป็นอันเดด ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหาอะไรกับเซียวเฟิงอยู่แล้ว เขาสามารถฆ่ามันได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

ชายหนุ่มยังคงลงลึกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่เจอผู้เล่นแล้ว ตอนนี้รอบตัวเขามีแต่ฝูงมอนสเตอร์เต็มไปหมด และแล้วทันใดนั้น เซียวเฟิงก็สามารถเก็บเหล็กกลั่นชิ้นแรกได้

ด้วยค่าโชคที่สูงลิ่ว เหล็กกลั่นชิ้นแรกนี้เองก็จัดว่าเป็นเหล็กกลั่นบริสุทธ์ด้วย เขายังก้มหน้าก้มตาหาเหล็กเหล่านี้ต่อไป มีน้อยชิ้นมาก ๆ ที่เป็นเหล็กกลั่นที่ความบริสุทธิ์ต่ำ

ไม่นานนัก หินกลั่นบริสุทธิ์ทั้ง 10 ชิ้นก็สามารถถูกเก็บได้จนครบตามที่ท่านอาจารย์ตี้ระบุไว้ในภารกิจ เซียวเฟิงไม่อยากจะอยู่ที่นี่ให้นานกว่านี้แล้วเพราะงั้นจึงใช้ใบวาร์ปเพื่อพาตัวเองกลับไปที่เมืองทันที

“เร็วมาก…”

ที่ห้องทำงาน อาจารย์ตี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาตกใจกับความเร็วของเซียวเฟิงมาก เนื่องจากเจ้าตัวใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น

“ทำได้ดีมาก! ข้าเกือบจะภูมิใจแล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้งานของพวกข้าใกล้ถึงฝั่งฝันได้เร็วยิ่งขึ้น ตอนนี้ว่าง ๆ ทำไมเจ้าไม่ลองไปที่ท่าเทียบเรือเน่า แล้วเก็บ ‘เมือกของสไลม์เน่า’ มาสัก 20 ขวดล่ะ? มันเป็นส่วนผสมที่ดีที่สุดเลยนะ!”

เซียวเฟิงน่ะเดาไว้อยู่แล้วว่าภารกิจจากอาจารย์ตี้นั้นจะต้องเป็นภารกิจต่อเนื่อง เพราะงั้นเขาจึงรีบทำมันเรื่อย ๆ โดยไม่ลังเล

เวลาช่วงก่อนเที่ยงทั้งหมดทุ่มเทไปกับการทำภารกิจที่อาจารย์ตี้มอบหมายจนหมด ในตอนแรกนั้นเขาก็ขยันที่จะรีบทำมันให้เสร็จนั่นแหละ แต่หลัง ๆ มาพอเนิ่นนานเข้าเจ้าตัวก็เริ่มจะหมดความอดทน เขาเลี่ยงภารกิจที่เสียเวลาโดยติดต่อไปให้เฉียนโตวโตวส่งวัตถุดิบที่ร้านค้ามหาสมบัติมีมาให้เขา ซึ่งเขาจะได้เอาเวลาไปหาแค่ของที่ร้านค้ามหาสมบัติไม่มีแทน

มันได้ผล ด้วยประสิทธิภาพในการหาของและชื่อเสียงของร้านค้ามหาสมบัติ มันทำให้ของที่จำเป็นในภารกิจส่วนใหญ่นั้นมีอยู่แล้ว จะเหลือเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นที่หายากเกินไปหรือเป็นของที่มีโอกาสดร็อปได้ยากเท่านั้น

เขาออฟไลน์ไปช่วงเที่ยงเพื่อกินมื้อกลางวัน จากนั้นก็รีบกลับมาออนไลน์ต่ออีกครั้งเพื่อทำภารกิจต่อให้เสร็จ ทำเอาเซียวหลิงรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพราะเธอกับเขาไม่ได้คุยอะไรกันเลยเมื่อช่วงมื้อเที่ยง ทว่าเซียวเฟิงไม่ได้สนใจเธอเพราะรู้ดีว่าอีกไม่นานเธอก็จะหายโกรธเอง

“เอ๋ เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ยังอยู่อีกเหรอเนี่ย? ภารกิจยังไม่เสร็จเหรอ?”

หลังจากที่เขากลับมาออนไลน์แล้ว ขณะที่กำลังยืนอยู่ที่หน้าจุดวาร์ปประจำเมืองเฮ่ยฉี แสงจากการเทเลพอร์ตก็สว่างจ้าออกมา และผู้ที่มากับแสงนั้นก็คือลิตเติ้ลฟ็อกซ์กับสมาชิกกิลด์เดอะวูล์ฟทั้ง 50 คนที่เคยเจอกันก่อนหน้านั้นทั้งหมด ดูเหมือนว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีภารกิจที่ต้องไปทำให้สำเร็จอยู่

คิทเท่นเองก็อยู่ที่นี่ด้วย และเธอก็รีบโบกมือทักทายเซียวเฟิงเช่นกัน

“ยังไม่เสร็จดีน่ะ ภารกิจของฉันมันเป็นภารกิจต่อเนื่อง คิดว่าน่าจะต้องทำอีก 2-3 รอบ”

ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วตอบคำถาม เดอะวูล์ฟนั้นช่วยเขาถึงสองครั้งสองคราแล้ว เพราะงั้นเขาจึงทำตัวเป็นมิตรกับคนเหล่านี้มากขึ้น

“ภารกิจต่อเนื่องเหรอ? อยากให้พวกเราช่วยอะไรไหม? แคมป์หลักของเดอะวูล์ฟน่ะ อยู่ใกล้ ๆ กับเมืองเฮ่ยฉีนี่เอง ที่นั่นมีสมาชิกอยู่อีกมากมายเลย เจ้าแห่งฮีลเลอร์ นายไม่ต้องวิ่งทำภารกิจด้วยตัวเองก็ได้นะ” ลิตเติ้ลฟ็อกซ์ใช้โอกาสนี้พูดพร้อมใช้แววตาที่ดูสวยงดงามจ้องมองไปยังเซียวเฟิง

เหล่าสมาชิกเดอะวูล์ฟคนอื่น ๆ เองก็คิดแบบเดียวกัน เพราะนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะได้สนิทชิดเชื้อกับฮีลเลอร์ที่ทรงพลังที่สุดในเขตฮัวเซีย

“ไม่เป็นไร ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันจัดการภารกิจพวกนั้นเสร็จแล้วล่ะ” เซียวเฟิงที่กำลังเช็คกล่องข้อความก็พบเข้ากับสิ่งที่เฉียนโตวโตวส่งมาจึงตอบพวกเขาตรงหน้าไปตามตรง

หลังจากพูดไปแบบนั้นแล้ว แสงเทเลพอร์ตก็สว่างวาบขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้เล่นหญิงที่แบกของพะรุงพะรัง เธอคนนี้น่าจะเลือกเล่นเป็นแม่ค้า เจ้าตัวมองซ้ายมองขวาและเมื่อพบเซียวเฟิง เธอก็ไม่รอช้าที่จะวิ่งเข้าหาทันที

“หญ้าเพลิง 10 ก้าน ไส้ซาลาแมนเดอร์ 3 ชิ้น หลังจากที่ตรวจสอบดูให้แล้ว พวกเรามีวัสดุในการหลอมเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นในคลังสินค้าภายในเมืองเซิงสุ่ย ถ้ายังไงเดี๋ยวชิ้นอื่น ๆ ฉันจะติดต่อให้สาขาอื่นทยอยส่งมาให้นะคะ”

ผู้เล่นหญิงคนนี้คือพนักงานของร้านค้ามหาสมบัติ เซียวเฟิงเคยพบเธอบ้างแล้ว บางทีเธอคนนี้น่าจะถูกย้ายมาประจำอยู่ที่สาขาเมืองเซิงสุ่ย

“ขอบคุณ”

เซียวเฟิงซื้อของทั้งหมดจากผู้เล่นหญิงคนนั้นและกล่าวขอบคุณเธอ ในขณะที่เธอเองก็ตรวจสอบเซียวเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะกลับเข้าไปยังจุดวาร์ปและจากที่แห่งนี้ไป

ในจังหวะที่เธอคนนั้นเทเลพอร์ตไปแล้ว แสงสว่างแบบเดียวกันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และเช่นเดิม ผู้เล่นหญิงที่แบกกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ได้เดินออกมาจากแสงนั้น แม้จะมีรูปลักษณ์คล้าย ๆ กัน แต่เธอคนนี้กับเธอคนก่อนไม่ใช่คนเดียวกัน หญิงสาวจำเซียวเฟิงได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น เพราะงั้นจึงรีบวิ่งเข้าหาเขาและส่งของตามที่เซียวเฟิงขอไว้ให้ในทันที

“วัสดุหลอม 9 ชิ้น ขนของบอสธาตุไฟ 1 ชิ้น ตรวจสอบสินค้าได้เลยค่ะ”

ทั้งสองสาวนั้นมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ พวกเธอมีเลเวลที่ต่ำเพราะเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่น ซึ่งในระหว่างนี้ แสงสว่างจากจุดวาร์ปก็สว่างขึ้นติดต่อกันอยู่บ่อยครั้ง พร้อมกับการปรากฏตัวของสาวสวยที่แบกของมากมายมาขายให้เซียวเฟิง ของเหล่านี้ล้วนเป็นวัตถุดิบที่เซียวเฟิงขอไปทั้งสิ้น

พวกเธอทั้งหมดคือพนักงานที่ประจำอยู่แต่ละสาขาของร้านค้ามหาสมบัติ วัตถุดิบบางอย่างถือเป็นของประจำในแต่ละเมือง ดังนั้นจึงไม่สามารถหาของได้ทั้งหมดจากสาขาเดียว การที่จะหาของให้ครบตามที่เซียวเฟิงขอไปได้ จำเป็นต้องใช้คลังเก็บของของร้านค้ามหาสมบัติกว่า 10 แห่งเลยทีเดียว

เฉียนโตวโตวนั้นถือว่าเป็นคนที่ทำงานได้เร็วมาก ๆ เพราะของเหล่านี้เซียวเฟิงเพิ่งจะส่งรายการไปก่อนเขาจะออฟไลน์เท่านั้น เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบนาทีช่วงที่เซียวเฟิงไปกินข้าวกลางวันในการจัดของต่าง ๆ แล้วส่งคนมาให้ ดูเหมือนร้านค้ามหาสมบัติจะมีรากฐานที่แข็งแกร่งมาก ๆ เสียแล้ว

ดวงตาที่งดงามของลิตเติ้ลฟ็อกซ์นั้นไม่สามารถหยุดที่จะมองตามการกระทำเหล่านี้ได้ เธอชะงักไปครู่หนึ่งหลังจากที่เห็นผู้เล่นหญิงมากมายหลายคนต่างเทเลพอร์ตมาส่งวัสดุต่าง ๆ ให้เซียวเฟิง ความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อนี้ทำให้เธอตัดสินใจถามไปในช่องแชทกิลด์ “คนพวกนี้เป็นของกิลด์ไหนน่ะ?”

“ผมไม่รู้เหมือนกัน นอกจากชื่อของพวกเธอแล้วก็ไม่มีข้อมูลกิลด์อยู่เลย แต่ผมคิดว่าพวกเธอน่าจะมาจากแหล่งเดียวกันนะครับ เพราะพวกเธอดูรู้จักกัน นั่น ตรงนั้น เห็นไหม สาว ๆ เพิ่งจะทักทายกันไป”

“มีวัตถุดิบตั้งหลายอย่างที่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย…แสดงว่าคนพวกนี้ไม่ใช่เล่น ๆ แล้วนะ”

“มันจะต้องเป็นกิลด์ขนาดใหญ่แน่ ๆ ถึงได้ครอบครองสิ่งของมากมายขนาดนี้ได้ เพราะดูจากของแต่ละอย่าง บางอย่างก็อยู่กันคนละโยชน์เลย”

“นายว่ายังไงนะ? มีกิลด์ไหนบ้างที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ระดับเมือง ๆ แบบนี้ได้? ไดนัสตี้เหรอ?”

“หา? อะไรวะเนี่ย? ไม่ใช่ว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่ขึ้นตรงกับกิลด์ไหนเหรอ? ใครมันบอกเรื่องนั้นมาวะ? ฉันจะไปฆ่ามัน!”

“นั่นสิ เขาคงจะมีกิลด์ขนาดใหญ่หนุนหลังอยู่สินะ ดูท่าเดอะวูล์ฟของพวกเราคงจะหมดโอกาสเข้าใกล้เขาแล้วล่ะมั้ง”

“โชคดีที่พวกเราไม่ได้ปะทะกับเขานะ กิลด์ที่มีพลังแข็งแกร่งระดับที่หนุนหลังเจ้าแห่งฮีลเลอร์ได้งั้นเหรอ…แค่คิดก็เสียวสันหลังไปหมดแล้วแฮะ”