ตอนที่ 411 ชายารองของใคร? + ตอนที่ 412 ฝีมือน่าสะพรึง!

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 411 ชายารองของใคร?

“ส่งคนมาให้ข้าซะ!”

น้ำเสียงเย็นเยียบนั้นแฝงด้วยแรงกดดันทรงอำนาจของผู้ฝึกวิชาเซียน ทันทีที่เปล่งออกมา กลางอากาศก็เหมือนถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลัง ทำให้แม้แต่หายใจยังลำบาก เหล่าชาวบ้านผู้ไร้วรยุทธ์สีหน้าค่อยๆ ขาวซีดภายใต้แรงกดดันที่ไร้รูปร่าง ก่อนจะนอนหมอบลงไปโดยแม้แต่ยืนยังไม่มั่นคง

ส่วนสีหน้าผู้มีวรยุทธ์ติดตัวบางส่วนก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก แต่พวกเขายังฝืนทนไว้ได้ เพียงแต่กลางหน้าผากมีเหงื่อไหลออกมา เลือดลมในร่างกายก็กำลังปั่นป่วน แรงกดดันและกลิ่นอายพลังมหาศาลที่กระจายออกมาจากคำพูดแผ่วเบาประโยคหนึ่งเช่นนี้ พวกเขาเพียงรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

ช่วงเวลานี้ สายตาแต่ละคนต่างมองไปตามต้นเสียงนั้น เห็นแค่ร่างสีเทาสองร่างเอามือไพล่หลังขี่กระบี่บินมากลางเวหา โดดลงพื้นหน้าประตูจวนตระกูลเฟิ่งอย่างมั่นคง แล้วยืนอยู่เบื้องหน้าคุณหนูใหญ่เฟิ่ง

สองชายชรายืนมือไพล่หลัง สวมชุดสีเทา ผมที่รวบขึ้นไม่เห็นสีดำสักเส้น อาจเป็นเพราะระดับวรยุทธ์ของพวกเขา บนใบหน้าทั้งสองจึงไม่มีริ้วรอยสักนิด แต่มองออกได้จากน้ำเสียงชรากับผมขาวเต็มศีรษะว่าอย่างน้อยๆ พวกเขาก็เป็นตัวประหลาดเฒ่าที่อายุเกินร้อยแล้ว

นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองเห็นสาวน้อยนามเฟิ่งชิงเกอคนนี้ หญิงที่องค์ชายของพวกเขาถูกตาต้องใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้งามจนคนตะลึงจริงๆ ทว่าสิ่งที่ทำให้มองแล้วไม่อาจละสายตาไม่ใช่ใบหน้าที่งามเลิศของนาง แต่เป็นบุคลิกท่าทีประจำตัว

ความมั่นใจซึ่งสะท้อนออกมาจากเนื้อแท้มีความสง่างามที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ภายในความเกียจคร้านมีความชั่วร้ายเล็กน้อย ชุดสีแดงบนร่างทั้งแพรวพราวเปิดเผย ชั่วร้ายและกำเริบเสิบสาน ภายใต้การขับเน้นของบุคลิกกลิ่นอายและรูปโฉมพริ้งเพริศ นางงดงามถึงที่สุดจริงๆ แม้เห็นเพียงแวบเดียวยังยากจะลืมเลือน

ถึงแม้เป็นในแคว้นเหินเวหาของพวกเขาก็เกรงว่าจะหาหญิงที่เทียบเท่ากันไม่พบ มิน่าเล่า รัชทายาทพบนางเพียงครั้งเดียวก็ปล่อยวางไม่ลง และตั้งใจจะแต่งนางเป็นชายารอง ซ้ำยังจากแคว้นเหินเวหามายังแคว้นเล็กระดับเก้านี้ด้วยตัวเองโดยเฉพาะเพื่อพาสาวน้อยคนนี้กลับไป

เห็นแก่ที่ผู้หญิงคนนี้จะเป็นชายารองขององค์รัชทายาท สีหน้าชายชราทั้งสองจึงผ่อนคลายลง เก็บแรงกดดันทั่วร่างลงเล็กน้อย น้ำเสียงชราเปล่งออกมาพร้อมความดุดัน “คุณหนูใหญ่เฟิ่ง คนใต้อาณัติท่านทำร้ายองค์รัชทายาท คิดจะปล่อยไปเช่นนี้หรือ? ทางที่ดีส่งตัวคนมาจะดีกว่า มิเช่นนั้นแม้ท่านจะกลายเป็นชายารองขององค์รัชทายาท พวกเราก็จะไม่ไว้หน้า!”

ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองพวกเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ “เป็นชายารองของรัชทายาทพวกเจ้าอะไร? ข้าไปยินยอมตอนไหน? อย่าพูดจาเลอะเทอะให้เสื่อมเสียชื่อเสียงข้า”

ชายชราทั้งสองได้ยินก็ขมวดคิ้ว “ผู้ครองแคว้นพวกท่านยังไม่ได้บอกหรือ เราส่งคนมาตั้งนานแล้ว ที่รัชทายาทมาเยือนเป็นพิเศษก็เพื่อพาท่านกลับไป ได้เป็นสตรีขององค์ชายพวกข้า ถือเป็นโชควาสนาที่ต้องสั่งสมหลายชาติ!”

“เหอะๆ…”

เธอหัวเราะเบาๆ เหลือบมองพวกเขาทั้งสอง “โชควาสนา? งั้นพวกท่านยกให้ผู้อื่นเสียเถอะ! ข้าไม่สนใจโชควาสนาเช่นนี้” จากนั้นมองยังผู้นำทหารที่ถอยไปข้างๆ เลิกคิ้วขึ้นเอ่ยเสียงใส “พวกเจ้ายังไม่ไสหัวไปอีก? อยากให้พวกเราลงมือจริงรึ?”

อาจเพราะเห็นชายชราสองคนนั้นมา ผู้นำทหารคนนั้นจึงมีความกล้าขึ้นมาบ้าง เชิดหน้าชายตามองพลางเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง “คุณหนูใหญ่เฟิ่ง นี่ท่านยัง…”

ผู้คนเห็นเพียงว่าร่างสีแดงนั้นโฉบเข้ามาราวกับภูตผี คำพูดของผู้นำทหารคนนั้นก็ถูกหยุดไว้ทันที…

………………………………………………….

ตอนที่ 412 ฝีมือน่าสะพรึง!

มองไปอีกที เพียงเห็นมือคู่ขาวเนียนเพรียวบางบีบคอนายทหารไว้เช่นนั้น ดูเหมือนไม่ใช้แรงอะไร แต่ทำให้เขาหน้าซีดเผือด แม้แต่พูดยังพูดไม่ออก ความยโสโอหังที่เคยอยู่บนหน้ายามนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงความตื่นตระหนกและหวาดกลัว!

บรรยากาศโดยรอบหนาวเย็นขึ้นมาเพราะการลงมือครั้งนี้ของเฟิ่งจิ่ว ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย ทุกคนเบิกตามองสาวน้อยที่ลงมืออย่างกะทันหันด้วยความอึ้งตะลึง

เพียงเห็นว่ากลิ่นอายเย็นเยือกบนร่างนางตอนนี้รุนแรงยิ่ง มาพร้อมกับไอสังหารที่ไม่ด้อยไปกว่าใคร ใบหน้างามเลิศยามนี้อมยิ้มเล็กน้อย ทว่ารอยยิ้มกลับไปไม่ถึงดวงตา มองอย่างไรก็ชวนให้รู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายรวมถึงไอสังหารที่เอ่อล้นบนร่างนาง

นี่หรือคือเฟิ่งชิงเกอที่ก่อนหน้านี้แม้แต่ยืนยังเฉื่อยชา?

เวลานี้ ทุกคนคิดแต่ว่าที่แท้นางก็เป็นปีศาจสาวกระหายเลือด…

“เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ ไม่รู้รึว่าข้าไม่ค่อยชอบพูดซ้ำคำเดิม? ในเมื่อไม่คิดไสหัวไป ก็อยู่ต่อตลอดกาลเสียเถอะ!”

น้ำเสียงนาบเนิบเผยไอสังหารที่ดุร้ายเย็นชา มือเธอออกแรงรัดแน่นขึ้น ทำให้ผู้นำทหารคนนั้นไม่มีแม้แต่โอกาสจะดิ้นรนขัดขืน ได้ยินเสียงกระดูกหักดังกร๊อบลอยมา พอเขาเตะสองขา เรี่ยวแรงทั่วร่างก็เหมือนจะหายไป โอกาสรอดถูกสสะบั้น แขนขาลู่ลงอย่างหมดแรง

“เฮือก!”

ท่ามือโหดเหี้ยมและการกระทำที่อยากฆ่าก็ฆ่าของนาง ทำให้ผู้คนรอบข้างตกตะลึง และพากันสูดลมหายใจ

วิธีการของนางเด็ดขาดเช่นนี้ แทบจะไม่ให้โอกาสใครห้ามปรามหรือตอบโต้ ผู้นำทหารคนนั้นจึงสิ้นใจในเงื้อมมือนางอย่างง่ายดายเช่นนั้น…

ยามนี้จวนตระกูลเฟิ่งอยู่ท่ามกลางพายุฝนโหมกระหน่ำ ทำไมนางยังกล้าบอกว่าฆ่าก็ฆ่าเช่นนี้อีก? ยิ่งไปกว่านั้น นั่นเป็นถึงคนที่ผู้ครองแคว้นส่งมา แบบนี้ชัดเจนว่าเป็นการทำให้เรื่องยิ่งใหญ่โต ไม่ไว้หน้าผู้ครองแคว้น หรือนางไม่กลัวจริงๆ ว่าหากมู่หรงป๋อโกรธขึ้นมาจะทำลายจวนตระกูลเฟิ่ง?

และยามนี้ ทุกคนต่างตื่นตกใจกับการกระทำของนาง ด้วยเหตุนี้พวกเขาส่วนใหญ่จึงละเลยเรื่องที่สำคัญยิ่งไป นั่นก็คือเรื่องที่พลังของผู้นำทหารคนนั้นอยู่ระดับยอดปรมาจารย์นักรบขั้นกลาง แต่ทำไมถึงถูกนางสังหารอย่างง่ายดายโดยทำไม่ได้แม้แต่ต่อต้านเช่นนั้น?

มีเพียงผู้นำตระกูลเกิ่งที่รู้สึกถึงข้อนี้อย่างถี่ถ้วน เขาอุทานขึ้นเบาๆ สายตาที่มองเฟิ่งจิ่วแปลกใจและพินิจพิเคราะห์

สังหารยอดปรมาจารย์นักรบคนหนึ่งโดยไม่ลำบากเลยสักนิด แน่นอนว่าต้องมีกำลังระดับบรรพชนนักรบถึงจะทำได้ ทว่าบนร่างนางไม่มีกลิ่นอายบรรพชนนักรบ แต่ท่าร่างเมื่อครู่กลับอ่อนช้อยยิ่ง ความเร็วที่ว่องไวทำให้ผู้นำทหารคนนั้นอยากถอยมาป้องกันตัวก็ยังทำไม่ได้ เช่นนี้จึงเห็นได้ว่าพละกำลังนาง…ล้ำลึกเสียจนไม่อาจคาดเดา!

ทันใดนั้น เขาสนใจตัวคุณหนูใหญ่เฟิ่งคนนี้ขึ้นมา เดิมนึกว่านางจะต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา ไม่นึกว่าจะได้เห็นภาพเช่นนี้ในคืนนี้ และภาพคืนนี้ก็ทำให้เขายิ่งรับรู้เข้าใจชัดเจนขึ้นว่า ตระกูลเฟิ่งไม่ได้ธรรมดาเช่นที่คนภายนอกเห็น

แม้ผู้เฒ่าเฟิ่งหายตัวไป เฟิ่งเซียวหมดสติไม่ฟื้น ตระกูลเฟิ่งมีคุณหนูใหญ่เฟิ่งคอยปกป้องก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรแม้แต่น้อยแล้ว!

เพียงแต่…

ไม่รู้ว่ารัชทายาทแคว้นเหินเวหาจะมีท่าทีอย่างไร? เขาหมายมั่นต้องการคุณหนูใหญ่เฟิ่งจริง แต่มองจากเจตนาของนางก็ชัดเจนว่าไม่สนใจเขา เห็นได้ชัดว่าเรื่องคืนนี้เกิดจากการที่รัชทายาทแคว้นเหินเวหามาเยือนจวนตระกูลเฟิ่งยามวิกาลจนถูกพวกเขาจับตัวและซ้อมไปชุดใหญ่

ซ้อมรัชทายาทแคว้นเหินเวหา? เหอะๆ…

เรื่องแบบนี้ เดาว่าคงมีแค่คนตระกูลเฟิ่งที่กล้าทำ