ตอนที่ 413 แม่หนูตระกูลเฟิ่ง ไม่ต้องกลัว! + ตอนที่ 414 หมายปลิดชีพชั่วพริบตา!

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 413 แม่หนูตระกูลเฟิ่ง ไม่ต้องกลัว!

ทหารรักษาพระองค์รอบๆ เห็นนางสังหารผู้นำคนนั้นตายคาที่ ใบหน้าแต่ละคนต่างเผยความหวาดกลัว พากันถอยห่าง พวกเขาร้อยกว่าคนนำทัพมาด้วยผู้นำสองคน ยามนี้คนหนึ่งตายอีกหนึ่งบาดเจ็บสาหัสล้มอยู่บนพื้น หากพวกเขาเข้าไปตอนนี้ ก็เท่ากับรนหาที่ตายไม่ใช่หรือ?

ชายชราสองคนนั้นเห็นเฟิ่งจิ่วลงมือฆ่าคน หนำซ้ำยังไม่ลังเลสักนิด จึงอดไม่ได้ที่จะแปลกใจอยู่บ้าง รู้สึกคาดไม่ถึงกับทักษะประหลาดและความโหดเหี้ยมของนาง อย่างไรเสียเดิมทีพวกเขาก็นึกว่านางเป็นสาวน้อยที่มีเพียงความงาม ไม่นึกว่าพอลงมือจะไม่สองจิตสองใจเลย

แต่ก็ใช่ หากเป็นคนธรรมดา องค์รัชทายาทของพวกเขาคงไม่ถูกใจ

เห็นทหารรักษาพระองค์รอบๆ ถอยหลังไปทีละก้าว ใบหน้าเผยความหวาดหวั่น ชายชราสองคนส่งเสียงหึหนักๆ หนึ่งในนั้นตะโกนว่า “ไม่ได้เรื่อง! ตายไปคนเดียวก็กลัวหัวหด? พวกเจ้าลืมคำสั่งของผู้ครองแคว้นกันแล้วหรือ เข้าไปซะ! นอกจากคุณหนูใหญ่เฟิ่ง จับคนอื่นๆ ในจวนกลับไปให้หมด!”

ได้ยินคำพูดนี้ แววตาเฟิ่งจิ่วพลันเย็นวาบ ตอนกำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงตะโกนเกรี้ยวกราดลอยมา ทำให้เธอนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างอดไม่ได้

“ดูซิว่าใครจะกล้า!”

เสียงแก่ชราที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ดังขึ้น ในเสียงน่าเกรงขามนั้นเจือกลิ่นอายระดับบรรพชนนักรบที่ทรงพลัง เมื่อเสียงกดดันเปล่งออกมา กลิ่นอายพลังเร้นลับแต่ละวงที่มองเห็นด้วยตาเปล่ากระเพื่อมในอากาศดุจลายน้ำ

เมื่อคนตระกูลเกิ่งได้ยินเสียงนั้นก็นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย พากันหันหน้ามองไป เห็นร่างสีเทาสาวก้าวยาวเดินมาอย่างโมโหปึงปัง ด้านหลังยังมีคนไม่น้อยคอยติดตามมา พอเห็นคนคนนั้น คนตระกูลเกิ่งรีบร้อนเข้าไปรับหน้า

“ท่านพ่อ ท่านมาได้ยังไงขอรับ?” ผู้นำตระกูลเกิ่งรีบถาม ไม่นึกว่าท่านผู้เฒ่าจะมาด้วย

ทว่าผู้เฒ่าเกิ่งไม่สนใจเขา แต่สาวก้าวยาวเดินเข้าไป สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ เมื่อจับจ้องบนร่างชายชราทั้งสองก็ชะงักไปนิด จากนั้นค่อยก้าวมาเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่ว

“แม่หนูตระกูลเฟิ่ง ไม่ต้องกลัว ปู่เจ้าไม่อยู่ ข้าจะปกป้องเจ้าเอง!”

ผู้เฒ่าเกิ่งมองเฟิ่งจิ่วที่นิ่งมองตนเอง แอบคิดอย่างปวดใจว่า ‘เด็กคนนี้ถูกคนเหล่านี้ทำให้เสียขวัญ ดูท่าทางจะไม่รู้ว่าควรตอบโต้อย่างไรแล้ว เด็กสาวที่ไม่มีคนใหญ่คนโตคอยปกป้อง ช่างน่าสงสารจริงๆ’

นึกถึงตรงนี้ หัวใจยิ่งเขาอ่อนยวบ ใบหน้าที่เดิมดุดันพยายามฉีกยิ้มออกมา ผ่อนเสียงบอกว่า “แม่หนูเฟิ่ง เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าอยู่ตรงนี้จะไม่มีใครกล้าทำร้ายเจ้า”

ช่วงเวลานี้ เหล่าคนตระกูลเฟิ่งต่างงุนงง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟิ่งจิ่ว เธอมองชายชราที่ฉีกยิ้มแข็งทื่อและพยายามปลอบใจอย่างฉงนฉงาย ฟังคำพูดเขาแล้ว เธออบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

เธอจำได้ว่าเขาคือผู้เฒ่าตระกูลเกิ่ง เป็นสหายเก่าที่คบหากับท่านปู่มาหลายปี ในความทรงจำตอนเด็กเขาเคยมาที่จวนเช่นกัน เสียแต่ไม่ได้พบกันนานปีแล้ว ทว่าท่าทางเขายังคงเป็นเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนไปสักนิด

สิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงคือการที่เขาออกหน้ามาในเวลาเช่นนี้ ซ้ำยังพูดแบบนี้กับเธอ ต้องบอกเลยว่าสหายเก่าของท่านปู่คนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ

คิดถึงข้อนี้แล้ว เธอก็เผยรอยยิ้มหวานออกมา กลิ่นอายชั่วร้ายบนร่างราวกับหายไปไร้ร่องรอยในรอยยิ้มนี้ สิ่งที่เผยบนร่างคือความไร้เดียงสาและสดใสเฉกเช่นเด็กสาวบ้านใกล้เรือนเคียง หากไม่เห็นกับตาตน ใครก็คงไม่เชื่อว่าก่อนหน้านี้นางเพิ่งหักคอผู้นำทหารคนนั้นตายโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา

“ท่านปู่เกิ่ง”

“โอ้! แม่หนูเฟิ่งยังจำท่านปู่เกิ่งได้ด้วย!” เห็นว่านางจำตนเองได้ ผู้เฒ่าเกิ่งดีใจจนยิ้มตาหยี

………………………………………………….

ตอนที่ 414 หมายปลิดชีพชั่วพริบตา!

“จำได้เจ้าค่ะ ตอนเด็กๆ ท่านปู่เกิ่งเคยนำขนมกุ้ยฮวา[1] มาให้ข้าทาน” เธอฉีกยิ้ม สีหน้าใสซื่อไร้พิษสง

“ฮ่าๆๆ แม่หนูเฟิ่งความจำดีจริงๆ ผู้เฒ่าไม่ได้มาตระกูลเฟิ่งของพวกเจ้าตั้งหลายปีแล้ว ไม่นึกว่าเจ้าจะยังจำตาแก่คนนี้ได้ ช่างเป็นเด็กว่าง่ายรู้ความโดยแท้”

เขาปลาบปลื้มอย่างยิ่ง ราวกับเห็นหลานสาวของตัวเอง เพียงคิดว่าต่อให้เป็นหลานสาวตระกูลเขา ไม่พบกันหลายปีเพียงนี้ก็ไม่แน่ว่าจะจำความดีของเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ปีนั้นเขานำขนมกุ้ยฮวาสองสามชิ้นมาให้ เด็กคนนี้ยังจำได้จนถึงตอนนี้ เป็นเด็กที่ไร้เดียงสาน่าเอ็นดูดังคาด

หากคนอื่นรู้ว่าในใจเขาคิดกับเฟิ่งจิ่วเช่นนี้ เดาว่าคงยิ่งพูดไม่ออก

หากไม่เห็นภาพที่นางสังหารคนโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตาก็ยังดี แต่พอเคยเห็นความป่าเถื่อนและพิลึกของนาง แล้วได้ยินผู้เฒ่าบอกว่านางเป็นเด็กว่าง่ายรู้ความ ก็คิดแต่ว่าคำเหล่านี้ฟังอย่างไรก็รู้สึกแปลกๆ

นอกจากนั้น สองคนนี้มารำลึกความหลังกันในสถานการณ์เช่นนี้จะดีจริงๆ หรือ?

บนพื้นนั้นยังมีร่างไร้วิญญาณที่ยังไม่เย็นดี หนำซ้ำรอบๆ มีทหารกว่าร้อยนายล้อมไว้ ทั้งยังมีชายชราสองคนนั้นจากแคว้นเหินเวหาอีก แต่ละคนกำลังจ้องพวกเขาตาเขม็ง ทว่าทั้งสองกลับคล้ายไม่สังเกตเห็น เริ่มพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น

หลังจากผู้นำตระกูลเกิ่งเห็นภาพเช่นนี้ก็ยิ้มเฝื่อน ท่านพ่อเขาเพิ่งมาจึงไม่เห็นภาพก่อนหน้านี้ และไม่เห็นภาพความโหดร้ายของคุณหนูใหญ่เฟิ่ง คราวนี้ยังเห็นนางเป็นแม่นางน้อยน่าเอ็นดูที่บริสุทธิ์ไร้พิษภัยอีก

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจและงงงวยคือ คุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งที่เดิมมีกลิ่นอายชั่วร้ายบนร่าง กิริยาท่าทางมีกลิ่นอายเฉื่อยชาและสูงศักดิ์ เวลานี้กลับเก็บกลิ่นอายไปหมดจด ไร้พิษสงประหนึ่งเด็กสาวบ้านข้างๆ ทำเอาพูดไม่ออกเลยจริงๆ

“อืม เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว เจ้าวางใจเถอะ ปู่เจ้าไม่อยู่ ท่านปู่เกิ่งจะปกป้องเจ้าเอง!” ผู้เฒ่าเกิ่งพยักหน้า เอ่ยกับเฟิ่งจิ่วพลางมองทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นด้วยแววตาดุดัน เสียงทรงอำนาจที่เจือความดุดันดังมา

“พวกเจ้าเป็นถึงทหารรักษาพระองค์แห่งแคว้นแสงสุริยัน ทำไม ยามนี้กลับมาจัดการลูกสาวแม่ทัพพิทักษ์แคว้นตามคำสั่งของคนต่างแคว้นสองคนนี้เสียได้? เป็นพวกไร้มโนธรรมจริงๆ! วันนี้ข้าขอบอกไว้ ณ ที่นี้! ตระกูลเกิ่งข้าจะปกป้องคนของตระกูลเฟิ่ง! ใครกล้าทำร้ายพวกเขา ก็อย่าหาว่าตระกูลเกิ่งข้าไม่เกรงใจ!”

ได้ยินคำพูดนี้ ทหารพวกนั้นที่เดิมทีคิดจะเข้าไปก็ลังเลอย่างอดไม่ได้ จริงด้วย! สองคนนั้นเป็นคนแคว้นเหินเวหา ต่อให้ต้องฟังคำสั่งก็ไม่ควรฟังคำสั่งพวกเขา! ยิ่งกว่านั้นผู้นำทหารทั้งสองคนหนึ่งตายอีกหนึ่งบาดเจ็บ ไม่สู้อาศัยโอกาสนี้ถอยกลับไปก่อน? ขอคำชี้แนะจากผู้ครองแคว้นแล้วค่อยวางแผนใหม่?

นึกถึงข้อนี้ ก็ไม่รู้ว่านายทหารคนไหนตะโกนบอกถอยทัพ จากนั้นมีทหารเข้ามาแบกร่างผู้นำที่คนหนึ่งตายอีกหนึ่งบาดเจ็บไป ตอนมารีบเร่งยโสโอหัง ตอนกลับฝีเท้าก็ยังร้อนรน เสียแต่จนตรอกเล็กน้อย

เห็นเช่นนี้ สีหน้าของชายชราสองคนนั้นก็ทะมึนขึ้นมา แววตาคมกริบจ้องมองผู้เฒ่าเกิ่งที่ยืนอยู่เบื้องหน้า นัยน์ตาปรากฏจิตสังหาร “ตาแก่ไม่รู้ความนี่! คิดจะดึงดันออกหน้าแทนรึ เช่นนั้นดูซิว่าเจ้าจะมีฝีมือหรือไม่!”

สิ้นเสียง หนึ่งในนั้นจู่โจมไปทางผู้เฒ่าเกิ่งทันที ในความรวดเร็วดุดันมีจิตสังหารซ่อนเร้น เสมือนคิดฆ่าตาเฒ่าเกิ่งที่อยู่ๆ ก็ออกมาทำเสียเรื่องในพริบตาเพื่อระบายความโกรธในใจพวกเขา และเพื่อทำให้เฟิ่งจิ่วตกใจกลัว นางจะได้รู้ว่าผู้ที่ต่อต้านแคว้นเหินเวหาจะไม่มีจุดจบที่ดีแน่นอน!

………………………………………………….

[1] ขนมกุ้ยฮวา ขนมดั้งเดิมของจีนที่นำดอกหอมหมื่นลี้หรือดอกกุ้ยฮวาผสมกับแป้ง ทำให้มีกลิ่นหอมดอกไม้