ตอนที่ 268 เจียงหยุนชานหายตัวไป

แม่สาวเข็มเงิน

หวังอาซิ่งอ้าปากอย่างไม่เป็นธรรมชาติ แต่คำพูดที่คิดไว้กลับไม่ออกมา

เจียงป่าวชิงเดินเข้าไปเหมือนต้องการจะพูดอะไรกับหวังอาซิ่ง แต่มือของนางกลับยัดอะไรบางอย่างใส่ในมือหวังอาซิ่งเบา ๆ

ดวงตาของหวังอาซิ่งเบิกกว้างขึ้นทันทีเพราะมีของแข็งบางอย่างถูกยัดเข้ามาในมือนาง

ความรู้สึกนั้น แม้จะไม่เคยจับแต่นางก็สามารถเดาได้ว่าสิ่งนั้นคือ… เงิน

“เจ้าเก็บไว้ให้ดี ๆ อย่าให้คนอื่นรู้ล่ะ” เจียงป่าวชิงโน้มตัวลงไปพูดข้างหูหวังอาซิ่ง สีหน้าของนางเย็นชาเล็กน้อย ราวกับพฤติกรรมของนางผิดมนุษย์มนาทั่วไป ทว่าถึงอย่างไร กลับมีความเป็นห่วงเจืออยู่ในคำพูดของนาง

หวังอาซิ่งยัดเหรียญในมือตัวเองกลับคืนใส่ในมือเจียงป่าวชิงอย่างลุกลี้ลุกลน “ไม่ได้นะ นี่ นี่…”

“เก็บไว้!” เจียงป่าวชิงกำมือหวังอาซิ่งแน่นและกดเสียงพูดให้เบาลง ฟังดูเหมือนไร้ความเมตตาแต่กลับตั้งใจมาก “เจ้ายังเด็ก แถมแต่งออกไปในที่ห่างไกลแบบนั้นคนเดียว ข้าคิดว่าแม่เจ้าคงไม่ได้เหลือเงินส่วนตัวให้เจ้า มีเงินติดตัวนั่นแหละดีที่สุดแล้ว”

หวังอาซิ่งมองเจียงป่าวชิงอย่างตะลึง น้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะลงจากเบ้าตาของนาง ตกลงไปกระทบบนหลังมือของเจียงป่าวชิง

หวังอาซิ่งที่ใช้ชีวิตอยู่กับคนทั้งบ้านที่เอาแต่พูดถึงเงินสินสอดของนางในครั้งนี้ รวมถึงไม่มีใครคิดว่านางจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรหลังจากแต่งออกไปแล้ว มีเพียงเจียงป่าวชิงที่นึกถึงนาง… เจียงป่าวชิงผู้ปฏิบัติต่อนางอย่างเย็นชามานานแต่วันนี้แอบยัดเศษเงินมาให้ และยังบอกด้วยว่า “มีเงินติดตัวนั่นแหละดีที่สุดแล้ว”

“ทำไมเจ้าถึง…” หวังอาซิ่งถามขึ้นอย่างใจลอย

เจียงป่าวชิงตบหลังมือหวังอาซิ่งเบา ๆ “ข้าแค่อยากขอบใจเจ้าที่เจ้าบอกพี่ชายข้าเมื่อตอนที่ข้าถูกคนที่บ้านขายให้คนอื่นไปในตอนนั้น”

ถึงแม้เจียงป่าวชิงกับหวังอาซิ่งไร้บุญวาสนาที่จะได้เป็นเพื่อนกัน แต่ ‘เธอ’ ชัดเจนในเรื่องบุญคุณเสมอมา ตอนที่ได้มาเกิดใหม่ยังยุคเก่านี้ครั้งแรก หากไม่ใช่เพราะหวังอาซิ่งบอกพี่ชาย ‘เธอ’ ว่า ‘เธอ’ ถูกจับตัวไปขายในที่ห่างไกลให้ไปเป็นเมียของเฉจื่อเจิ้งในตอนนั้น ชีวิตของ ‘เธอ’ อาจไม่ได้เป็นอิสระหรือราบรื่นมากเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

หวังอาซิ่งตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง

เกิดความเงียบครู่หนึ่งระหว่างพวกนางทั้งคู่

ทันใดนั้น เสียงแม่ของหวังอาซิ่งดังขึ้นทำลายความเงียบ “ขบวนรับเจ้าสาวใกล้มาถึงแล้ว อาซิ่ง เจ้ารีบเตรียมตัวซะนะ”

แม่ของหวังอาซิ่งเลิกม่านเข้ามาเห็นหวังอาซิ่งร้องไห้จนเครื่องสำอางที่แต่งแต้มใบหน้าเริ่มเลอะ ที่สำคัญมีเจียงป่าวชิงยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ไอ้คนแซ่เจียงอย่างพวกเจ้าไม่มีใครดีเลยสักคนจริง ๆ ด้วย อาซิ่งอุตส่าห์ให้พวกเจ้ามาร่วมงานแต่งงานของนาง แต่เจ้ากลับรังแกอาซิ่งจนร้องไห้แบบนี้รึ ?! อีกประเดี๋ยวเจ้าบ่าวจะมาแล้ว ถ้าเขาเห็นเข้า เขาจะคิดยังไง ?” แม่ของหวังอาซิ่งบ่นและกำลังจะเข้าไปผลักเจียงป่าวชิง

หวังอาซิ่งรีบห้ามแม่ของตัวเองทันที “แม่ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างที่แม่คิดนะเจ้าคะ”

แม่ของหวังอาซิ่งขมวดคิ้วไม่พอใจ “เจ้ามันคนนิสัยอ่อนแอ นางรังแกถึงบนหัวเจ้าขนาดนี้แล้วแต่เจ้ากลับไม่พูดอะไรสักคำแล้วยังไปปกป้องอีก! แต่งเข้าไปที่บ้านแม่สามีของเจ้าให้เร็ว ๆ ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไปทำตัวให้แม่สามีเจ้าเป็นห่วงบ้าง”

แม่ของหวังอาซิ่งยังคงต่อว่าลูกสาวตัวเองอยู่ที่ด้านหลัง แต่เจียงป่าวชิงเดินออกมาจากในห้องรอแต่งงานของหวังอาซิ่งแล้ว และเมื่อออกมาได้ นางก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ

ผ่านไปสักครู่ อารมณ์ถึงจะคงที่มากขึ้น นางมองไปรอบ ๆ อย่างไม่รู้ตัวเพื่อมองหาร่างของเจียงหยุนชาน

ลานบ้านของที่บ้านหวังอาซิ่งกว้างพอสมควร วันนี้มีการกางเพิงไว้สำหรับงานมงคล ชาวบ้านหลายคนที่มาให้เงินสมทบนั่งกันที่โต๊ะโทรม ๆ ใต้เพิงงานวิวาห์ และมีบางคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ด้านข้าง

เจียงหยุนชานรูปร่างสูงและดูโดดเด่นมาก พูดแบบไม่เกินจริง ไม่ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะอยู่ที่ไหนก็มักจะเป็นจุดสังเกตของฝูงชนเสมอ แต่เจียงป่าวชิงตั้งใจหาเขารอบหนึ่งแล้วกลับไม่เห็นเงาของเขาเลย

เจียงป่าวชิงขมวดคิ้วมุ่น

จังหวะนั้น หญิงวัยน้าคนหนึ่งเห็นเจียงป่าวชิงเหมือนกำลังหาใครอยู่ นางจึงเป็นฝ่ายชวนเจียงป่าวชิงคุยก่อน

“ป่าวชิง เจ้าหาใครรึ ?”

เจียงป่าวชิงไม่สนิทกับคนในหมู่บ้าน แต่หญิงวัยน้าคนนี้เป็นฝ่ายชวนคุยก่อน นางจึงเมินเฉยไม่ได้ ต้องตอบกลับไปอย่างเกรงใจ “ข้าหาพี่ชายอยู่จ้ะ”

หญิงวัยน้าคนนั้นพูดขึ้นยิ้ม ๆ “อ้อ เมื่อสักครู่ข้ายังเห็นอยู่เลย เขาคงไปเดินเล่นที่ไหนกระมัง มา ๆ ๆ ป่าวชิง ข้าจะบอกเจ้าว่าข้ามีหลานชายห่าง ๆ อยู่คนหนึ่ง แม้เขาจะพูดติด ๆ ขัด ๆ บ้างแต่ก็เป็นผู้ชายที่ซื่อตรงคนนึงเลยนะ ช่วงนี้เขามาเที่ยวเล่นที่บ้านข้าพอดี เจ้าลองเจอกับเขาหน่อยไหม ?”

เจียงป่าวชิงปฏิเสธอย่างเกรงใจ “ไม่ดีกว่าจ้ะ ข้ายังต้องไปตามหาพี่ชาย”

หญิงวัยน้าคนนั้นสีหน้าเหยเกเล็กน้อย นางบ่น “พี่ชายเจ้ามีมือมีเท้า โตขนาดนี้แล้วยังจะพลัดหลงอยู่อีกรึ ?”

เจียงป่าวชิงทำเป็นไม่ได้ยิน และหมุนตัวเดินจากไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พี่ชายของนางเป็นคนที่รู้จักความเหมาะสมเสมอมา ในเมื่อวันนี้นางกับเขาบอกว่าจะมาส่งหวังอาซิ่งออกเรือน แน่นอนว่าเขาจะไม่ทำอะไรให้นางลำบากหรือหายตัวไปก่อนที่หวังอาซิ่งจะออกเรือน

เจียงป่าวชิงเดินออกมาจากในบ้าน ได้ยินเสียงแตรข้างนอกค่อย ๆ ใกล้เข้ามาแล้ว เห็นทีว่าขบวนรับเจ้าสาวคงจะมาถึงแล้ว

คนยากจนไม่ค่อยชอบนั่งเกี้ยวเจ้าสาว ประกอบกับระยะทางค่อนข้างไกล ฝ่ายเจ้าบ่าวจึงผูกเชือกสีแดงไว้กับรถล่อเพื่อทำให้ดูเป็นงานรื่นเริงเล็ก ๆ น้อย ๆ และมารับหวังอาซิ่งไปที่บ้านฝ่ายสามีอย่างคึกคัก

แต่การเคลื่อนไหวนี้ ยังคงไม่มีร่องรอยของเจียงหยุนชาน

‘พี่อยู่ไหนกันนะ…’ เจียงป่าวชิงคิดพลางขมวดคิ้วมุ่นมากกว่าเดิม

กำลังคิดอยู่ดี ๆ ก็มีใครบางคนดึงแขนเสื้อของนางจากทางด้านหลัง เจียงป่าวชิงหันกลับไปก็เห็นเฉียนเซียงเซียงที่ทำสีหน้าร้อนรน นางทำปากขมุบขมิบเหมือนจะพูดอะไร แต่เนื่องจากเสียงแตรดังเกินไป เจียงป่าวชิงจึงฟังไม่เข้าใจเลย

เฉียนเซียงเซียงเห็นปฏิกิริยาของเจียงป่าวชิงจึงตะโกนขึ้นด้วยเสียงอันดัง “เจ้าหาพี่ชายเจ้าอยู่ใช่ไหม ?!”

ครั้งนี้เจียงป่าวชิงได้ยินแล้ว นางหรี่ตาลงเล็กน้อยพลางดึงเฉียนเซียงเซียงไปยังจุดที่ห่างจากกลุ่มคนเล็กน้อย “เจ้ารู้หรือว่าพี่ชายข้าอยู่ที่ไหน ?”

ตอนนี้เสียงแตรรบกวนเริ่มเบาลงแล้ว เฉียนเซียงเซียงพยักหน้า “อืม ข้าเห็นพี่ชายเจ้าถูกน้องโหย่วฉายพาตัวไป”

หากว่ากันตามตรง ด้วยความสัมพันธ์ของเจียงป่าวชิงกับเฉียนเซียงเซียง เจียงป่าวชิงไม่ค่อยอยากเชื่อคำพูดที่ออกมาจากปากของเฉียนเซียงเซียงสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้นางดูออกว่าเฉียนเซียงเซียงคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยจึงแสร้งทำเป็นเชื่อนาง แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจียงโหย่วฉายพาตัวพี่ชายข้าไปทำไมล่ะ ?”

เฉียนเซียงเซียงพูดด้วยท่าทางที่ดูตั้งใจเกินจริง “เจ้าไม่รู้รึว่าตอนนี้น้องโหย่วฉายเป็นคนโหดเหี้ยมแล้ว เขาชอบใช้มีดฟันสัตว์ตัวเล็ก ๆ จนตายจมกองเลือด ข้าเห็นโหย่วฉายเหมือนจะพูดอะไรไม่ดีต่อเจ้า พี่ชายเจ้าเห็นเข้าจึงเข้าไปต่อว่า ดูเหมือนพวกเขาสองคนจะทะเลาะกันซะแล้วล่ะ และพี่ชายเจ้าก็ถูกน้องโหย่วฉายกระชากพาตัวไป”

เจียงป่าวชิงหัวเราะเยาะในใจด้วยสีหน้าราบเรียบ แต่กลับแกล้ง ๆ เผยสีหน้าตื่นตระหนกออกมาทางใบหน้า “หา! เขากระชากพี่ข้าไปทางไหน ? เจ้ารีบพาข้าไปเร็วเข้า!”

เฉียนเซียงเซียงพยักหน้าและหมุนตัวเดินนำทางอย่างรีบเร่ง “เจ้าตามข้ามาเลย”

เจียงป่าวชิงรู้สึกว่าเฉียนเซียงเซียงเสแสร้งไม่เก่งสักเท่าไหร่ การแสดงของนางถือว่าไม่เอาไหนเลย

เมื่อสักครู่ ตอนที่นางบอกให้เฉียนเซียงเซียงพาไปหาพี่ชาย รอยยิ้มมุมปากของเฉียนเซียงเซียงแทบควบคุมไว้ไม่อยู่ ไหนจะความกระตือรือร้นรอไม่ไหวที่ปกปิดไม่มิดนั้นอีก แสดงออกชัดแจ้งขนาดนี้ เหลือแค่บอกนางว่าด้านหน้ามีหลุมกับดักที่รอนางกระโดดลงไปแล้วล่ะ

เจียงป่าวชิงยกยิ้มมุมปาก เดินตามอยู่ข้างหลังเฉียนเซียงเซียงด้วยสีหน้าราบเรียบ

นางจะรอดูว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเฉียนเซียงเซียงคืออะไรกันแน่

แต่ไม่ว่าเฉียนเซียงเซียงจะมีเจตนาอะไร ถ้านางรู้ว่าเฉียนเซียงเซียงกับคนอื่น ๆ ที่ร่วมมืออยู่เบื้องหลังทำอะไรพี่ชายนางละก็…

เจียงป่าวชิงหัวเราะเยาะเงียบ ๆ กระแสสังหารอันเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นในดวงตาคู่งามนั้น