เล่มที่ 9 บทที่ 263 เจ้าเป็นเครื่องเล่นเสียงซ้ำหรืออย่างไร

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซี่ยยวี่หลัวเตรียมตัวเสร็จแล้ว รีบไปบอกกับเซียวจื่อเซวียนก่อน

เมื่อครู่เซียวจื่อเซวียนถูกปลุกให้ตื่นแล้ว จึงกล่าวด้วยท่าทางแจ่มใส “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านไปอย่างวางใจได้ขอรับ เมื่อครู่พี่ใหญ่บอกข้าแล้ว เขาต้มโจ๊กไว้เยอะ พอกินถึงตอนเที่ยงแล้วขอรับ”

เซี่ยยวี่หลัวตกใจ “พี่ใหญ่ของเจ้าต้มโจ๊กไว้แล้ว? ”

เซียวจื่อเซวียนขานตอบ “ขอรับ ต้มไว้แล้ว ตอนเช้าเขาตื่นเช้ามากขอรับ”

เซี่ยยวี่หลัวคลำจมูก เช่นนั้นต้องตื่นเช้าเพียงใดกัน

เมื่อคืนตอนนางดับไฟ ฝั่งตรงข้ามยังไม่ได้ดับไฟเลย เขาต้มโจ๊กเสร็จแล้วมาปลุกนางให้ตื่น เช่นนั้นเขาต้องตื่นเช้าเพียงใด

ตื่นเช้าขนาดนี้ จะยังมีแรงพอไปในตัวเมืองหรือ?

เซี่ยยวี่หลัวกำชับให้เซียวจื่อเซวียนไปพักผ่อนในห้องของนาง ดูแลน้องสาวดีๆ จากนั้นจึงหิ้วตะกร้าออกไป

เซียวเหลียนกำลังสนทนากับเซียวยวี่ พอได้ยินเสียง เซียวยวี่หันไปหรี่ตามองเซี่ยยวี่หลัวแวบหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ “พวกเราไปกัน”

กล่าวจบ เขาหยิบเก้าอี้ตัวหนึ่งลงมาจากรถม้า เซี่ยยวี่หลัวเหยียบเก้าอี้ขึ้นรถม้าไป เซียวยวี่ตามขึ้นไป เซียวเหลียนกล่าวเสียงดังอยู่ด้านนอก “นั่งให้ดี พวกเราไปกัน”

เขาเหวี่ยงแส้ทีหนึ่ง ม้าวิ่ง “ตึกตึกตึก” ไปในเงาราตรี

ตอนนี้ท้องฟ้ายังไม่สว่าง หลังจากเซี่ยยวี่หลัวขึ้นรถม้า ก็รู้สึกง่วงนอนเล็กน้อย รถม้าเรียบง่ายมาก ได้แต่นั่งบนพื้น เซี่ยยวี่หลัวพิงอยู่ตรงขอบหน้าต่าง หันไปทิศตรงข้ามกับเซียวยวี่พร้อมหรี่ตาเล็กน้อย คิดจะนอนหลับอีกครู่หนึ่ง

อย่างไรเสียนางก็ไม่มีอะไรจะคุยกับเซียวยวี่ มิสู้ถือโอกาสนี้นอนอีกตื่นหนึ่ง จะได้หลีกเลี่ยงความขัดเขินในสถานการณ์ที่ไม่มีอะไรจะคุยกับเซียวยวี่ด้วย

หลังจากเซียวยวี่ขึ้นรถม้า ก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ เคาะตรงขอบหน้าต่างรถม้าทีหนึ่ง กะเทาะเปลือกไข่ จากนั้นจึงปอกเปลือกไข่ออกจนสะอาดด้วยความระมัดระวัง มั่นใจแล้วว่าบนไข่ไม่เหลือเปลือกไข่แม้แต่น้อย เซียวยวี่จึงสะกิดแผ่นหลังเซี่ยยวี่หลัว “กินอาหารหรือไม่? ”

เซี่ยยวี่หลัวไม่หันมองด้วยซ้ำ “ไม่กิน”

เซียวยวี่ถูกปฏิเสธทันควัน กลับไม่คิดถอดใจ เขาขยับไปด้านหน้า มาถึงตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัว “ไข่ไก่ที่ต้มเสร็จแล้ว จะให้เสียของก็คงไม่ดี”

เซี่ยยวี่หลัวสัมผัสได้ว่าเสียงดังขึ้นตรงหน้าตัวเอง นางรีบลืมตา เซียวยวี่ยื่นไข่ไก่มาตรงหน้านาง พร้อมยืนกรานอีกครั้ง “กินเถอะ รถม้าโยกโคลงเคลง หากไม่กินอะไรเลยจะเวียนศีรษะได้ง่าย”

เซี่ยยวี่หลัวไม่มีหนทางอื่น ได้แต่รับมา

นางนึกว่าต้องปอกเปลือก ใครจะรู้ ว่าพอจับไข่ไก่ไว้ในมือแล้วจะสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่ม ปอกเปลือกไว้แล้ว เพียงเห็นเซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ โยนเปลือกไข่ในมือออกทางหน้าต่างรถ จากนั้นจึงตบมือเบาๆ ก่อนจะปอกอีกหนึ่งฟอง

ท่านราชบัณฑิตน้อยปอกเปลือกไข่ให้นางหรือนี่

เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกตกใจยิ่งนัก กัดกินไข่ไก่ในปากถึงกับไม่รู้รสชาติ

ไข่แดงแห้งมาก ปกติเซี่ยยวี่หลัวจะคลุกโจ๊กกิน วันนี้ไม่มีน้ำและไม่มีโจ๊ก เซี่ยยวี่หลัวกินไข่แดงเปล่าๆ หลังจากกลืนไข่ขาวคำสุดท้ายลงไป ก็ไม่ผิดจากที่คาด เซี่ยยวี่หลัวเริ่มสะอึก

“อึ๊ก…”

เซี่ยยวี่หลัวใช้มือซ้ายปิดปาก มือขวาตบอก ภายในใจแอบคิดว่าจบกัน

ทำไมถึงเริ่มสะอึกอีกแล้ว ครั้งก่อนตอนขึ้นเขาก็เหมือนกัน คราวนี้ก็เป็นอีก ไม่ชอบเอาเสียเลย

ยังดีที่ครั้งก่อนอยู่ในหุบเขาที่กว้างขวาง แต่ตอนนี้อยู่ภายในรถม้าที่คับแคบ…

พอคิดถึงภาพที่ท่านราชบัณฑิตน้อยรังเกียจนาง เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกว่าภาพนั้นงดงามเกินไป นางไม่กล้ามอง

เพื่อให้หยุดสะอึก เซี่ยยวี่หลัวใช้ทุกวิถีทาง

กลั้นหายใจ กลั้นจนทนไม่ไหวแล้ว เซี่ยยวี่หลัวถึงสูดลมหายใจ รออยู่ครู่หนึ่ง เหมือนจะไม่สะอึกอีก เดิมทีนึกว่าตัวเองหายแล้ว เสี้ยววินาทีต่อมา “อึ๊ก…”

เซี่ยยวี่หลัวปิดปากไว้ กลั้นหายใจ นิ้วโป้งกดปลายนิ้วนาง กดอยู่ครู่ใหญ่

“อึ๊ก…” ไม่ผิดจากที่คาด ยังคงสะอึกอยู่

เซี่ยยวี่หลัวลองวิธีอื่นอีกสองสามวิธี ไม่มีข้อยกเว้น ยังคง “อึ๊ก…” “อึ๊ก…” “อึ๊ก…” ไม่หยุด เสียงดังชัดเจนอยู่ในรถม้า

ไม่ได้พกน้ำมาด้วย เซี่ยยวี่หลัวได้แต่ถอดใจ

อย่างไรเสียสะอึกไปเรื่อยๆ ก็จะหายเอง เซี่ยยวี่หลัวจึงไม่คาดหวังอะไรอีก

“อึ๊ก…”

เซี่ยยวี่หลัวพิงอยู่ตรงขอบหน้าต่างรถม้า เปิดม่านมองออกไปภายนอก พยายามให้ตัวเองสะอึกขณะหันออกนอกหน้าต่าง เช่นนี้เสียงจะเบาลงบ้าง และไม่รู้สึกน่าอายนัก

เซียวยวี่สะกิดไหล่นางเบาๆ

เซี่ยยวี่หลัวหันกลับมา เห็นถุงน้ำตรงหน้า “ดื่มสักสองคำ”

พกน้ำมาด้วยหรือนี่?

น่าจะพกน้ำมาแค่ถุงเดียวกระมัง นั่นเป็นถุงน้ำที่เซียวยวี่พกไปตอนสอบ ไม่ใช่ของที่ใช้ครั้งก่อน

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง” เซี่ยยวี่หลัวรีบโบกมือ “ไม่นานข้าก็หายแล้ว อึ๊ก…”

เซี่ยยวี่หลัวรีบปิดปาก ใบหน้าขึ้นสีแดงในทันใด

ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ อย่างน้อยเจ้าก็ควรสะอึกช้าลงสักหนึ่งถึงสองวินาที รอให้ข้าหันหน้าไปก่อน สะอึกต่อหน้าท่านราชบัณฑิตน้อยเช่นนี้ ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขาเป็นโรครักสะอาด?

สะอึกต่อหน้าเขา เขาจะรังเกียจนางมากเพียงใดกัน!

เซี่ยยวี่หลัวแทบอยากร้องไห้

เซียวยวี่ยกถุงน้ำ พร้อมกล่าวอีกครั้ง “ดื่มสักสองคำ”

เซี่ยยวี่หลัว “นั่นเป็นถุงน้ำของเจ้า”

เซียวยวี่ยกถุงน้ำพร้อมกล่าวย้ำ “ดื่มสักสองคำ”

เซี่ยยวี่หลัว “…” เจ้าเป็นเครื่องเล่นเสียงซ้ำหรืออย่างไร? เอาแต่พูดว่าดื่มสักสองคำ

“อึ๊ก…” สะอึกอีกครั้ง เซี่ยยวี่หลัวกุมหน้าอก ตบทีหนึ่ง เกิดความรู้สึกราวกับตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย

ด้านหนึ่งเป็นเซียวยวี่ที่ยืนกรานให้นางดื่มน้ำ แต่เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าเซียวยวี่เป็นโรครักสะอาด เขาไม่เคยยอมให้ผู้อื่นแตะต้องสิ่งของของเขา อีกด้านหนึ่งเป็นนางที่สะอึกไม่หยุด คาดว่าเพราะนางสะอึกหนักเกินไป ท่านราชบัณฑิตน้อยได้ยินแล้วรู้สึกรำคาญ หากเป็นท่านราชบัณฑิตน้อยในช่วงหลังของนิยาย เหลี่ยมจัดอำมหิต อารมณ์แปรปรวน ถ้าทำให้เขาโมโห เกรงว่าคงสังหารนางในดาบเดียวไปแล้วกระมัง

เซี่ยยวี่หลัวแอบชำเลืองมองเซียวยวี่ รับมาโดยคิดว่าตายเป็นตาย

ช่างเถอะ ช่างเถอะ ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นการทำให้เขารังเกียจ มิสู้ให้ตัวเองสบายขึ้นหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น เซียวยวี่เป็นคนให้นางดื่มเอง อย่างมากก็ทำสกปรกแล้วถึงเวลาซื้ออันใหม่ให้เขาก็ได้

เซี่ยยวี่หลัวแหงนหน้าดื่มอึกใหญ่

น้ำในถุงยังอุ่นอยู่ ดื่มแล้วรู้สึกสบาย เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดเกรงใจ ดื่มในน้ำถุงจนหมดในคราเดียว อย่างไรเสียถุงน้ำที่นางเคยดื่มแล้วท่านราชบัณฑิตน้อยก็คงไม่ดื่มอีก ดื่มหมดเกลี้ยงก็ดี

นางแหงนหน้าดื่มน้ำ “อึกอึก” จนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว

ตบอกตัวเองทีหนึ่ง เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกสบายขึ้นบ้าง ผ่านไปครู่หนึ่ง ไม่ได้สะอึกอีก

หายแล้ว

เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกยินดียิ่งนัก ยิ้มจนคิ้วงามโก่งโค้งพร้อมกล่าวขอบคุณเซียวยวี่ “ขอบคุณมาก ไม่สะอึกแล้ว”

เซียวยวี่ขานตอบทีหนึ่ง ก่อนหลับตาพักผ่อนอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจนางอีก

เซี่ยยวี่หลัวเก็บถุงน้ำไว้ ไม่สนใจเซียวยวี่เช่นกัน เขาพักผ่อนแล้ว นางก็ไม่ต้องรู้สึกวางตัวไม่ถูกอีก

นางพิงตรงขอบหน้าต่างรถม้าหลับตาพักผ่อน

ไม่ทันเห็นเลยว่า เซียวยวี่ที่อยู่ด้านหลังลืมตาในตอนนี้เอง หันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัว

ในเสี้ยววินาทีนั้น แววตาที่เดิมทีนิ่งสงบพลันสว่างดุจหมู่มวลดารา เขาตวัดริมฝีปากเล็กน้อย คิ้วเข้มโก่งโค้ง มองเซี่ยยวี่หลัวด้วยรอยยิ้ม แววตาอ่อนโยนราวกับจะมีน้ำหยดออกมา