ตอนที่ 147 ข้าเกลียดนาง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ผึ้งปีศาจแพร่กระจายออกไป  สีหน้าของคนอีกสี่สำนักศึกษาใหญ่มืดครึ้มลง

“บ้าเอ๊ย! ผึ้งปีศาจ ใครกันที่เรียกผึ้งปีศาจมา”

“รีบวิ่งเร็ว!”

ผึ้งปีศาจแพร่กระจายไป นอกจากสำนักศึกษาแคว้นชิงแล้ว สำนักศึกษาอื่น ๆ อีกสี่แห่งก็ถูกลิขิตให้ตกอยู่ในอันตรายพลันพ่ายแพ้อย่างยับเยิน และแล้ว… ในที่สุดผึ้งปีศาจก็กระจายตัวมาถึงสถานที่ที่กลุ่มของนักเรียนจากสำนักศึกษาแคว้นจื่อเยี่ยอยู่

“กรี๊ด! นั่นอะไร ? โอ้สวรรค์! นั่นมันตัวอะไรกัน ?!” มู่หรูอวิ๋นกรีดร้อง

ซวนหยวนชิงอวิ๋นกล่าวเสียงหนักแน่น ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาว่องไวไม่มีใครเทียบ “มันคือผึ้งปีศาจ รีบหนีเร็วเข้า!”

“บุปผาหลั่งสายฝน!”

“โล่วิญญาณวารี!”

— ตูม!  ตูม! —

พวกเขาพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อต้านฝูงผึ้งปีศาจเหล่านี้ แต่จํานวนผึ้งปีศาจมีมากเกินไป  มู่เฉียนซีมองซวนหยวนชิงอวิ๋นก่อนจะกล่าวว่า… “อวิ๋นอ๋อง ปกป้องข้าเป็นเวลาสามลมหายใจ ข้าเชื่อว่าท่านสามารถทําได้”

เงาร่างสีขาวเงินราวสีของพระจันทร์พุ่งมาขวางมู่เฉียนซีไว้ เขาพยักหน้า “ได้”

ในช่วงวิกฤติเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่าองค์ชายสามที่ไม่แยแสกับทุกเรื่อง จะปกป้องมู่เฉียนซีอย่างระมัดระวังได้  ขณะเดียวกันนั้นซวนหยวนหลี่เทียนรู้สึกร้อนรน รีบวิ่งไปหาซวนหยวนชิงอวิ๋นเพื่อรับมือกับผึ้งปีศาจเหล่านี้ด้วย

“พี่สาม ข้าจะปกป้องซีเอ๋อร์เอง!”

ซวนหยวนชิงอวิ๋นไม่สนใจเขา พลังวิญญาณอันมหาศาลพลันแผ่กระจายออกไปปิดกั้นผึ้งปีศาจที่พุ่งเข้ามา  เขากล่าวอย่างเฉยเมย “น้องเจ็ด เจ้าไปปกป้องผู้หญิงของเจ้าจะดีกว่า”

“อ๊า!”

ทันใดนั้นมู่หรูอวิ๋นร้องโหยหวน นางไม่มีความแข็งแกร่งดั่งมู่หรูเหยียน หากนางสูญเสียการป้องกันจากซวนหยวนหลี่เทียนไป นางย่อมไม่มีทางต้านทานการโจมตีของผึ้งปีศาจนี้ได้เลย  โชคร้ายนัก!  เวลานี้ใบหน้าของนางถูกผึ้งปีศาจต่อยเข้าให้แล้ว

มู่หรูอวิ๋นตะโกนเสียงดัง “กรี๊ด!  พี่หลี่เทียน ช่วยข้าด้วย…”

“อวิ๋นเอ๋อร์!” ซวนหยวนหลี่เทียนไม่รอช้า รีบวิ่งไปหานางอย่างกระวนกระวายใจ

ขณะนั้น มู่เฉียนซีก็หยิบขวดยาออกมานับไม่ถ้วน รีบเริ่มปรุงยา ครบเวลาสามลมหายใจแล้ว ซวนหยวนชิงอวิ๋นรักษาสัญญาของพวกเขา  เขาไม่ให้ผึ้งปีศาจทําร้ายนางได้แม้เพียงปลายเล็บ

มู่เฉียนซีโยนขวดยาขึ้นไปในอากาศ  เมื่อพลังวิญญาณหมุนไปรอบ ๆ นางตะโกนอย่างเย็นชาว่า “บุปผาหลั่งสายฝน!”

— เพล้ง! —

เสียงหนึ่งดังขึ้น ขวดยานั่นแตกเป็นเสี่ยง ๆ  ในขวดยาเต็มไปด้วยพลังวิญญาณวารีของมู่เฉียนซี

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

ผึ้งปีศาจมีพิษทั้งหมดตกลงบนพื้น แม้จะยังมีชีวิตอยู่ พวกมันก็ไม่กล้าเข้าใกล้พวกมู่เฉียนซีอีก  มู่เฉียนซีแสยะยิ้ม กล่าวว่า “อา… ดูเหมือนว่ายาฆ่าแมลงนี่จะใช้ได้”

มู่เฉียนซีผสมออกมาอีกขวด โรยลงบนร่างกายของตัวนางเอง จากนั้นส่งมันให้กับซวนหยวนชิงอวิ๋นและกล่าวว่า “อวิ๋นอ๋อง พ่นนิดเดียวผึ้งปีศาจเหล่านี้ก็ไม่กล้าเข้าใกล้แล้ว”

นอกจากซวนหยวนหลี่เทียนและมู่หรูเหยียน คนอื่น ๆ ล้วนถูกผึ้งปีศาจต่อยจนสลบไป  มู่เฉียนซีล้างพิษให้อีกห้าคนก่อน ส่วนมู่หรูอวิ๋น นางขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจว่านางจะมีชีวิตอยู่หรือตาย

“มู่เฉียนซี ยาแก้พิษของอวิ๋นเอ๋อร์ล่ะ ?” ซวนหยวนหลี่เทียนถามเสียงดัง

มู่เฉียนซี “ข้าให้ยาแก้พิษกับคนอื่น นั่นเพราะทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้น ส่วนมู่หรูอวิ๋น  ข้าเกลียดนาง เช่นนั้นข้าก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะล้างพิษให้คนที่น่ารําคาญเช่นนาง  นางเป็นผู้หญิงของเจ้า เจ้าหาวิธีจัดการเองแล้วกัน”

ซวนหยวนหลี่เทียน “ซีเอ๋อร์ เจ้าเกลียดนางเพราะข้าหรือ ?”

เวลานี้เขาไม่สนใจสถานการณ์ของมู่หรูอวิ๋นแล้ว เพียงต้องการคำตอบที่ออกมาจากปากของมู่เฉียนซี

มู่หรูเหยียนกล่าวอย่างอ่อนแรง “ซีเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้เพิกเฉยเพียงเพราะความแค้นส่วนตัวจนไม่คำนึงถึงส่วนรวมเลย… ข้ารู้ว่าซีเอ๋อร์ไม่ใช่คนเช่นนั้น เจ้าจะต้องให้ยาแก้พิษกับอวิ๋นเอ๋อร์อย่างแน่นอน”

มู่เฉียนซีโบกมือไม่อยากจะใส่ใจ “เสียใจด้วย ข้าไม่สนใจ”

“เดี๋ยวอีกไม่นานคนอื่น ๆ ก็จะได้สติขึ้นมาแล้ว มู่หรูเหยียน เจ้าเป็นคนใจดีก็อยู่ที่นี่เพื่อดูแลพวกเขาเถอะ”

นางมองไปที่ซวนหยวนชิงอวิ๋นก่อนจะกล่าว “อวิ๋นอ๋อง อยากรู้หรือไม่ว่าใครกันที่แอบปล่อยผึ้งปีศาจมาจัดการพวกเรา ?”

ซวนหยวนชิงอวิ๋นพยักหน้า “ใคร ?”

ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมา คือซวนหยวนหลี่เทียนผู้ซึ่งไม่อยากให้ทั้งสองคนอยู่ตามลำพัง แต่ก็จำต้องกลับไปเพราะเสียงมู่หรูเหยียนที่เรียกขึ้นมา

มู่หรูเหยียนนางกล่าวอย่างกังวล “องค์ชายหลี่เทียน ร่างกายของน้องหรูอวิ๋นร้อนมาก รีบคิดหาวิธีเร็วเข้า!”

เวลาเดียวกันนั้น มู่เฉียนซีเห็นกลุ่มคนที่ถูกผึ้งปีศาจจัดการจนยับเยิน นางพุ่งเข้าไปฉวยเอาป้ายหยกของพวกเขามาอย่างไม่เกรงใจ  ป้ายถูกฉวยออกไปจากมือแล้ว ทันใดนั้นทั้งสองรู้สึกว่ามีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา  มู่เฉียนซีและซวนหยวนชิงอวิ๋นไม่รอช้า สบตากันก่อนจะหายไปในพริบตา

เป็นกลุ่มของจางจวินที่เดินเข้ามา

จางจวินยิ้ม กล่าวว่า “พวกโง่ ๆ ของสำนักศึกษาหลัวหลินกับสำนักศึกษาชิงติ่งคิดว่าตัวเองร้ายกาจมาก ฮ่า ๆ ๆ สุดท้ายเจอผึ้งปีศาจเข้าไปก็แย่ สะใจนัก!”

“ใช่! เห็นพวกเขาถูกผึ้งปีศาจต่อยจนหน้าบวมกลายเป็นหัวหมู สะใจจริง ๆ”

“เราเก็บพวกมันได้สองกลุ่มแล้ว  ยังมีอีกห้ากลุ่ม อีกไม่นานพวกเราก็จะได้อันดับหนึ่งและจบการแข่งขันครั้งนี้อย่างสวยงาม”

“พี่ใหญ่!  ดูสิ ตรงนั้นมีอีกกลุ่มหนึ่ง”

ทว่าเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ก็ต้องตะลึงตาค้าง

“พี่ใหญ่ แผ่นป้ายหยกของพวกเขาไม่อยู่ที่ตัว ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีคนมาแย่งไปก่อนพวกเรา”

“ใครกัน ? พวกมันไม่ได้ถูกผึ้งปีศาจจัดการรึ ? แต่ว่าพวกนั้นคงยังไปได้ไม่ไกล ต้องจับพวกนั้นให้ได้!”

“ใช่! ช่างบังอาจนัก แย่งของที่เป็นของพวกเรา”

มู่เฉียนซีนำถุงยายัดใส่มือซวนหยวนชิงอวิ๋น นางรู้ว่าอวิ๋นอ๋องเป็นคนฉลาด ไม่จําเป็นต้องให้นางพูด เขาก็รู้ว่าต้องทําอย่างไร

มู่เฉียนซียิ้มเล็กน้อย ทันใดนั้นนางกล่าวกับพวกที่ปล่อยผึ้งปีศาจว่า “ไม่ต้องหาแล้ว เป็นพวกข้าเองที่เอาป้ายหยกของคนพวกนี้ไป”

พวกจางจวินตะลึงตกใจ “พี่ใหญ่ สองคนนี้เป็นคนของแคว้นจื่อเยี่ย พวกเขายังไม่ถูกกำจัด มันแปลกอย่างมาก”

“ใช่!”

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ” มู่เฉียนซีแค่นเสียง “ไม่ว่าพวกข้าจะไม่ถูกกําจัดไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม  แต่ตอนนี้พวกข้าจะกำจัดพวกเจ้าแล้ว   ลงมือ!”

ทันใดนั้น ถุงยาทั้งสองในมือซวนหยวนชิงอวิ๋นถูกโยนขึ้นไปกลางอากาศ — ตูม! —

เสียงหนึ่งดังขึ้น ผงสีขาวร่วงหล่นลงมา

“แค่ก ๆ ๆ นี่มันอะไรกัน ?!”

“อ๊าก! ระวัง มันมีพิษ” มู่เฉียนซีเรียกซวนหยวนชิงอวิ๋น “อวิ๋นอ๋อง พวกเรารีบวิ่งเร็วเข้า!”

เมื่อมู่เฉียนซีและซวนหยวนชิงอวิ๋นออกมาจากระยะที่จะถูกผงพิษนี้  จางจวินกล่าววาจาเย็นชา “ใจเย็น ๆ ก่อนพวกเรา  ไม่ต้องตื่นตกใจไป ผงนี้ไม่มีพิษหรอก พวกมันเพียงแค่ขู่ให้กลัวเท่านั้น รีบจับมันเร็วเข้า!  อย่าปล่อยให้สองคนนั้นหนีไปเด็ดขาด”

“ได้!”

ขณะที่มู่เฉียนซีวิ่งไป นางก็มองหาสถานที่ที่เสียงของผึ้งปีศาจหนาแน่นที่สุดไปด้วย

ในไม่ช้านางก็พบสถานที่รวมตัวของผึ้งปีศาจ  ทันทีที่จางจวินไล่ตามมา เขาก็เห็นผึ้งปีศาจสีดำอยู่ตรงหน้าจึงยิ้มก่อนจะกล่าวอย่างชอบใจ “เอ้า หนีสิ เหตุใดพวกเจ้าไม่หนีล่ะ ?!”

จางจวินคิดว่าสองคนจากแคว้นจื่อเยี่ยอยู่ด้านหลังโดยมีผึ้งปีศาจอยู่ด้านหน้า ทั้งสองคนนี้ต้องตายอย่างแน่นอน  แม้พวกเขาจะรอดจากการตามล่าของผึ้งปีศาจมาได้ แต่ตอนนี้เจอผึ้งปีศาจมากมายเป็นฝูงใหญ่อยู่ตรงหน้า หากไม่ตายก็คงแปลก

มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปาก “พวกเราไม่จำเป็นต้องหนี คนที่ต้องหนีคือพวกเจ้าต่างหาก”

เวลานี้เอง เสียงตะโกนดังขึ้น “พี่ใหญ่! ท่าไม่ดีแล้ว ดูสิ…”

— หึ่ง!  หึ่ง!  หึ่ง! —

ปลายทางที่นิ้วของนักเรียนที่เป็นพวกของจางจวินชี้  คือฝูงผึ้งปีศาจที่ข้ามหัวพวกมู่เฉียนซีมา พวกมันมุ่งหน้าไปยังกลุ่มคนในสำนักศึกษาแคว้นชิง