ภาคที่ 2 บทที่ 236 เปิดเผย

มู่หนานจือ

ฉีซวงยิ้มพลางเอ่ยว่า “วันเกิดของฮูหยินเฒ่าหวงคือเมื่อไรหรือ? ท่านแม่ทราบแล้วจะต้องไปร่วมสนุกด้วยอย่างแน่นอน พวกเราที่เป็นคนรุ่นหลังก็ควรไปคุกเข่าคำนับนางเหมือนกัน”

จินย่วนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นแค่วันเกิดธรรมดาเท่านั้น จึงไม่รบกวนทุกคนเช่นกัน”

เหมือนไม่อยากเอ่ยเรื่องนี้มากนัก

ทุกคนจึงไม่อาจถามอะไรได้อีก

เจียงเซี่ยนเอ่ยถึงจินเซียว “ทำไมจินเซียวไม่อยู่กับพวกเจ้าล่ะ?”

ในเมื่อเป็นวันเกิดของยาย จินย่วนมาแล้ว จินเซียวก็ไม่มีทางที่จะไม่มา!

จินย่วนยังไม่ได้ตอบ คุณหนูโหยวก็เม้มปากยิ้มและเอ่ยแล้วว่า “ท่านพี่อาเซียวไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนสามีของท่านหญิงแล้ว เมื่อครู่พวกเรายังเจอพวกเขาอยู่เลย…”

เจียงเซี่ยนประหลาดใจ

คิดไม่ถึงว่าจินเซียวกับหลี่เชียนกำลังดื่มเหล้าอยู่ด้วยกัน

นางรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาเล็กน้อยทันที

ทำไมผู้หญิงที่ยังไม่ออกเรือนออกไปข้างนอกไม่ได้ แต่หลี่เชียนกลับสามารถเดินเล่นอยู่ข้างนอกได้?

โดยไม่ได้คิดสักนิดว่าตนเองก็นั่งดื่มชาอยู่ที่หออี้เซียนเหมือนกัน

เพียงแต่คุณหนูโหยวยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกจินย่วนถลึงตาใส่อย่างเฉียบขาดแล้ว

คุณหนูโหยวงุนงงมาก ทว่าก็ยังไม่หยุดพูด และเอ่ยต่ออย่างตะกุกตะกักว่า “พวกเขาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ คุณชายเซ่าก็อยู่ด้วย…”

ครั้งนี้จินย่วนไม่ไว้หน้าคุณหนูโหยวแม้แต่นิดเดียว นางตวาดด่าชื่อของคุณหนูโหยวอย่างเย็นเยียบว่า “โหยวฮุ่ยเหนียง” และถามว่า “เจ้าจะหยุดได้หรือยัง?”

เสียมารยาทมาก

คุณหนูโหยวสีหน้าซีดเผือดทันที น้ำตาเริ่มคลอเบ้าอีกครั้ง และกัดปาก “ข้า…ข้า…ข้าก็ไม่ได้พูดอะไรนี่นา? พวกเราเจอสามีของท่านหญิงระหว่างทาง…”

จินย่วนได้ยินก็ลุกขึ้นยืนทันที นางย่อตัวคารวะเจียงเซี่ยน และเอ่ยด้วยสีหน้าโกรธจนหน้าเขียวว่า “ท่านหญิง น้องสาวของข้าคนนี้เกิดในตระกูลที่ยากจนและฐานะต่ำต้อย จึงไม่รู้ธรรมเนียม หากเสียมารยาทตรงไหนไป ขอให้ท่านโปรดอย่าใส่ใจ วันนี้ดีใจมากที่ได้เจอท่านหญิง เพียงแต่สายแล้ว ผู้อาวุโสในตระกูลยังรอพวกเรากลับไปอยู่ ไว้อีกสองวันพวกท่านต่างว่างกันแล้ว ข้าค่อยไปเยี่ยมเยียนท่านหญิงทั้งสอง ฮูหยินฉี และแม่นมเมิ่ง พวกเราขอตัวก่อน!” นางพูดไปก็ดึงแขนของคุณหนูโหยวเดินออกไปข้างนอก

เจียงเซี่ยนเห็นสายตาที่จินย่วนมองคุณหนูโหยวเหมือนไฟสองกองกำลังลุกไหม้อยู่ ก็รู้ว่าคุณหนูจินผู้นี้คงจะเป็นคนแข็งแกร่งและหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่ใช่พวกที่อ่อนโยนและนุ่มนวล

นี่ช่างน่าสนใจ!

นางเม้มปากยิ้ม

โหยวฮุ่ยเหนียงก็โกรธมากเหมือนกัน

เจียหนานเป็นท่านหญิง และอีกไม่นานก็จะแต่งมาอยู่ซานซีแล้ว ซานซีตั้งแต่เบื้องบนจนถึงเบื้องล่างมีใครไม่อยากประจบประแจงนางบ้าง แม้แต่ลุงเขยจินก็เคยกำชับจินย่วนครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกันว่า ท่านหญิงเจียหนานอายุยังน้อย ผู้หญิงอย่างฮูหยินหลี่ว์คุยกับนางได้ยาก และต่อให้คุยได้ ก็เกรงว่าจะทำให้ท่านหญิงชอบได้ยากมากเช่นกัน ไว้ท่านหญิงเจียหนานถึงไท่หยวนแล้ว ไม่ว่าอย่างไรจินย่วนก็ต้องไปมาหาสู่ใกล้ชิดกับท่านหญิงเจียหนาน ปรากฏว่าพวกนางพักที่หออี้เซียนชั่วคราว และพบร่องรอยของท่านหญิงเจียหนาน จินย่วนไม่เพียงแต่ไม่หาโอกาสผูกมิตรกับท่านหญิงเจียหนาน ทว่ายังจะหลีกเลี่ยงด้วย ความสัมพันธ์ของจินย่วนกับฮูหยินหลี่ว์ตึงเครียดพอแล้ว นางยังไม่คิดหาทางทำให้บิดารักอีก นางเห็นว่าจินย่วนน่าสงสาร จึงอยากช่วยจินย่วน ถึงได้หาโอกาสมาสนทนากับเจียหนาน เจียหนานดูถูกนางและไม่สนใจนาง แต่กลับวางตัวสนิทสนมกับจินย่วนมาก ทำให้นางเหมือนถูกตบหน้าต่อหน้าทุกคน จินย่วนไม่เพียงแต่ไม่ขอบคุณนาง ทว่ายังจะใช้กำลังลากนางออกไป โดยไม่ไว้หน้านางแม้แต่นิดเดียว

ถึงแม้นางจะเทียบจินย่วนที่มาจากตระกูลขุนนางไม่ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรตระกูลนางก็เป็นพ่อค้าใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของซานซีเช่นกัน ปกติก็มีคนมากมายอยากหาเงินจากนางเพราะฐานะของนาง ภายนอกประจบนางทว่าลับหลังกลับเหยียบย่ำนาง จินย่วนทำแบบนี้ คนพวกนั้นก็ยิ่งดูถูกนางแล้ว ไม่ว่าอย่างไรนางกับจินย่วนก็เป็นญาติที่เกี่ยวดองกัน ปกติกับจินย่วน นางก็อดทนแล้วอดทนอีก ยอมให้แล้วยอมให้อีก แล้วจินย่วนมีสิทธิอะไรมาทำกับนางแบบนี้?!

คุณหนูโหยวระเบิดอารมณ์ออกมาทันที

นางตะโกนใส่จินย่วนว่า “พ่อเจ้าจะให้เจ้าแต่งงานกับเซ่าหยาง เจ้าไม่เต็มใจ แล้วเกี่ยวอะไรกับข้าด้วยล่ะ? เจ้ามีความสามารถก็ไปบอกท่านพี่อาเซียว ไปบอกฮูหยินหลี่ว์สิ จะมาแสดงบารมีต่อหน้าข้าทำไม? หากไม่ใช่เพราะตระกูลของพวกเรา ลุงของเจ้ากับป้าสะใภ้ของเจ้าจะได้กินดีอยู่ดี ร่ำรวย และดีกับพวกเจ้าพี่น้องขนาดนี้หรือ? พ่อที่เป็นขุนนางระดับสูงของเจ้า มีคนใหม่ก็ลืมคนเก่า เคยดูแลบ้านแม่ของเจ้าเสียเมื่อไร…”

ดวงตาทั้งสองข้างของจินย่วนราวกับจะพ่นไฟออกมา

นางสูงกว่าคุณหนูโหยวครึ่งศีรษะ จึงปิดปากคุณหนูโหยวแล้วพยายามลากคุณหนูโหยวออกไปข้างนอก โดยลากไปก็ยังขอโทษพวกเจียงเซี่ยนด้วยรอยยิ้มแข็งทื่อไปด้วย “ขออภัยเจ้าค่ะ! น้องสาวของข้าคนนี้พูดจาไม่ค่อยคิด…”

มีญาติที่ทำให้เสียหน้าตลอดเวลาแบบนี้…พวกเจียงเซี่ยนต่างก็เห็นใจจินย่วนมาก แม้แต่ไป๋ซู่ที่ไม่เคยพูดก่อนเจียงเซี่ยนในสถานที่สาธารณะก็อดที่จะเอ่ยไม่ได้ว่า “คุณหนูโหยวอายุยังน้อย จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำอะไรด้วยอารมณ์ไปบ้าง คุณหนูจินไม่ต้องกังวล ไว้อีกไม่กี่ปี คุณหนูโหยวผ่านอะไรมามากขึ้นแล้วก็หายแล้ว”

จินย่วนพยักหน้า และพาคุณหนูโหยวจากไป

แม่นมเมิ่งที่เงียบมาตลอดก็อดที่จะถอนหายใจไม่ได้เช่นกัน และเอ่ยว่า “มีคนประหลาดแบบนี้อยู่ทุกที่จริงๆ!”

ฉีตานกับฉีซวงก็เอ่ยว่า “คุณหนูใหญ่ตระกูลโหยวของร้านเซิ่งเซิงก็ถือว่าค่อนข้างมีชื่อเสียงที่ดีงามในต้าถงเช่นกัน ก่อนหน้านี้พวกเราก็เคยเจอสองสามครั้ง นางแลดูอ่อนโยนและสุภาพ ทุกคนพากันชื่นชม แต่วันนี้กลับเหมือนจู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน หากไม่ใช่ว่าคุณหนูจินรั้งไว้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรบ้าง?”

ทว่าเจียงเซี่ยนกลับยันข้อศอกนั่งอยู่ข้างๆ โดยไม่เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว

ไป๋ซู่อดที่จะกังวลเล็กน้อยไม่ได้ จึงเอ่ยว่า “เจ้าเป็นอะไรไป?”

เจียงเซี่ยนได้ยินก็ค่อยๆ นั่งตัวตรง และเอ่ยว่า “ทำไมมีแต่ข้าคนเดียวที่คิดไม่เหมือนกับพวกเจ้าล่ะ!”

“หมายความว่าอย่างไร?” ฉีตานถาม

สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่นางอย่างสงสัย

เจียงเซี่ยนถึงเอ่ยอย่างไม่รีบร้อนว่า “ทำไมข้าถึงได้ยินว่าใต้เท้าจินจะให้จินย่วนหมั้นกับเซ่าหยางล่ะ?”

“นั่นสิ!” ฉีตานร้องอย่างตกใจ “ข้าลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยได้ยินคนพูดเหมือนกัน ข้ายังคิดว่าเป็นการสร้างข่าวลือเลย! คุณหนูจินงามขนาดนั้น เซ่าหยางเป็นลูกผู้ดีมีเงินที่กินดื่มเที่ยวเล่นทั้งวันและไม่ทำงานที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ใต้เท้าจินก็ไม่ได้ฟั่นเฟือนเสียหน่อย ทำไมถึงตัดใจให้ลูกสาวไปเผชิญความลำบากได้?” นางพูดไปก็มองเจียงเซี่ยนไป ดวงตาทั้งสองข้างทอประกายวิบวับ “ท่านหญิง ท่านว่า ฮูหยินหลี่ว์จะแอบเล่นตุกติกอะไรหรือเปล่า?”

เจียงเซี่ยนยังไม่ทันได้ตอบนาง ไป๋ซู่ที่นั่งอยู่ข้างกายเจียงเซี่ยนก็เอ่ยอย่างกะทันหันว่า “จะเป็นไปได้อย่างไร? การแต่งงานเป็นสิ่งดีที่ผูกสองตระกูลไว้ด้วยกัน ต่อให้ใต้เท้าจินจะสติเลอะเลือนถึงเพียงใด ก็ไม่มีทางที่จะให้คุณหนูจินแต่งงานส่งเดชเช่นกัน”

ฉีซวงเอ่ยว่า “เช่นนั้นทำไมเมื่อครู่คุณหนูโหยวถึงบอกให้คุณหนูจินไปหาจินเซียวหรือฮูหยินหลี่ว์? นี่ก็แสดงให้เห็นตำแหน่งของฮูหยินหลี่ว์ในใจใต้เท้าจินแล้ว! อย่าลืมว่าจินเซียวเป็นลูกชายคนโตที่เกิดจากภรรยาเอก และเป็นผู้สืบทอดตระกูลจินนะ!”

“หากใต้เท้าจินสติเลอะเลือน ก็คงจะเป็นพ่อสื่อให้ตระกูลหลี่ไม่ได้แล้ว!” แม้แต่แม่นมเมิ่งก็ร่วมถกเถียงด้วย “แสดงว่าเรื่องนี้เป็นความคิดของใต้เท้าจิน และเพราะคุณหนูจินรู้ จึงไม่ไปหาจินเซียวหรือฮูหยินหลี่ว์”

“แต่ทำไมใต้เท้าจินถึงต้องให้คุณหนูจินแต่งงานกับเซ่าหยางล่ะ?” ฉีตานมองแม่นมเมิ่ง จู่ๆ ก็กลายเป็นสนิทสนมกับแม่นมเมิ่งที่ไม่ค่อยได้คุยกับนางมากขึ้น “ต่อให้ต้องแต่งงาน ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกตระกูลเซ่าก็ได้นี่นา! เมืองสำคัญตามชายแดนมีผู้ชายดีๆ มากมาย หาคนที่ทำสงครามได้สักคน ก็ช่วยตระกูลจินได้เหมือนกัน เซ่าหยางนั่นนอกจากกินดื่มเที่ยวเล่นแล้วยังมีประโยชน์อะไร? ลูกเขยแบบนี้ มีแต่จะถ่วงแข้งถ่วงขาตระกูลจิน!”

แม่นมเมิ่งก็เอ่ยเช่นกันว่า “คงจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ตระกูลจินจำเป็นต้องแต่งงานกับตระกูลเซ่ากระมัง?”

———————————–