ตอนที่ 437 วัยเด็กของฟังจือหัน / ตอนที่ 438 เจอกันแต่ไม่รู้จักกัน

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 437 วัยเด็กของฟังจือหัน

 

 

อวี๋กานกานนิ่งคิดสับสน “…”

 

 

ฟังจือหันกับกู้เหยียนอวี๋ออกจากบ้านจนเกิดเรื่อง แค่เพราะว่าไม่ยอมให้กู้เชินแต่งงานใหม่เพียงแค่นั้นเหรอ

 

 

อวี๋กานกานนึกถึงฟังจือหันเคยบอกเธอว่าชาตินี้จะไม่มีวันลืมกู้ซูหลิง

 

 

แต่เห็นว่ากู้ซูหลิงต้องเคยทำอะไรแน่นอนหรือเพื่อแต่งเข้าสกุลกู้ กู้ซูหลิงสองแม่ลูกต้องเคยทำไรกับกู้

 

 

เหยียนอวี๋

 

 

“หลังเกิดอุบัติเหตุ พี่ชายก็ไปบ้านคุณตาของเขา ทุกปีช่วงตรุษจีนก็จะกลับไปครั้งหนึ่ง”

 

 

เจียงฉี่เล่าและถอนหายใจอีกครั้ง “หลายปีมานี้คุณลุงกู้เอาแต่โทษพี่ชาย คิดว่าพี่ชายเป็นสาเหตุทำให้กู้เหยียนอวี๋ตาย คิดว่าถ้าหากพี่ชายไม่พากู้เหยียนอวี๋ออกไป เรื่องก็คงจะไม่เกิดขึ้น แต่พี่ชายยังคงไปเยี่ยมคุณลุงกู้เชินทุกปี”

 

 

อวี๋กานกานยกมือขึ้นจับคาง “นี่จะโทษฟังจือหันได้ยังไง ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่เขาจัดการปัญหาเรื่องแต่งงานใหม่ได้ไม่ดีจึงทำให้เด็กสองคนออกจากบ้านไป”

 

 

“หลังจากนั้นเพียงครึ่งปี คุณลุงกูเชินก็แต่งงานกับแม่ของกู้ซูหลิง กู้ซูหลิงจึงกลายเป็นคุณหนูใหญ่บ้านตระกูลกู้ คุณลุงดีกับกู้ซูหลิงเสียยิ่งกว่าแม่เธออีกค่ะ ทุกคนบอกว่าเอาความรักทั้งหมดที่มีให้กู้เหยียนอวี๋ไปลงที่กู้ซูหลิง”

 

 

“ถ้ากู้เหยียนอวี๋ยังอยู่ พี่ชายเธอคงจะได้แต่งงานกับเธอใช่ไหม” อวี๋กานกานถามด้วยความหึงหวงเล็กน้อย

 

 

“ไม่แน่หรอกค่ะ ในใจของพี่ชาย กู้เหยียนอวี๋เปรียบเสมือนน้องสาวมากกว่า” น้ำเสียงของเจียงฉี่ก็หวงพี่ชายอยู่เหมือนกัน

 

 

“จะว่าไปบางครั้งฉันก็นึกอิจฉากู้เหยียนอวี๋นะคะ เพราะว่าพี่ชายดีกับเธอมากๆ มีบางเวลาที่ฉันกับกู้ซูหลิงตีสนิทเธอก็เพราะอิจฉาเธอ ตอนนั้นพี่ชายเย็นชากับฉันมาก แม้กระทั่งคำว่าพี่ชายสองคำยังไม่อนุญาตให้ฉันเรียกเลยค่ะ คุณลุงกู้เอาความรักและเอ็นดูต่อกู้เหยียนอวี๋ไปลงที่กู้ซูหลิงทั้งหมด แต่ว่าพี่ชายกลับไม่มีความรู้สึกใดๆ เลย ดูเหมือนเขาจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นกู้เหยียนอวี๋ที่คอยพร่ำบอกให้คุณลุงเกลียดสองแม่ลูก แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมองพวกเธอในแง่ดีเลยค่ะ”

 

 

เจียงฉี่พูดแล้วก็หัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน “ฉันไม่ได้มีเจตนาไม่สนใจกู้ซูหลิงนะคะ ใครใช้ให้พี่ชายเกลียดเธอล่ะคะ ฉันก็มีพี่ชายแค่คนเดียว แน่นอนว่าเข้าข้างคนนอกไม่ได้…”

 

 

เธอลำบากใจเล็กน้อย “พี่สะใภ้คิดว่าฉันเห่อเกินไปไหมคะ”

 

 

อวี๋กานกานถามเธอยิ้มๆ “ถ้าวันใดวันหนึ่งตระกูลเจียงถูกเจียงไป่อันพรากไป ฟังจือหันไม่เหลืออะไรเลย เธอจะยอมรับว่าเขายังเป็นพี่ชายอยู่ไหม

 

 

เจียงฉี่พยักหน้าโดยไม่ลังเลเลยสักนิด “แน่นอนค่ะ ไม่ว่าตอนไหนพี่ชายก็ยังเป็นพี่ชายของฉันค่ะ”

 

 

“งั้นก็ไม่เห่อแล้วล่ะ” อวี๋กานกานยิ้มปลอบเธอ แล้วเอ่ยถาม “กู้ซูหลิงคนนี้ ชอบฟังจือหันมากเลยใช่ไหม”

 

 

เจียงฉี่ยิ้มเจื่อน “เธอชอบพี่ชายมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ หลังจากที่เธอกลายเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลกู้ เคยพูดว่าว่าต่อไปจะแต่งงานกับพี่ชายแทนกู้เหยียนอวี๋ ไม่สนว่าพี่ชายจะมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเธอแค่ไหนก็ตาม เธอยังชอบ เธอเป็นเพื่อนกับฉันแล้วก็อยาก…ผ่านฉัน”

 

 

เสียงเบาลงและหยุดทันทีหลังจากนั้น

 

 

ขณะที่เธอพูดเธอยกมือขึ้นทันทีและพูดว่า “แต่พี่ชายของฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอนะคะ”

 

 

อวี๋กานกานคิดว่าตัวเองมาก่อน เพราะกู้ซูหลิงเป็นคนขี้หึง เธออาจสร้างความวุ่นวายอย่างไม่มีเหตุผล

 

 

ตอนนี้เธอไม่ได้หึงหวงจนหน้ามืดตามัว เธออิจฉากู้ซูเหยียนคนนั้นมากกว่าเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีในวัยเด็กกับฟังจือหัน นอกจากนี้ก็ไม่มีเรื่องอื่นอีกแล้ว

 

 

สีหน้าของเจียงฉี่ดูเคร่งขรึมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนและเธอถามอย่างระมัดระวัง “พี่สะใภ้ พี่ไม่จะบอกเรื่องนี้กับพี่ชายฉันใช่ไหมคะ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 438 เจอกันแต่ไม่รู้จักกัน

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้า “ฉันไม่บอกแน่นอน”

 

 

สีหน้าเจียงฉี่ยังคงความหนักแน่น “แน่ใจแล้วแน่นอนว่าจะไม่บอกพี่ชายใช่ไหมคะ”

 

 

อวี๋กานกานทำให้เธอสบายใจ “ไม่บอกจริงๆ ไปเถอะ กลับไปแช่น้ำพุร้อนกัน”

 

 

เจียงฉี่ยืนยันครั้งที่สาม “พี่สะใภ้ จะไม่บอกพี่ชายว่าฉันเป็นคนเล่าใช่ไหม”

 

 

“ไม่บอก”

 

 

“ยืนยันนะ”

 

 

“ฉันพูดแล้วว่าจะไม่บอกก็คือไม่บอกแน่นอน”

 

 

ถามวนไปวนมาอยู่หลายครั้ง เจียงฉี่ไม่สบายใจกลัวว่าอวี๋กานกานจะขายเธอ

 

 

จู่ๆ อวี๋กานกานก็ตอบกลับไปตรงๆ “ฉันแน่ใจ ฉันจะบอก”

 

 

เจียงฉี่หน้าซีดทันทีแล้วตะโกนด้วยความตกใจ “พี่สะใภ้…”

 

 

อวี๋กานกานหัวเราะลั่น แล้วกุมมือเจียงฉี่ “ฉันบอกแล้วไง แต่ฉันมีทางหนึ่งที่จะไม่ทำให้พี่ชายของเธอโกรธเด็ดขาดและแน่นอน”

 

 

เจียงฉี่ลังเลครู่หนึ่ง ดวงตาเป็นประกายพูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นพี่บอกพี่ชายแล้วทำให้เขาไม่โกรธฉัน”

 

 

อวี๋กานกานตอบ “อืม”

 

 

“คิดๆ ดูแล้วบอกไปเลยดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะรู้สึกผิดตลอดเวลา ยังไงซะแค่พี่ชายไม่เมินฉันก็พอแล้วค่ะ”

 

 

ทั้งสองออกจากร้านกาแฟเมื่อมาถึงประตูเจียงฉี่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ “จริงสิ”

 

 

ต้องโทษกู้ซูหลิงที่ทำให้เธอลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย

 

 

ได้ยินเสียงคนแปลกหน้าดังมาจากห้องโถง อวี๋กานกานและเจียงฉี่เข้าประตูไปจึงเห็นว่ากู้ซูหลิงและชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังพูดคุยอยู่กับฟังจือหันและลู่เสวี่ยเฉิน

 

 

อวี๋กานกานมองไปยังชายวัยกลางคน แม้ว่าจะรู้ชะตากรรมแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นผู้ใหญ่และมั่นคง

 

 

ทั้งสองฝ่ายต่างก้สุภาพมากทั้งที่ไม่คุ้นเคยกัน แต่กู้เชินขอร้องว่าลานของพวกเขาเต็มแล้ว ยังไงซะลานของฟังจือหันทางด้านยี้ยังมีห้องว่างจึงให้กู้ซูหลิงพักที่ห้องด้านนี้

 

 

คำขอนี้ก็พูดยากนิดนึง

 

 

ฟังจือหันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมรับคำขอของกูเชิน

 

 

สีหน้ากู้เชินเย็นชาตลอดเวลา แล้วไม่มีความเกรงใจฟังจือหันเลยสักนิดแม้คำขอบคุณคำเดียวก็ไม่มี

 

 

เมื่อเขาลุกขึ้นกำลังจะออกไปจึงเห็นอวี๋กานกานและเจียงฉี่ยืนอยู่ตรงประตู

 

 

เขามองอวี๋กานกานด้วยสายตาแปลก กู้เชินมีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย ความประหลาดใจกระจายในดวงตาของเขา

 

 

กู้ซูหลองมองกู้เชินจากนั้นจึงยิ้มและแนะนำ “คุณพ่อคะ นี่คุณอวี๋กานกานที่หนูเคยบอกพ่อว่าเป็นแฟนพี่หานไงคะ…”

 

 

ฟังจือหันไม่ได้หมายความว่าอยากแนะนำให้รู้จักซะหน่อย จึงเดินเข้าไปแทรกตรงกลางเพื่อขวางอวี๋กานกานและกู้เชิน แล้วจึงพูดส่งตามมารยาท “คุณลุงกู้ ค่อยๆ เดินนะครับ”

 

 

กู้เชินถอนสายตาแต่ก็ไม่ได้มองฟังจือหันแม้แต่แวบเดียวจากนั้นจึงรีบเดินออกไป

 

 

แต่กู้ซูหลิงยังอยู่

 

 

กู้ซูหลิงยิ้มให้กับทุกคน “รบกวนด้วยนะคะ”

 

 

จากนั้นจึงหันไปแนะนำตัวกับอว่กานกาน “เจอกันอีกแล้วนะคะ ฉันกู้ซูหลิงค่ะ” เธอยิ้มอ่อนโยนอย่างเป็นมิตร อีกทั้งยังเป็นฝ่ายกระตือรือร้นจับมืออวี๋กานกาน “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

 

 

อวี๋กานกานชักมือตัวเองกลับอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะยิ้มให้กับเธอ “สวัสดีค่ะ ฉันชื่ออวี๋กานกานค่ะ”

 

 

ชอบฟังจือหันไม่ใช่เหรอ

 

 

ทำไมเจอศัตรูหัวใจถึงตีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ได้ขนาดนี้

 

 

จากลูกติดจนกลายมาเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลไฮโซ ถ้าไม่มีแผนการในใจ งั้นก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก

 

 

กู้ซูหลิงทั้งยิ้มแล้วก็มองอวี๋กานกาน “คุณอวี๋ สะดวกพาฉันไปที่ห้องพักหรือเปล่าคะ ไม่รู้ว่ามีห้องไหนยังที่ว่างอยู่”

 

 

เมื่อเธอพูดจบ ฟังจือหันก็มองไปยังเจียงฉี่แล้วออกคำสั่งเสียงเย็นเฉียบ “ไปจัดการห้องเงียบสงบให้คุณกูด้วย”