ตอนที่ 254

เสน่ห์คมดาบ

ในโลกเทพเจ้าถือว่าคำของเทพีแห่งแสงเป็นที่สิ้นสุด เทพีแห่งแสงมีหน้าที่ดูแลโลกมนุษย์เท่านั้น ที่นี่มีเทพอยู่มากมาย อย่างเช่นเทพีแห่งความรัก เทพีแห่งโชคลาภ เทพีแห่งโชคร้าย เป็นต้น ผู้กุมอำนาจการปกครองสูงสุดคือศาสนจักรเพรสไบทีเรียน! 

 

 

พระบิดาและพระมารดาไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ พระมารดาหลับลึกไปแล้ว ส่วนพระบิดาก็คอยปกป้องอยู่ข้างๆ ที่จริงพูดว่าคอยยับยั้งไม่ให้นางตื่นขึ้นมามากกว่า เพราะพระมารดาเผด็จการ นางรู้จักเพียงการทำลายล้าง แต่พระบิดาตรงกันข้ามเลย 

 

 

แต่ไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาและพระมารดาอยู่ที่ไหน แม้แต่เพรสไบทีเรียนผู้ปกครองสูงสุดก็ไม่รู้ 

 

 

สำหรับชีอ้าวชวาง ชายวัยกลางคนคิดว่านางเป็นคุณหนู เพราะว่าชุดของชีอ้าวชวางมีราคาแพงมากและไม่มีชุดแบบนี้ในหมู่บ้านบนภูเขาที่ล้าหลังเช่นนี้ มันจะมีเฉพาะในเมืองหรือเมืองห่างไกลเท่านั้น คนรวยจึงจะได้สวมเสื้อผ้าเช่นนี้ คนแบบนั้นเป็นคนชั้นสูงที่พวกเขาที่เป็นชาวบ้านทำให้ขุ่นเคืองใจไม่ได้ การที่เขาจะมีท่าทีเช่นนั้นต่อชีอ้าวชวางจึงไม่ใช่เรื่องแปลก 

 

 

ชีอ้าวชวางได้ข่าวแล้ว นางจึงพาแมวล่าสมบัติลบความทรงจำและคลายเสน่ห์จากนั้นก็เดินจากไป 

 

 

พูดเช่นนี้ก็แสดงว่าอำนาจริเริ่มของสงครามก็อยู่ในกำลังของสิ่งที่ชื่อว่าเพรสไบทีเรียนที่แม้แต่เทพีก็ยังต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา ศาสนจักรเพรสไบทีเรียนเป็นสถานที่แบบใด และใครเป็นผู้สร้างกันนะ? 

 

 

หากอยากรู้เรื่องพวกนี้ ก็ต้องไปที่เมืองศูนย์กลางตามที่ชายวัยกลางคนบอก ที่นั่นจะมีเทวดาชั้นสูงและยังมีที่ที่เทพีและศาสนจักรเพรสไบทีเรียนอยู่ด้วย 

 

 

แต่การไปที่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเมืองนั้นลอยอยู่ในอากาศ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองจึงมีปีกสีขาว มีเพียงเทพีและผู้คนจากศาสนจักรเพรสไบทีเรียนเท่านั้นที่ไม่มีปีก แต่คนแบบนี้ไม่มีใครแอบอ้างได้หรอก 

 

 

ดูท่าทางว่าจะต้องแอบเข้าไปเท่านั้น 

 

 

แต่มีข้อความสำคัญที่ชาวนาลืมพูดออกมา 

 

 

โลกเทพเจ้านี้ประกอบด้วยพื้นที่ขนาดเล็กหลายแห่ง เมืองทั้งหมดต้องไปมาและทั้งหมดต้องอาศัยเครื่องเวทเคลื่อนย้าย นอกเหนือจากการจ่ายค่าธรรมเนียมแล้วก็ต้องมีเหตุผลในการเดินทางระหว่างเมืองด้วย ตัวอย่างเช่นผู้ที่ซื้อขายสินค้าและส่งจดหมายจะต้องมีใบรับรองประจำตัวก่อนจึงจะออกจากเมืองนี้ไปเมืองอื่นโดยใช้เครื่องเวทเคลื่อนย้ายที่มีการป้องกันอย่างระมัดระวังนี้ได้ 

 

 

ชีอ้าวชวางกางปีกเปลวเพลิงและบินข้ามพื้นที่เพาะปลูกแห่งนี้ไป นางมองเห็นหมู่บ้านเล็กๆ จากระยะไกลแล้วข้ามหมู่บ้านเล็กๆ ไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น และยังคงบินต่อไปข้างหน้าจนกระทั่งตรงหน้าปรากฏเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งขึ้น ชีอ้าวชวางก็เก็บปีกและลงไป 

 

 

ที่นอกเมือง มีรถม้าที่หรูหรามากมายขับเข้ามาในเมือง และรอบๆ รถม้านั้นมีทูตสวรรค์แปดปีกสี่องค์พาไปส่งด้วย! 

 

 

ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและคิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากที่ทูตสวรรค์ระดับสูงอย่างทูตสวรรค์แปดปีกจะมาปรากฏตัวในเมืองเล็กๆ เช่นนี้ ตามคำบอกเล่าของชายวัยกลางคน ทูตสวรรค์ผู้ทรงพลังเหล่านี้มักจะไม่ปรากฏตัวในสถานที่เล็กๆ หลังจากได้รับเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์ของเทพี พวกเขาจะไม่มีวันกลับไปบ้านเกิดของเขาอีกเลย อย่างมากที่สุดก็คือการติดต่อทางจดหมาย 

 

 

สายตาของชีอ้าวชวางจับจ้องไปที่รถม้าที่หรูหรามาก เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนบนรถม้านั้นจะไม่ใช่คนปกติ? 

 

 

ชีอ้าวชวางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเดินตามรถม้าไป รถม้าไม่ได้หยุดอยู่ในเมืองแต่ขับผ่านเมืองออกไป 

 

 

ชีอ้าวชวางเดินตามไปอย่างเงียบๆ ถ้าให้ทูตสวรรค์มาคอยติดตามน่าจะไม่ใช่คนธรรมดา ชีอ้าวชวางสังเกตเห็นว่ารถม้ากำลังรีบและใบหน้าของทูตสวรรค์แปดปีกก็ดูเคร่งขรึมเช่นกัน 

 

 

ชีอ้าวชวางทำเพียงแค่ตามอยู่ในระยะไกลๆ ต้องรักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับได้และต้องไม่ให้อีกฝ่ายคลาดสายตาไป 

 

 

หลังจากที่รถม้าขับออกมาเป็นเวลานาน ในที่สุดรถม้าก็หยุดลงในสถานที่ค่อนข้างเปลี่ยว 

 

 

“เทพีแห่งแสง ระวังนะเพคะ” ทูตสวรรค์แปดปีกยื่นมือออกไปที่ประตูรถม้า 

 

 

หัวใจของชีอ้าวชวางสั่นอย่างรุนแรงทันที 

 

 

เทพี?! 

 

 

เทพีแห่งแสง?! 

 

 

เทพีแห่งแสงที่ทำให้นางต้องสูญเสียแคทเธอรีนผู้เป็นแม่น่ะหรือ? 

 

 

เทพีแห่งแสงผู้ทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณของแม่?! 

 

 

คนในรถม้าที่หรูหราตรงหน้านี้คือเทพีแห่งแสงจริงหรือ?! 

 

 

ชีอ้าวชวางมองไปที่รถม้าตรงหน้า เทพีแห่งแสง! ศัตรูของนางอยู่ตรงหน้าแล้วใช่หรือไม่? 

 

 

คนในรถม้าคือเทพีแห่งแสงใช่หรือไม่? 

 

 

ชีอ้าวชวางรู้สึกได้ทันทีว่าการเต้นของหัวใจแรงจนแทบจะหยุดเต้น จิตใจก็ว่างเปล่าและเกิดความรู้สึกที่ไม่บรรยายไม่ได้ขึ้นในใจ จะได้พบกับเทพีแห่งแสงที่นี่จริงหรือ? ควรจะจัดการอย่างไรดี? เข้าไปฆ่านางอย่างโหดเหี้ยม? ทำลายจิตวิญญาณของนางเพื่อที่นางจะได้กลับชาติมาเกิดไม่ได้อีกต่อไป? 

 

 

มือขาวราวกับหิมะค่อยๆ ยื่นออกจากรถม้าและวางมันลงบนมือของทูตสวรรค์แปดปีกและทูตสวรรค์ก็ค่อยๆ ช่วยให้นางลงมาจากรถม้า 

 

 

ชีอ้าวชวางกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำ ศัตรูอยู่ตรงหน้าแล้ว นางจะยับยั้งได้อย่างไร? 

 

 

“ฝ่าบาท พักผ่อนที่นี่สักพักนะเพคะ” ทูตสวรรค์แปดปีกพูดอย่างแผ่วเบาด้วยความเป็นห่วง 

 

 

“อืม” เทพีแห่งแสงส่งเสียงต่ำและร่างนั้นก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของรถม้า 

 

 

หลังจากที่ชีอ้าวชวางได้เห็นการปรากฏตัวของเทพีแห่งแสงอย่างชัดเจน นางก็ตกตะลึง 

 

 

นี่? เทพีแห่งแสงอยู่ที่ไหนล่ะ?! 

 

 

ชีอ้าวชวางจำรูปลักษณ์ของเทพีแห่งแสงได้ชัดเจนมาก แม้ว่าเทพีแห่งแสงจะเผยให้เห็นเพียงรูปลักษณ์ที่เลือนลางแต่ชีอ้าวชวางก็ยังคงตราตรึงและจดจำใบหน้าของนางไว้ในความคิดและในใจตลอด 

 

 

แต่เทพีแห่งแสงตรงหน้านี้แตกต่างจากบุคคลในความทรงจำอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเทพีที่อยู่ตรงหน้าจะงดงามมากแต่ก็ไม่ใช่เทพีแห่งแสงคนก่อนนั้นอย่างแน่นอน! 

 

 

ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ แต่เสียงก็ต่างกัน! 

 

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้น? 

 

 

“ฝ่าบาท ที่นี่ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเพคะ” ทูตสวรรค์แปดปีกพูดปลอบโยนด้วยเสียงต่ำ 

 

 

เทพีแห่งแสงในชุดสีขาวพยักหน้า แต่ใบหน้าที่งดงามของนางก็ยังคงเต็มไปด้วยความกังวลอยู่ดี 

 

 

“เราขอสาบานว่าจะปกป้องเทพีด้วยชีวิต มีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นที่เป็นเทพีแห่งแสงของเรา! แม้ว่าเราจะเหลือคนสุดท้าย เราก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องฝ่าบาท!” ทูตสวรรค์แปดปีกพูดอย่างหนักแน่น ทูตสวรรค์แปดปีกอีกสามคนก็เห็นด้วยอย่างแน่วแน่ 

 

 

ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วด้วยความสับสน ภาพที่อยู่ตรงหน้าหมายความว่าอย่างไร? ฟังจากน้ำเสียงของพวกเขา หรือว่าจะมีเทพีแห่งแสงมากกว่าหนึ่งคน? คนของพวกเขาแต่เดิมมีมากกว่านั้น แต่เป็นเพราะพวกเขาถูกโจมตีเลยเหลือเพียงสี่องค์หรือ? อย่างน้อยชีอ้าวชวางก็มั่นใจได้ว่าเทพีแห่งแสงที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนที่เคยบาดหมางกับนางมาก่อน 

 

 

แล้วเทพีแห่งแสงที่อยู่ตรงหน้าคือใคร? 

 

 

ทูตสวรรค์แปดปีกเหล่านี้พูดอะไรเกี่ยวกับการปกป้องนางด้วยชีวิต เกิดอะไรขึ้น? ใครบางคนมุ่งร้ายต่อเทพีแห่งแสงตรงหน้านี้หรือ? ใครมุ่งร้ายกับพวกเขาล่ะ? 

 

 

ชีอ้าวชวางปกปิดลมหายใจของตัวเองไว้และยืนมองกลุ่มคนที่อยู่ห่างออกไปอย่างเงียบๆ ในหัวก็คิดว่าเกิดอะไรขึ้น 

 

 

ขณะที่ชีอ้าวชวางกำลังคิดเรื่องนี้ก็มีการเคลื่อนไหวอยู่ทางนั้น 

 

 

“คนทรยศ วันนี้เจ้าต้องตาย!” เสียงตะโกนที่หยิ่งผยองดังขึ้นเสียงกระพือปีกกังไปทั่ว ทูตสวรรค์จำนวนมากก็ลงมาจากท้องฟ้า มีทูตสวรรค์แปดปีกและทูตสวรรค์หกปีก ดูอันตรายมาก พวกเขาถือดาบยาวเข้าโจมตีทูตสวรรค์แปดปีกที่กำลังปกป้องเทพีแห่งแสงอยู่ 

 

 

“ปกป้องเทพี!” ทูตสวรรค์แปดปีกที่เป็นหัวหน้าถือดาบอย่างแน่วแน่ 

 

 

“มาริลิน เจ้ากลับไปฟังคำตัดสินกับพวกเราเสียดีๆ!” ทูตสวรรค์แปดปีกที่โจมตีตะโกนมา 

 

 

“บังอาจ เจ้าเรียกชื่อเทพีตรงๆ ได้อย่างไร?” ทูตสวรรค์แปดปีกที่ยืนอยู่ตรงหน้าเทพียกดาบขึ้นมาพบและตะโกน 

 

 

“เหอะ! เทพีอะไรกัน! นางไม่ได้เป็นเทพีแห่งแสงอีกต่อไปแล้ว! พวกเจ้ากล้าท้าทายการตัดสินของเพรสไบทีเรียนหรือ!” ทูตสวรรค์แปดปีกที่ที่เพิ่งได้จู่โจมใส่ทูตสวรรค์แปดปีกที่อยู่ตรงหน้าเทพี 

 

 

มีการต่อสู้ที่วุ่นวายและดุเดือดเกิดขึ้น ทูตสวรรค์แปดปีกทั้งสี่ก็ปกป้องเทพีอย่างแน่นหนา 

 

 

แต่ท้ายที่สุดแล้วอย่างไรอีกฝ่ายก็มีจำนวนมากกว่า จึงค่อยๆ เสียเปรียบ พวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บด้วย และทุกคนอยู่ในสถานการณ์ลำบาก 

 

 

ชีอ้าวชวางมองไปที่ฉากตรงหน้าอย่างครุ่นคิด 

 

 

ดูเหมือนว่าจะมีความขัดแย้งภายในของโลกเทพเจ้า เทพีแห่งแสงที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เทพีแห่งแสงที่เคยรู้จัก และเทพีแห่งแสงไม่ใช่ชื่อ มันเป็นเพียงแค่ชื่อตำแหน่งเท่านั้น 

 

 

เทพีแห่งแสงตรงหน้าดูเหมือนจะขัดแย้งกับเพรสไบทีเรียนเหล่านั้น บุคคลที่ริเริ่มสงครามปกติแล้วคือผู้ปกครองสูงสุดโลกเทพเจ้า…เพรสไบทีเรียน เทพีแห่งแสงที่อยู่ตรงหน้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพวกเขาจึงถูกไล่ล่างั้นหรือ? 

 

 

ช่วยหรือไม่ช่วยดี? 

 

 

ศัตรูของศัตรูคือมิตร 

 

 

บางทีเทพีชื่อมาริลินนี้ก็อาจจะใช้งานได้ 

 

 

แม้ว่าจะใช้งานไม่ได้ เช่นนั้นช่วยแล้วค่อยฆ่าก็ได้เหมือนกัน 

 

 

ชีอ้าวชวางนึกถึงเรื่องนี้ ร่างก็กะพริบและเหลือเพียงร่องรอยเท่านั้น 

 

 

ในเมื่อจะช่วยก็ต้องละเอียดถี่ถ้วน 

 

 

ทันใดนั้นแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นและอาวุธเทพเจ้าก็ยิงอีกครั้ง 

 

 

มาริลีนรู้สึกเพียงมีประกายตรงหน้าและแสงสีทองก็ยังคงกะพริบ จากนั้นนางก็เห็นทูตสวรรค์ที่โจมตีนางตกลงมา ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ใช่แค่ตกลงไปทั้งหมด แต่ถูกตัดออกเป็นสองท่อนด้วย! 

 

 

ทูตสวรรค์ที่โจมตีพวกเขาต้านทานไม่ได้เลย 

 

 

นี่คือการสังหารหมู่ การสังหารหมู่ที่นองเลือดและโหดเหี้ยมมาก 

 

 

มาริลินมองหญิงสาวในชุดที่สวยงามด้วยความประหลาดใจ คนคนนั้นมีใบหน้าที่สวยงาม มีปีกเปลวไฟสีทองคู่หนึ่งที่หลังและถือดาบยาวสีทอง และแกว่งดาบอย่างไม่ใส่ใจ ร่างของทูตสวรรค์ยังคงล้มลงไป แต่สิ่งที่ไม่สอดคล้องกับฉากนองเลือดนี้คือลูกแมวสีขาวตัวเล็กตัวหนึ่งเกาะอยู่บนหลังของหญิงสาว ลูกแมวน่ารักดูเหมือนไม่เข้ากับการเข่นฆ่านองเลือดนี้เลย 

 

 

“เจ้าเป็นใคร? เจ้ากล้ามาขัดขวางการทำงานของเพรสไบทีเรียนงั้นหรือ?!” ทูตสวรรค์แปดปีกตะโกนด้วยความโกรธ แต่เสียงที่สั่นเล็กน้อยเผยถึงความกลัวในใจ เขาไม่เคยเห็นศัตรูที่น่ากลัวเช่นนี้เลยเลือดเย็น โหดร้ายและดุร้ายมาก 

 

 

คำตอบก็คือประกายดาบสีทองที่ดุร้าย! การฆ่าด้วยการจัดการเพียงครั้งเดียว! 

 

 

ทูตสวรรค์ทั้งสี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้ามาริลินมองไปที่ชีอ้าวชวางที่บินอยู่บนท้องฟ้าอย่างตะลึง