บทที่ 158
ทันใดนั้น เข้าใจความหมายในคำพูดเฉินโม่ อดอุทานออกมาอย่างตกใจไม่ได้ “อะไรนะ!”
“ทำลายแล้วเหรอครับ”
เฉินซงจื่อกับซังซัง มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าตกใจ รับไม่ไหวจริงๆ เฉินโม่เพิ่งออกไปไม่กี่ชั่วโมง พวกเขาเข้าใจว่าเฉินโม่ออกไปหาข้อเท็จจริงของตระกูลหลิน แต่หลังจากเฉินโม่กลับมา จู่ๆ ก็บอกพวกเขาว่าทำลายตระกูลหลินแล้ว!
เฉินซงจื่อยิ้มแหย เดาว่าทั้งโลกนี้ คงมีแค่อาจารย์อายุน้อยของเขา ที่สามารถพูดคำว่าทำลายทั้งตระกูลอย่างสบายๆ เหมือนซื้อผัก
เฉินซงจื่อกับซังซัง แววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง แต่ไม่ได้ถามอีก กลัวว่าถามต่อไป คืนนี้พวกเขาสองคนจะนอนไม่หลับ พวกเขายิ้มแหยในใจ ดูเหมือนต่อไปตอนปฏิบัติกับเฉินโม่ คงไม่สามารถตัดสินได้ด้วยสายตาของคนธรรมดา
เอียนชิงเฉิงนั่งเงียบๆ กลับเงียบจนผิดปกติ นี่ทำให้เฉินโม่สงสัย วันนี้ท่าทีของเอียนชิงเฉิง ไม่เหมือนนิสัยของเธอเลย
แต่เฉินโม่ไม่ได้คิดอะไรมาก ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้กลับอู่โจวกัน!”
เช้าวันต่อมา พวกเฉินโม่ทั้ง 4 คน นั่งรถกลับอู่โจว
กลับมาถึงลานชุมชนเมือง จู่ๆ เอียนชิงเฉิงทำอะไรบางอย่าง เป็นการกระทำที่ทำให้ซังซังกับเฉินซงจื่อตกใจมาก
เฉินโม่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้อง เอียนชิงเฉิงที่งดงามไร้ที่ติ คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น สีหน้าจริงจัง “เฉินโม่ ฉันจะให้นายเป็นอาจารย์ฉัน!”
เฉินโม่มองเอียนชิงเฉิงนิ่งๆ เหมือนรู้นานแล้วว่าเอียนชิงเฉิงจะทำเช่นนี้ “ทำไมล่ะ”
แววตาเอียนชิงเฉิงดูใฝ่ฝันหา “ฉันอยากกุมชะตาชีวิตตัวเอง”
แววตาเฉินโม่ฉายแววสับสน ยิ้มแหยในใจ “กุมชะตาชีวิตเหรอ มันไม่ง่ายเหมือนที่พูด!”
แม้ยิ่งใหญ่แบบเขา หรือเป็นพวกจักรพรรดิเซียนที่ฝึกฝนจนได้พลังวิเศษ ก็ไม่สามารถพูดว่ากุมชะตาชีวิตตัวเองได้ บางทีคนที่กลายเป็นกษัตริย์เซียน กลายเป็นหนึ่งในใต้หล้า ถึงจะสามารถกุมชะตาชีวิตตัวเองได้อย่างแท้จริง
แต่เฉินโม่รู้ว่า ชะตาชีวิตที่เอียนชิงเฉิงพูดถึง ไม่เหมือนกับชะตาชีวิตที่เขาเข้าใจ
เฉินโม่ไม่ได้ตอบเธอ เพราะเส้นทางสายนี้ ใช่ว่าใครก็สามารถเดินได้ ต้องทุ่มเทอย่างมาก มันยิ่งใหญ่จนคนธรรมดา ไม่สามารถจินตนาการได้
ชีวิตคนธรรมดาสั้นเพียงร้อยปี สุข-ทุกข์ พบ-พราก เกิด-แก่ เจ็บ-ตาย ดูเหมือนจะสั้น แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างเต็มที่
แต่เมื่อเข้าสู่เส้นทางบำเพ็ญเซียน แม้มีพลังข้ามพ้นโลกีย์สู่เส้นทางอริยา แต่ต่อไปต้องเห็นคนสนิทและเพื่อน แก่ตัวลงเรื่อยๆ อาจเพราะเก็บตัว ไม่ติดต่อกับโลกภายนอกเพียงครั้งเดียว ทำให้คนคุ้นเคยและสิ่งรอบกาย เปลี่ยนแปลงแบบที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ถ้าไม่ใช่เพราะชาติที่แล้ว เฉินโม่ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว บางทีเขาอาจไม่เลือกเส้นทางบำเพ็ญเซียนก็ได้ ถึงแม้เลือกเส้นทางบำเพ็ญเซียน ก็อาจตายไปบนโลกบำเพ็ญเซียน ที่มีกฎแห่งธรรมชาติ ซึ่งผู้เข้มแข็งที่สุดจึงจะอยู่รอด
เอียนชิงเฉิงเป็นแค่คนธรรมดา ที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกมา 18 ปี ไม่ต้องรอให้เธอได้เจอหลักการอันโหดร้ายของโลกบำเพ็ญเซียนอย่างสมบูรณ์แบบ กลัวว่าคงตายไปตั้งนานแล้ว
เฉินโม่ไม่อยากให้เอียนชิงเฉิง ก้าวสู่เส้นทางนี้ ใช้ชีวิตธรรมดาๆ ก็ดีเหมือนกัน
“อยากให้ฉันเป็นอาจารย์ ต้องทุ่มเทมากมาย มากจนเธอไม่สามารถจินตนาการได้” เสียงเฉินโม่ มาพร้อมกับความเย็นยะเยือก เหมือนผู้อาวุโส ที่ผ่านโลกมากอย่างโชกโชน
เอียนชิงเฉิงมองเฉินโม่อย่างดื้อรั้น “ฉันต้องทุ่มเทอะไร”
เฉินโม่จ้องเอียนชิงเฉิง เหมือนจะมองในใจเธอ “ทุ่มเทด้วยอิสระของเธอ ศักดิ์ศรีของเธอ แม้กระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ!”
เอียนชิงเฉิงหน้าแดง มองเฉินโม่อย่างโมโห “ไร้ยางอาย!”
เฉินโม่อึ้งไป และยิ้มขมขื่นออกมา เขารู้ว่าเอียนชิงเฉิงเข้าใจผิดแล้ว แต่เขาไม่คิดจะอธิบาย ถ้าเอียนชิงเฉิงต้องการจะก้าวสู่เส้นทางบำเพ็ญเซียนจริงๆ สิ่งที่เธอต้องจ่ายนั้น โหดร้ายกว่าที่เธอคิดไว้มาก
เอียนชิงเฉิงลุกขึ้นยืน จ้องเฉินโม่ ดวงตาฉายแววแน่วแน่ “ฉันไม่ยอมแพ้หรอก ขอเวลาฉันคิดก่อน”
เฉินโม่จิตใจวูบไหว เขารู้สึกว่าตัวเองประมาทความเด็ดขาดของเอียนชิงเฉิงไปหน่อย แต่มีแค่ความเด็ดขาดก็ไร้ประโยชน์ การบำเพ็ญเซียนไม่ใช่เพื่อได้รับพลังอันแข็งแกร่ง ไม่ใช่เพื่อฆ่าคน แต่คือการทำลายกฎของธรรมชาติ
ทำเรื่องที่ทำลายกฎธรรมชาติอย่างแท้จริง!