ที่เผิงกางกล้าเผชิญหน้ากับลั่วปิงต่อหน้าคนหมู่มาก ก็เพราะมีคนคอยหนุนหลังอยู่
ตอนนี้เห็นลั่วปิงมีอำนาจแบบนี้ เขาจึงรู้สึกค่อนข้างผวา
และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ลั่วปิงจัดการ์ดสองคนเพื่อมาคาดคั้น
คนอื่นก็ไม่คาดคิด เดิมทีที่สงสัยว่าฉินยีกับลั่วปิงคบกัน ตอนนี้ดูๆแล้ว สิ่งที่เผิงกางอาจไม่เป็นความจริง
“ลั่วปิง แกคิดจะทำอะไร? จะบอกให้นะ อย่าคิดว่าขู่ฉัน แล้วจะปกปิดเรื่องน่าขยะแขยงที่แกทำไว้ได้”
เผิงกางตกใจจนรีบยืนขึ้น พลางตะคอกใส่ลั่วปิง พลางเดินถอยหลังไปไม่หยุด คิดหาทางหนี
ถ้าเผิงกางหมิ่นประมาทเขากับคนอื่นก็แล้วไป แต่ดันลากฉินยีเข้ามาด้วย ดังนั้นเขาจึงกล้าเล่นใหญ่กับเผิงกาง
การ์ดสองคนนั้นเป็นยอดฝีมือที่ทางบริษัทจ้างในราคาสูง แล้วเผิงกางจะหนีไปได้อย่างไร?
เขาถูกการ์ดสองคนบีบเข้าอยู่ตรงกลาง ถูกหมัดต่อยเข้าที่ตาซ้าย จนเข้าร้อง“โอ๊ย”ด้วยความเจ็บปวดขึ้นมา ยังไม่ทันได้จับเบ้าตา ก็ถูกการ์ดทั้งสองคนหนึ่งหิ้วปีกซ้ายคนหนึ่งหิ้วปีกขวา พามาที่ข้างหน้าของลั่วปิงโดยตรง
“บอกมา ใครกันแน่ บงการแกให้ทำแบบนี้?” ลั่วปิงหน้าตาเลือดเย็น
ตาซ้ายของเผิงกางฟกช้ำรอบๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด ดูๆแล้วกระเซอะกระเซิงมาก
“ลั่วปิง แกทำร้ายในที่สาธารณะ เพื่อจะคาดคั้น? ฉันจะฟ้องแก! ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ! ฟ้องแก แต่งตั้งคนด้วยความมิชอบ!!” เผิงกางดิ้นรนอย่างเกรี้ยวกราด
“ดูๆแล้ว แกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ตัดนิ้วมันออกหนึ่งนิ้วให้ฉัน”
ลั่วปิงดูแคลน “ถ้ายังไม่พูดอีก ก็ค่อยตัดเพิ่มอีกหนึ่ง ถ้าไม่มีนิ้วมือสอบนิ้วแล้ว ค่อยตัดนิ้วเท้า ถ้านิ้วเท้าไม่เหลือแล้ว ก็ยังมีแขนขา ฉันไม่เชื่อว่าแกจะไม่พูดอะไรเลยสักอย่าง”
ที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป การเป็นผู้จัดการทั่วไปของสาขาเจียวโจวได้นั้น ถ้าไม่มีอุบายอะไรเลย จะเป็นตำแหน่งนี้ได้อย่างไร?
เมื่อคำขู่หลุดออกมาจากปาก ทำให้เผิงกางเกือบฉี่ราด สั่นไปทั้งตัว
”ลั่วปิง แกห้ามทำอะไรฉันนะ มิเช่นนั้นแกจะเสียใจ” เผิงกางตะคอกเสียงดังออกมา
”ลงมือ!”
ลั่วปิงออกคำสั่ง
“แกร็ก!”
“อ้า……”
เดิมทีคิดว่าลั่วปิงแค่ขู่เผิงกางเท่านั้น แต่ใครก็ไม่คาดคิด ว่าลั่วปิงจะสั่งการ ให้ตัดนิ้วของเผิงกางต่อหน้าผู้คนจริงๆ
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนรู้สึกขนลุกชูชัน ฉินยีก็หน้าซีด มือทั้งสองข้างจับแขนของซุนเถียนที่อยู่ข้างๆอย่างแน่น
พนักงานส่วนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเป็นระดับล่างสุด จะเคยเห็นการนองเลือดแบบนี้มาก่อนที่ไหนกัน คนหมู่มากหวาดกลัวจนหน้าซีดไปหมดแล้ว
มันดูไม่ดีจริงๆ แต่ลั่วปิงรู้ดี ว่าเขาต้องทำแบบนี้ จึงขจัดความเข้าใจผิดที่คนอื่นคิดต่อฉินยีได้
ถ้าจัดการหลังจากการประชุม เขามีวิธีฆ่าเผิงกางร้อยแปดพันเก้า แต่ต่อให้รู้ความจริง ถึงตอนนั้นจะมีใครเชื่อความบริสุทธิ์ของฉินยีละ?
หยางเฉินพยายามให้เขาเลื่อนขั้นให้ฉินยี แต่ไม่ใช่เสียสละความบริสุทธิ์ของตัวเอง
เขารู้วิธีของหยางเฉินดีมาก ถ้าจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี หยางเฉินไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่
“ฉันจะถามแกอีกครั้ง ใครกันแน่บงการแกให้ทำแบบนี้?”
ลั่วปิงถามอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงสงบ เหมือนกับกำลังคุยเรื่องงานอย่างสบายๆ
แต่ผู้คนก็รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของลั่วปิง ในห้องเงียบสงัดลง ไม่มีใครก็พูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย
“ลั่วปิง มีปัญญาแกก็ฆ่าฉันเสียสิ……อ้า……”
เผิงกางยังคงปากแข็ง ยังพูดไม่ทันจบ ลั่วปิงแค่ส่งสายตา การ์ดก็ได้ตัดนิ้วที่สองของเผิงกางออก
“ดูๆแล้ว การลงโทษของฉันยังเบาไป ไม่งั้นแกก็คงไม่ปากแข็งขนาดนี้”
ลัวปินหัวเราะ แล้วกล่าวขึ้นทันใด “ถ้าคำตอบของแกทำให้ฉันพอใจไม่ได้ ครั้งหน้าเริ่มตัดจากแขนขาของแกก่อนก็แล้วกัน”
“พูดมา ใครบงการแกให้ทำแบบนี้?”
ลั่วปิงถามอีกครั้ง
เผิงกางถูกตัดนิ้วสองนิ้วติดต่อกัน เจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตต่อไปตั้งนานแล้ว
การ์ดเพิ่งจะจับไปที่แขนเขา และแล้วเขาก็กลัวขึ้นมา “ฉันพูด! ฉันพูด!”
“คือเฉินไห่ เขาเป็นคนเอารูปพวกนี้ให้ฉัน ให้ฉันใส่ร้ายแกต่อหน้าทุกคน จากนั้นข่าวนี้ก็จะแพร่สะพัดออกไป ถึงตอนนั้นชื่อเสียงของสาขาเจียงโจวก็จะเน่าเฟะสุดๆ เพียงแค่ฉันทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จ เขาจะเลื่อนขั้นให้ฉันไปรับตำแหน่งที่สำนักงานใหญ่”
“ประธานลั่ว ผมถูกบังคับ เฉินไห่บอกว่าถ้าผมไม่ทำ ก็จะไล่ผมออกจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ยังไงเขาก็เป็นรองผู้จัดการของสำนักงานใหญ่ ผมไม่กล้าขัดคำสั่งหรอก!”
เผิงกางตกใจจริงๆ ไม่กล้าปิดบังแม้แต่นิดเดียว แล้วยังหยิบมือถือขึ้นมา “อ้อ ประธานลั่ว ผมบันทึกคลิปเสียงสนทนาเอาไว้”
เขาพูดจบ ก็ได้เปิดคลิปเสียง ประโยคสนทนาดังขึ้น เหมือนกับที่เผิงกางพูดทั้งหมด อีกฝั่งข่มขู่เขาให้ทำเรื่องนี้จริงๆ
จนกระทั่งตอนนี้ ความจริงเพิ่งจะปรากฏออกมา เดิมทีพนักงานที่หมิ่นประมาทลั่วปิงในใจ ก็ได้รู้ชัดเจนขึ้นมาทันใด
ฉินยีน้ำตาคลอเบ้า เพิ่งจะเข้าใจ ว่าอีกนิดตัวเองจะเป็นเหยื่อในการแย่งอำนาจระดับสูงของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเสียแล้ว
“ในเมื่อความจริงปรากฏ งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกก็ไสหัวออกไปจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเสีย!” ลั่วปิงตัดสินใจทันที
“ประธานลั่ว ทุกๆเดือนผมยังมีภาระผ่อนบ้านอีกหลายหมื่น ในครอบครัวก็ยังมีพ่อแม่และลูกที่ต้องเลี้ยงดู ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะนะ ผมผิดไปแล้วจริงๆ”
เผิงกางร้อนรนขึ้นมาทันใด คุกเข่าอ้อนวอนต่อลั่วปิง
แม้เขาจะเป็นแค่หัวหน้าแผนกการขาย แต่ผลตอบแทนของบริษัทดีมาก หักความคุ้มครองห้าอย่างออกไป ทุกๆเดือนจะมีรายได้หลายหมื่น
เพิ่งจะย้ายไปคฤหาสน์เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้ทุกๆเดือนต้องผ่อนชำระหลายหมื่น
ภารกิจที่เฉินไห่สั่งมาทำไม่สำเร็จ ความหวังที่จะไปส่วนกลางก็เป็นศูนย์ ถ้าลั่วปิงจะไล่เขาออก เขาจะไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ แม้แต่ค่าบ้านก็ผ่อนไม่ไหว
“ทำผิด ก็ต้องได้รับการลงโทษ ฉันไม่แจ้งความ เพียงแค่ให้แกออกจากบริษัท ก็ถือว่าเมตตากรุณาสุดๆแล้ว ถ้าแกยังยืดเยื้อ งั้นฉันจะแจ้งความแล้วนะ” ลั่วปิงกล่าวอย่างเฉยชา
ได้ยินว่าจะแจ้งความ เผิงกางก็ตกใจขึ้นมา ยังไงเขาก็ใส่ความต่อหน้าประชาชี หลักฐานแน่น จะกลายเป็นทำผิดกฎหมายได้
ถ้ามีคดีความ ชาตินี้เขาอย่าหวังที่จะหาตำแหน่งงานอย่างตอนนี้ได้อีกต่อไป
เขาทำได้เพียงออกจากบริษัท
ทันใดนั้นในห้องประชุมก็เงียบสงัดลงอีกครั้ง ลั่วปิงมองไปรอบๆ แล้วกล่าว “เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ หวังว่าทุกคนจำหลาบจำ ถ้ามีใครทำผิดอีก ผมจะฟ้องในนามบริษัท เลิกประชุม!”
ลั่วปิงเพิ่งจะมาถึงห้องทำงาน ก็พบว่าหยางเฉินได้มาถึงแล้ว เขารีบรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ฟังอย่างรวดเร็ว
ดวงตาทั้งสองของหยางเฉินเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “ดูๆแล้ว พวกมอดทั้งหลายที่สำนักงานใหญ่ จะต้องจัดการให้ราบคาบสักครั้งแล้ว”
“ท่านประธาน ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เฉินไห่เป็นเพียงรองผู้จัดการกรุ๊ปเท่านั้น แต่กลับจะล้มสาขาเจียงโจว มันไม่ค่อยมีเหตุผลสักเท่าไหร่” ลั่วปิงพูดการคาดเดาของตัวเองออกมา
“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ คุณจัดการได้ดีมาก เรื่องของส่วนกลาง คุยไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมจะจัดการด้วยตัวเอง”
หยางเฉินเข้าใจถึงความคิดของลั่วปิง จึงได้เตือน จากนั้นก็ได้กล่าวอีกว่า “ตอนนี้เป็นช่วงที่ผมต้องการคนช่วย เพียงแค่คุณจงรักภักดี ผมไม่มีทางปฏิบัติไม่ดีกับคุณแน่นอน”
เมื่อได้ยิน ลัวปินดีใจ รีบกล่าว “ท่านประธาน คุณวางใจได้ ผมไม่มีทางทำให้คุณผิดหวัง!”
เดิมทียังกังวลว่าวิธีเมื่อกี้รุนแรงเกินไป ไม่คาดคิดว่าหยางเฉินจะพอใจมาก แล้วยังบอกเป็นนัยว่าเขาคือคนของหยางเฉิน นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นมาก
“ประธานลั่ว ไม่ได้การละ เผิงกางตายแล้ว!”
ในขณะเดียวกันนี้เอง มีคนพุ่งเข้ามา กล่าวด้วยความหวาดกลัว
“อะไรนะ? มันตายแล้ว? ตายยังไง?”
ลั่วปิงยืนขึ้นอย่างเร็ว ด้วยความตกใจ