ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 21

นางข้าหลวงหยางโกรธจนแทบจะทรุดลงไป นางอยู่ในวังมาหลายปี ได้รับความเคารพอย่างดีมาโดยตลอด และไม่เคยโดนรังแกเช่นนี้เลย นางดึงคำสั่งของฮองเฮาออกมาจากแขนเสื้อ กล่าวเสียงดัง “รีบนำคำสั่งนี้ส่งไปให้นายท่านของพวกเจ้าซะ หากชักช้าแล้วล่ะก็ ถึงแม้นายท่านของพวกเจ้าจะมีสักร้อยหัวก็คงไม่พอให้ตัดหรอกนะ”

เซี่ยฉวนยิ้มอย่างเย้ยหยัน หยิบคำสั่งขึ้นมาจากพื้น กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดี ข้าจะส่งคำสั่งนี้ไปให้ถึงมือนายท่าน ดูซิว่าใครจะหัวขาดก่อน…”

เมื่อเปิดคำสั่งออกมาดูก็เห็นตราประทับของฮองเฮา สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที รีบออกคำสั่ง “ปล่อยนางไป เร็วเข้า!”

ลูกน้องปล่อยตัวนางข้าหลวงหยาง และมองไปที่เซี่ยฉวนอย่างสงสัย

เซี่ยฉวนหน้าซีดด้วยความตกใจ ถามออกไปอย่างหวาดหวั่น “ไม่ทราบว่าท่านคือ?”

นางข้าหลวงหยางกัดฟันแน่น ยื่นมือออกมาลูบใบหน้าที่เพิ่งจะถูกเขาตบเมื่อครู่นี้ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ข้าคือ แม่นมหยางเป็นนางข้าหลวงข้างกายฮองเฮา ข้าได้พบกับเหล่าฟูเหรินของพวกเจ้าหลายครั้งแล้ว ช่วยเชิญนางออกมาคุยกับข้าได้หรือไหม?”

เซี่ยฉวนหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ครั้งนี้ซวยแล้วจริง ๆ ลงมือตบคนข้างกายของฮองเฮา เกรงว่ายากที่จะทำให้คลื่นลมสงบลงได้

เขารีบตอบทันที “ขอเชิญแม่นมหยางไปรอที่ห้องโถงก่อนสักครู่”

เมื่อพูดจบ เขาก็โค้งคำนับ “แม่นมหยางโปรดระงับความโกรธก่อน คนรับใช้ได้นำความไปแจ้งเหล่าฟูเหรินกับนายท่านให้แล้ว ”

เหล่าฟูเหรินและมหาเสนาบดีเซี่ยยังอยู่ในห้องโถงใหญ่ กำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดการเรื่องนี้อยู่

เห็นเซี่ยฉวนที่รีบร้อนเดินเข้ามา มหาเสนาบดีเซี่ยก็เลยถาม “ไล่ไปแล้วใช่หรือไหม?”

ใบหน้าของเซี่ยฉวนซีดขาวยื่นคำสั่งออกไป “นายท่าน ดูเหมือนว่านางจะเป็นข้ารับใช้ข้างกายของฮองเฮาจริงๆ“

เหล่าฟูเหรินตกใจ “อะไรนะ?”

“เหล่าฟูเหริน นางคนนั้นบอกว่านางคือ แม่นมหยาง อีกทั้งยังบอกว่ารู้จักกับท่าน“ เซี่ยฉวนกล่าวออกไปอย่างหวั่น ๆ

เหล่าฟูเหรินทรุดตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้ “แม่นมหยาง? แย่แล้ว นางเป็นคนข้างกายฮองเฮาจริง ๆ”

มหาเสนาบดีเซี่ยอ่านคำสั่งนั้น ถามด้วยสีหน้าจริงจัง “แล้วต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรกันดี?”

เหล่าฟูเหรินไม่ทันได้ตอบอะไร เห็นคนรับใช้รีบร้อนเข้ามา “เหล่าฟูเหริน นายท่าน คุณหนูใหญ่อาละวาดอีกแล้ว นางผลักหลิงหลงฟูเหรินล้มลงไปที่พื้น”

เหล่าฟูเหรินตาเบิกโพลง “อะไรนะ? นางยังไม่ถูกวางยาอีกเหรอ?”

เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้จะใส่พิษไม่มากนัก อย่างมากก็ทนได้ชั่วขณะนึงเท่านั้น เวลานี้ควรจะต้องตายเพราะพิษไปแล้วนี่

มหาเสนาบดีเซี่ยก็ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก เอ่ยถามเหล่าฟูเหริน “ท่านแม่ ก่อนหน้าก็มีผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิมารับตัวนางไป หากวันนี้ฮองเฮาสั่งคนให้มารับตัวนางไปอีก ท่านคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องอันใดกัน?”

เหล่าฟูเหรินเองก็ทำอะไรไม่ถูก หากฮองเฮาสั่งคนให้มา เป็นไปได้ว่าต้องการข่าวการตายของใครบางคน

แต่ว่าผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิกับฮองเฮาไม่ลงรอยกันนี่ แล้วเขาจะสั่งให้คนมารับตัวนางไปเพื่ออะไร ทั้งยังระบุด้วยว่าให้พาตัวไปเข้าวัง

“มานี่ พยุงตัวคุณหนูใหญ่ขึ้นมา!” เหล่าฟูเหรินรู้สึกว่าวันนั้นที่จื่ออานถูกนำตัวเข้าวังไป จะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ๆ นางประมาทเกินไปจริง ๆ ไม่ได้เข้าใจสถานการณ์แน่ชัด

จื่ออานถูกลากตัวขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เปื้อนเลือด นางเริ่มขัดขืนหลิงหลงฟูเหริน แต่กำลังไม่เพียงพอ ทั้งยังไม่อาจใช้แหวนแห่งจิตวิญญาณมากจนเกินไป เพราะอีกประเดี๋ยวถ้าฮองเฮาสั่งให้คนมารับตัวอีก เข้าวังไปแล้วนางจะต้องได้ใช้แหวนนี่เป็นแน่

แหวนนี้ยังมีพลังอยู่มากมาย ทว่า นางไม่อาจเสี่ยงได้ จะต้องมั่นใจว่าพอเข้าวังไปแล้วจะไม่มีอันตรายใด ๆ

ดังนั้น สุดท้ายนางก็โดนคนใช้ลากตัวไป ก้าวไปข้างหน้าก็ถูกทุบตีหนึ่งครั้ง เสี่ยวซุนเองก็ถูกทุบตีอย่างหนัก ตอนที่จืออันถูกลากตัวออกไป เสี่ยวซุนก็ได้หมดสติไปแล้ว

”เหล่าฟูเหรินเห็นใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยเลือดของจื่ออานแล้ว ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร กล่าวถามเสียงดัง” พูดมา วันนั้นที่เจ้าเข้าวัง ฮองเฮารับสั่งอะไรกับเจ้ากันแน่?”

จื่ออานที่ได้ยินคำถามนี้ ปล่อยตัวทรุดลงที่พื้น นางหัวเราะอย่างหนัก เป็นการเย้ยหยัน ทำให้มหาเสนาบดีเซี่ยโมโหมาก เขากล่าว “นังลูกทรพี เจ้าหัวเราะอะไร รีบตอบข้ามาเดี๋ยวนี้!”