ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 22

ทางด้านแม่นมหยางก็รอจนรู้สึกกังวล นางไม่สนคนใช้ที่เข้ามาขัดขวาง เดินมาถึงห้องโถงใหญ่ เห็นมหาเสนาบดีเซี่ยเหยียบจื่ออานที่พื้นพอดี นางอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “อะไรกัน ท่านมหาเสนาบดี นั่นคือลูกสาวแท้ ๆของท่านนะ”

เลือดไหลรินลงมาจากหางตาของจื่ออาน ผ่านม่านแดงฉานนี้ นางมองเห็นใบหน้าแม่นมหยาง นางถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ก้มศีรษะลงไปไร้ซึ่งเรี่ยวแรง นางค่อย ๆ ยื่นมือออกมากุมที่หน้าอก ปล่อยพลังจากแหวนเข้าไปในหัวใจเล็กน้อย

กระแสไฟฟ้าจากแหวนที่ช็อตลงมา ทำให้นางตื่นตัวในช่วงเวลาสั้น ๆ และรวบรวมพลังงานในร่างกายขึ้นมาได้ วิธีนี้เท่ากับว่านางได้รับความแข็งแกร่งทางร่างกายมาใช้ล่วงหน้า แต่ว่านางก็ไร้ซึ่งหนทางแล้ว ได้แต่ทำอย่างนี้เท่านั้น

เมื่อมหาเสนาบดีเซี่ยเห็นแม่นมหยางมาถึง ก็ขยับเท้าออกอย่างทุลักทุเล วางตัวไม่ถูก

ยังคงเป็นเหล่าฟูเหรินที่รู้ระเบียบ นางยืนขึ้นยิ้มต้อนรับ “แม่นมหยาง ไม่ได้เจอกันเสียนาน ท่านยังคงไม่ลืมที่จะห่วงใย และมาเยี่ยมเยียนหญิงชราเช่นข้า”

แม่นมหยางเดินเข้ามาด้านใน เหลือบมองไปที่เหล่าฟูเหรินเล็กน้อย แล้วกล่าว “มิกล้า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่จะผ่านประตูเข้ามาในจวนมหาเสนาบดีแห่งนี้ได้ ก่อนจะเข้ามาจะต้องโดนตบเสียก่อน”

เมื่อพูดจบ ก็มองไปที่เซี่ยฉวนด้วยแววตาที่แสนเย็นชา

เซี่ยฉวนตกใจมากรีบก้มหัวลงอย่างไว ไม่กล้าเอ่ยคำใด ๆ

เหล่าฟูเหรินตกใจ “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ยังมีคนกล้าที่จะไม่ใส่ใจละเลยต่อแม่นมหยางอย่างนั้นเหรอ?”

พูดจบ นางก็ตะคอกเสียงดัง “เซี่ยฉวน เกิดอะไรขึ้น?”

เซี่ยฉวนคุกเข่าที่พื้นดังตุบ “เหล่าฟูเหรินโปรดให้อภัยด้วย แม่นมได้โปรดยกโทษให้ข้าน้อย ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร มีตาหามีแววไม่ นึกว่าท่านเป็นพวกต้มตุ๋นเสียได้”

แม่นมหยางโบกมือ “ช่างเถอะ ข้าไม่จู้จี้จุกจิกกับพวกเจ้าให้มากความ ที่ฮองเฮาให้ข้าออกมา ก็เพื่อนำตัวจื่ออานเข้าวัง”

เมื่อมองดูสถานการณ์ของจื่ออานขณะนี้ นางขมวดคิ้วแล้วถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี เหตุใดใบหน้าถึงเปื้อนไปด้วยเลือด? หน้าตาเป็นเช่นนี้แล้ว จะไปเข้าเฝ้าฮองเฮาที่วังได้อย่างไร?”

เหล่าฟูเหรินเห็นว่าแม่นมหยางไม่ไว้หน้านางเลยสักนิด ในใจก็รู้สึกแย่ นางดึงตัวแม่นมหยางมา แล้วซุกตั๋วเงินเข้าในแขนเสื้อนาง “อภัยให้ข้าด้วย ไม่ทราบว่าฮองเฮาให้นางเข้าวังไปด้วยเรื่องอันใดหรือท่าน?”

แม่นมหยางเข้าใจความหมายดี นางเก็บตั๋วเงินไว้ น้ำเสียงก็เบาลงเช่นกัน “ที่ฮองเฮาต้องการพบตัวนาง แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องสำคัญ”

นางโน้มตัวไปถามจื่ออาน “เจ้าเข้าวังไหวไหม?”

จื่ออานเช็ดเลือดออกจากใบหน้า แล้วตอบกลับแม่นม “ไหว!”

“อืม ดี รถม้ารออยู่ที่ปากทางเข้า” แม่นมหยางกล่าว

จื่ออานลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก แม่นมหยางเอื้อมมือไปพยุงเธอขึ้นมา จื่ออานพูดเสียงค่อย “ขอบคุณแม่นม!”

แม่นมหยางที่อยู่ใกล้จนมองเห็นบาดแผลบนใบหน้า และบนศีรษะของนาง แม้จะเคยชินกับการเห็นการทารุณกรรมทุกรูปแบบในวังมาแล้ว แต่ใจลึก ๆ ก็ยังคงรู้สึกหนาวสั่น เพราะว่าคนที่ลงมือกับนาง ล้วนเป็นญาติสนิททั้งนั้น

ดังนั้น แม่นมหยางจึงอยากช่วยเหลือนางสักนิด สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นช่วยประคองตัวนาง แล้วพูด “ไปกันเถอะ!”

จื้ออานพูดขัด “รอก่อน!”

เธอหันหน้ากลับมา มองไปที่เหล่าฟูเหริน แล้วพูด “ท่านย่า สาวใช้ข้างกายหลานที่ชื่อเสี่ยวซุนเกิดอุบัติเหตุทำให้นางหมดสติไป ท่านย่าได้โปรดสั่งให้คนพาตัวนางไปพักฟื้น หลานจะรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง!”

เหล่าฟูเหรินตอบกลับไปอย่างไร้อารมณ์ “ไปเถอะ ย่าจะดูแลนางเอง”

“ขอบคุณท่านย่า!” จื่ออานวางใจแล้ว ให้แม่นมหยางช่วยพยุงตัวออกไป

เมื่อไปถึงหน้าประตู แม่นมหยางก็มองจื่ออานอย่างสงสัย ขนาดตัวนางเองยังเอาตัวแทบไม่รอด แต่ยังคงเป็นห่วงคนรับใช้อย่างนั้นเหรอ?

แม่นมหยางเริ่มต้นจากการเป็นสาวใช้ เคยชินกับการถูกเหยียดหยาม จนตอนนี้สามารถปีนป่ายมาถึงตำแหน่งนี้ได้ เป็นที่เคารพของข้าบริวาร ซึ่งมันเป็นการให้ความเคารพที่ไม่จริงใจเสมอ ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อจื่ออานเสียใหม่