คฤหาสน์ที่อยู่บนยอดเขานี้มีเพียง 3 ชั้น ตั้งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะประจำเมืองเฉิงไห่ ดังนั้นที่แห่งนี้จึงถูกห้อมล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามมาก ๆ เมื่อยามเย็นมาถึง อากาศร้อนของเดือนมิถุนายนก็พลอยกระจายหายไปเหมือนแสงตะวันที่ลาลับด้วย และเมื่อดวงจันทร์สูงเด่นบนท้องฟ้า สายลมที่หนาวเย็นก็จะพัดเอากลิ่นหอมของพรรณไม้มากมายมาให้ได้ดอมดม
เซียวเฟิงยืนอยู่ระเบียงที่เปิดโล่งบนชั้น 2 ของคฤหาสน์ พลางจ้องมองไปยังเมืองด้านล่างที่ยังคงคึกคักแม้ในยามค่ำคืน แสงไฟจากเบื้องล่างทำให้สายตาของเขาหลงใหลไปกับมันอยู่นิดหน่อย
เมื่อคืนนี้ตอนที่ต้องสู้กับกิลด์กลอรี่ เขาเตรียมใจที่จะแพ้ไว้แล้ว หากแต่ตอนนั้นเอง ภาพของร่าง ๆ หนึ่งมันก็กระโจนเข้ามาในหัวพร้อมกับทำให้เข้าตัดสินใจเรียกเซียวไป๋ออกมาโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะตามมาทีหลัง
ร่างของเด็กสาว แม้จะยังเด็กแต่ก็เป็นเด็กที่น่ารักมาก ๆ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ตัวเขาตั้งปณิธานว่าจะเป็นเทพในโลกของเกมออนไลน์ให้ได้? เกือบหนึ่งปีแล้วหรือเปล่า? มันนานจนตัวเขาเองก็เริ่มจะลืมบ้างแล้ว
ความทรงจำในวัยเด็กของเซียวเฟิงนั้นไม่ได้มีความสุขอะไรที่น่าจดจำ เขาเกิดมาในสถานที่ที่เต็มไปด้วยกฏเกณฑ์มากมาย ที่ที่ทุกการกระทำย่อมต้องถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ณ ที่แห่งนั้น ความปกติคืออาชญากรรม มีเพียงการต่อสู้กับคนอื่นและพัฒนาความสามารถของตนเองอยู่ตลอดเวลาเท่านั้นถึงจะกลายเป็นที่ยอมรับและเคารพได้
ช่างน่าเสียดายที่เซียวเฟิงนั้นถือเป็นคนที่ไร้ความสามารถ
มันน่าจะเป็นเรื่องที่เกิดตั้งแต่สมัยเขายัง 10 ขวบได้ เขาต้องเจอเรื่องแย่ ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อยกว่าเซียวหลิงในปัจจุบันเสียอีก
ในวันนั้น เขาที่เป็นเด็กอ้วนเนื้อตัวมอมแมมที่หิวอยู่ตลอดเวลา หลีกหนีพวกคนที่ชอบแกล้งไปนั่งหลบมุมเงียบ ๆ คนเดียวเพื่อร้องไห้ตามปกติ
ทว่าเมื่อเขาปาดน้ำตาและเดินมาถึงจุดที่ชอบนั่งอยู่ตรงนั้น มันกลับถูกเด็กผู้หญิงที่อยู่ในวัยเดียวกันครอบครองไปเสียแล้ว
เด็กสาวคนนั้นไม่ได้อายุเยอะไปกว่าเขาเท่าไหร่แถมเธอยังน่ารักอีกด้วย แม้ว่าเธอจะสวมชุดที่ขาวสะอาด แต่เธอก็นั่งลงไปบนพื้นดินโดยไม่กลัวว่าชุดจะเลอะ มือเล็ก ๆ ที่ถือเครื่องเกมอยู่นั้น เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจริงจังกับมันมาก ๆ แถมยังดูมั่นใจสุด ๆ ด้วย
เจ้าเปี๊ยกตัวอ้วนหยุดชะงักจนลืมร้องไห้ไปเลย เขายืนเงียบ ๆ และมองเด็กสาวที่เข้ามายึด ‘พื้นที่’ ของเขาจนกระทั่งเธอเป็นฝ่ายรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของเขาและวางเครื่องเกมลง
“เฮ้ นายตัวใหญ่ มันน่าอายนะที่ต้องมายืนร้องไห้ต่อหน้าผู้หญิงน่ะ มานี่ เดี๋ยวฉันจะสอนนายเล่นเกม”
นั่นเป็นครั้งแรกที่เซียวเฟิงได้รู้จักกับเกม ชายหนุ่มในตอนนั้นหลงใหลและอยากรู้อยากเห็นในสิ่งนี้มาก ๆ เหนือสิ่งอื่นใด เขาชอบที่จะอยู่กับเธอคนนี้โดยไม่สนใจด้วยว่าตนเองจะโดนคนอื่นกระทำแบบไหนใส่เขา
“เห…ฉันไม่คิดเลยว่านายจะมีพรสวรรค์ซ่อนอยู่แบบนี้ ฉันต้องไปแล้วล่ะ เครื่องเกมนี้ฉันให้นาย ถ้าหากนายเล่นได้เก่งกว่านี้ ฉันจะยอมให้นายเล่นกับฉันได้นะ”
เด็กสาวพูดและมอบเครื่องเกมไว้ให้เซียวเฟิงก่อนจะจากไป แขนเสื้อของเธอมันพริ้วไหวประดุจหมู่เมฆที่เขาไม่อาจจะคว้าไว้ได้
นี่น่าจะเป็นวันที่มีความสุขที่สุดในวัยเด็กของเขาเลยละมั้ง หรืออาจจะเป็นเพราะว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการยอมรับจากผู้อื่นเลยก็ได้ แม้ว่ามันจะเป็นแค่ในเกม แต่เซียวเฟิงก็หวังจะได้เล่นกับเธอคนนั้นอีก
หลายวันถัดมา เซียวเฟิงที่ในมือมีเครื่องเกมนั้นไม่ยอมหลับยอมนอนรวมไปถึงกินอาหาร เขาตื่นอยู่แทบตลอดเวลาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นในเกมเร็ว ๆ
หลายวันถัดจากนั้น เด็กสาวก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เซียวเฟิงได้รับการยอมรับและชื่นชมจากเธอที่เขาสามารถพัฒนาฝีมือในเกมได้อย่างรวดเร็ว และมันทำให้เขามีความสุขมากขึ้นไปอีกหลายเท่า
เธอหยิบเครื่องเกมอีกเครื่องหนึ่งขึ้นมาที่มีลักษณะคล้ายกับเครื่องเก่าที่ให้เขาไป จากนั้นก็ยอมตั้งทีมกับเซียวเฟิงตามที่ได้รักษาสัญญาไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อจับทีมกันแล้ว เขาก็ได้พบว่าตัวละครของเธอไม่ว่าจะเป็นเลเวลหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สวมใส่นั้น ล้วนแต่ถึงจุดสูงสุดของเกมแล้ว เธอทิ้งห่างเซียวเฟิงไปไกลมาก ๆ
ตอนนั้นเอง เซียวเฟิงที่ได้เรียนรู้โลกของเกมมาระดับหนึ่งได้เข้าใจแล้วว่าเธอคนนี้คือสิ่งที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ เรียกว่า ‘เทพเจ้า’ กัน
ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ทิ้งเซียวเฟิงซะทีเดียว เด็กสาวพาเซียวเฟิงไปจัดการดันเจี้ยนที่ยากที่สุดของเกม แต่โชคร้ายที่ตัวละครของเซียวเฟิงในเกมนั้นยังอ่อนแอเกินไปและจบลงด้วยความล้มเหลว
ใบหน้าที่น่ารักน่าชังนั้นดูจะเสียดายอยู่นิดหน่อย เธอวางเครื่องเกมลงอีกครั้งก่อนจะยืนขึ้นและพูด “ฉันต้องไปแล้ว”
เจ้าเปี๊ยกตัวอ้วนรวบรวมความกล้าเพื่อเอ่ยถามออกไป “ครั้งหน้า…ฉันจะเล่นเกมกับเธออีกได้ไหม? ฉันเองก็จะเป็นเทพเจ้าให้ได้ แล้วก็จะไม่ทำให้เธอต้องผิดหวังอีกแล้ว!”
เด็กสาวมองไปยังเครื่องเกมเครื่องใหม่ของเธอที่วางอยู่ที่เท้า เธอไม่มีกะจิตกะใจอยากจะหยิบมันขึ้นมาเลย เพราะงั้นใบหน้าสวยจึงส่ายหน้าด้วยความเสียใจแต่ไม่ได้รู้สึกเสียดาย ความไม่แยแสในแววตานั้นดูจะมากเกินกว่าอายุเธอในตอนนี้เสียอีก “เล่นเกมนี้น่ะเหรอ? บางทีฉันอาจจะไม่เล่นมันอีกแล้วก็ได้”
เซียวเฟิงยังไม่ยอมแพ้ เขาไม่เคยกล้าหาญขนาดนี้มาก่อนเลยตั้งแต่จำความได้ “เกมอื่นก็ได้! ไม่ว่าจะเกมไหนฉันก็จะกลายเป็นเทพเจ้าให้ได้!”
หญิงสาวยิ้มให้เซียวเฟิง “ถ้างั้นก็ได้เลย!” รอยยิ้มนั้นเปรียบเสมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิที่พัดพาเอาหมู่มวลผกานับร้อยพันให้โถมเข้าใส่เขาจนไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเธอก็จากไป
จากนั้นเซียวเฟิงก็ไม่ได้เจอเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกเลย อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มก็ไม่เคยลืมคำพูดที่ได้พูดไว้ มันทำให้เขากลายมาเป็นออลเรเลีย และเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขันระดับโลกได้
…
สติของเซียวเฟิงกลับมาสู่โลกปัจจุบันอีกครั้ง เฉียนโตวโตวที่เห็นว่าไฟระเบียงด้านนอกห้องด้านบนเปิดอยู่ ด้วยความสงสัย เธอจึงเดินขึ้นมาชั้นบนแล้วพูดกับเจ้าของห้องหลังเห็นเขาอยู่ด้านนอกนั้น “พี่เซียว มาทำอะไรตรงนี้เหรอคะ?”
เซียวเฟิงส่ายหน้าแล้วพูดอย่างทั่ว ๆ ไป “ไม่มีอะไร แค่มาพักผ่อน เดี๋ยวฉันจะไปเล่นเกม ไม่รู้ว่าอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์จะยาวนานขนาดไหน เพราะงั้นเซียวหลิงจะอยู่ในความดูแลของเธอแล้วนะ”
แววตาของเฉียนโตวโตวเป็นประกาย เธอยกมือขึ้นประกบกันไว้ราวกับจะพูดสาบาน “ไม่ต่องห่วงค่ะ ฉันจะดูแลน้องสาวเซียวหลิงเป็นอย่างดีเลย!” ก่อนหน้านี้เซียวเฟิงเป็นคนโทรไปบอกให้เธอมาที่คฤหาสน์แห่งนี้ อันที่จริงต่อให้เขาไม่ติดต่อไป เฉียนโตวโตวก็วางแผนจะมาค้างคืนที่คฤหาสน์อยู่แล้ว
อีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ในครั้งนี้ จะกลายเป็นจุดศูนย์รวมของผู้เล่นระดับต้นของเขตฮัวเซียไว้จนหมด ดังนั้นงานของเธอในร้านค้ามหาสมบัติก็จะไม่หนักหนาอย่างที่เคยเป็น ด้วยเหตุนี้ เฉียนโตวโตวจึงวางแผนที่จะหยุดงาน 2 วันทิ้งร้านค้ามหาสมบัติไว้แล้วพักผ่อนในแบบที่เธอต้องการบ้าง
หลังจากที่กลับเข้ามาในห้องแล้ว ถึงแม้เซียวเฟิงจะยังไม่เห็นตัวเซียวหลิง แต่เขาก็คิดไว้ว่าเดี๋ยวเธอคนนั้นก็คงจะแอบเข้ามาตอนเช้าอยู่ดี อันที่จริงเขาก็ไม่ได้มั่นใจนักหรอกว่าเธอคนนั้นแอบย่องเข้ามาในห้องเขาตอนกลางดึกหรือเข้ามาตอนเช้ากันแน่
ทว่าเมื่อกลับมาออนไลน์แล้ว ภาพของการต่อสู้เมื่อคืนกับกิลด์กลอรี่ก็ย้อนกลับมาให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง ภาพเมื่อตอนที่เขาเรียกเสี่ยวไป๋ออกมาต่อสู้ แววตาที่ดูเย็นชาของเธอนั้นมันทำให้เซียวเฟิงต้องขมวดคิ้วขึ้นมา
เพราะงั้นทันทีที่ออนไลน์แล้ว เซียวเฟิงก็มุ่งตรงไปยังนครศักดิ์สิทธิ์เพื่อเข้าไปหาเสี่ยวไป๋อย่างรวดเร็ว
เสาแสงที่ถูกส่องลงมาประดุจว่ามันเป็นวัตถุจริง ๆ เด่นสง่าอยู่ข้าง ๆ เสี่ยวไป๋ ในวันนี้เธอก็ยังดูปกติดังเดิม ร่าง ๆ เล็กนั้นแหวกว่ายอยู่ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับปีกที่ 4 ที่สยายกว้างไปมา หากเธอโตขึ้นอีกสักหน่อย เธอจะต้องดูน่าเลื่อมใสมากแน่ ๆ
เสี่ยวไป๋ยังคงมีท่าทีดีใจที่ได้เห็นเซียวเฟิงมาหา กระนั้นบนใบหน้าสวยของเด็กสาวก็ยังแสดงให้เห็นถึงความสงสัยและใสซื่อ ดูเหมือนว่าโลกที่เธอเพิ่งจะลงไปนั้นมันยังใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างเลยดูไม่คุ้นตาไปหมด
หลังจากที่ลูบเส้นผมสีเงินสั้น ๆ ของเสี่ยวไป๋แล้ว เซียวเฟิงก็ป้อนเค้กที่ซื้อมาจากร้านค้าอาหารในระบบให้เธอ เขาโล่งใจขึ้นที่เห็นว่าเสี่ยวไป๋ดูไม่มีอาการผิดปกติอะไร
อย่างไรก็ตาม ความศักดิ์สิทธิ์ที่มาในรูปแบบกลิ่นของเสี่ยวไป๋นั้นมันเริ่มทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ผนวกกับสายตาที่เยือกเย็นและไม่คุ้นเคยเมื่อคืนนี้ มันทำให้เซียวเฟิงเริ่มรู้สึกว่าเสี่ยวไป๋นั้นเริ่มจะคล้ายเทพธิดาแห่งแสงมากขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย นั่นเพราะเซียวเฟิงไม่ได้ต้องการให้เสี่ยวไป๋กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เลือดเย็นและไร้หัวใจเฉกเช่นเทพธิดาแห่งแสง
เพราะงั้นเขาจึงอยากเร่งให้เสี่ยวไป๋โตขึ้นไปในระดับตำนาน เพื่อที่จะได้พาออกไปจากวิหารแห่งแสงนี้เสียที
ยามเมื่อมองเวลาและเห็นว่ามันเหลืออีกกว่าชั่วโมงก่อนอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์จะเริ่ม ตัวเซียวเฟิงเองก็ไม่มีอะไรต้องทำที่นี่แล้ว ดังนั้นจึงเดินทางไปยังเมืองเฮ่ยฉีเพื่อดูความคืบหน้าของแหวนระดับเทพเจ้าที่อยู่ในมือของอาจารย์ตี้อู่หยา ทว่าเขาก็ถูกอาจารย์ตี้ลู่ไล่ออกมาอีกครั้ง โชคยังดีที่คราวนี้เซียวเฟิงเผอิญเจอที่สำหรับฝึกฆ่าเวลาก่อนที่อีเวนต์จะเริ่มต้นได้
อันที่จริง ตอนนี้ไม่เพียงแต่เขตฮัวเซียเท่านั้นที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมตัว เพราะเขตหลัก ๆ เขตอื่นเองก็ง่วนอยู่กับการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ที่กำลังจะเริ่มเช่นกัน
ผู้เล่นที่ยังไม่ได้โทเคนสำหรับเข้าร่วมก็ยังคงพยายามตามล่าหาทวารบาลปีศาจอย่างขะมักเขม้น ในขณะที่ภายในตลาดมืด ราคาของโทเคนล่าสมบัตินั้นพุ่งกระฉูดเสียดฟ้าไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ดี
ผู้เล่นส่วนมากที่มีโทเคนอยู่ก็คงจะเรียกเพื่อนของพวกเขาในเกมให้ไปด้วย หรือไม่ก็หาคนมาร่วมปาร์ตี้ด้วยอีกที กับการที่ต้องมาเจอกับอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ที่พวกเขาไม่รู้แม้แต่กฏกติกาที่แน่ชัดนั้น ผู้เล่นทุกคนล้วนแต่ก็ต้องการเพิ่มพลังในการต่อสู้และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้ได้มากที่สุด
แม้แต่กิลด์ขนาดใหญ่เองก็ยังต้องยอมลดอีโก้ตนเองเพื่อตั้งปาร์ตี้กับพันธมิตรหรือหาผู้เล่นระดับสูงในละแวกพวกเขามาเข้าร่วมในปาร์ตี้ด้วย
นั่นเพราะอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์นี้ ผู้เล่นจากทั่วทุกเขตจะสามารถเข้าร่วมได้หมด แน่นอนว่ามันจะไม่สงบสุขแน่ ๆ เมื่อทุกเขตมารวมกันอยู่ในที่เดียวกัน
ขนาดแค่ในเขตเดียวกันเองยังวุ่นวายแทบตาย นับประสาอะไรกับรวมทุกเขตแล้วจะไม่ตีกันเอง? แถมเขตฮัวเซียยังเป็นศัตรูกับเขตอื่นมาตั้งหลายปี เพราะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันระดับโลกรอบสุดท้ายเมื่อ 5 ปีที่แล้วอีก หากมีผู้เล่นในเขตฮัวเซียไม่เยอะล่ะก็ พวกเขาคงจะต้องพ่ายในโลกของอุตสาหกรรมเกมแน่ ๆ
ด้วยเหตุนี้จึงพอจะเดาได้เลยว่าภายในอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งนี้จะต้องมีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นแน่นอน
นี่เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือดครั้งแรกของผู้เล่นทุกเขตในโลกของเดอะมิธ เพราะงั้นแล้วความคืบหน้า เลเวลของผู้เล่นระดับสูงในแต่ละเขต รวมไปถึงปริมาณของผู้เล่นระดับสูงในแต่ละเขตจะค่อย ๆ เปิดเผยออกมาอีกที
ในตอนนี้คงมีแต่เซียวเฟิงเท่านั้นที่กำลังฟาร์มของจากมอนสเตอร์ด้วยความสบายใจ ในขณะที่คนอื่นต่างรอให้อีเวนต์เริ่มด้วยความกังวล บางคนก็วิ่งไปทั่วเพื่อติดต่อพันธมิตรหรือไม่ก็ตั้งปาร์ตี้
แน่นอนว่าเซียวเฟิงเองก็ได้รับข้อความมากมายหลังจากที่ออนไลน์แล้วเหมือนกัน ข้อความทั้งหมดนั้นมาจากคนคุ้นเคยในรายชื่อเพื่อนทั้งนั้น
จืออี้คือคนแรกที่เห็นว่าเซียวเฟิงออนไลน์ เธอรีบโทรหาเขาพร้อมพูดด้วยเสียงหวาน “ท่านเซียว สนใจอยากจะเข้าร่วมกับวอร์สปิริตไหม?”
“ไม่สนใจ” เซียวเฟิงวางสายโดยไม่ลังเลซึ่งทำให้เธอโกรธมาก ๆ
เจ๋าซือเองก็ส่งข้อความมาด้วย “พี่เซียว พี่จะไปคนเดียวหรือไปเป็นปาร์ตี้?”
ถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดไปว่าเขาอยากจะตั้งปาร์ตี้กับเซียวเฟิงหากเซียวเฟิงเลือกไปเป็นทีม แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าพูดไปก็เท่านั้น
เซียวเฟิงตอบกลับ “ฉันจะไปคนเดียว” นั่นเพราะเป้าหมายของเขาคืออาร์ติแฟคท์ ถึงตัวเขาจะยังไม่รู้ว่ากฏภายในคืออะไร แต่มันน่าจะมีอาร์ติแฟคท์อยู่ไม่กี่ชิ้น ดังนั้นแล้วมันน่าจะดีกว่าหากเขาไปทำอีเวนต์นี้คนเดียว
เพราะกะไว้แล้วว่าต้องได้รับคำตอบเช่นนี้ เจ๋าซือจึงกล่าวแสดงความยินดีกับเซียวเฟิงล่วงหน้า ตัวเขานั้นมีปาร์ตี้กับเพื่อนสนิทเล็ก ๆ อยู่แล้ว แถมยังได้ตัวเทพ ‘หานเฟิง’ ที่โด่งดังเรื่องความพูดมากแต่ก็อยู่ในอันดับ 10 ของผู้เล่นที่มีชื่อเสียงมาอีกด้วย ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะนิสัยน่าปวดหัวนิดหน่อยหากแต่ความแข็งแกร่งก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย เขาเป็นคนคนเดียวที่สามารถทำให้เจ้าตัวป่วนอย่างซางกวน อาโอเชินต้องเป็นฝ่ายปวดหัวแทนได้
พอพูดถึงซางกวน อาโอเชินแล้ว อันที่จริงเจ๋าซือก็ส่งข้อความไปหาเขาแล้วเช่นกันโดยหวังจะชวนเข้าทีม แต่เจ้าตัวไม่ได้ตอบอะไร
เรื่องนี้เซียวเฟิงพอจะเดาไว้แล้ว บางทีเด็กคนนั้นน่าจะไปเข้าร่วมกับจืออี้ก็ได้ เพราะปาร์ตี้ของนิโคลัสไม่มีนักบวช ดังนั้นซางกวน อาโอเชินไม่น่าจะทนต่อเรื่อง ‘น่าหนักใจ’ แบบนี้ได้หรอก
นอกจากนี้หลิวเฉียงเหว่ยเองก็โทรเข้ามาหาเขาด้วย น้ำเสียงที่ชัดเจนของเธอนั้นแฝงด้วยความลังเลซ่อนมาด้วย “นายจะ…อยากมากับพวกฉันไหม?”
ทว่าครั้งนี้เซียวเฟิงกลับถามก่อน “กิลด์มิดซัมเมอร์มีคนที่จะเข้าร่วมอีเวนต์นี้กี่คน?”
เธอรีบตอบ “รวมฉันกับเซียวจิงก็มี 18 คน”
เซียวเฟิงประหลาดใจนิดหน่อย เพราะนั่นหมายถึงพวกเธอมีโทเคนถึง 18 ชิ้นอยู่ในมือ มันแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของสมาชิกกิลด์มิดซัมเมอร์เองก็ไม่ใช่เล่น ๆ แล้วในตอนนี้
ทั้ง ๆ ที่มิดซัมเมอร์เพิ่งจะเสร็จจากสงครามป้องกันฐานที่ตั้งไป แต่ก็ยังสามารถหาโทเคนมาได้มากถึง 18 ชิ้น มันน่าตกใจจริง ๆ
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด “พวกเธอแข็งแกร่งพอแล้ว เพราะงั้นฉันไม่ไป แต่ถ้ามีปัญหาอะไรหลังจากที่เข้าอีเวนต์ไปแล้ว เธอสามารถติดต่อฉันได้เลย”
ถึงแม้ว่ามิดซัมเมอร์จะมีสมาชิกที่ค่อนข้างจำกัดในตอนนี้ แต่ด้วยซือเยี่ยจิ๋งที่แข็งแกร่งมาก ๆ ยังไงเสียกิลด์นี้ก็แข็งแกร่งกว่ากิลด์ที่อยู่ในระดับเดียวกันแน่ ๆ นี่แหละพลังของเหล่าผู้เล่นระดับเทพ
นอกจากพวกนี้แล้ว ซอร์ดออฟไดนัสตี้กับเล่าสวีที่อยู่ในรายชื่อเพื่อนเองก็ส่งข้อความมาให้เซียวเฟิงด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาก็ล้มเลิกความตั้งใจไปหลังจากรู้ว่าเซียวเฟิงคิดจะโซโล่
และแล้วเสียงแจ้งเตือนจากระบบที่รอคอยกันมานานก็ดังขึ้น