ภาคที่ 3 บทที่ 127 ใช้เงินมือเติบ

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 127 ใช้เงินมือเติบ

ซุยเมี่ยวหลิงรีบรับมาแล้วเอาหินพลังต้นกำเนิดจำนวน 155 ล้านก้อนออกมาจากป้ายทันที พร้อมกับมอบเรือเหาะจักรพรรดิมังกรวารีหลากอสนีบาตเมฆาใส่ฝ่ามือซูเฉิน

“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ วันนี้คุณชายได้สมบัติล้ำค่าติดมือไป ข้าเชื่อว่ามันจะต้องตรงความคาดหวังของท่านแน่ ส่วนเรื่องวัตถุดิบนั้น ร้านเราต้องใช้เวลาจัดหาสักหลายวัน ไว้อีก 3 วันค่อยกลับมานะเจ้าคะ”

“ได้” ซูเฉินรู้ว่าคำขอของตนมาก ร้านจันทร์ลอยเด่นคงจัดหามาให้ทันทีไม่ได้ ฉะนั้นเขาจะไม่เร่งอีกฝ่าย และคงได้แต่รั้งอยู่ในเมืองฉางผานอีกหลายวัน ด้วยรอได้ไม่เป็นอะไร

“คุณชายต้องการอะไรอีกไหมเจ้าคะ ?” ซุยเมี่ยวหลิงถาม

“อ้อ ของส่วนมากข้าได้แล้ว แต่ยังต้องการพวกอุปกรณ์ด้วย”

ชายหนุ่มรู้แล้วว่าตนต้องการวัตถุดิบอะไรบ้าง ตอนนี้เขาจึงคิดอยากเพิ่มความแกร่งให้ตนเองบ้างแล้ว

เมื่อได้ยินว่าซูเฉินยังต้องการเครื่องมืออุปกรณ์ด้วยแล้ว ซุยเมี่ยวหลิงก็ตาเป็นประกาย

“คุณชายเชิญทางนี้”

นางพาคนทั้งสามขึ้นไปที่ชั้นแปด

มันเป็นชั้นขายเครื่องมือต้นกำเนิด มีแต่เครื่องมือต้นกำเนิดหายากล้ำค่าอยู่เต็มไปหมด

ครั้งนี้ ซุยเมี่ยวหลิงพาซูเฉินและคนอื่น ๆ มายังส่วนที่ขายเครื่องมือต้นกำเนิดชั้นดีทันที

“นี่คือเครื่องมือต้นกำเนิดระดับ 6 ดาบกระจ่างแสง ทำจากทองวารีลายเงินสามารถตัดผ่านน้ำผ่านไฟได้ ทั้งยังไล่วิญญาณร้ายได้ ที่สำคัญคือสามารถโจมตีผ่านเกราะประเภทไฟและน้ำได้”

ซูเฉินหยิบมาดู เป็นดาบสั้นสีเงิน ปลายโค้งเล็กน้อย ที่ด้ามจับเป็นหัวอสรพิษ ทำมาจากอสูรกายรู้จักในชื่ออสรพิษกระหายเพลิง ใช้แล้วโจมตีผ่านเกราะประเภทไฟได้ เมื่อสร้างขึ้นจากทองวารีลายเงิน ทำให้สามารถเลี่ยงเกราะประเภทน้ำได้เช่นกัน นับเป็นความสามารถสุดยอดของดาบเล่มนี้ เมื่อไม่สนเกราะก็สามารถโจมตีเข้าร่างกายได้โดยตรงถึง 6 ใน 10 ส่วน ถือเป็นอาวุธลอบสังหารได้ดี

“ไม่เลว อันนี้ของเจ้า” ซูเฉินโยนมันให้อวิ๋นเป้า

อวิ๋นเป้าตื่นเต้นนัก นับตั้งแต่เริ่มเดินทางนี้ เขาก็กัดฟันสู้มาโดยตลอด วิชาว่าได้มายากแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงเครื่องมือต้นกำเนิดเลย ไม่คิดเลยว่าวันนี้เครื่องมือต้นกำเนิดระดับ 6 จะมาอยู่ในมือเขาได้ง่ายดายเช่นนี้

ไม่ใช่ว่าซูเฉินไม่อยากมอบของที่ดีกว่านี้ให้ แต่เพราะอีกฝ่ายอยู่เพียงด่านกลั่นโลหิตจึงใช้อาวุธระดับสูงได้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะไม่อาจคุมมันได้

แต่นี่ก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น

ซูเฉินช่วยอวิ๋นเป้าเลือกเครื่องมือต้นกำเนิดอีก 3 ชิ้น รองเท้าคู่หนึ่ง เข็มขัด และเกราะชุดหนึ่ง เปลี่ยนของให้อีกฝ่ายเสียยกชุด

และเมื่อเสร็จสิ้นแล้ว อวิ๋นเป้าก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากเจ้าหนูใสซื่อกลายเป็นชายหนุ่มผู้งามสง่าคนหนึ่ง

กังเหยียนก็ได้เปลี่ยนเครื่องมือต้นกำเนิดเช่นกัน มีดสั้นริ้วดำขายให้ร้านจันทร์ลอยเด่น แล้วนำเกราะหลอมทองมาแลกกับเกราะระดับ 6 ที่มันเบากว่ามากและมีพลังป้องกันสูงกว่า สามารถรับแรงโจมตีได้อย่างน้อย ๆ 100 แรงหมี

ส่วนอาวุธกลายเป็น ค้อนเจาะเกราะทลายขุนเขา

อาวุธหนักนั้นเหมาะกับเผ่าหินผามาก ก่อนหน้านี้พวกเขายากจน มีอะไรก็ใช้ไป ตอนนี้มีเงินขึ้นมาแล้วย่อมต้องเลือกอาวุธที่เหมาะมือมากกว่าเก่า

ค้อนเจาะเกราะทลายขุนเขา เป็นเครื่องมือต้นกำเนิดระดับ 6 ความสามารถพิเศษคือมันโจมตีผ่านเกราะได้

ผู้เชี่ยวชาญพลังมีการป้องกันหลัก ๆ อยู่สองแบบ หนึ่งคือเกราะพลัง และสองคือเกราะร่าง เกราะประเภทแรกเป็นเกราะจากพลังต้นกำเนิด ส่วนเกราะประเภทหลังเป็นเกราะใช้ป้องกันร่างทางกายภาพ

ค้อนเจาะเกราะทลายขุนเขามีไว้เพื่อจัดการการป้องกันทางกายภาพโดยเฉพาะ

วิชาโบราณอาร์คาน่านั้นส่วนมากจะใช้พลังสร้างเกราะป้องกัน ด้วยเป็นเพราะเผ่าอาร์คาน่านั้นไร้ซึ่งการป้องกันทางกายภาพ ส่วนการป้องกันทางกายภาพของเผ่ามนุษย์สูงกว่าเผ่าอาร์คาน่ามาก ดังนั้นจะใช้การป้องกันทางกายภาพก็นับว่ามีประสิทธิภาพกว่า และเมื่อพื้นฐานพลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ การป้องกันทางกายภาพก็จะสูงขึ้นเช่นกัน

เพราะเหตุนี้ การที่มันไม่สนใจการป้องกันทางกายภาพจึงดีกว่าการไม่สนใจเกราะพลัง

ค้อนเจาะเกราะทลายขุนเขาไม่สนใจเกราะร่างของคนได้ถึง 8 ใน 10 ส่วน ถือเป็นตัวเลขที่น่ากลัวทีเดียว และเมื่อควบรวมกับน้ำหนักของพลังที่ใช้ในการเหวี่ยงอาวุธแล้ว คนส่วนมากคงได้ถูกมันซัดปลิวเหมือนกระดาษแผ่นน้อยแผ่นหนึ่งแน่

หลังเปลี่ยนเครื่องมือให้กังเหยียนแล้ว ซูเฉินก็หันไปกล่าว “พี่กู่มีของที่ต้องตาหรือไม่ ? ท่านไม่เลือกมาสักหน่อยเล่า ?”

“ข้าด้วยหรือ ?” กู่จิ่นถังชะงักไป

เขาเป็นคุณชายตระกูลกู่ กู่จิ่นถังจึงมีความรู้สึกว่าตนอยู่เหนือกว่าผู้อื่นอยู่บ้าง

ความรู้สึกนี้มาจากพลังสูงส่งที่ซุกซ่อนอยู่ในสายเลือดของเขานั่นเอง

แม้ตระกูลกู่จะถูกควบคุมไร้อิสระ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตระกูลกู่นั้นมีพลังเร้นอยู่ในกายที่สามารถ ‘พลิก’ สถานการณ์ได้

เพราะเช่นนี้ กู่จิ่นถังจึงรู้สึกว่าตนอยู่เหนือกว่าคนอีก ราวกับตนยืนอยู่สูงกวาดตามองคนทั้งหลายทั่วทั้งแดน

เมื่อได้ยินว่ากู่ชิงลั่วไปชอบชายหนุ่มไร้สายเลือดเข้า ความคิดแรกของเขาคือ นางล้อกันเล่นหรือ ? ตระกูลสายเลือดชั้นสูงส่วนมากยังไม่ควรค่าพอให้แต่งเข้าตระกูลกู่ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับคนไร้สายเลือด

ดังนั้น ในใจลึก ๆ เขาจึงไม่พอใจซูเฉินอยู่

แม้ซูเฉินจะมีหินพลังต้นกำเนิดเป็นร้อยล้านก้อน เขาก็มีเพียงแต่ตกใจเท่านั้น แต่ลึก ๆ ก็ยังมีความรังเกียจเดียดฉันท์ ยังคงเยาะเย้ยอีกฝ่ายว่าเป็นพวก ‘เศรษฐีใหม่’

แต่เมื่อซูเฉินมอบส่วนแบ่งให้เขา กู่จิ่นถังก็คาดไม่ถึงตะลึงไป

ข้าก็ด้วยหรือ ?

ในตอนนั้น กู่จิ่นถังอยากจะเอ่ยอย่างหยิ่งในศักดิ์ศรีว่าเขาไม่ต้องการ เพราะตระกูลกู่เองก็มีเงินอยู่แล้ว

แต่เมื่อเห็นเครื่องมือต้นกำเนิดในมือซูเฉินแล้ว คำมันก็ติดอยู่ที่ปลายลิ้น ไม่กล้าเอ่ยมันออกมา

ซูเฉินถือดาบยาวที่ส่องประกายเย็นวาบออกมา ยามออกจากฝัก บรรยากาศโดยรอบพลันหนาวเหน็บลงจนสัมผัสได้ ตัวดาบนั้นแทบจะมองทะลุได้ ทั้งยังมีไอเย็นและเกล็ดหิมะลอยอยู่ที่ตัวดาบ จริง ๆ แล้วมันคือค่ายกลต้นกำเนิด เป็นค่ายกลที่อัดวิญญาณเยือกแข็งไว้ภายในตัวดาบมากมาย และหากปล่อยมันออกมาก็จะสามารถปล่อยคลื่นพลังเยือกแข็งออกมาได้จำนวนมาก

ดาบวิญญาณเยือกแข็ง !

เพราะ 1 ใน 3 วิชาสัมบูรณ์ตระกูลกู่คือวิชาดาราเยือกแข็ง สามารถใช้งานวิญญาณเยือกแข็งได้เต็มความสามารถ หากใช้เครื่องมือต้นกำเนิดอย่างดาบวิญญาณเยือกแข็งร่วมด้วย ทั้งสองอย่างจะผสมผสานกัน ปลดปล่อยพลังอันน่าเหลือเชื่อออกมาได้ทีเดียว

ดังนั้นเมื่อกู่จิ่นถังเห็นดาบเล่มนี้ คำว่า ‘ข้าไม่ต้องการ’ ก็ถูกเก็บกลับไปทันที

เครื่องมือต้นกำเนิดระดับ 6 !

เครื่องมือต้นกำเนิดระดับสูง !

เป็นเครื่องมือต้นกำเนิดระดับสูงถึง 6 !

แค่เครื่องมือต้นกำเนิดชิ้นนี้ชิ้นเดียวก็มีค่าสูงถึงหินพลังต้นกำเนิด 400,000 ก้อนแล้ว !

กู่จิ่นถังอยากใช้เครื่องมือต้นกำเนิดชนิดนี้มาโดยตลอดแต่ก็ไม่เคยสมปรารถนา

เหตุผลก็ง่าย ๆ เขาไม่มีเงิน

แล้วตระกูลกู่มีเงินหรือไม่น่ะหรือ ? แน่นอนว่ามี แต่เขาไม่ใช่ตระกูลกู่

เขาเป็นเพียงลูกหลานตระกูลกู่ ซึ่งตระกูลกู่ก็มีลูกหลานเช่นเขาอยู่มากมายนัก

ทำให้ตระกูลกู่ไม่อาจจัดหาเครื่องมือต้นกำเนิดเช่นนี้ให้ลูกหลานทุกคนได้

ยิ่งตระกูลใหญ่ก็ยิ่งเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เว้นเสียแต่จะเป็นตระกูลที่มีผู้สืบทอดเพียงหนึ่งหรือสองคนซึ่งหาได้ยากนัก ไม่เช่นนั้นพวกตระกูลชั้นสูงทั้งหลายก็คงไม่อาจมอบของดีมีราคาสูงให้ลูกหลานทั้งหมดได้

ส่วนมากแล้ว ตระกูลสายเลือดชั้นสูงจะทำการฝึกฝนลูกหลานให้ดีที่สุดเพื่อจัดพื้นฐานให้มั่นคง แต่การพัฒนาหลังจากนั้นจะขึ้นอยู่กับความแกร่งของเจ้าตัว

เครื่องมือต้นกำเนิดระดับ 6 นับเป็นของที่อยู่ในการพัฒนาในภายหลัง ไม่ได้จำเป็นต่อการสร้างรากฐาน ดังนั้นหากอยากได้ก็ต้องหามาเอง

หินพลังต้นกำเนิด 400,000 ก้อนนี้ กระทั่งกู่จิ่นถังยังไม่อาจเก็บรวบรวมได้รวดเร็ว ดังนั้นสมบัติล้ำค่าอย่าง ดาบวิญญาณเยือกแข็ง เล่มนี้เขาจึงได้แต่ฝันถึงมันเท่านั้น

แล้วตอนนี้มันกลับมาปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาแล้ว

ตอนนั้นเอง กู่จิ่นถังก็กลืนน้ำลายลงคอ ไม่กล้าทำผยองอีกต่อไป เขายื่นมือมาจะรับดาบวิญญาณเยือกแข็งไปพลางเอ่ย “ขอบ……”

แต่เขาพูดยังไม่ทันจบ ซูเฉินก็พลันดึงมือตนกลับไม่ยอมให้อีกฝ่ายเอื้อมจับของ “ข้าเลือกเล่มนี้ให้ชิงลั่ว ท่านคิดเห็นอย่างไร ?”

บัดซบ !

ไม่ได้ให้ข้างั้นหรือ ?

นี่เจ้าคิดหาเรื่องข้าใช่หรือไม่ ?

กู่จิ่นถังโกรธจนแทบกระโดดกระทืบเท้าเลยทีเดียว