เล่ม 1 ตอนที่ 215 ล่องูออกจากถ้ำ

สลับชะตา ชายามือสังหาร

มิน่าเล่าตอนที่เธอตื่นขึ้นมาจึงไม่เห็นเจ้าไก่ฟ้าอยู่ในโรงเตี๊ยม ที่แท้ก็ไปทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยเหลือสาวงามนี่เอง

“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร” เธอเอ่ยถาม

“รู้สิ” เสี่ยวถูพูด “อีกฝ่ายบอกว่าพวกเขาเป็นคนของตระกูลน่าหลานอะไรนั่น ข้าได้ยินคนที่ยืนดูอยู่ข้างๆ บอกว่าเป็นขุมอำนาจชั้นหนึ่งอะไรสักอย่าง”

“ตระกูลน่าหลานหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ได้ยินชื่อนี้อีกครั้งก็ตกใจอยู่บ้าง ตระกูลน่าหลานแห่งอาณาจักรตงเฉินมีความแค้นกับพวกเขาอยู่ไม่น้อยทีเดียว

ในเมื่อตระกูลซือหม่าคือขุมอำนาจที่ตั้งอยู่ที่นั่น ตระกูลน่าหลานก็ต้องมีตระกูลของพวกเขาอยู่เช่นกัน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเพิ่งมาถึงก็พบกับพวกเขาเข้าเสียแล้ว

“เช่นนั้นเจ้าไก่ฟ้าได้สังหารพวกเขาจนหมดเลยหรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์ถามอย่างใคร่รู้

เสี่ยวถูส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พี่ไก่ฟ้าพูดว่าเขาเพียงแค่ช่วยคนเท่านั้น ไม่ฆ่าคนส่งเดช! จึงได้ปล่อยตัวสองคนนั้นไป”

“เฮ้อ… น่าเสียดายนัก!” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดอย่างเสียใจ

“แต่พี่ไก่ฟ้ามิได้ทำให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าเขาเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพ” เสี่ยวถูพูดเสริม

ซือหม่าโยวเย่ว์ตบบ่าเขาแล้วเอ่ยว่า “ไปกินยาวิเศษสักสองเม็ด ให้ตาแพนด้าของเจ้าหายไปก่อน เห็นแล้วไม่น่ารักเอาเสียเลย สำหรับเจ้าอ้วน เจ้าไปหายาวิเศษกินเอาเองนะ เสี่ยวถู พวกเราเข้าไปกันดีกว่า”

พอพูดจบเธอก็ดึงตัวเสี่ยวถูเข้าไปในห้องแล้วเอายาวิเศษให้เขากินสองเม็ด เพียงไม่นาน เป่ยกงถังก็เข้ามาด้วย

“ตระกูลน่าหลาน… คนพวกเดียวกันถึงจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้ ในเมื่อเป็นคนตระกูลเดียวกัน นิสัยใจคอก็ย่อมคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว!” เป่ยกงถังมิได้มีความรู้สึกที่ดีต่อคนของตระกูลน่าหลานแต่อย่างใด นางขบกรามแน่นทั้งปาก

“ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก” ซือหม่าโยวเย่ว์ได้ยินว่าอีกฝ่ายต้องการฉุดคร่าหญิงสาวกลางวันแสกๆ รวมทั้งรสนิยมวิปริตของตาเฒ่าผู้นั้นแล้วเธอก็รู้สึกคลื่นไส้ “แต่ตอนนี้พวกเรามิอาจไปหาเรื่องพวกเขาได้ง่ายๆ รอให้พวกเราเข้าใจสถานการณ์ทางนี้ก่อนแล้วค่อยจัดการกับพวกเขาดีกว่านะ”

“อื้ม” เป่ยกงถังพยักหน้า ทำอย่างไรก็มิอาจขจัดความโมโหในใจให้จางหายไปได้ง่ายๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น ซือหม่าโยวเย่ว์ลากตัวเป่ยกงถังไปยังท้องถนน ในตอนแรกก็เพื่อไปฟังเรื่องของตระกูลน่าหลานสักหน่อย อีกฝ่ายเห็นพวกเขาไม่รู้เรื่องตระกูลน่าหลานเลยแม้แต่น้อย จึงมองพวกเขาราวกับมองคนป่าเถื่อน แต่ก็ยังบอกข่าวสารที่ตนรู้แก่พวกเขา

ผลปรากฏว่าตระกูลน่าหลานเป็นขุมอำนาจชั้นหนึ่งแห่งดินแดนอี้หลิน ผู้อาวุโสเฉาไม่อยู่ที่เมืองหลวง แต่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลินอาน ซึ่งเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับตระกูลซือหม่าพอดี ถึงอย่างไรก็จัดตัวเองอยู่ในสี่ตระกูลใหญ่ได้ ย่อมมิอาจประเมินอำนาจที่แท้จริงต่ำเกินไปได้

แต่เมื่อรู้ว่ามิใช่อาวุโสเฉาแห่งตระกูลน่าหลานที่นี่ ซือหม่าโยวเย่ว์จึงวางใจไปเปลาะหนึ่ง เธอดึงตัวเป่ยกงถังเดินไปจนทั่วท้องถนน ถ้าหากไม่พบกับคนเหล่านั้นก็ช่าง แต่ถ้าหากพบเข้า เธอก็จะขจัดภัยพาลให้แทน!

“โอ้ นี่มิใช่คนงามเมื่อวานหรอกหรือ” น้ำเสียงแทะโลมเสียงหนึ่งดังขึ้น เป่ยกงถังจึงหันไปมอง ปรากฏว่าเป็นบุรุษลามกผู้นั้นจริงๆ และที่ติดตามอยู่ข้างกายก็คือตาเฒ่าลามกนั่นเอง

ทั้งสองคนสวมอาภรณ์งามหรูหรา ดูแล้วไม่เหมือนสินค้าทั่วไป ซือหม่าโยวเย่ว์มองพวกเขาปราดหนึ่งแล้วพูดว่า “ใช่พวกเขาหรือไม่ที่แทะโลมพวกเจ้าเมื่อวาน”

เป่ยกงถังพยักหน้า

“แล้วเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยเมื่อวานนี้เล่า ข้าชอบเขายิ่งนัก!” ตาเฒ่าลามกมองซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็นแม้แต่เงาของเสี่ยวถู จึงเอ่ยปากถามขึ้น

ซือหม่าโยวเย่ว์และเป่ยกงถังล้วนหัวใจหดเล็กลง ตาแก่หนังเหนียวนี่ยังคิดจะล่วงเกินเสี่ยวถูอยู่อีก!

เมื่อเห็นซือหม่าโยวเย่ว์มีแววจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เป่ยกงถังจึงรั้งตัวเธอเอาไว้แล้วพูดกับคนตระกูลน่าหลานสองคนนั้นประโยคหนึ่งว่า “พี่ชายข้าอยู่แถวนี้ พวกเจ้าอย่าตามมาเชียวนะ”

พอพูดจบนางก็ดึงตัวซือหม่าโยวเย่ว์เข้าไปท่ามกลางฝูงชน

“ผู้อาวุโส พวกนาง…” เมื่อเห็นพวกซือหม่าโยวเย่ว์จากไป ชายหนุ่มลามกจึงร้อนรนอยู่บ้าง

“อย่าได้ร้อนใจไปเลย ให้ข้ารับสัมผัสดูก่อน” ตาเฒ่าลามกหลับตารับสัมผัสครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “พี่ชายผู้นั้นของพวกนางมิได้อยู่ที่นี่เสียหน่อย”

“เช่นนั้นพวกเราไปตามจับมาดีกว่าไหม” ชายหนุ่มลามกพูดอย่างกระวนกระวาย หากยังไม่ตามไปอีก เกรงว่าคงจะตามไม่ทันแล้ว

“ไม่ต้องตื่นตระหนกไป พวกนางหนีไม่พ้นหรอกน่า” ผู้อาวุโสลามกพูดแล้วย่างก้าวด้วยจังหวะเนิบช้า เดินไปยังทิศทางที่พวกซือหม่าโยวเย่ว์จากไป

ชายหนุ่มลามกเห็นเช่นนี้จึงรีบตามไปติดๆ

เป่ยกงถังดึงตัวซือหม่าโยวเย่ว์เดินมุ่งหน้าออกไปนอกเมือง ดูแล้วคล้ายกับกำลังหลบหนีสิ่งใดอยู่ ซึ่งทำให้คนทั้งสองที่ตามมาด้านหลังยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่าพวกนางมีกันเพียงแค่สองคนเท่านั้น

“ผู้อาวุโส หากจับหญิงผู้นั้นเอาไว้ได้ก็ต้องรู้อย่างแน่นอนว่าเด็กบำเรอผู้นั้นอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มลามกพูดกับตาเฒ่าลามกเช่นนี้ด้วยความหวังว่าเขาจะช่วยตนจับตัวเป่ยกงถังเอาไว้ได้

“เจ้าวางใจเถิด ข้าย่อมต้องจับตัวพวกนางเอาไว้ได้อย่างแน่นอน ไม่ได้พบเจอเด็กบำเรอที่ทำให้ข้าใจสั่นหวั่นไหวมาตั้งนานเหลือเกินแล้ว” ตาเฒ่าลามกพูด

ซือหม่าโยวเย่ว์และเป่ยกงถังที่อยู่ด้านหน้าได้ฟังคำพูดจาของทั้งสองคนแล้วแววอาฆาตในดวงตาก็ฉายชัด

เจ้าสองคนนี้ถึงกับเรียกเสี่ยวถูว่าเด็กบำเรอ ทั้งยังคิดจะจับตัวพวกตนกลับไป ช่างน่ารังเกียจเสียจริง!

คนตระกูลน่าหลานทั้งสองเห็นพวกนางเดินมุ่งหน้าออกไปนอกเมือง จึงคิดในใจว่าหรือพวกนางจะอาศัยอยู่นอกเมือง แต่ไปยังสถานที่ที่มีคนน้อย พวกเขาก็ยิ่งลงมือได้สะดวก พอถึงตอนนั้นก็คงไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของพวกตน

เมื่อออกไปนอกเมืองได้สิบลี้ พวกซือหม่าโยวเย่ว์ก็หยุดลงแล้วหันกลับมามองพวกเขา

“พวกเจ้าตามพวกเรามาทำไมกัน” เป่ยกงถังมองทั้งสองคนอย่างรังเกียจ

“หึๆ คนงามจ๋า เมื่อวานตั้งแต่แรกพบ ข้าก็ตกหลุมรักเจ้าไม่น้อยเลย อยากจะเชิญเจ้าไปเป็นแขกที่จวนของข้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสักหน่อยน่ะ” ชายหนุ่มลามกพูดอย่างไร้ยางอาย

ซือหม่าโยวเย่ว์ก้าวมายืนขวางอยู่ด้านหน้าเป่ยกงถังแล้วเอ่ยว่า “เฮอะ เป็นคนบ้ามาจากไหนกัน เจ้านึกอยากจะเชิญตัวภรรยาข้าก็เชิญไปได้เลยอย่างนั้นหรือ”

เมื่อได้ยินเธอพูดว่าภรรยา ชายหนุ่มลามกก็ไม่พอใจอย่างยิ่งแล้วพูดว่า “น้ำหน้าอย่างเจ้าจะคู่ควรกับหญิงสาวผู้งดงามเช่นนี้ได้อย่างไรกัน! วันนี้ข้าจะสังหารเจ้าก่อน เพื่อปลดปล่อยให้คนงามเป็นอิสระ!”

“ชิ… เจ้ามิได้แค่นึกอยากจะฉุดคร่าภรรยาข้าหรอกหรือ ยังจะต้องมาพูดให้ดูยิ่งใหญ่อีกทำไม!” ซือหม่าโยวเย่ว์มองชายหนุ่มลามกอย่างเย็นชาราวกับกำลังมองซากศพร่างหนึ่ง

คิดอยากจะฆ่าเธอน่ะหรือ…ยังไม่รู้หรอกว่าจะเป็นใครฆ่าใครกันแน่!

เธอโคจรปราณวิญญาณในร่างกาย พลังวิญญาณรอบกายกระเพื่อมไหว อีกฝ่ายจึงรีบรับสัมผัสพลังยุทธ์ของเธอในทันที

“ฮ่าๆ เพิ่งจะเป็นแค่บรรพวิญญาณขั้นสองเท่านั้นเอง วันนี้ข้าจะส่งเจ้าไปลงนรกเอง!” พูดแล้วชายหนุ่มลามกก็โคจรปราณวิญญาณในร่างกาย พลังยุทธ์ของบรรพวิญญาณขั้นสี่สำแดงออกมา

ซือหม่าโยวเย่ว์มิได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย เธอสังหารฉินอู่ได้ตั้งแต่ยังเป็นระดับบรรพวิญญาณขั้นหนึ่งแล้ว ถึงแม้ว่าบุรุษผู้นี้จะมีระดับขั้นใกล้เคียงกับฉินอู่ แต่เมื่อเทียบกับฉินอู่ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ปลายมีดปลายดาบแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนโง่เง่าที่ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรงเท่านั้น

“ผู้อาวุโส ท่านไม่ต้องลงมือหรอก คนผู้นี้ยกให้ข้าสังหารเองเถิด” พอพูดจบเขาก็โจมตีเข้าใส่ซือหม่าโยวเย่ว์

ซือหม่าโยวเย่ว์ส่งเสียงเฮอะเยียบเย็น การต่อสู้กับเขานั้นยังไม่ทันไรก็เห็นผลแพ้ชนะแล้ว หลังประมือกันสิบกว่ายก ก็สังหารอีกฝ่ายไปเรียบร้อย

ตาเฒ่าลามกไม่เห็นซือหม่าโยวเย่ว์อยู่ในสายตามาโดยตลอดเพราะระดับขั้นของเธอต่ำกว่าชายหนุ่มลามกถึงสองขั้น แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าพลังการต่อสู้ของเธอจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ จนเอาชนะชายหนุ่มลามกได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ความเร็วในการฆ่าคนยังรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ตอนที่เขาได้สติกลับคืนมา เธอก็ปลิดชีพชายหนุ่มลามกไปเรียบร้อยแล้ว

………………….………………..