ตอนที่ 173 นั่นคือผ้าพันคอของซูฉิง

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

คำพูดของถังรั่วอิง ทำให้แม้แต่ยวี๋น่าก็รู้สึกมีเหตุผลอย่างบอกไม่ถูก
แต่ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงกลับนิ่ง “เราตามกันกันต่อ”
เขาไม่สามารถรีรอไม่ได้เพราะซูฉิงรอไม่ได้
เสียเวลาไปเพียงหนึ่งนาที ซูฉิงก็จะอันตรายเพิ่มไปอีกหนึ่งนาที!
ดังนั้นแม้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะล้ามากแค่ไหน แต่เมื่อเขาคิดว่าซูฉิงยังมีชีวิตอยู่และยังไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง เขาก็ไม่อยากหยุดแม่สักเสี้ยววินาที
“เอางี้ เราแบ่งเป็นสี่กลุ่มและออกไปค้นหาสี่ทิศ” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
พื้นที่ของป่าเขาแห่งนี้ไม่เล็กและเขาต้องแน่ใจว่าจะไม่พลาดทุกตารางนิ้ว
“พี่เฉิง ฉันจะไปกับพี่ด้วย” ถังรั่วอิงดึงฮ่อหยุนเฉิงเอาไว้เหมือนกับขนมหนิวผีถังที่เกาะติดแน่น
เธอหวังในใจว่าเธอจะไม่มีวันเจอซูฉิงตลอดไป
แม้ว่าซูฉิงจะไม่ถูกหิมะทับจนตาย แต่นานขนาดนี้เธอก็ต้องอดตาย
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเบาๆ “ถ้งถัง ที่นี่อันตรายมาก เธอต้องตามฉันมาอย่างระวังนะ”
ถังรั่วอิงรู้สึกอบอุ่นในใจ ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก และแสดงรอยยิ้มที่เธอคิดว่ามีเสน่ห์ที่สุด “พี่เฉิง พี่ดีกับฉันมากเลย”
ทั้งสี่กลุ่มออกค้นหาซูฉิงกันละคนทิศทาง ฮ่อหยุนเฉิงพาพวกยวี๋น่าไปค้นหาบนถนนที่คิดว่าซูฉิงน่าจะไปมากที่สุด
มีหลินเหยียนเฟิงและคนอื่นๆ เพิ่มเข้ามา พวกเขาก็ค้นหาอย่างละเอียดมากขึ้น
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง
ยังคงไม่มีเสียงจากซูฉิง
“พี่เฉิง ฉันกลัวจัง” ถังรั่วอิงเชยตามองก่อนจะมองไปรอบๆ มีแต่ความมืดมิดจนอดสั่นไม่ได้ก่อนจะเอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิง “จะมีสัตว์ร้ายไหม?”
หัวใจของฮ่อหยุนเฉิงกระตุกไปครู่หนึ่ง
สัตว์ร้าย…
เขาไม่นึกมาก่อนเลยว่าซูฉิงอาจเจอเข้ากับสัตว์ร้าย
ถ้าเจอเข้ากับสัตว์ร้าย…
สีหน้าที่ดูไม่ดีอยู่แล้วของฮ่อหยุนเฉิงยิ่งดูไม่ดีหนักกว่าเดิม
ชุดสูทสีดำเกือบจะกลมกลืนไปกับค่ำคืน
“พวกคุณไม่ต้องห่วง ที่นี่ไม่มีสัตว์ร้ายครับ” ชาวบ้านท้องถิ่นคนหนึ่งที่มาพร้อมกับหลินเหยียนเฟิงเพื่อค้นหากล่าวอย่างรวดเร็ว “มีเพียงสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้คนครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“แต่ตอนนี้มืดมากแล้ว ประสิทธิภาพในการค้นหานั้นไม่สูง ทำไมเราไม่กลับไปที่หมู่บ้านก่อนแล้วค่อยกลับมาพรุ่งนี้เช้าล่ะครับ” ชาวบ้านถามอย่างไม่มั่นใจ
“พี่ชายคนนี้พูดถูกนะ” ถังรั่วอิงรีบเห็นด้วย “มันมืดมาก มองอะไรไม่เห็นอะไรเลย จะไปหาได้ยังไงกัน คืนนี้พักผ่อนให้เพียงพอ เติมพลัง และพรุ่งนี้มาหาน่าจะดีขึ้นนะคะ”
“ค้นหาต่อไป อย่าหยุด!” ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงนิ่งลงและใช้น้ำเสียงที่คนต่อต้านไม่ได้
ในตอนนี้ ในหัวใจมีเพียงความเชื่อที่จะสนับสนุนเขา เขาต้องเจอซูฉิง ต้องหาเธอให้เจอเร็วที่สุด!
ฮ่อหยุนเฉิงพูด คนอื่นๆ ต่างพากันเงียบไป
ไม่ว่าถัวรั่วอิงจะไม่ยอมแค่ไหนก็ทำได้เพียงเดินตามฮ่อหยุนเฉิงไปด้านหน้าเท่านั้น
หนึ่งคืน ไม่มีอะไรเลย
ท้องฟ้าค่อยๆ เผยให้เห็นแสงสว่าง และดวงอาทิตย์ที่หายไปนานในที่สุดก็โผล่ออกมา
“สว่างแล้ว!” หลินเหยียนเฟิงตะโกนอย่างตื่นเต้น
“เยี่ยมมาก พระอาทิตย์ออกมาแล้ว น้ำแข็งคงจะละลาย โอกาสที่เราจะเจอซูฉิงก็มีมากขึ้น” ยวี๋น่าเองก็เผยรอยยิ้มออกมา
ทว่าสีหน้าของฮ่อหยุนเฉิงยังคงนิ่งขรึม
แม้ว่าอากาศจะปลอดโปร่งแล้ว แต่อุณหภูมิก็ยังต่ำมาก
น้ำแข็งหิมะกว่าจะละลายก็ใช้เวลาหลายวัน ซูฉิงไม่ได้พกอาหารมามากนัก ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถรองรับได้นาน
หลังจากการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนก็หมดแรง แต่ฮ่อหยุนเฉิงกลับยังคงยืนหยัดต่อไป
“พี่เฉิง ฉัน ฉันไม่ไหวแล้ว…เหนื่อยมากเลย…” ถังรั่วอิงคว้าแขนของฮ่อหยุนเฉิงและพูดอย่างน่าสงสาร
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองไปทางด้านข้าง “ถังถัง อดทนอีกหน่อย ไม่อย่างนั้นเธอก็กลับไปก่อน”
“ไม่เอาหรอก ฉันจะอยู่กับพี่” ถังรั่วอิงส่ายหัวปฏิเสธ
ในขณะนั้นเอง กลุ่มคนอีกสามกลุ่มที่ออกค้นหาก็กลับมาเช่นกัน
“เป็นยังไงบ้าง?” ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงเป็นประกายและพูดอย่างกระตือรือร้น
ผู้นำของทั้งสามกลุ่มส่ายหัว “ขออภัยด้วยครับประธานฮ่อ ไม่เจออะไรเลยครับ”
คิ้วเรียวของฮ่อหยุนเฉิงขมวดแน่น “หาไม่เจอแล้วทำไมไม่หาต่อ?”
หัวหน้าทีมกู้ภัยกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ประธานฮ่อครับ เราค้นภูเขาทั้งลูกแล้ว แต่…ทางที่ดีคุณเตรียมใจไว้ก็ดีนะครับ คุณซูเธออาจจะ…”
หัวหน้าทีมยังไม่ทันพูดจบ ฮ่อหยุนเฉิงก็พูดขัดจังหวะเขาอย่างเย็นชา “เป็นไปไม่ได้!”
ซูฉิงจะเป็นอะไรไปไม่ได้!
ซูฉิงต้องมีชีวิตอยู่แน่!!
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงแดงก่ำ และคำรามอย่างคุมสติไม่อยู่ “ฉันขอย้ำว่าซูฉิงต้องไม่เป็นอะไร! เธอต้องมีชีวิตอยู่และรอให้เราไปช่วยอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่! ไม่ว่าใครก็ห้ามยอมแพ้!!”
“ท่านประธานครับ เราจะไม่มีทางยอมแพ้ครับ” หลินเหยียนเฟิงรีบก้าวไปข้างหน้าและกล่าว
เขาไม่เคยเห็นประธานของเขาระเบิดขนาดนี้มาก่อน
ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณซูจริงๆ…หลินเหยียนเฟิงไม่กล้าคิดต่อเลย
ถึงเวลาบ่ายโมงอีกแล้ว
แดดยามบ่ายนั้นเจิดจ้าเป็นพิเศษ
ลมพัดผ่านใบไม้และหิมะก็ตกลงมา
“ซูฉิง ซูฉิง! เธออยู่ที่ไหน?” ฮ่อหยุนเฉิงตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กลับต้องสิ้นหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
ซูฉิง เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่?
ตอบเขาทีได้ไหม!
รอหน่อยนะ…
ในระยะไกล สีแดงที่กระพือบนต้นไม้นั่นคืออะไร?
ฮ่อหยุนเฉิงชะงักฝีเท้า หรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะใช้มือบังแดดและมองไปในระยะไกล
“พี่เฉิง พี่เป็นอะไรเหรอ?” ถังรั่วอิงที่ตามฮ่อหยุนเฉิงมาเห็นอีกคนหยุดกะทันหันจึงถามด้วยความสงสัย
หัวใจของฮ่อหยุนเฉิงเต้นรัว
นิ้วเรียวของเขาชี้ไปที่สีแดงที่ยอดไม้ที่อยู่ห่างไกลออกไป “พวกนายดูหน่อยว่านั่นคืออะไร?”
เมื่อมองไปตามทิศที่เขาชี้ ยวี๋น่าก็เห็นของสีแดงที่คุ้นตาผูกติดอยู่กับต้นไม้ใหญ่
“เหมือนจะเป็นของซูฉิงนะคะ!” เสียงของยวี๋น่าตื่นเต้นมาก และรีบวิ่งไปที่ต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นผ้าพันคอที่ซูฉิงใส่ในวันที่เธอหายตัวไป!
ซูฉิง!
ท่าทีของฮ่อหยุนเฉิงนิ่งค้างก่อนขายาวจะวิ่งไปตามทาง
เมื่อไปถึงโคนต้นไม้ เขาก็เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นผ้าพันคอสีแดงผูกอยู่บนยอดไม้
“ของซูฉิงค่ะ! นี่คือผ้าพันคอของซูฉิง!” ยวี๋น่าจำได้ว่าเมื่อวันที่ซูฉิงเข้าไปในภูเขาวันนั้น เธอพันผ้าพันคอสีแดงไว้ด้วย!
เธอพูดอย่างตื่นเต้น “ต้องเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือที่ซูฉิงทิ้งไว้ให้เราแน่นอนค่ะ!”
“ใช่ ซูฉิงทิ้งไว้ให้!” ด้วยความหวังที่เพิ่มขึ้นในใจ ฮ่อหยุนเฉิงจึงกล่าวด้วยเสียงทุ้ม “ในเมื่อซูฉิงทิ้งสัญญาณขอความช่วยเหลือไว้ให้เรา เธอต้องอยู่แถวนี้แน่ เราต้องตามหาให้ทั่วทุกที่!”
“แต่ว่าที่นี่เหมือนไม่มีใครเลยนะ” ถังรั่วอิงกัดริมฝีปากของเธอและพูดตัดไฟ “แค่มองก็รู้แล้ว จะไปมีคนได้ยังไงกัน? นอกเสียจาก…ใต้หิมะ”