ตอนที่ 473 อวี๋เยว่หาน คุณซื้อแหวนวงนั้นให้ใคร (3) / ตอนที่ 474 อวี๋เยว่หาน คุณซื้อแหวนวงนั้นให้ใคร (4)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 473 อวี๋เยว่หาน คุณซื้อแหวนวงนั้นให้ใคร (3)

 

 

การกระทำของเธอ ทำให้อวี๋เยว่หานชะงักค้างไปหลายวินาที

 

 

ครั้นอยากถามเธอให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น ปลายลิ้นของเหนียนเสี่ยวมู่ก็ผ่านริมฝีปากบางของเขาไป

 

 

ท่าทางไม่ลื่นไหล ทำให้อวี๋เยว่หานตัวแข็งเกร็งในทันที!

 

 

เกินไป!

 

 

เธอกำลังยั่วเขา…

 

 

หลังจากริมฝีปากชุ่มชื้นจูบเขาเสร็จแล้ว มันเม้มเข้าหากันด้วยความตื่นเต้นอีกต่างหาก

 

 

หญิงสาวดูน่าสงสาร ทำเอาสติสัมปชัญญะของเขาเหมือนถูกไฟเผาในทันที!

 

 

อวี๋เยว่หานอุ้มเธอวางลงบนโต๊ะหนังสือ ก่อนจะเริ่มจูบอย่างดูดดื่ม…

 

 

จากห้องหนังสือ สู่ห้องนอน

 

 

ครั้นทุกอย่างสงบลง เหนียนเสี่ยวมู่เหนื่อยจนสลบไสลพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไม่นานก็หลับไป

 

 

อวี๋เยว่หานกอดหญิงสาวเอาไว้ พลางพรมจูบลงบนแก้มแดงระเรื่อของเธอด้วยความพึงพอใจ

 

 

เธอหลับไปแล้ว แต่ท่าทางดูไม่สบายตัวนัก เพราะเอาแต่ขมวดคิ้วแน่นอยู่ตลอด

 

 

หญิงสาวกำลังโกรธ เพราะของขวัญที่เขาให้ในวันนี้ไม่ใช่แหวน แต่เป็นเข็มกลัดใช่ไหม

 

 

เด็กโง่

 

 

เพิ่งประมูลแหวนมาได้ ต้องส่งไปบำรุงรักษาก่อนอยู่แล้ว

 

 

แถมใครเขาจะนำแหวนมาขอแต่งงานเธอ โดยไม่เตรียมการอะไรก่อนกันเล่า

 

 

แต่ถ้าเธอไม่ผิดหวังสักหน่อย แล้วจะดีใจได้อย่างไร

 

 

อวี๋เยว่หานกอดเธอไว้ ในดวงตามีแต่ประกายของความรักและเอ็นดู

 

 

 

 

เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ตื่นขึ้น ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว

 

 

เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่บนเตียงทั้งวันอย่างหาได้ยาก แม้จะไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม

 

 

หลังจากหันไปไม่เจออวี๋เยว่หาน หัวใจของเธอพลันบีบรัดในทันที

 

 

หญิงสาวใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย แล้วถึงเดินออกไปข้างนอกห้อง

 

 

แต่กระนั้นก็ไม่เห็นอวี๋เยว่หานอยู่ที่ห้องหนังสือ ขณะคิดว่าจะลงไปถามพ่อบ้านที่ชั้นล่าง พ่อบ้านก็รีบร้อนขึ้นมาจากชั้นล่าง

 

 

“คุณเหนียน เมื่อกี้ผมได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียนอนุบาล พวกเขาบอกว่าคุณหนูทำร้ายเพื่อน ให้ผู้ปกครองรีบไปดู แต่คุณชายมีธุระ เพิ่งออกไปบริษัท!”

 

 

“…”

 

 

ครั้นได้ยินว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วมีเรื่องทะเลาะวิวาท เหนียนเสี่ยวมู่ก็รีบกลับไปหยิบเสื้อนอกที่ห้องนอน แล้วลงไปชั้นล่างโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

 

 

“ตอนนี้บอกคุณชายไปหรือยังครับ” พ่อบ้านตามหลังเหนียนเสี่ยวมู่ พลางเอ่ยถามอย่างนอบน้อม

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจะไปดูก่อน” เหนียนเสี่ยวมู่คิดดูแล้ว จึงส่ายหน้าตอบ

 

 

วันนี้อวี๋เยว่หานบอกว่าจะพักผ่อน แต่อยู่ๆ ก็ไปที่บริษัท คงจะมีเรื่องด่วน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากให้เขากังวลใจ

 

 

คนขับรถรออยู่ที่ประตูแล้ว

 

 

เหนียนเสี่ยวมาเดินออกไปเปดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเอง

 

 

ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ ใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลจึงเต็มไปด้วยผู้ปกครองของเด็กๆ

 

 

รถเพิ่งถึงถนนใกล้ๆ โรงเรียนอนุบาล อยู่ๆ รถก็ติดขึ้นมา

 

 

“อีนานไหมคะกว่าจะถึง” เหนียนเสี่ยวมู่กวาดสายตามองเวลา แล้วขมวดคิ้วมุ่น

 

 

ตั้งแต่คุณครูโทรศัพท์มาที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ ก็ผ่านมาครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว

 

 

แม้คุณครูจะบอกในโทรศัพท์ ว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วทำร้ายคนอื่น และไม่ได้บอกว่าเด็กหญิงถูกทำร้ายด้วยหรือเปล่า แต่เหนียนเสี่ยวมู่ก็รู้สึกร้อนใจมาก

 

 

เสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นเด็กดีมาโดยตลอด เด็กหญิงที่สดใส ปกติเอาแต่ทำตัวออดอ้อน ประพฤติตัวดี จะทำร้ายคนอื่นได้อย่างไร

 

 

“คุณเหนียน ข้างหน้ารถติด ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว อย่างน้อยต้องรออีกสักพักใหญ่ ถึงจะผ่านช่วงนี้ไปได้ครับ” คนขับรถตอบด้วยสีหน้าจนใจ

 

 

ปกติแล้วตรงนี้ไม่ได้รถติดขนาดนี้ เพราะอย่างไรเสียโรงเรียนอนุบาลของเสี่ยวลิ่วลิ่วก็จัดการได้อย่างดี เงื่อนไขด้านต่างๆ จึงดีมาก

 

 

แต่หลายวันมานี้มีการซ่อมทางอยู่ใกล้ๆ จึงทำให้ปริมาณการเดินรถเปลี่ยนเส้นทางมาทางนี้

 

 

เมื่อถึงเวลาที่ปริมาณรถเยอะมาที่สุด ไม่ว่ารถของคุณจะราคาแพงแค่ไหน แต่ก็ทำได้แค่ขยับเป็นหอยทากอยู่บนถนนช่วงนี้

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยิ่งรู้สึกร้อนใจ หลังจากได้ฟังคนขับรถพูดอย่างนั้น

 

 

เธอเห็นว่าเหลืออีกช่วงสั้นๆ เลี้ยวตรงหัวมุมก็จะเข้าโรงเรียนอนุบาลได้แล้ว แต่รถติดอยู่ตรงทางแยกนี้

 

 

“จอดรถที่ข้างทางด้วยค่ะ ฉันจะลงก่อน!” เธอกัดฟันพูด

 

 

 

 

ตอนที่ 474 อวี๋เยว่หาน คุณซื้อแหวนวงนั้นให้ใคร (4)

 

 

คนขับรถได้ยินเธอสั่งดังนั้น ก็รีบจอดรถที่ข้างทางทันที

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หยิบเสื้อนอก แล้วลงจากรถไป

 

 

เธอเร่งฝีเท้าไปข้างหน้า

 

 

ในฤดูหนาวอากาศเย็นมาก เมื่อพ่นลมหายใจออก จึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 

 

หญิงสาวสวมเสื้อนอก พลางถูฝ่ามือ และวิ่งสั้นๆ เพราะกำลังร้อนใจ

 

 

ทว่าวิ่งมาถึงหน้าประตูโรงเรียนอนุบาล เธอกลับมีเหงื่อออกทั้งตัว

 

 

“คุณเหนียน ทำไมคุณมาคนเดียวล่ะคะ…” คุณครูที่คอยรับส่งเด็กๆ ที่หน้าประตูจำเหนียนเสี่ยวมู่ได้ จึงเข้ามาทักทาย

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่รีบจับมือของอีกฝ่ายไว้ ก่อนจะถามโดยไม่พักหายใจ “เสี่ยวลิ่วลิ่วล่ะคะ”

 

 

“ห้องของพวกเขายังไม่เลิกเรียนเลยค่ะ น่าจะยังอยู่ในห้อง คุณเข้าไปก็จะเห็น!”

 

 

หลังจากได้ยินดังนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่รอช้า เร่งฝีเท้าตามคุณครูเข้าไปข้างใน

 

 

อวี๋เยว่หานเป็นคนเลือกโรงเรียนอนุบาลนี้ตั้งแต่แรก

 

 

เพื่อให้เสี่ยวลิ่วลิ่วได้มีสภาพแวดล้อมในการเติบโตโดยทั่วไป เขาจึงไม่ให้ใครรู้สถานะของเด็ฏหญิง

 

 

เสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่ที่นี่ ก็เหมือนเด็กจากครอบครัวธรรมดาเท่านั้น

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่แสดงหลักฐานผู้ปกครองแล้ว ทว่าเพิ่งเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เธอก็ได้ยินเสียงต่อว่าด้วยความโมโหของผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากข้างใน

 

 

“เรื่องในวันนี้ ทางโรงเรียนอนุบาลจะต้องอธิบายให้ฉันฟัง!”

 

 

“เด็กอยู่ในโรงเรียนดีๆ แต่พวกคุณกลับไม่จับตามอง ให้เขาตีกันได้ยังไง ฉันจะบอกพวกคุณให้นะ เรื่องนี้ฉันจะไม่รับการไกล่เกลี่ยเด็ดขาด เด็กคนไหนตีลูกฉัน ฉันจะตีเด็กคนนั้นคืน!”

 

 

“เข้าใจผิดเหรอ? เข้าใจผิดอะไร ไม่เห็นแผลบนหน้าลูกฉันเหรอ หัวก็แตกด้วย คุณบอกฉันมาสิ ว่ามันเข้าใจผิดอะไรกัน! บนหัวลูกฉันเป็นรูแล้ว คุณยังบอกว่าเข้าใจผิดได้เหรอ?”

 

 

“…”

 

 

คุณครูเพิ่งอธิบายได้สองคำ ผู้หญิงคนนั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที

 

 

เธอต่อว่าคุณครูสาวจนเกือบจะร้องไห้อยู่แล้ว

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินไปข้างหน้า

 

 

หญิงสาวมองดูรอบห้องครั้งหนึ่ง แต่ไม่เห็นเสี่ยวลิ่วลิ่ว

 

 

ทว่าเมื่อมองดูให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เธอถึงจะเห็นร่างเล็กนุ่มนิ่มของเสี่ยวลิ่วลิ่วนั่งยองๆ อยู่ข้างโต๊ะ

 

 

เจ้าตัวเล็กหวาดกลัวจนขดตัวเป็นก้อนกลมแล้ว

 

 

ใบหน้ารูปไข่สะสวยแดงระเรื่อไปหมด

 

 

ดวงตากลมโตสดใสกักน้ำตาเอาไว้ เด็กหญิงกัดริมฝีปากแน่น เพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้

 

 

ดูน่าสงสารเหมือนถูกทั้งโลกทอดทิ้ง…

 

 

หัวใจของเหนียนเสี่ยวมู่บีบรัดขึ้นมาในทันที!

 

 

เธอกำลังจะเข้าไปกอดเด็กหญิงไว้ ทว่าได้ยินเสียงของคุณครูดังขึ้นอีกครั้งเสียก่อน

 

 

“เสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นเด็กดีมาก ปกติเธอไม่เคยรังแกเพื่อนๆ เลย แต่วันนี้หลัวเฉียงดึงผม หยิกแก้มเธอตลอด แถมยังยุแหย่เพื่อนผู้ชายในห้องอีกหลายคน บอกว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วไม่มีแม่ เป็นเด็กน่าสงสารไม่มีใครรัก เสี่ยวลิ่วลิ่วถูกแกล้ง ก็เลย…”

 

 

“…”

 

 

คำพูดของคุณครูทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ชะงักฝีเท้า

 

 

หัวใจรู้สึกเจ็บแปลบอย่างน่าประหลาด

 

 

ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงพูดเสียดสีมากยิ่งขึ้นของแม่หลัวเฉียง

 

 

“ลูกชายฉันอยากแตะต้องเธอ งั้นก็ถือเป็นการให้ค่าเธอแล้ว! ฉันก็ว่าเด็กที่ไหนกล้ามาทำร้ายลูกชายฉัน ที่แท้ก็ลูกไม่มีแม่ที่มีแม่ให้กำเนิด แต่ไม่มีแม่คอยสั่งสอนนี่เอง!”

 

 

“แง”

 

 

เสี่ยวลิ่วลิ่วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อดกลั้น “เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่ใช่เด็กไม่มีแม่ เสี่ยวลิ่วลิ่วมีแม่ ห้ามมาว่าแม่ของหนูนะ!”

 

 

“ถ้าเธอมีแม่ งั้นก็ให้แม่เธอออกมาสิ ให้ทุกคนได้เห็น!”

 

 

เด็กชายที่ชื่อว่าหลัวเฉียงวิ่งออกมาทำหน้าหยอกเย้าใส่เสี่ยวลิ่วลิ่ว “เรียกมาไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ยัยเด็กไม่มีแม่!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่โมโหจนกำหมัดแน่น แล้วก้าวไปอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้นมาทันที

 

 

ก่อนจะเอ่ยปากอย่างเฉยชา “ใครบอกว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วไม่มีแม่ ฉันนี่แหละแม่ของเธอ!”