ภาคที่ 3 บทที่ 131 งานประมูลหมู่เมฆ (3)

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 131 งานประมูลหมู่เมฆ (3)

ในด้านพลังจิตนั้น ผู้ที่อยู่ในอีกห้องนั้นแข็งแกร่งกว่าซูเฉินอยู่เล็กน้อย

แต่เขาก็ไม่อาจต้านทานฤทธิ์ยาของซูเฉินได้ !

ตามข้อตกลงกับอารามนิรันดร์ ซูเฉินไม่ต้องปรุงโอสถปลุกวิญญาณให้อารามนิรันดร์อีก แต่เขายังมีดอกซากวิญญาณเหลืออีกมาก หลังซื้อเรือเหาะจักรพรรดิมังกรวารีหลากอสนีบาตเมฆาแล้ว ชายหนุ่มจึงวางแผนว่าจะเพิ่มพลังจิตตน ดังนั้นเมื่อคืนก่อนจึงนั่งปรุงยาขึ้นมากองใหญ่ ไม่คิดว่าจะมามีประโยชน์เอายามนี้

เขามียาเป็นตัวช่วยได้เช่นนี้ ซูเฉินจึงไม่เกรงกลัวสงครามพลังจิตในครั้งนี้เลย

แม้คนจากอีกห้องจะมีพลังจิตแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่อาจใช้พลังอย่างไม่เกรงกลัวอะไรได้อย่างซูเฉิน สุดท้ายเขาก็ต้านทานไม่อยู่ ถูกซูเฉินฝ่าทะลวงเข้าสู่จิตใจอีกฝ่ายได้

ทว่าเขาก็เด็ดขาดมาก โจมตีตัวเองแล้วกัดฟันทนความเจ็บ เช่นนี้เพื่อตัดพลังจิตของซูเฉินที่เข้ามาในจิตใจ ปิดทางเข้า ป้องกันไม่ให้ชายหนุ่มลักลอบเข้ามาอีก

ซึ่งเขาลงมือทันท่วงที จิตของซูเฉินจึงไม่อาจแทรกซึมเข้าไปได้จนสำเร็จ ราวกับถูกเกราะเหล็กขวางกั้นไว้ ได้แต่วนเวียนไปมาอยู่หน้าเกราะกำแพง สุดท้ายก็ร่นถอยไปอย่างไม่เต็มใจ ทว่าก่อนจากก็ยังกลืนกินพลังจิตอีกฝ่ายเข้าไปด้วย

พริบตาต่อมา คนในอีกห้องก็พลันรู้สึกราวกับบางส่วนในร่างกายตนถูกใครบางคนกัดเอาไป ความทรงจำเขาหายไปช่วงหนึ่ง ไม่อาจเอากลับคืนมาได้อีก

“ไม่ !” อีกฝ่ายกรีดร้องโหยหวนออกมา

หากแต่ซูเฉินกลับโล่งใจ พลังจิตของเขาขยายกว้างขึ้นอีกแล้ว

การกลืนพลังจิตคนอื่นเช่นนี้มันจะรู้สึกดีไปแล้ว

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ซูเฉินก็รู้ตัวตนของคู่ประมือ เขาหัวเราะเสียงเย็นออกมา “เป็นผู้อาวุโสฉือเทียนโฉวแห่งตระกูลกลืนวิญญาณที่มาปรากฏตัวเป็นเกียรติให้ข้านี่เอง ไม่แปลกที่จะกระทำการอุกอาจ คิดทำร้ายผู้อื่นด้วยข้ออ้างเล็กน้อย”

ปีศาจกลืนวิญญาณเป็นอสูรกายระดับสูง ร่างกายมันไม่แกร่งเท่าไหร่ แต่พลังจิตของมันสูงส่งไม่อาจดูถูก นับเป็นข้ารับใช้ในฝันของอสูรดึกดำบรรพ์ เข้าออกแดนฝันได้ดั่งใจปรารถนา

ปีศาจกลืนวิญญาณนั้นชอบกลืนกินวิญญาณดั่งชื่อ

ฉือเทียนโฉวผู้นี้อยู่ด่านสู่พิสดาร แต่เพราะพลังจิตของเขากล้าแข็งกว่าคนอื่น ๆ ศัตรูจึงไม่อาจต้านการโจมตีเขาได้เลย ดังนั้นเขาจึงเป็นคนด่านสู่พิสดารที่มีชื่ออยู่ไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะถูกโจมตีกลับ นับเป็นวิบากกรรมโดยแท้

ภายในห้องแขกอีกห้องหนึ่ง ฉือเทียนโฉวคำรามโกรธออกมา “มีฝีมือไม่น้อยนี่ เจ้าไม่บอกนามข้ามาบ้างเล่า ?”

ทว่าซูเฉินไม่คิดอยากบอกชื่อ “หากท่านมีความสามารถก็มาหาเอาเอง”

คนทั้งสองต่อสู้กันในระดับพลังจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครรับรู้ถึงการต่อสู้

หากแต่พริบตาต่อมา ฉือเทียนโฉวก็สวมแหวนกักวิญญาณน้ำนิ่ง

มีสมบัติล้ำค่าในมือแล้ว ฉือเทียนโฉวก็เผยรอยยิ้มชั่วร้าย “ดูสิว่าครั้งนี้ยังจะรอดชีวิตหรือไม่ !”

เขาฉลาดไม่น้อย ในเมื่อเสียไปมากเพื่อให้ได้มันมาครอง เขาจึงฉวยจังหวะนี้หมายจะโจมตีอีกฝ่ายกลับ

ซูเฉินสัมผัสได้ถึงพลังแปลกประหลาดที่ล้อมกายซาบซึมผ่านเข้ามาทั่วร่าง ทำให้พลังจิตเขาถูกกดทับ พลันรู้สึกชาทั่วร่างและง่วงนอนนัก

ซูเฉินรู้ว่านี่คือพลังจองแหวนกักวิญญาณน้ำนิ่งนั่นเอง

แม้เขาจะไม่อาจสู้ราคาชนะมาได้ แต่เขาก็ได้ลิ้มรสชาติมันเป็นคนแรกเลยทีเดียว

“ไม่เลวเลย !” มุมปากซูเฉินยกขึ้น

แหวนกักวิญญาณน้ำนิ่งใช้ได้ดีไม่เลว เขาสัมผัสได้ว่าพลังงานจิตกำลังถูกดูดออกไป ทำให้ไม่อาจรวมจิตได้ คล้ายกับคนที่เพิ่งตื่นจากการงีบหลับไปยาวนาน ลงมือทำอะไรก็เชื่องช้าดูลังเล

หากคิดจะสู้สงครามพลังจิตตอนนี้ เขาต้องสูญเสียหนักเป็นแน่

เคราะห์ดีที่ซูเฉินไม่คิดประมือต่อ

เขาเก็บจิตตนเองกลับมาแล้วปิดจิตใจตน เสริมด้วยเกราะเหล็กจากพลังงานจิตไว้อีกชั้นหนึ่ง

เขาไม่โจมตีหรือเข้าโรมรันกับศัตรู แต่ใช้พลังไปกับการตั้งรับมากกว่า ฉือเทียนโฉวคงต้องใช้เวลาทะลวงจิตเข้ามานานนัก และถึงทำสำเร็จก็ไม่อาจกลืนความทรงจำของซูเฉินไปได้ หรือก็คือแม้จะมีแหวนกักวิญญาณน้ำนิ่ง แต่ก็ยังถูกบีบจนไม่อาจช่วงชิงความได้เปรียบมาได้ เว้นเสียแต่ว่าอีกฝ่ายจะมีพลังจิตที่แกร่งกว่าของชายหนุ่มเป็นอย่างน้อย 2 เท่า

เจอกับเรื่องเช่นนี้ ฉือเทียนโฉวก็เดือดดาลนัก

หลังจากทุ่มกำลังไปมาก ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายได้เปรียบเสียที หากแต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบโต้มาแล้ว เช่นนี้ก็เหมือนกับเสียเงินเสียเวลายืมเงินคนเพื่อเอาไปเสี่ยงดวงหาเงินคืนหลังจากพ่ายแพ้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายเลิกเล่นไปแล้ว

มีหรือที่ฉือเทียนโฉวจะไม่โมโห ?

แต่ไม่ว่าจะอยากระเบิดอารมณ์สักเพียงไหน ซูเฉินก็ยังเมินเขาต่อไปเนื่องจากต้องการดูงานประมูลต่อ

พวกเขาอยู่ในถิ่นศาลาหมู่เมฆ หากฉือเทียนโฉวกล้าโจมตีซึ่งหน้าก็คงจบไม่สวยเป็นแน่

หากโจมตีจิตก็ไม่ได้ โจมตีร่างก็ไม่ได้ แล้วจะสนใจอีกฝ่ายต่อไปเพื่ออะไร ?

“1.5 ล้าน” เครื่องมือต้นกำเนิดที่เป็นรองเท้าชั้นดีคู่หนึ่งกำลังออกประมูล เมื่อคิดได้ว่ากู่ชิงลั่วยังไม่มีรองเท้าดี ๆ สักคู่ใส่ ซูเฉินก็เสนอราคาไป

เสียไปอีก 1.5 ล้าน เขาก็ได้เครื่องมือต้นกำเนิดรองเท้าชั้นดีมาสวมให้กู่ชิงลั่ว ใบหน้านางแต้มไปด้วยความสุข ทำเอากู่จิ่นถังปวดใจนัก ด้วยเขาอยากเปลี่ยนร่างเป็นสาวงามแล้วโผเข้าใส่อ้อมกอดซูเฉินเสียตอนนี้เลย

ซูเฉินประมูลแหวนกักวิญญาณน้ำนิ่งมาไม่ได้ เขารู้สึกเสียดาย แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไร

ในใต้หล้ายังมีของดีอยู่อีกมากมาย เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นของหายากจริง ๆ แล้ว ของส่วนมากก็หาอะไรมาทดแทนได้เสมอ

หากใช้หินพลังต้นกำเนิด 8 ล้านก้อนซื้อหาแหวนกักวิญญาณน้ำนิ่ง เช่นนั้นก็ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรมันมาก

ไม่นาน เครื่องมือต้นกำเนิดประเภทจิตอีกชิ้นหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น

ไม้เท้าอสรพิษห้วงฝันผวา

ไม้เท้ามีผลึกแก้วต้นกำเนิดอสรพิษห้วงฝันผวาอยู่ที่หัว อสรพิษฝันผวาเป็นอสูรกายประเภทพลังจิตที่เก่งกล้าตัวหนึ่ง ผลึกแก้วต้นกำเนิดของมันหายากนัก ทั้งยังมีความสามารถช่วยให้วิชาประเภทจิตของผู้ใช้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

ทันทีที่ไม้เท้าอสรพิษห้วงฝันผวาปรากฏขึ้น ทั่วทั้งโถงประมูลก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันใด

หลังจากผ่านสงครามการเสนอราคากัน ซูเฉินก็ประมูลมันมาได้ในราคาหินพลังต้นกำเนิด 3.2 ล้านก้อน

หลังจากได้ไม้เท้าอสรพิษห้วงฝันผวามาแล้ว เขาก็ดึงผลึกแก้วต้นกำเนิดออกมาจากตัวไม้เท้า

มันก็คล้ายกับมุกสะท้านวิญญาณ เป็นของที่ทำมาเพื่อใช้งานได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ส่วนประกอบอื่นไร้ประโยชน์ใดอีก จะมีหรือไม่มีส่วนอื่นก็ยังใช้งานได้ ซูเฉินไม่ชอบใช้ของโบกไปโบกมายามต่อสู้ ดังนั้นจึงคิดจะเอามันมาทำเป็นแหวนสวมนิ้วหัวแม่มือแทน

แต่ก็แน่นอนว่าส่วนตัวไม้เท้าเองก็มีราคาสูง เป็นงานฝีมือหน้าตาวิจิตร ดูแล้วก็ยังมีราคาสูงหลายพัน ซูเฉินหันไปพูดกับกู่จิ่นถัง “หากข้ามอบมันให้ท่านก็นับว่าเป็นการดูหมิ่นนัก” ว่าแล้วก็มอบมันให้กับสาวรับใช้

กู่จิ่นถังได้แต่ร้องไห้ไร้น้ำตา จะขายหน้าก็เอาเถอะ เจ้าจะดูหมิ่นอะไรข้าก็ได้ !

ซูเฉินไม่ใส่ใจ ยังคงดูการประมูลต่อไปเผื่อจะมีของดี ครั้งนี้เขามาเพื่อซื้อหาของให้ตนเอง แต่มาจนถึงตอนนี้ นอกจากผลึกแก้วต้นกำเนิดอสรพิษห้วงฝันผวาแล้ว เขาก็ยังไม่ได้อะไรเลย หรือก็คือยังไม่มีของที่ต้องตาเขาเลยสักชิ้น

หากแต่ไม่นาน ของที่เตะตาซูเฉินก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

ชิ้นแรกคือเกราะหนักลึกลับระดับ 6 ซูเฉินได้ยินแล้วก็เสนอราคาที่ 2 ล้านไปทันที

เกราะหนักลึกลับเป็นเพราะป้องกัน ภายในฝังวิชาเกราะลึกลับที่สามารถต้านพลังโจมตีรุนแรงไว้ และแม้เกราะส่วนมากจะไม่อาจใช้คู่กันกับเกราะต้นกำเนิดของผู้เชี่ยวชาญพลังเองได้ แต่ก็สามารถใช้เป็นเกราะสำรองยามฉุกเฉินระหว่างที่เกราะพลังแตกได้ พลังป้องกันมันก็ไม่เลว ทานพลังโจมตีได้อยู่ที่ราว 100 แรงหมี นับเป็นเกราะชั้นยอดในหมู่เกราะหนักทั้งหลาย

ราคาที่เสนอไปทำเอาคนอื่น ๆ หวาดกลัว ซูเฉินจึงได้ของมาโดยง่าย

———————————-