บทที่ 230 ฟันหัว![รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 230 ฟันหัว![รีไรท์]

เสือขาวคำราม ตั้งท่าเตรียมไปฆ่าลู่เต้า

มอ!

ทันใดนั้นเองวัวก็ส่งเสียงกู่ร้องออกมา เกิดปัญหากับวัวดำตัวใหญ่ที่ลู่เต้าขี่อยู่เข้าแล้ว เสือขาวไม่ดูตาม้าตาเรือจึงโดนชนกระเด็นไปไกล

เสือขาวตัวยักษ์กลิ้งไปมาบนพื้น หินที่อยู่บนพื้นแตกเพราะโดนเสือกลิ้งทับ

ตุง ตุง……..!

เสียงเหมือนกับกลอง วัวดำขนาดตัวพอ ๆ กับหัวรถไฟ พอมันวิ่งก็ทำให้พื้นดินสั่นไหวไปหมด พอเท้าสี่กีบของมันแตะพื้น ก็เหมือนมีระเบิดลง สองเขาของมันยาวสามถึงสี่เมตรตรงเข้าไปขวิดเสือขาว

เขาสองข้างนี้ พอจะเปรียบเทียบกับปืนยาวได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ เมื่อโดนมันขวิดรับรองท้องของเจ้าเสือขาวนี้เป็นรูโบ๋แน่นอน เสือขาวเพิ่งจะดันตัวลุกขึ้นมาได้ วัวดำก็เข้าไปขวิดเข้าแล้ว!!

ยอดแหลมบนเขาวัวทิ่มไปที่ท้องของเสือขาว น่าเสียดายที่มันเจาะไม่ทะลุ มันมีแสงสีขาวมาบล็อกเอาไว้

โคร่ง!

เสือขาวโมโห คำรามออกมาแล้ววิ่งฝ่าออกไป แต่คาดไม่ถึงว่าเขาวัวสองข้างปล่อยแสงสีดำออกมา เข้าไปขวิดเสือขาวจนกระเด็น ท้องมีเลือดไหลออกมาจากรูที่เกิดจากการโดนขวิด

“เสี่ยวไป๋!” สีหน้าหร่วนหยางเจิ้งเปลี่ยนไป เสือขาวกระเด็นพุ่งไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนหยุดลง

“ไอ้ชั่ว แกกล้าดียังไงมาทำร้ายเสี่ยวไป๋ !?” หน้าตาอันหล่อเหลาของหร่วนหยางเจิ้งเปลี่ยนเป็นหน้าตาบูดเบี้ยว เขาพลิกนิ้วมือ แล้วปล่อยลูกบอลเหล็กสีดำลูกหนึ่งออกมาจากปลายนิ้ว

พอลู่เต้าเห็นแบบนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที พร้อมพูดออกมาเสียงต่ำ “เจ้าแซ่หร่วนนี่ช่างกล้าดีนักนะ”

หร่วนหยางเจิ้ง พึมพำบางอย่างและสะบัดมือ จากนั้นลูกบอลก็ไปกระแทกกับวัวดำ บอลเหล็กสีดำก็เหมือนกับปลายมีดสีดำ ปล่อยประกายออกมา พุ่งตรงไปที่หัวของวัวดำ

ตู้ม!

เสียงระเบิดกดตัวต่ำลงมา เหมือนกับพายุสายฟ้าฟาด ระเบิดออกเป็นแนวโค้งปกคลุมไปรอบ ๆ พื้นที่ในรัศมี สิบเมตร (รัศมีระเบิดนี้จะเป็นเหมือนชามคว่ำ)

ทันใดนั้นพื้นก็ระเบิดออก เลือดสาดกระเซ็น แขน ขา อวัยวะปลิวว่อน ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงกรีดร้องตกใจดังออกมา

สายตาของฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนไป เขามองดูด้วยความเยือกเย็น หลังจากลูกบอลเหล็กดำที่หร่วนหยางเจิ้งขว้างออกไประเบิดออก นอกจากวัวดำที่โดนระเบิดตาย ยังมีชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องตายและบาดเจ็บอีหลายสิบคน

“ไอ้ดำ” ลู่เต้ามองดูวัวดำที่ตายลงไป หัวระเบิดออก เศษเนื้อปลิวว่อน ลู่เต้าเสียสติจนร้องคำรามออกมา รอบ ๆ สี่ทิศเสียงดังโกลาหล มีคนคอยช่วยกันเรียกรถพยาบาล ที่เกิดเหตุปั่นป่วนไปหมด

ลู่เต้าแกว่งมือปล่อยออกมาลำแสงสีดำ พุ่งเข้าโจมตีเสือขาวที่นอนอยู่ไกลออกไป

ขนของเสือขาวปล่อยแสงออกมา แสงสีขาวแสบตาป้องกันลำแสงสีดำเอาไว้ แต่มันก็ไม่อาจหยุดได้อยู่ดี เสือขาวร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ขนสีขาวทั้งตัวของมันหมองคล้ำลงในทันทีทันใด ตัวของมันพองเหมือนกับลูกโป่งที่โดนสูบลมเข้าไปจนพอง

ฉู่ชวิ๋นมองดูสถานการ์ณด้วยความเยือกเย็น เขายกมือขึ้นเพื่อวาดเขตแดนรอบเสือขาว จากนั้นไม่ถึงสามวินาทีก็ได้ยินเสียง “ปั้ง” รอบตัวเสือขาว

เสือขาวตัวระเบิด เลือดของมันเป็นสีดำสนิท ร่างของมันโดนเขตแดนป้องกันไม่ให้กระเด็นไปไหน พื้นดินยุบตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ มีเสียง “ซ่าซ่า” พร้อมกับควันสีขาวลอยออกมา

ถางโร้วตกใจจนเอามือปิดปากไว้ ตาเบิกโพลง

เธอพอจะเข้าใจได้ว่า ถ้าหมอกเลือดนี้ไม่โดนเขตแดนของฉู่ชวิ๋นป้องกันเอาไว้คงจะเกิดโศกนาฏกรรมกับผู้คนรอบ ๆ เป็นแน่

พอเฉินฮั่นหลงมองเห็นฉู่ชวิ๋น ทั้งสามก็ดีใจและรีบวิ่งไปหาทันที

“ไอ้เวรพวกนี้ ไม่คิดจะสนใจว่า ผู้คนจะเป็นหรือตายเลย” เจิ้งกันด่าออกมายกใหญ่ หน้าตาเฉินฮั่นหลง และเจิ้งก่วงอี้เองก็ไม่พอใจเช่นกัน

“ลู่เต้า ฉันขอให้แกไม่ตายดี” หร่วนหยางเจิ้งสบถออกมา ในเวลาเดียวกันลูกบอลเหล็กสีดำ ก็ปรากฏระหว่างนิ้ว

“ก็เข้ามาสิวะ มาดูกันว่าใครจะตายก่อนกัน ?” ในมือของลู่เต้ามีสิ่งหนึ่งอยู่ มันเป็นสิ่งมีชีวิต มันคือแมงมุมที่มีผิวดำด้าน

อันที่จริงแล้ว ลู่เต้าคือจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ หร่วนหยางเจิ้งยังอยู่ในขั้นจอมยุทธ์ธรรมดา พูดได้เลยว่าแค่ลู่เต้าขยับมือ ก็ฆ่าหร่วนหยางเจิ้งได้สบาย ๆ แม้ทั้งสองจะโมโหสุด ๆ แต่พวกเขาก็ยังต้องคุมสติตัวเองเอาไว้

ทั้งสองปล่อยพลังของตัวเองออกมา ทำให้ผู้คนรอบข้างหยุดชะงักไปพักหนึ่ง

“ท่านทั้งสองใจเย็นก่อน ไม่งั้นเป้าหมายในครั้งนี้ มันจะไม่สำเร็จนะ” ชิวเซียนห้ามมวยเอาไว้ และยิ้มเบา ๆ ออกมา

“คุณชายหร่วน หยุดเถอะ” โหยวจงเจี๋ยพูดออกมา ซึ่งน้ำเสียงก็ดูไม่ดีนัก

หร่วนหยางเจิ้งรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ในใจเองเขาก็คิดว่าถ้าสู้กันเขาคงแพ้ ส่วนลู่เต้านั้นจริง ๆ แล้วอยากจะช่วยโหยวจงเจี๋ยแก้แค้น แต่เขาดันสอดมือเข้าไป ทำให้โหยวจงเจี๋ยรู้สึกไม่พอใจ แถมตอนนี้เขาสัตว์เลี้ยงแสนรักของเขายังมาตายไปอีก ความรู้สึกเหมือนกับว่า เสียคู่ชีวิตก็ไม่ปาน

เขาเก็บลูกบอลเหล็กสีดำ พลางยิ้มออกมา “คุณชายโหยว ฉันต้องขอโทษด้วย ฉันแค่อยากจะสั่งสอนไอ้สามคนนั้นด้วยตัวเอง ไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้น”

“เอาเถอะ ๆ”  โหยวจงเจี๋ยยิ้มแบบฝืน ๆ เขาอับจนหนทาง เขาก็แค่อยากจะก้าวด้วยการเอาใจคุณชายโหยวจงเจี๋ย ? แถมเขาก็ไม่อยากจะให้ลู่เต้าได้หน้าไปคนเดียวด้วย เมื่อมองไปที่ลู่เต้า เขาก็เก็บแมงมุมดำลงไปแล้วเอาขวดหยกขาวออกมา ซึ่งมียาสีแดงอยู่ในนั้น เขากลืนยาเข้าไปทันที

ลู่เต้าพูดเสียงทะมึน “เจ้าคนแซ่หร่วน ตัวข้าลู่เต้าจดบัญชีแค้นเอาไว้แล้ว”

“โอ้ย…วันนี้ทำไมมันร้อนจังนะ ดูสิฉันโดนแดดเผาจนดำแล้ว” ชิวเซียนพูดออกมา จงใจขัดจังหวะทั้งยังหันไปส่งสายตาให้โหยวจงเจี๋ย

โหยวจงเจี๋ยเห็นแบบนั้นก็ดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ร่างกายท่อนล่างจากที่ดูไร้เรี่ยวแรงลุกชู่ คอเริ่มแห้งใบหน้าแสดงความหื่นกระหายออกมา

สายตาของชิวเซียนเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม หากไม่ใช่เพราะอัญมณีลับของตระกูลโหยว เธอจะไม่ชายตามองโหยวจงเจี๋ยเลยแม้แต่น้อย

“คุณผู้หญิงชิวเทียน บ้านผมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ แวะไปเยี่ยมชมหน่อยไหมล่ะ ?” โหยวจงเจี๋ยกลืนน้ำลายแล้วพูดออกมา

“งั้นคงต้องรบกวนคุณชายโหยวแล้วล่ะค่ะ” ชิวเซียนกล่าว

โหยวจงเจี๋ยยิ้มแฉ่งและส่งยิ้มจากแววตา พยักหน้าแล้วโค้งคำนับพร้อมนำทางให้ชิวเซียน

“คุณชายโหยว สามคนนี้จะเอายังไงดี ?” มีคนถามมาขึ้นมา โหยวจงเจี๋ยรำคาญเล็กน้อย เขาเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า มีเฉินฮั่นหลงและพวกผองอีกสองคนรอกระทืบอยู่ ความสวยของชิวเซียนก็เขาทำให้หลง ๆ ลืม ๆ ไปซะจริง

“ฆ่ามันไปเลย”

“ได้เลยครับ ผมจะจัดการให้คุณชายโหยวเอง” ชายคนนี้ยิ้มกว้างออกมา พลังลมปราณพลุ่งพล่าน เขาคิดว่า กำลังได้หน้าจากคุณชายโหยวจงเจี๋ยแล้ว เขาคือจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับสอง

แต่เมื่อมีฉู่ชวิ๋นอยู่ข้าง ๆ เฉินฮั่นหลงก็ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น!

“ฉันละแปลกใจจริง ๆ ไอ้เด็กนี่ก็แค่ขยะดี ๆ นี่เอง ทำไมพวกนายถึงยังจะคุกเข่าให้กับมันนัก ไหนลองบอกฉันมาทีซิ” เฉินฮั่นหลงรู้สึกสงสัย

พอได้ยินคำว่า “ขยะ” ขึ้นมาก็เหมือนไปจี้ใจดำโหยวจงเจี๋ย ทำให้เขาโกรธมาก สองตาจ้องมองเฉินฮั่นหลงด้วยความอาฆาตแค้น ลืมความงามของชิวเซียนไปสนิท

“ฉันจะจับแกมาถลกหนังออกเป็นชิ้น ๆ แล้วเอาเข็มกับด้ายมาเย็บปากแกซะ!” โหยวจงเจี๋ยกัดฟันกรอด พูดจาดุร้าย ดูทรงแล้วเขาคงจะเกลียดคำว่า ‘ขยะ’ มาก

“ก็ที่ฉันพูดมันจริงหนิหว่า พวกแกลองดูคุณชายหร่วนสิ แม้จะสกุลหร่วน[10] แต่ท่าทางเขาไม่อ่อนเลยนะ เป็นถึงจอมยุทธ์ระดับเจ็ดเลยทีเดียว แล้วดูแกสิ เป็นแค่จอมยุทธ์ระดับห้า จุ๊ๆๆ” เฉินฮั่นหลงส่งสีหน้าล้อเลียน

“แล้วยังมีแม่สาวน้อยชิวเซียนคนนี้อีก อายุคงไม่ห่างกับแกมาก แต่ระดับการฝึกฝนก็ถึงขั้นจอมยุทธ์ระดับหก แล้ว แข็งแกร่งกว่าแกไม่น้อยเลยนะ ฉันพูดว่าแกมัน ‘ขยะ’ แล้วผิดตรงไหน ?”

โหยวจงเจี๋ยคลุ้มคลั่ง หน้าหงิกหน้างอ ตะคอกออกมา “ใครก็ได้ไปจับมันมา! ใครที่จับมันมาให้ฉันได้ ฉันจะขายเกราะม่วงทองคำให้คนนั้นเลย!!”

พอพูดประโยคนั้นออกมา แววตาของทุกคนก็เปล่งประกาย ทุกคนลงมือแทบจะพร้อมกันพวกเขาพุ่งไปลากตัว เฉินฮั่นหลงมาทันที

จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับสอง อยู่ใกล้ที่สุด เขายกกำปั้นขึ้น ปล่อยลมปราณออกมาเขาระเบิดเสียงหัวเราะด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม … พร้อมคิดในใจ ตอนนี้เกราะม่วงทองเป็นของฉันแล้ว!

ฉู่ชวิ๋นเริ่มโกรธ หลังจากที่โลกเปลี่ยนแปลงไป มันก็เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ

พวกจอมยุทธ์วางอำนาจบาตรใหญ่ ไม่คิดจะสนใจชีวิตของคนธรรมดาสามัญ เมื่อครู่หร่วนหยางเจิ้งเองก็ยังทำให้คนบาดเจ็บล้มตายไปนับสิบ แทนที่เขาจะรู้สึกผิดหรือละอายต่อบาป แต่เขากลับสนใจเฉพาะเสือขาว

ฉู่ชวิ๋นรู้จักแมงมุมดำของลู่เต้า มันคือแมงมุมอูหมิง พิษร้ายแรงมาก หากโดนกัดไปจะรู้สึกกระหายเลือดและเสียสติจนต้องไปเอาเลือดวัวทั้งตัวมาดื่ม จากนั้นคนที่โดนกัดร่างกายจะระเบิด แล้วเวลาระเบิดมันไม่ใช่แค่ระเบิดเป็นฝนเลือด รัศมีจะกระจายของมันจะเป็นวงกว้างพิษที่ปะปนอยู่ในเลือดก็จะทำให้คนอื่น ๆ ที่โดนเข้าตายไปด้วย

หากมันถูกปล่อยออกมา ฉู่ชวิ๋นไม่รู้ว่าจะต้องมีคนบริสุทธิ์อีกกี่คนที่จะต้องสังเวยชีวิต

“แม่จ๋า……แม่…..” เด็กสาวตัวน้อยอายุประมาณสามถึงสี่ขวบ เขย่าร่างแม่ที่นอนจมกองเลือดอยู่เธอพยายามปลุกแม่ขึ้นมา ตอนที่ระเบิดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผู้เป็นแม่ได้ใช้ร่างกายบังตัวลูกสาวเอาไว้

รถที่ขับอยู่ชนเข้ากับสิ่งกีดขวางบนถนน ผู้หญิงใส่ชุดทำงานที่ขับรถอยู่ตายในสภาพคอหัก ตาเบิกโพลง รถเสียหลักเพราะแรงระเบิด

“พ่อครับ แม่ครับ…..” เด็กชายตัวน้อยอายุสิบกว่าขวบใส่ชุดนักเรียน กำลังใจสลายร้องไห้โฮต่อหน้าร่างของพ่อแม่ที่ไร้วิญญาณ

คนหนุ่มคนหนึ่งแขนพิการจากระเบิด ตาบอด เขาต้องใช้ชีวิตต่อไปกับร่างกายที่พิการ มีบางคนขาขาดกรีดร้องออกมาจนผู้คนตกใจกลัว พื้นดินกำลังแปดเปื้อนไปด้วยเลือด

ฉู่ชวิ๋นโกรธจัด สายตาเย็นยะเยือก ปล่อยหมัดออกไปพร้อมโซ่สีม่วงระเบิดออกมาจากหมัดของเขา

ตู้ม!

บนท้องฟ้าปรากฏเป็นฝนเลือดตกลงมา มันมาจากจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับสองที่โดนต่อยฉู่ชวิ๋นเข้าไป

คนอื่น ๆ มึนงงก่อนจะตกตะลึงตาค้าง เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก

ฉู่ชวิ๋นไม่ให้เวลาพวกเขาคิด มีดแหลมคมตกลงมาจากฟ้าราวกับห่าฝน ควันสีม่วงระเบิดออกกลายเป็นใบมีดแหลมคมที่แหวกแผ่นฟ้า

ฟู่!

เลือดสาดกระจายเต็มพื้น นกกระเรียนที่อยู่ข้าง ๆ ชิวเซียนหัวขาด

ฉึก!

หัวงูขนาดยักษ์กลิ้งลงมา ในเวลานั้น ประกายสีม่วงแหวกอากาศแล้วก็หายวับไป เลือดสาดกระจายเต็มพื้น หมอกเลือดปกคลุมไปทั่ว เหล่าสัตว์ข้างกายของพวกจอมยุทธ์ ต่างก็โดนตัดหัวกันถ้วนหน้า

ปัง ปัง…….!

มือยักษ์สุดน่ากลัวตกลงกระแทกพื้น ทำให้พื้นดินแตกออก โดยเฉพาะ ลู่เต้ากับพรรคพวกกระอักเลือดออกมาไม่หยุด ตัวทรุดลงไปกับพื้นดิน

หร่วนหยางเจิ้งกับพรรคพวกตกใจกลัว สภาพทุกคนเหมือนนกแตกรัง ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้นแล้วพูดด้วยความโกรธออกมา “จอมยุทธ์ทุกคนจงฟัง จากนี้ไปห้ามเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในเมืองกู่เจียง หากยังไม่เชื่อฟังจะไม่มีการไว้ชีวิตอย่างเด็ดขาด!!”

เสียงถูกกระตุ้นโดยพลังลมปราณจำแลง เขาปล่อยควันสีม่วงออกมา มันพุ่งไปขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วระเบิดกลางอากาศราวกับพายุสายฟ้า พัดไปรอบ ๆ เมืองกู่เจียง

ในตอนนี้ พวกจอมยุทธ์ของเมืองกู่เจียงตกตะลึง จนทำอะไรไม่ถูก

“พวกนายกลับไปก่อน” ฉู่ชวิ๋นพูด

“ฮั่นหลง เอาน้ำยาเทวะออกมา แล้วพาคนพวกนี้ไปส่งโรงพยาบาล รีบช่วยชีวิตพวกเขา”

พอสิ้นคำสั่ง ฉู่ชวิ๋นก็ยกมือขึ้น วาดเขตแดนกดหร่วนหยางเจิ้งและพวงพ้องเอาไว้

“ศิษย์พี่ตู๋ รู้ไหมว่า ตอนนี้ใครกำลังมีเรื่องกันอยู่ ?” ชายชราคนหนึ่งเขาคือ จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับเก้า เป็นเจ้านายของสิงโตยักษ์เอ่ยขึ้น

ข้าง ๆ เขาเป็นชายวัยกลางคน ท่าทางราวกับเทพเซียน เครายาวใส่ชุดจีนโบราณสีขาว ข้างตัวมีสุนัขทิเบตขนาดใหญ่นั่งอยู่ ปากอันใหญ่โตของมันกำลังเขี้ยวเนื้ออย่างอร่อย ตัวของมันทรงพลังยิ่งกว่าสิงโตซะอีก

“เมืองกู่เจียงเป็นถิ่นฐานของพวกตระกูลโหยว คนพวกนี้ไม่รู้อะไรแล้วมาล้ำเส้น สงสัยอยากตายละมั้ง” ชายวัยกลางคนพูดจาเหยียดหยาม

ฟู่ว!

เลือดสาดกระเด็นไปไกลสามจ้าง กลิ่นคาวคละคลุ้ง หัวของสัตว์ร้ายตัวใหญ่สองตัวกลิ้งกระเด็นกระดอนไปหลายสิบเมตร ร่างของมันทั้งคู่ล้มลง กลายเป็นสิงโตและสุนัขทิเบตที่ไร้หัว ตัวมันล้มลงฟาดกับพื้น เลือดไหลจากคอที่ขาดราวกับแม่น้ำ

ทั้งสองคนตกใจจนวิญญาณเตลิด พวกเขาเป็นถึงจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับเก้าถือว่าทรงพลังอยู่มาก แต่ใครฆ่าสัตว์เลี้ยงคู่ใจของพวกเขา แม้เงาของคนคนนั้นพวกเขาก็ยังมองไม่เห็น

ที่ร้านอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่งโดนคนที่มากับเสือดาวยึดที่นี่เอาไว้

มันคือเสือดำดุร้าย ลำตัวยาวประมาณห้าเมตรได้ ดวงตาสีเหลืองอำพันดูน่าเกรงขาม เขี้ยวยาวครึ่งเมตรและคมยิ่งกว่าใบมีด

มันกำลังขย้ำวัวธรรมดาตัวหนึ่ง เขี้ยวยาวครึ่งเมตรเจาะทะลุเข้าไปลำตัวของวัวอย่างง่ายดาย แม้แต่กระดูกก็โดนมันเคี้ยวจนแหลกละเอียด เลือดสีดำและแดงไหลนองไปทั่วพื้น ดูแล้วน่าขยะแขยง

แถมยังมีเด็กหนุ่มที่นั่งกินสเต๊กและจิบไวน์แดงอยู่แค่โต๊ะเดียวในร้านอาหาร พนักงานโรงแรมยืนประกบด้วยท่าทางหวาดกลัว เด็กเสิร์ฟบางคนตัวสั่นกลัวและส่งเสียงร้องออกมา

“ไปเอาวัวมาเพิ่มอีกตัว” เด็กหนุ่มตะโกนสั่งเมื่อเห็นว่า เสือดำนี้กินเสร็จแล้ว

โคร่ง!

เสือดำคำรามเสียงต่ำออกมา ดวงตาสีอำพันที่ดูดุร้ายมองไปที่พนักงานโรงแรม พร้อมกับน้ำลายไหลออกมา

“เร็ว ๆ หน่อยสิ ถ้ายังปล่อยให้มันหิวพวกแกคนใดคนหนึ่งจะต้องกลายเป็นอาหารของมันนะ” ชายหนุ่มพูดหยอก ทุกคนต่างกลัวจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง พวกเขาเชื่อโดยปราศจากความสงสัยว่า เสือดำจ้องจะกินพวกเขาอยู่จริง ๆ ทันใดนั้นลมก็พัดโชยมา

ต่อมา ทุกคนสภาพยืนแข็งทื่อกลายเป็นหิน ไม่แม้กระทั่งจะร้องออกมาเพราะพวกเขาเห็นแค่ว่าคนกับเสือดำโดนตัดหัวไปแล้ว!!