ตอนที่ 229 เพื่อนบ้านที่ซ่อมคอมพิวเตอร์

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

ตอนที่ฉินหร่านยังไม่ได้มารัฐ M เฉิงมู่พูดถึงเธอในกลุ่มอยู่หลายครั้ง

 

 

เฉิงหั่วจึงรู้จักฉินหร่านมาบ้างแล้ว เขารู้ว่าฉินหร่านเรียนคอมพิวเตอร์มาจากคุณปู่ของเธอและยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้

 

 

นอกจากนั้นเฉิงหั่วมักจะรู้สึกว่าฉินหร่านมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกับอวิ๋นกวงกรุ๊ปอีกด้วย ดังนั้นพอฉินหร่านพูดประโยคนี้ออกมา เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดอะไร “คุณหนูฉินพูดถูก ไม่คืบหน้าเลยจริงๆ”

 

 

ตอนที่เขาพูด ถังชิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้วโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

 

เฉิงเจวี้ยนกลับไปนั่งเก้าอี้พลางยื่นมือพลิกดูเอกสาร เขาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “ไม่คืบหน้าสักนิดเลยเหรอ?”

 

 

“โค้ดนั่นก็แปลกพิสดารเกินไป แต่ว่าคุณลุงของถังชิงเป็นบุคคลภายในฝ่ายไอทีของอวิ๋นกวงกรุ๊ป ผมจึงอยากจะให้ถังชิงเชิญคุณลุงของเธอมาที่นี่ ถ้าคุณลุงของเธอมาได้ เราให้เขาพักอยู่ในคฤหาสน์สักช่วงได้ไหมครับ?” ที่เฉิงหั่วมาหาเฉิงเจวี้ยนก็เพราะเรื่องคุณลุงของถังชิงเป็นหลัก

 

 

ไม่ใช่แค่เฉิงหั่วเท่านั้นที่สนใจปัญญาประดิษฐ์ของอวิ๋นกวงกรุ๊ป เฉิงเจวี้ยนก็สนใจด้วย เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่เสียเวลาไปกับหน่วยข่าวกรองถึงขนาดนี้

 

 

เฉิงเจวี้ยนเคาะนิ้วบนโต๊ะพลางขมวดคิ้ว เขาพูดด้วยความใจกว้าง “ได้ ให้เฉิงสุ่ยไปเตรียมการ” 

 

 

“ผมจะคุยกับเขาเย็นนี้” เฉิงหั่วเดาเอาไว้แล้วว่าเฉิงเจวี้ยนคงไม่ปฏิเสธ เขาจึงไม่แปลกใจนัก คิดอยู่สักพักก็หันไปมองฉินหร่าน ในที่สุดก็ถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน “คุณหนูฉิน คุณรู้จักบุคคลภายในของอวิ๋นกวงกรุ๊ปใช่ไหมครับ?”

 

 

หลายวันมานี้เฉิงหั่วเอาแต่ค้นคว้าเรื่องโค้ดอยู่ที่หอคอยมาตลอด  น้อยครั้งมากที่จะออกมา

 

 

วันนี้ถึงได้มีโอกาสถามออกไป

 

 

ด้วยประโยคนี้ ถังชิงจึงเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอมองฉินหร่านด้วยความประหลาดใจ

 

 

ฉินหร่านพลิกหนังสือ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับพูดอย่างใจเย็น “รู้จักอยู่คนนึง  เป็นนักเล่นเกมจิ่วโจวระดับมืออาชีพ”

 

 

เกมจิ่วโจวนี้เฉิงหั่วก็รู้จักดี เขาเล่นเป็นบางครั้งบางคราว

 

 

เฉิงมู่เคยพูดอยู่เหมือนกันว่าฉินหร่านมักจะเล่นเกมกับลู่จ้าวอิ่งเป็นประจำ เฉิงหั่วพยักหน้าและเดาว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสมาชิกทีมOST

 

 

แต่ก็ผิดหวังอยู่หน่อยๆ ใบหน้าเยาว์วัยของเขาดูหม่นหมอง “งั้นก็คงได้แค่รอคำตอบจากคุณลุงของถังชิง”

 

 

“จริงสิคุณหนูฉิน คุณรู้เกี่ยวกับโค้ดบนตัวเสี่ยวเฮยมากแค่ไหน?” เฉิงหั่วคิดว่าฉินหร่านมีความรู้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์เป็นอย่างดี

 

 

ฉินหร่านอ่านหนังสือด้วยความรวดเร็วและพลิกไปอีกหน้า

 

 

เธอยังไม่ทันตอบ ถังชิงที่อยู่ข้างๆ เฉิงหั่วก็พูดขึ้นมาว่า “รุ่นพี่เฉิงหั่ว ฉันขอตัวออกไปติดต่อคุณลุงก่อนนะคะ”

 

 

ตอนนี้คุณลุงของถังชิงกำลังเป็นที่สนใจของเฉิงหั่ว ถังชิงเก่งตั้งแต่อายุยังน้อย เฉิงหั่วจึงคิดอยู่เสมอว่าคุณลุงของเธอคงไม่ใช่คนธรรมดา

 

 

เมื่อได้ยินถังชิงบอกว่าจะไปติดต่อคุณลุงของเธอ เฉิงหั่วก็ไม่ได้อยู่ต่อ เขาพูดกับเฉิงเจวี้ยนและฉินหร่านแล้วเดินออกไปพร้อมกับถังชิง

 

 

หลังจากที่ทั้งสองออกไปแล้ว ฉินหร่านก็เอียงศีรษะ เท้าคางไปด้วยถือหนังสือไปด้วยพลางมองไปทางเฉิงเจวี้ยน “คุณก็สนใจปัญญาประดิษฐ์ด้วยเหรอ?”

 

 

“ไม่ได้สนใจ” เฉิงเจวี้ยนวางเอกสารในมือลง มองมาที่เธอแล้วยิ้ม “แต่สนใจคนที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์นี้ต่างหากละ”

 

 

“เอ๊ะ” ฉินหร่านก้มหน้าลง ลดระดับเสียง “อย่างงั้นเหรอ”

 

 

เธอพูดไปเพียงหนึ่งประโยค

 

 

จากนั้นก็เอนตัวพิงโซฟา พลิกหนังสืออย่างนุ่มนวลโดยไม่กล้าพูดอะไรอีก

 

 

บรรยากาศภายในห้องหนังสือทั้งอบอุ่นและเงียบสงบ ช่วงนี้ฉินหร่านจะไปซ้อมให้เฉิงมู่ในช่วงกลางวัน แม้เธอจะไม่ได้ออกแรงมาก แต่ก็ทำให้ร่างกายอ่อนล้าได้เช่นกัน เธอไม่ได้เหมือนเฉิงมู่ที่กินยาทดลองเยอะขนาดนั้นทุกวัน แน่นอนว่าพละกำลังย่อมเทียบกันไม่ได้ ตอนนี้เธอจึงง่วงยิ่งกว่าเดิม

 

 

เดิมทีเฉิงเจวี้ยนยังคิดจะถามเธอเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ แต่พอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าสติเธอได้หลุดลอยไปแล้ว เขาจึงไม่ได้ถามต่อ แต่นั่งอ่านหนังสือเก่าขาดๆ เล่มหนึ่งอยู่อีกด้าน

 

 

**

 

 

ด้านนอก

 

 

เฉิงหั่วกำลังรอถังชิงติดต่อกับคุณลุงของเธอ

 

 

ตอนนี้โค้ดยังพัฒนาไปได้ไม่มาก เฉิงหั่วจึงตั้งใจจะติดต่อกับประธานสมาคมแฮกเกอร์เพื่อคลายข้อสงสัย แต่ดูเหมือนช่วงนี้เขากำลังยุ่งอยู่กับเรื่องอื่น บางครั้งก็นานกว่าจะตอบกลับมา

 

 

“รุ่นพี่เฉิงหั่ว คุณหนูฉินนั่นก็เข้าใจโค้ดพวกนี้ด้วยเหรอ?” ขณะที่ถังชิงกำลังต่อสายวิดีโอคอลกับคุณลุงของเธอ เธอก็ถือโอกาสตอนที่รอถามเฉิงหั่วเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

 

เฉิงหั่วมองไปที่หน้าจอมือถือของเธอ พูดส่งๆ “เธอเคยเรียนกับคุณปู่ของเธอมาบ้างน่ะ”

 

 

“อ้อ งั้นเธอเป็นสมาชิกสมาคมแฮ็กเกอร์ไหม?” ถังชิงถามต่อ

 

 

“ไม่ใช่ ประธานจะให้ฉันจัดการรายชื่อสมาชิกสมาคมแฮ็กเกอร์ทุกปี” เฉิงหั่วยังไม่ละสายตา

 

 

สมาคมแฮ็กเกอร์เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักแฮ็กเกอร์ การที่อยู่ในสมาคมนี้สามารถเรียนรู้อะไรได้มากมายหลายอย่าง ยกเว้นบางคนที่ไม่ต้องพึ่งสมาคมแฮ็กเกอร์ก็สามารถยืนหยัดด้วยความสามารถของตัวเองได้ ตราบใดที่เป็นนักแฮ็กเกอร์ที่มีชื่อเสียง พวกเขาก็จะเลือกเข้าร่วมสมาคม

 

 

เหตุผลแรกคือเพื่อคุ้มครองตัวเองและถือโอกาสเรียนรู้ เหตุผลที่สองคือพวกเขาสามารถรับภารกิจบนเว็บไซต์ทางการของสมาคมแฮ็กเกอร์ได้ตามใจชอบ

 

 

นี่คือเหตุผลทั่วไป

 

 

เมื่อได้ยินเฉิงหั่วบอกว่าไม่มี ถังชิงก็ไม่ได้ถามอะไรอีก จากนั้นก็หันกลับมารอสายคุณลุงของเธอ

 

 

รอบแรกยังไม่รับ

 

 

คุณลุงของเธอรับสายในรอบที่สอง

 

 

ทางด้านนั้นดูเหมือนจะเสียงดังเล็กน้อย อีกฝ่ายเป็นเสียงหนาทุ้ม “ถังชิง? โทรมามีอะไร?”

 

 

เสียงฟังดูน่าเกรงขาม

 

 

ถังชิงเคารพคุณลุงของเธออย่างเห็นได้ชัด พอได้ยินเสียงเขา เธอก็รีบยืนตัวตรง ผมหยิกบลอนด์ส่ายเล็กน้อย “คุณลุงคะ คุณลุงยังอยู่ที่รัฐ Mหรือเปล่า?”

 

 

คุณลุงของถังชิงที่อยู่ปลายสายเหมือนกำลังเดินอยู่ หลังจากนั้นไม่นานเสียงรบกวนในโทรศัพท์ก็หายไป คุณลุงของเธอน่าจะไปหาที่เงียบๆ คุย “ยังมีธุระที่ต้องทำ”

 

 

“คือแบบนี้ค่ะ ทางเรามีโค้ดอยู่ชุดนึงเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ จึงอยากจะเชิญคุณมา…” ถังชิงอธิบายสถานการณ์อย่างกระชับ

 

 

เสียงคุณลุงของเธอค่อนข้างแผ่วลง “ไม่ได้ ฉันไปไม่ได้”

 

 

เป็นการปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน

 

 

เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขาก็คล้ายกับว่าสายจะถูกตัดในวินาทีต่อไป

 

 

ถังชิงเดาไว้แล้วแต่ก็ยังพยายามโน้มน้าว “พวกเราอยู่คฤหาสน์ปี่อั้น อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของคุณลุงมาก หากไม่เป็นการรบกวนพวกเราจะขอไปพบคุณลุง จะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมเยียนคุณลุงด้วย…”

 

 

เมื่อได้ยินที่ถังชิงพูด เสียงทางด้านนั้นก็ชะงัก “เดี๋ยวก่อน เธอบอกว่าพักอยู่ที่ไหนนะ?”

 

 

ตอนแรกถังชิงยังคิดว่าคุณลุงของเธอจะวางสายแล้ว

 

 

ไม่คิดว่าจู่ๆ เขาก็ถามเธอว่าเธออยู่ที่ไหน

 

 

ถังชิงจึงรีบส่งที่อยู่คฤหาสน์ให้เขาทันที

 

 

พอฟังจบ ดูเหมือนจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ฉันขอคิดดูก่อน”

 

 

“คุณลุงฉันไม่ได้ปฏิเสธ” หลังจากโทรเสร็จ ถังชิงก็พยายามข่มความดีใจไว้ ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นเหมือนน้ำทะเล “ยังพอมีโอกาส”

 

 

เฉิงหั่วที่กำลังนอนฟุบอยู่ที่ขอบหน้าต่างมองมาทางถังชิง “เธอรู้ไหมว่าคุณลุงของเธอทำหน้าที่อะไรในอวิ๋นกวงกรุ๊ป? ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้ว…”

 

 

เฉิงหั่วคิดว่าไม่น่าจะใช่คนธรรมดา

 

 

“ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนที่ฉันยังเด็ก จำได้ว่าคุณลุงเป็นคนที่เก่งมาก” ถังชิงเบาเสียงลง “เมื่อก่อนมีคนของสมาคมแฮ็กเกอร์เชิญเขาเข้าสมาคมด้วย แต่เขาไม่เข้า”

 

 

มีคนฝีมือดีประเภทหนึ่งที่รักอิสระ ไม่ชอบอยู่ภายใต้การบังคับบัญชามาโดยกำเนิด ไม่ชอบระบบกฎเกณฑ์ของสมาคมแฮกเกอร์ พวกเขาจึงไม่เข้าร่วมกับสมาคมแฮกเกอร์

 

 

เห็นได้ชัดว่าคุณลุงของถังชิงก็เป็นคนประเภทนี้

 

 

เฉิงหั่วพยักหน้าและตั้งตารอคุณลุงคนนั้นที่ถังชิงพูดถึง “เมื่อไหร่ที่คุณลุงของเธอติดต่อมา ให้รีบมาบอกฉันทันที”

 

 

“ค่ะ” ถังชิงกำโทรศัพท์แน่นแล้วยิ้ม “ขอแค่ได้ข่าว ฉันจะรีบแจ้งคุณเป็นคนแรก”

 

 

**

 

 

พลบค่ำ

 

 

เฉิงเจวี้ยนถูกปลุกด้วยนาฬิกาชีวภาพ ปกติเขาก็ขี้เซาอยู่แล้ว หลังจากฉินหร่านนอนกลางวัน เขาก็ผล็อยหลับไปด้วย

 

 

ตอนที่ตื่นขึ้นมา ฉินหร่านก็ยังนอนอยู่บนโซฟา

 

 

โดยที่นอนหนุนแขนเขา เห็นเพียงครึ่งหน้า เธอหลับสนิทจนได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ มองจากมุมนี้ สามารถเห็นขนตาเรียวยาวที่หลุบลง 

 

 

ผมนุ่มสลวยคลอเคลียกับติ่งหู ในยามที่หลับไปก็ไม่เห็นความเฉียบแหลมที่เห็นได้ตามปกติแม้แต่น้อย

 

 

อุณหภูมิบนตัวเฉิงเจวี้ยนค่อนข้างสูง ฉินหร่านไม่ได้สวมเสื้อคลุม สวมเพียงเสื้อกันหนาว เธอผอมลงไปมากหลังจากที่เฉินซูหลานจากไป เพราะเธอเองก็ไม่ได้กินข้าวดีๆ โดยพื้นฐานอยู่แล้ว

 

 

เธอเพิ่งกินข้าวตามปกติเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่มารัฐM แต่ก็ยังผอมบางมาตลอด

 

 

เฉิงเจวี้ยนถอนหายใจเบาๆ ค่อยๆ ปัดผมที่บังตาเธอ

 

 

มีเสียงคนเคาะเบาๆ มาจากด้านนอก

 

 

เป็นเสียงที่ไม่ดังมาก ฉินหร่านเริ่มขยับตัว เธอใช้มือเกาะโซฟาลุกขึ้นนั่ง ดวงตายังเต็มไปด้วยความมึนงง เหลือบมองท้องฟ้าข้างนอก “จะกินข้าวแล้วเหรอ?”

 

 

เฉิงเจวี้ยนลุกขึ้นพร้อมกับหยิบเสื้อคลุมให้เธอ “ไปเถอะ”

 

 

ฉินหร่านค่อยๆ สวมเสื้อคลุมพลางก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มของรัฐM

 

 

ซึ่งเป็นเวลาทานข้าว

 

 

เธอเดินนวยนาดตามเฉิงเจวี้ยนลงไปชั้นล่างพลางดูโทรศัพท์ไปด้วย

 

 

เนื่องจากเธอหลับตลอดช่วงบ่าย จึงมีคนส่งข้อความมาหาเธอเป็นจำนวนมาก

 

 

มีลู่จ้าวอิ่งที่ชวนเธอเล่นเกม มีหลินซือหรานที่ส่งวิดีโอเกี่ยวกับชั้นเรียนวันนี้ให้เธอ และยังมีเหยียนซีที่ต้องการที่อยู่ของเธอเพื่อส่งอัลบั้มมาให้…

 

 

เธอตอบกลับทีละข้อความ โดยบอกลู่จ้าวอิ่งว่าจะเล่นเกมตอนดึกๆ และส่งรูปถ่ายสวนดอกไม้ในคฤหาสน์ไปให้หลินซือหราน

 

 

ส่วนเหยียนซี เธอส่งที่อยู่โรงเรียนพร้อมกับชื่อหลินซือหรานไปให้เขา

 

 

จากนั้นก็เป็นข้อความฉบับสุดท้าย

 

 

ชื่อผู้ติดต่อคนนี้ค่อนข้างพิเศษ ข้อความครั้งล่าสุดที่ทั้งสองติดต่อกันคือเมื่อปีที่แล้ว ข้อความนี้ตรงไปตรงมาและมีความชัดเจนอยู่ในตัว——

 

 

(เธออยู่ที่ไหนในรัฐ M?)

 

 

ฉินหร่านกดโทรศัพท์——

 

 

(มีอะไรคะ?)

 

 

อีกฝ่ายตอบกลับอย่างรวดเร็วเหมือนเครื่องทวนสัญญาณ——

 

 

(เธออยู่ที่ไหนในรัฐ M?)

 

 

ฉินหร่านลูบคาง จากนั้นก็หันไปมองเฉิงเจวี้ยน “ที่อยู่ที่นี่คืออะไร?”

 

 

เฉิงเจวี้ยนตอบกลับมาหนึ่งประโยค

 

 

พอฉินหร่านรู้คำตอบก็กดส่งที่อยู่ไปส่งๆ

 

 

รูปโปรไฟล์ของคนคนนี้เหมือนหลุมดำ คำอธิบายง่ายๆ เพียงสองคำ——

 

 

(เพื่อนบ้าน)