ตอนที่ 413 ห่วงตัวเธอเองเถอะ
ช่วงพักกลางระหว่างการแข่งขัน
เฉินฝานซิงหยิบแก้วน้ำมานั่งพักอยู่ในมุมหนึ่ง ทว่าขณะนั้นเอง เฉินเชียนโหรวกลับเดินเข้ามาหาเธอ
“ยินดีกับเธอด้วยนะ เข้ารอบแล้ว”
เฉินฝานซิงชำเลืองมองเธอปราดหนึ่ง ก่อนจะปิดฝาแก้วด้วยสีหน้านิ่งเฉย “แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเข้ารอบด้วย”
ประโยคนี้ เมื่อเฉินเชียนโหรวได้ยินก็รู้สึกขัดหูมาก นี่เห็นได้ชัดว่าหล่อนกำลังดูถูกความสามารถของเธออยู่
แต่ว่าในงานมีผู้คนมากมาย เธอทำอะไรไม่ได้มากนัก หลังจากที่หยุดคิดไปครู่หนึ่ง เธอก็ยิ้มออกมา “ฉันตั้งตารอการแข่งรอบที่สองมากเลย เฉินฝานซิง เธออย่าแม้แต่การแข่งขันปรุงน้ำหอมระดับนานาชาติก็เข้ารอบไปไม่ได้ล่ะ”
เฉินฝานซิงยิ้มตอบ “ห่วงตัวเธอเองเถอะ”
ทันใดนั้นเอง ประตูก็ขยับเล็กน้อย
“คุณชายซู”
หลังสิ้นเสียงฮือฮา ซูเหิงที่ปรากฏตัวในชุดสูทรองเท้าหนังก็ย่างก้าวเข้ามาด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ด้านหลังตามมาด้วยผู้ช่วยของเขา
เฉินเชียนโหรวรีบเดินเข้าไปหาซูเหิงอย่างดีอกดีใจ “พี่เหิง พี่มาได้ยังไง”
ซูเหิงอมยิ้มมองเธอพร้อมกับยื่นมือไปโอบเอวเธอเอาไว้ สายตาอ่อนโยนจดจ้องไปยังหญิงสาว “ตอนเช้ามีธุระนิดหน่อย แต่หลังจากที่รู้ว่าเธอผ่านคัดเลือกรอบแรกแล้วก็รีบมาแสดงความยินดีเลย ยินดีด้วยนะเชียนโหรว”
เฉินเชียนโหรวส่ายหน้า “เพิ่งจะแค่รอบคัดเลือกเอง ฉันฝึกซ้อมมาตั้งนาน ไม่ใช่เพียงเพื่อเข้ารอบแรกหรอกนะคะ พี่เหิง เชื่อฉันสิ ครั้งนี้ฉันจะต้องขึ้นไปยืนบนเวทีระดับนานาชาติให้ได้ เพื่อพี่ ฉันจะขยันให้มากกว่าเดิม”
ซูเหิงส่งรอยยิ้มอ่อนโยน ทั้งสองคนแสดงความรักหวานชื่นอย่างเปิดเผย จนทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกอิจฉาตาร้อน
ส่วนเฉินฝานซิงที่นั่งอยู่ในหลืบมุมเพียงแค่เงยหน้ามองพวกเขาปราดหนึ่งด้วยท่าทางเฉยชา ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่อยากให้เธออยู่อย่างสงบสักเท่าไหร่
“โธ่เอ๊ย ดูคุณชายสกุลซูสิ อ่อนโยนเอาใจใส่จริงๆ แฟนมีแข่ง ต่อให้ยุ่งยังไงก็อุตส่าห์หาเวลามาดูการแข่งด้วย”
“ดูพวกเขาสองคนสิ หญิงสวยชายหล่อ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ ถ้าฉันแฟนหล่อขนาดนี้นะ ทั้งชาตินี้ ดูยังไงก็ไม่มีทางเบื่อ”
“พูดได้แค่ว่าเฉินเชียนโหรวดวงดีจริงๆ ตอนนั้นคุณชายซูยอมถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ชายเลวเพื่อจะได้คบกับเธอ เห็นได้ชัดเลยว่ารักเฉินเชียนโหรวมากแค่ไหน”
“ใช่น่ะสิ ถึงแม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่อาจจะไม่ได้ถูกหลักจริยธรรมเท่าไหร่นัก แต่ว่า…ความรักไม่ใช่เรื่องผิดหรอก”
“แล้วดูพี่สาวสิ…”
ผู้คนซุบซิบนินทา คนละคำสองคำ ก่อนจะค่อยๆ ย้ายความสนใจไปยังเรื่องของเฉินฝานซิง
เวลานี้ เฉินฝานซิงนั่งอยู่คนเดียวในหลืบมุม แต่งกายเรียบง่ายดูสง่า ในมือถือขวดน้ำแร่อยู่หนึ่งขวด กำลังยกน้ำขึ้นดื่มทีละอึกๆ
หากอยู่ในเหตุการณ์ปกตินี่ก็คงเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่ตอนนี้ในสายตาผู้คน ไม่ว่ามองอย่างไรกลับรู้สึกว่าช่างน่าอาภัพอดสูกว่าปกติ
“เฮ้อ…ก็น่าสงสารเธออยู่เหมือนกันนะ”
ขณะนั้นเอง สายตาของซูเหิงทอดผ่านกลุ่มคนมายังที่เธอครู่หนึ่ง
เฉินเชียนโหรวเห็นดังนั้น ภายในดวงตาก็ฉายประกายความชั่วร้ายออกมา ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
“จริงสิ พี่เหิง เดี๋ยวพี่ยุ่งหรือเปล่า จะอยู่ดูการแข่งขันรอบที่สองไหม”
ซูเหิงพยักหน้า “ได้สิ ไหนๆ ก็มาแล้ว ถ้างั้นก็ดูการแข่งขันให้จบแล้วค่อยไป”
“อื้ม” เฉินเชียนโหรวยิ้มหวาน
ไม่นานนัก การแข่งขันรอบที่สองก็เริ่มขึ้น
บรรยากาศการแข่งขันเคร่งเครียดและเข้มงวดกว่ารอบแรกอย่างเห็นได้ชัด
รอบนี้ ยังคงมีคนออกจากการแข่งขันกลางคันเช่นกัน ก่อนหน้านี้เตรียมแผนมาแค่แผนเดียว ในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ พวกเธอคิดสูตรที่ดีกว่าผลงานชิ้นแรกไม่ได้แล้ว
ระหว่างการแข่งขัน เฉินเชียนโหรวทำผลงานเสร็จก่อนเวลา
เมื่อเห็นท่าทางที่ดูมั่นใจของเธอ สายตาตื่นเต้นของซูเหิงในที่สุดก็เริ่มผ่อนคลายลงมาบ้าง
ตอนที่ 414 กล้ำกลืน
หลังจากที่วางสูตรและตัวอย่างน้ำหอมลงบนโต๊ะกรรมการ กรรมการแต่ละท่านก็พากันหยดน้ำหอมลงบนแถบกระดาษลองน้ำหอม จากนั้นก็พยักหน้าพร้อมกัน ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไร แต่ดูจากสีหน้าท่าทางของพวกเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน
“เมื่อกี้ตอนที่นักข่าวสัมภาษณ์คุณ แอบได้ยินมาว่าธีมของคุณในครั้งนี้คือ ‘รักเดียว’ ซึ่งหมายถึงรักเดียวใจเดียวเพียงแค่กับคุณใช่ไหม”
เฉินเชียนโหรวแอบเหลือบมองซูเหิงที่นั่งอยู่อีกฝั่งปราดหนึ่ง จากนั้นก็กัดริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทางเขินอาย
“ใช่ค่ะ ฉันคิดว่านี่คือความฝันที่บริสุทธิ์และเรียบง่ายที่สุดของผู้หญิงทุกคน”
สายตาของซูเหิงที่มองมาที่เธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
กรรมการคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะลองดมกระดาษน้ำหอมอีกครั้ง “ไม่เลว”
แต่ในบรรดากรรมการเหล่านี้ มีอยู่หนึ่งท่านที่สีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์มาตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน เป็นกรรมการชาวฝรั่งเศสที่โครงหน้าชัดเจนและผิวขาวสว่าง
ข้างกายเขา ล่ามกำลังโน้มตัวเข้าไปแปลประโยคที่เฉินเชียนโหรวพูดก่อนหน้านี้
เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็หยิบกระดาษลองน้ำหอมขึ้นมาดมกลิ่นน้ำหอมของเฉินเชียนโหรวอีกครั้ง
กลิ่นน้ำมันหอมในช่วงท็อปโน้ต[1]ฟุ้งกระจายออกไปพอสมควรแล้ว ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงของมิดเดิลโน้ต [2] ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของน้ำหอมรุ่นนี้ ความประณีตงดงามทั้งหมดอยู่ตรงนี้ กลิ่นมิดเดิลโน้ตจะมีระยะเวลานานที่สุด ทำให้ภาพความรู้สึกและอารมณ์ที่ตัวกลิ่นต้องการจะสื่อ สื่อสารออกมาในช่วงนี้ได้ทั้งหมด
หลังจากนั้น เขาก็วางกระดาษลองน้ำหอมในมือลง แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเฉินเชียนโหรวคิ้วขมวดมุ่น ไม่พูดไม่จา
พิธีกรเห็นเหตุการณ์จึงออกมารับหน้า “เอาละ ตอนนี้ขอเชิญกรรมการทุกท่านให้คะแนน คะแนนเต็มคือสิบคะแนน”
ไม่นานนัก กรรมการทุกคนก็ให้คะแนนเสร็จ
พิธีกรรีบดูป้ายคะแนนที่โชว์ขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะประกาศคะแนนออกมา
“คะแนนที่อาจารย์ไช่หมิ่นเวยให้คือ 9 คะแนน…
คะแนนที่อาจารย์เจียงซีซินให้คือ 9 คะแนน…
คะแนนที่อาจารย์โจวลวี่เหรินให้คือ 9 คะแนน โอ้โห นับว่าเป็นคะแนนที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยทีเดียว”
ใบหน้าของเฉินเชียนโหรวเผยให้เห็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เธอรีบเชิดหน้าอกผ่ายไหลผึ่งพร้อมกับสายตาบ่งบอกว่าชัยชนะอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว
“สมแล้วที่เป็น Rosanna ดูเหมือนคงจะปิดการแข่งขันครั้งนี้ไปด้วยคะแนนอันดับที่หนึ่งระดับประเทศแน่ๆ”
“นั่นสิ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเฉินเชียนโหรวแข็งแกร่งจริงๆ ความสามารถรอบด้านเลย”
“แต่ว่าช่วงนี้กระแสบนอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยดีเท่าไรเลย…”
“แหม คนดังก็มีข่าวแบบโคมลอยแบนี้แหละ เธอหน้าตาสะสวย แถมยังมีความสามรถหลายอย่าง แน่นอนว่าต้องไปขวางทางทำมาหากินใครเข้า มีคนอยากจะดึงเธอลงมาก็เป็นเรื่องปกติ”
“แต่ก็ตอกกลับด้วยความสามารถจนหน้าหงาย ครั้งนี้คงจะทำให้ใครหลายคนสงบเสงี่ยมลงไปได้สักพัก”
“ถ้าอย่างนั้น เรามาดูกันว่าคณะกรรมการของฝ่ายจัดการแข่งขันหลักระดับนานาชาติจากฝรั่งเศส อาจารย์เอเลนกันว่าจะให้คะแนนเท่าไร…”
เสียงเงียบไปเป็นเวลานาน ทำเอาผู้คนต่างก็ลุ้นจนเหงื่อตก สายตาแน่วแน่มุ่งมั่น เฝ้ารอคอยคะแนนของเอเลนอย่างใจจดจ่อ
ทว่า กรรมการชาวฝรั่งเศสคนนั้นกลับค่อยๆ ยกป้ายคะแนนในมือขึ้นมาช้าๆ ตัวเลขที่อยู่บนป้ายทำให้ผู้คนต่างก็ดวงตาเบิกโพลง
สีหน้าของซูเหิงอึมครึมไปชั่วขณะ
พิธีกรเองก็ดูเหมือนจะยังเรียกสติคืนกลับมาไม่ได้ เนื่องจากเตรียมพร้อมที่จะพูดว่า “เก้า” เอาไว้แล้ว แต่กลับต้องกล้ำกลืนมันกลับเข้าไปอีกครั้ง
“อะแฮ่ม…คะแนนที่อาจารย์เอเลนให้คือ 4.9 คะแนน”
แม่เจ้า!
อะไรกัน!
คนคนนี้ไม่ใช่ว่ามาเพื่อก่อกวนโดยเฉพาะหรอกนะ
เหลืออีกแค่ 0.1 ก็จะผ่านเกณฑ์แล้ว
นี่มันแย่เสียกว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเหลืออีกคะแนนเดียวก็จะติดคณะอันดับหนึ่งที่เลือกอีกนะ
ใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องอย่างภาคภูมิใจของเฉินเชียนโหรวเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา รอยยิ้มค้างเติ่งอยู่บนใบหน้าที่ค่อยๆ ซีดเซียว
สีหน้าของซูเหิงก็แย่ไม่แพ้กัน
[1] ท็อปโน้ต เป็นกลิ่นของหัวน้ำหอมที่ระเหยส่งกลิ่นอออกมาเป็นตัวแรกสุดมักทำจากสารประกอบโมเลกุลเล็กที่ระเหยได้
ง่ายให้ลักษณะกลิ่นสดชื่นโดดเด่น
[2] จะปรากฏหลังท็อปโน้ต จางไป ซึ่งเป็น “แก่น” ของน้ำหอม