ตอนที่ 262 สุนัขรับใช้ติดกับดักเฟิ่งเกอได้บุตรี (1)

หมอหญิงจ้าวดวงใจ

หัวใจเว่ยจางถูกเติมเต็มจนเต็มล้น พูดเสียงต่ำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าเดิมอย่างช้าๆ “ข้าคงอยู่เคียงข้างและปกป้องเจ้าไม่ได้ตลอดเวลา หากเป็นเช่นนี้เจ้าก็ไม่กลัวหรือ”

บรรยากาศอึมครึมเกินไป เหยาเยี่ยนอวี่ไม่อยากเป็นเช่นนี้ ไม่ง่ายเลยที่นางจะฝ่าฟันภัยอันตรายแล้วออกมาเจอผู้ที่หมายปองอีกครั้ง เหตุใดถึงต้องเอ่ยคำพูดที่ทำลายบรรยากาศเช่นนี้ ฉะนั้นนางกะพริบตาด้วยความซุกซนแล้วถามกลับ “แม่ทัพเว่ย ท่านมีความมั่นใจในตัวเองมากเพียงใดกัน ถึงได้นึกว่าข้าไม่กลัวอะไรเพราะมีเจ้าอยู่เคียงข้าง?”

“…” แววตาแม่ทัพเว่ยมัวหมองลงทันที เขาใช้แรงจับไหล่ของเหยาเยี่ยนอวี่แล้วดึงนางเข้ามาจนห่างกันเพียงคืบกว่าเท่านั้น

เขาก้มหน้าลงต่ำ แววตามองปะทะเข้าไปในนัยน์ตาของนาง

จมูกเล็กอันละมุนละไมเกือบจะแนบชิดกับริมฝีปากของเขา

ลมหายใจของทั้งสองร่างผสานกันจนกลายเป็นหนึ่งเดียว

นางสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวจากร่างและลมหายใจแผ่วเบาของเขาอย่างชัดเจน ได้กลิ่นของแม่น้ำคล้ายเจียวไป๋และคล้ายสุ่ยซิ่ง เป็นกลิ่นอ่อนๆ ที่ทำให้คนไม่รู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย

เหยาเยี่ยนอวี่แค่รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงดั่งกลองตะโพน ฝ่ามือค่อยๆ มีเหงื่อซึม นางที่เคยใช้ชีวิตมาสองชาติก็ยังไม่เคยตื่นเต้นมากเช่นนี้มาก่อน

“จ๋อม!” เสียงน้ำดังขึ้นทำลายบรรยากาศที่เงียบงันนี้

เหยาเยี่ยนอวี่พลันหันหน้าไปทันที เห็นปลาสีขาวแกมแดงที่ยาวสองฉื่อกว่ากระโดดพุ่งออกมาจากผืนน้ำ ทำให้ผิวน้ำกระเพื่อมงดงามตระการตาจากนั้นมันก็พลิกตัวบนอากาศแล้วกระโดดลงสู่น้ำอีกครั้ง

“ปลาใหญ่มาก!” เหยาเยี่ยนอวี่ตะโกนอย่างตะลึง

เจ้าปลาสมควรตาย! แม่ทัพเว่ยผายมือด้วยความโมโห ดาบสั้นในแขนเสื้อพุ่งทะยานออกมา เขาบิดข้อมือ เบ็ดผูกดาบพุ่งออกมาเกี่ยวปลาหลีขึ้นมาหนึ่งตัว ปลาสีขาวเหมันต์แกมแดงตัวนี้ไม่ใช่ปลาที่มาขัดจังหวะท่านแม่ทัพเมื่อครู่นี้หรือไร

“วันรุ่งเช้าให้คนตุ๋นน้ำแกงปลาให้เจ้าบำรุงร่างกายเสียหน่อย” แม่ทัพเว่ยโยนปลาลงบนดาดฟ้าแล้วเก็บอาวุธลับของเขากลับไปที่เดิม

ปลาที่น่าสงสารตัวนั้นกระโดดไปมาบนดาดฟ้าเรือ สุดท้ายก็หนีที่ไม่พ้นโดนแกง

มื้อเช้านี้ พอดื่มน้ำแกงปลาสดๆ เสร็จ เหยาเยี่ยนอวี่ก็เริ่มวางแผนว่าจะฝังเข็มแก้พิษให้คนบนเรือ

ก่อนหน้านี้ที่จู่ๆ นางสลบไปเพราะว่าตอนฝังเข็มให้เหยาชุ่ยฮั่นนางใช้พลังในร่างกายออกมามากเกินไป ทำให้พิษในร่างกายของนางแพร่กระจายไปทั่วร่างกายโดยเร็ว ตอนนี้พิษในร่างกายถูกขับออกมาพร้อมเหงื่อแล้ว นางไม่เป็นอะไรอีก จึงทำให้ไม่มีอะไรน่าหวาดผวา

เว่ยจางกลับบอก “คงไม่ต้องรีบรักษาตอนนี้หรอก”

เหยาเหยียนอี้ที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้น “ตอนนี้พวกเขาไม่เป็นอะไรชั่วคราวแล้ว เรื่องแก้พิษยังไม่ต้องพูดถึง”

“พวกเราต้องแสดงละครตบตาอย่างหนึ่ง” เหยาเหยียนอี้ยิ้มๆ แล้วพูด “ไม่ควรยอมถูกคนอื่นหาเรื่องอย่างเปล่าประโยชน์ สุดท้ายกลับไม่รู้ว่าคนพวกนั้นคือใคร”

เหยาเยี่ยนอวี่เข้าใจจึงไม่ได้มากความอะไร

พอเดินทางถึงท่าเรือแห่งหนึ่งเรือก็ค่อยๆ เทียบท่า

ผัวจื่อคนนั้นที่ถูกเว่ยจางจับตัวก็ฟื้นฟูร่างกายพอสมควรแล้ว นางยังสวมใส่เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบแล้วเอาเงินไปซื้อผักบนท่าเรือเหมือนเก่า หลังจากที่เว่ยจางและถังเซียวอี้ปลอมตัวเสร็จก็แอบขึ้นท่าพลางเดินตามด้านหลังของผัวจื่อคนนั้น

ก่อนหน้านี้นางได้รับสั่งให้เป็นคนล่อเหยื่อมาติดกับดักจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ทว่าถังเซียวอี้เป็นเสือหน้ายิ้มตัวจริ งหลังจากที่คุยกับนางไปสักพัก ผัวจื่อคนนี้ก็ไม่ค่อยตื่นเต้นแล้ว นางยังตบหน้าอกด้วยความกล้าหาญชาญชัยและบอกว่าต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ หากกระทำการนี้ไม่สำเร็จก็ไม่มีหน้ากลับไปเจียงหนานอีก

ผัวจื่อผู้นี้ไปซื้อพวกเจียวไป๋ รากบัวสด และผักอื่นๆ ก่อน จากนั้นก็ค่อยถามทางร้านว่าลูกท้อพวกนั้นขายอย่างไร นางเดินซื้อของบนท่าเรือไปครึ่งค่อนวัน สุดท้ายก็มีคนเข้ามาตีสนิทกับนาง “ป้าหน้าคุ้นยิ่งนัก”

ผัวจื่อพลันยิ้ม “พวกเราเคยเจอกันครั้งที่แล้ว ข้ายังซื้อผักกับคุณชายของเจ้าเลย เจ้ายังให้เงินสองตำลึงกับข้าแน่ะ”

คนๆ นั้นทำท่าทางนึกไม่ถึงแล้วยกมือคารวะให้ผัวจื่อ “ครั้งก่อนต้องขอบคุณป้ามากๆ หลายวันมานี้คุณชายของพวกเราประพฤติตัวได้ไม่เลว นายท่านเตรียมให้เขากลับบ้านแล้ว”

“เช่นนั้นก็ดีจริงๆ หัวอกเป็นพ่อแม่ก็คงไม่เรียกร้องอะไรจากบุตรมากมายหรอก” ผัวจื่อยิ้มตาหยี “พ่อหนุ่ม ข้ากำลังอยากถามอะไรพอดี แถวนี้มีร้านยาไหม”

“ป้าไม่สบายหรือ”

“อย่าพูดถึงเลย! คนบนเรือของพวกเราต่างก็ท้องเสียกันใหญ่ ไม่รู้ว่าไปกินอะไรผิดมา! ข้าเลยอยากจะซื้อยาไปต้มให้พวกเขากินหน่อย”

“ป้าเดินไปข้างหน้า พอถึงปากทางซอยที่สองก็เลี้ยวขวาก็จะเจอร้านยาเอง ข้ายังมีธุระ ขอตัวก่อน”

ผัวจื่อพยักหน้ากล่าวขอบคุณไม่หยุด จากนั้นก็เดินตามทางที่คนคนนั้นชี้ให้

เว่ยจางและถังเซียวอี้ที่แอบอยู่ที่ลับก็แยกทางกัน หนึ่งคนตามผัวจื่อ อีกคนตามคนที่บอกทางผัวจื่อ

ผัวจื่อเดินตามทางที่คนๆ นั้นบอกก็ได้เจอกับร้านขายยาจริงๆ ตอนที่เข้าไปก็บอกอาการที่เกิดขึ้นให้เถ้าแก่ฟัง เถ้าแก่ที่นั่งอยู่ด้านในจึงจ่ายยา ผัวจื่อซื้อยาสองสูตรเสร็จจึงหิ้วยาเดินออกมาด้านนอก

ถังเซียวอี้ที่เดินตามอยู่ด้านหลังผัวจื่อเห็นโคมไฟของร้านขายยานั้นเขียนคำว่า “ปั๋ว” หนึ่งตัวอักษรไว้

ผัวจื่อถือยาเดินกลับเรือ ถังเซียวอี้และเว่ยจางก็กลับถึงเรือตั้งนานแล้ว ขณะเดียวกัน เว่ยจางยังจับตัวบุรุษที่เข้ามาตีสนิทกับผัวจื่อเข้าไปใต้ท้องเรือ เรือหลวงจึงค่อยๆ ออกจากท่าเรือแล้วมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงอวิ๋น ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เหยาเยี่ยนอวี่ดูยาหลากหลายชนิดที่วางบนโต๊ะแล้วเลือกยาสมุนไพรเหล่านั้นออกมาเทียบความต่างจากนั้นก็แสยะยิ้ม “ไฉหูนี้เป็นของปลอม ยาสมุนไพรนี้ถึงแม้คนกินแล้วจะไม่ถึงกับตายทว่าก็ไม่ได้รักษาอาการใดๆ”

“ช่างบังอาจนัก! ถึงกับกล้าเอายาปลอมมาขาย!” เหยาเหยียนอี้สบถด้วยความโมโห

เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้ว “พวกเขารู้ว่าตระกูลผู้เฒ่าอู๋เป็นคนของเรา ดังนั้นจึงตั้งใจทำยาปลอมออกมาขาย?”

“เรื่องนี้ต้องไปสอบสวนคนคนนั้นถึงจะรู้เรื่อง”

ใต้ท้องเรือ เว่ยจางนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้มองบุรุษที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมทั้งแสยะยิ้มเลือดเย็น “เจ้าไม่พูดก็ได้ แค่เจ้าทนทุกข์ทรมานได้ก็พอ” พูดไปเขาก็ผายมือ ถังเซียวอี้ที่อยู่ด้านหลังหักนิ้วมือพลางเดินมาด้านหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วนั่งยองๆ ลง พลางยืดแขนออก จากนั้นก็จับแผงอกของชายคนนั้นด้วยความอ่อนโยนและออกแรงกด

จู่ๆ บุรุษก็ร้อง ‘โอ๊ย’ หน้าผากมีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดออกมา

ถังเซียวอี้เอ่ยถามยิ้มๆ “เจ็บใช่ไหม เจ้าวางใจเถอะ ดูจากภายนอกอาจจะไม่ออกอาการอะไร อีกอย่างต่อให้เจ้าไปฟ้องถึงศาลาว่าการเพื่อขอให้คนตรวจดูแผลของเจ้า ข้ารับประกันได้เลยว่าพวกเขาคงจะตรวจอะไรไม่พบหรอก เป็นเช่นไรบ้าง ยังอยากจะลองอีกหรือไม่”

บุรุษคนนั้นกัดฟันกรอดพลางจับจ้องถังเซียวอี้ไว้ ท่าทางยังคงดื้อรั้นไม่เปลี่ยน

ถังเซียวอี้ถอนหายใจแล้วตักเตือนด้วยความจริงใจ “ข้าอยากจะเตือนเจ้าให้พูดความจริงออกมาเสียดีๆ จะได้ไม่ต้องให้ข้าเสียแรงบอกให้เจ้ารู้ไว้ เรื่องที่นายท่านของพวกเราอยากรู้ไม่มีทางไม่ได้คำตอบ”

“ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น พวกเจ้าแอบลักพาตัวข้าขึ้นเรือมาคือ…การกระทำผิดกฎราชวงศ์…”

“ผิดกฎราชวงศ์?” ถังเซียวอี้แสยะยิ้มแล้วหันไปมองเว่ยจางเพียงปราดเดียวพร้อมพูดยิ้มๆ “นายท่านขอรับ เขาบอกว่าพวกเราทำผิดกฎราชวงศ์”