ตอนที่ 417 หรือเธอรู้ทันตั้งแต่แรกแล้ว
ในขณะที่มองไปยังเฉินฝานซิง ความเกลียดชังและตื่นเต้นในดวงตาของเฉินเชียนโหรวก็รุนแรงมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่รับผลงานจากเฉินฝานซิงมา กรรมการแต่ละคนก็ทำอย่างที่เคยทำตามเดิม หยิบแผ่นกระดาษลองน้ำหอมขึ้นมาดม จากนั้นก็มองไปที่เธอด้วยแววตาลึกซึ้งปราดหนึ่ง
เฉินเชียนโหรวกำมือแน่นด้วยความตื่นเต้น
สายตาจ้องเขม็งไปยังคณะกรรมการ ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ
หลังจากเอเลนดมกลิ่นที่อยู่บนกระดาษลองน้ำหอมแล้วก็ส่งเสียง “หืม” ด้วยความสงสัยออกมา
สายตาของเฉินเชียนโหรวจับจ้องไปที่เขา เขารู้แล้วเหรอ
ทว่าเอเลนกลับสะบัดแผ่นลองน้ำหอมไปมาก่อนที่จะเอามาวางไว้ที่ปลายจมูกเพื่อดมกลิ่นอีกรอบ จากนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความสงสัยอีกครั้ง
“หืม?”
เขาเงยหน้าขึ้นมามองเฉินฝานซิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มบางๆ ที่เธอมองมายังเขา สายตาของเขาก็พลันเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“ธีมในการออกแบบของคุณคืออะไร” เอเลนอดถามไม่ได้
เฉินฝานซิงมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉานมั่นใจ “อยู่ร่วมกัน การมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยกัน”
ครึ่งประโยคหน้าเป็นภาษาจีน ส่วนครึ่งประโยคหลังเป็นภาษาฝรั่งเศส
ดวงตาของเอเลนฉายประกายขึ้นมาทันที ก่อนจะวางแผ่นลองน้ำหอมลงที่ปลายจมูกอีกครั้ง จากนั้นก็พยักหน้าติดๆ กันอยู่หลายที
“อยู่ร่วมกัน” เขาพยายามพูดภาษาจีนตามเธอด้วยท่าทางเก้กัง พร้อมกับมองเฉินฝานซิงด้วยสายตาที่ตื่นเต้นกว่าที่เคย จากนั้นก็พูดต่อด้วยภาษาฝรั่งเศส
“มีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยกัน…ผมรู้สึกได้…มันเหมือนกับเถาวัลย์ที่มีดอกไม้บานสะพรั่งพันเกี่ยวกับต้นไม้ใหญ่เอาไว้แน่น หากไม่มีต้นไม้ เถาวัลย์ก็จะอยู่ไม่ได้ แต่หากไร้ซึ่งสีสันแต่งแต้มจากดอกไม้ที่บานอยู่บนเถาวัลย์ ต้นไม้ใหญ่ก็จะขาดสีสัน กลายเป็นสิ่งที่ดูน่าเบื่อและเดียวดาย มีเพียงแค่การมีกันละกัน ถึงจะทำให้ตัวเองมีชีวิตที่มีสีสันมากขึ้น ใช่ไหม”
เฉินฝานซิงพยักหน้า ภายในแววตาเต็มไปด้วยแสงเจิดจ้าส่องประกายระยิบระยับ
บนโลกที่กว้างใหญ่ การได้พบเจอคนที่เข้าใจในผลงานของตัวเองจริงๆ นั้นไม่ง่ายเลย
คณะกรรมการทั้งสามท่านได้ยินคำพูดนี้ ก็อดพยักหน้าคล้อยตามไปด้วยไม่ได้
‘อยู่ร่วมกัน’ หัวข้อนี้ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจนจริงๆ
คำอธิบายของเอเลนเมื่อครู่นี้ก็ทำให้พวกเขาได้เห็นถึงภาพความสวยงามของการอยู่ร่วมกัน ตายพร้อมกันได้อย่างถูกต้องและง่ายดาย
ตัวน้ำหอมเองก็ให้ความรู้สึกของความพัวพัน สดชื่นแต่ก็ร้อนแรง
‘อยู่ร่วมกัน’ เป็นหัวข้อที่ลงตัวพอดิบพอดี
พวกเขามีคำตอบอยู่ภายในใจกันหมดแล้ว
มีเพียงเอเลนที่ยังคงไม่ยอมเลิกรา
“เมื่อกี้ผมสังเกตคุณอยู่ ตอนแรกที่คุณปรุงน้ำหอม ไม่ได้เพียงแค่ขวดเดียว คุณปรุงไว้สองขวด แล้วอีกขวดล่ะ”
เฉินฝานซิงมองเขาอย่างพินิจ ก่อนจะตอบด้วยภาษาฝรั่งเศส
“ขวดนั้น ฉันไม่ได้คิดจะเอามาใช้ในการแข่งขัน เพราะว่าฉันไม่อยากเดือดร้อน”
เอเลนขุ่นข้องใจ “ทำไมถึงจะเดือดร้อน”
เฉินฝานซิงแม้มริมฝีปาก ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
“ฉันให้คุณลองดมดูได้ แต่ว่า แบบนี้จะถือว่าผิดกติกาไหม”
เอเลนส่ายหน้าด้วยความหนักแน่น “ไม่”
เฉินฝานซิงหันไปถามความเห็นจากกรรมการอีกสามท่าน หลังจากที่พวกเขาเห็นด้วยแล้ว สุดท้ายจึงหยิบตัวอย่างน้ำหอมขวดนั้นออกมาจากในกล่องแล้วหยดลงบนแผ่นลองน้ำหอม
ทุกคนต่างก็มองสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
เอเลนหยิบแผ่นลองน้ำหอมขึ้นมาดม จากนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนไปในทันที
“นี่…”
แววตาของเฉินฝานซิงโศกเศร้าและดูจนปัญญา สุดท้ายก็หยิบน้ำหอมก่อนหน้านี้ของตัวเองหยดลงบนแผ่นลองน้ำหอมใบเดียวกัน
เธอสะบัดมันเบาๆ ก่อนจะยื่นให้กับเอเลน เอเลนรับไป หลังจากที่ดม ดวงตาคู่นั้นก็เบิกโพลงไปชั่วขณะ
เขามองเฉินฝานซิงด้วยความตกใจ แล้วทำท่าตรึกตรองอะไรบางอย่าง จากนั้นภายในดวงตาก็เต็มไปด้วยความโกรธเคือง
เฉินฝานซิงส่ายหน้าให้เขาเบาๆ แล้วเก็บน้ำหอมขวดนั้นใส่ไว้ในกล่องดังเดิม
คณะกรรมการคนอื่นตอนนี้ขี้เกียจจะสนใจเอเลนจอมประหลาดคนนี้เต็มที เพียงแค่ให้คะแนนด้วยความรู้ความสามารถที่ตัวเองเข้าใจทั้งหมดก็เท่านั้น
เฉินฝานซิงหลบไปยืนด้านข้าง จากนั้นพิธีกรก็ก้าวเข้ามา “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นขอเชิญกรรมการทุกท่านให้คะแนนผู้เข้าแข่งขันท่านนี้ได้เลย”
หัวคิ้วของเฉินเชียนโหรขมวดเข้าเป็นก้อน ทำไมถึงเข้าสู่ช่วงการให้คะแนนแล้วล่ะ
หรือว่าเธอมีอีกแผนสำรองอยู่แล้ว
ไม่ได้ใช้สูตรน้ำหอมที่วางไว้บนโต๊ะก่อนหน้านี้หรอกเหรอ
หรือว่าเธอจะรู้ทันตัวเองตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรอกเหรอ
ตอนที่ 418 เกิดอะไรขึ้น
เมื่อคิดได้ดังนั้น ใจของเฉินเชียนโหรวก็เต้นตึกตักจนไม่เป็นจังหวะ
ความรู้สึกที่คิดว่าจะตกหลุมพรางของเฉินฝานซิงอีกแล้วรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เธอเริ่มร้อนรนจนนั่งไม่ติด
ถ้าหากเฉินฝานซิงรู้เรื่องแล้วจริง ครั้งนี้ที่เธอใช้วิธีแบบเดิมอีกครั้ง เฉินฝานซิงคงไม่คิดจะทำอะไรเพื่อเปิดโปงเธอในการแข่งขันครั้งนี้หรอกนะ
“เฉินเชียนโหรว เป็นอะไรไป ทำไมรู้สึกว่าเธอตื่นเต้นกว่าตอนที่ฟังผลคะแนนของตัวเองเสียอีกล่ะ”
อันน่าลี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างเอ่ยถามขึ้นด้วยความห่วงใย เมื่อได้ยินเสียงของเธอ ซูเหิงก็หันไปมองทันที
เฉินเชียนโหรวตื่นเต้นจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ แม้แต่ตอนพูดก็ยังต้องพยายามบังคับไม่ให้เสียงของตัวเองสั่นเครือ
“ใช่…ใช่แล้ว ฉันรู้สึกย้อนแย้งมากเลย ทั้งหวังว่าพี่จะชนะ แต่ก็ไม่อยากให้เธอชนะ…”
ดวงตาของซูเหิงฉายประกาย ก่อนที่ฝ่ามืออบอุ่นจะกุมไปที่มือเล็กๆ ของเธอ ความรู้สึกแบบนี้เขาเข้าใจชัดเจนดี เพราะตอนนี้ก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
ความรู้สึกขัดแย้งในตัวเองนั้นช่างยากเย็นจนทำให้ใครก็รู้สึกอึดอัด
เฉินเชียนโหรวส่งยิ้มให้ซูเหิงอย่างไร้เรี่ยวแรงด้วยใบหน้าซีดเซียว
เมื่อรู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่ค่อยๆ เย็นชืดขึ้นของเธอ ซูเหิงก็รีบกุมมือเธอให้แน่นขึ้น “ไม่ต้องตื่นเต้น เฉินฝานซิงเป็นคนมีความสามารถ การแข่งขันปรุงน้ำหอมระดับนานาชาติ พวกเธอสองคนจะต้องได้เข้ารอบด้วยกันแน่ หวังว่าเธอจะเข้ารอบสินะ”
เฉินเชียนโหรวเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ทว่าสายตามืดดำและร้ายกาจกำลังจ้องมองทุกการกระทำของเฉินฝานซิงอยู่ตลอดเวลา
เฝ้าดูจนวินาทีสุดท้าย ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือว่าสูตรน้ำหอมในมือเธอ เพิ่งจะมาปรับแก้ในช่วงไม่กี่วันก่อนแข่งงั้นเหรอ
ซึ่งก็หมายความว่า สูตรน้ำหอมของพวกเธอทั้งคู่ไม่เหมือนกันงั้นเหรอ
รู้สึกโล่งใจไปบ้างไม่น้อย ในเมื่อไม่เหมือนกัน งั้นเธอก็ไม่ต้องห่วงว่าอีกฝ่ายจะมาแว้งกัดเธอแล้ว
ขณะนั้นเอง เสียงของพิธีกรก็ดังขึ้น
“เอาละ ดูเหมือนตอนนี้คณะกรรมการของเราต่างก็ลงคะแนนกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าอย่างนั้นช่วงเวลาน่าตื่นเต้นมาถึงแล้ว ขอเชิญคณะกรรมทุกท่านเปิดแผ่นป้ายคะแนนได้เลย”
“คะแนนที่อาจารย์ไช่หมิ่นเวยให้คือ 9 คะแนน”
“คะแนนที่อาจารย์เจียงซีซินให้คือ 9 คะแนน…
คะแนนที่อาจารย์โจวลวี่เหรินให้คือ 9 คะแนน คุณพระช่วย ตอนนี้ชักตื่นเต้นแล้วสิ ได้ 9 คะแนนติดกัน 3 คนเลย”
ตอนนี้ ในกลุ่มคนดูต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด
“เป็นไปได้ยังไง พวกลอกผลงานคนอื่นตอนนั้นจะมาได้คะแนนสูงขนาดนี้ได้ยังไง”
“คงไม่ได้ลอกใครมาอีกหรอกนะ”
“ใช่ ต้องลอกของใครมาแน่”
เสียงของพิธีกรดังขึ้นอีกครั้ง “ต่อไปเรามาดูคณะกรรมการที่เข้มงวด และใส่ใจรายละเอียดที่สุดของเราในวันนี้กัน คะแนนที่อาจารย์เอเลนให้ก็คือ…”
เอเลนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ทำหน้าตายตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังโกรธหรือว่าคิดอะไรอยู่กันแน่
ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจด้วยความลุ้น ทุกสายตาจับจ้องไปที่เอเลน
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมสีหน้าของเอเลนถึงได้น่ากลัวขนาดนั้น”
“คงไม่ใช่ว่าปฏิเสธที่จะลงคะแนนหรอกนะ”
“พระเจ้าช่วย ปฏิเสธลงคะแนนก็หมายความว่า 0 คะแนนน่ะสิ นี่มันแย่กว่า 4.9 คะแนนอีกนะ”
เฉินเชียนโหรวกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ เธอคิดว่า จนถึงตอนนี้แล้ว เฉินฝานซิงคงไม่คิดจะทำอะไรอย่างอื่นอีก
ดูเหมือน เธอก็แค่ต้องการจะเข้ารอบไปให้ได้ก็เท่านั้น
จะย้อนกลับมาทำร้ายเธอ เกรงว่าคงไม่มีเรี่ยวแรงทำแบบนั้นแล้ว
เมื่อหันไปดูท่าทางตอบสนองของเอเลน ผลงานเมื่อครู่นี้ก็เป็นการออกแบบของเธอเหมือนกัน เขาให้แค่ 4.9 คะแนนเท่านั้น
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังคิดว่าเอเลนปฏิเสธที่จะให้คะแนนไปแล้วนั้น ในที่สุดเขาเริ่มมีท่าทีอะไรบางอย่าง
ทุกคนเพ่งมองไปยังป้ายคะแนนในมือเอเลนเป็นตาเดียวกัน
เวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่กลับเป็นช่วงเวลาที่ยากเย็นที่สุด ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นตัวเลขบนป้ายอย่างชัดเจน
10 คะแนน!
จากนั้น เอเลนก็วางป้ายลงบนโต๊ะอย่างแรง
เพียงชั่วพริบตา ผู้คนในงานส่งเสียงฮือฮาดังก้องไปทั่ว
“เกิดอะไรขึ้น”