ตอนที่ 419 พลิกโผ
“เกิดอะไรขึ้น”
“กรรมการฝรั่งคนนั้นที่ให้คะแนนต่ำมาตลอดให้คะแนนเต็มเลยเหรอ”
ใช่แล้ว ตอนนี้คะแนนรวม 37 คะแนน ทิ้งห่างเฉินเชียนโหรวไปไกลมาก
สีหน้าของเฉินเชียนโหรวแย่ลงไปถนัดตา
หน้าผากมันวาวของเธอปรากฏเส้นเอ็นที่แสดงถึงความโกรธแค้นขึ้นมา
เป็นไปได้ยังไง
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้
“เฉินเชียนโหรว…Rosanna แพ้แล้วเหรอ แพ้ให้กับคนที่เคยลอกผลงานตัวเองเนี่ยนะ”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปตามกัน เดิมทีคะแนน 4.9 ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ก็พลิกโผมากพอแล้ว แต่นี่กลับมีคะแนนเต็ม 10 โผล่มาอีก แบบนี้เฉินเชียนโหรวก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บน่ะสิ
ความพลิกล็อคในความพลิกล็อค
เฉินเชียนโหรวกัดฟันกรอด เงยหน้าขึ้นไปมองนักข่าวที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไป ทันใดนั้นราวกับรู้งาน มีนักข่าวคนหนึ่งรีบพุ่งเข้าไปสัมภาษณ์คณะกรรมการที่อยู่บนเวที
“เป็นผลงานแบบไหนกันแน่ที่ทำให้กรรมการทุกท่านให้คะแนนที่สูงคะแนนนี้ พวกเราขอลองสัมผัสหน่อยได้ไหม”
เฉินฝานซิงยืนอยู่บนเวที ก้มมองนักข่าวคนที่พุ่งเข้ามาก่อนใครคนนั้น พบว่าเป็นคนเดียวกับที่ถามเธอเรื่องย้ายกลับไปอยู่บ้านสกุลเฉินพอดี
“ขอโทษด้วย เกรงว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้ นี่คือกฎของการแข่งขัน”
“ถ้าจำไม่ผิด เมื่อหกปีก่อน คุณเฉินฝานซิงเคยมีประวัติลอกผลงาน ครั้งนี้เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นการลอกผลงานอีกเหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นขอถามหน่อย เธอลอกผลงานของใครกันล่ะ” บางครั้งกรรมการก็รู้สึกรังเกียจพวกนักข่าวที่ตามจี้ไม่เลิกอย่างไร้เหตุผลพวกนี้จนเหลืออด
“ได้ข่าวว่าตอนนั้นคุณเฉินฝานซิงท่านนี้ลอกสูตรน้ำหอมของคุณเฉินเชียนโหรวแบบเป๊ะๆ โดยไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลยสักนิด อีกอย่าง เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งทราบว่า หลังจากที่มั่นใจเรื่องการเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว เฉินฝานซิงที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับสกุลเฉินมาตลอดก็ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านสกุลเฉินกะทันหัน แบบนี้สามารถอธิบายได้หรือเปล่าว่า สูตรน้ำหอมครั้งนี้ ก็ขโมยมาจากคุณเฉินเชียนโหรวอีกเช่นกัน”
เฉินฝานซิงหรี่ตาลงมองนักข่าวที่ยิ่งพูดก็ยิ่งมีท่าทีกำเริบเสิบสานคนนั้น ก่อนจะก้าวที่ไปขอบเวที ย่อตัวลงแล้วคว้าป้ายนักข่าวที่ห้อยอยู่บนคอของเขาขึ้นมาดูปราดหนึ่ง จากนั้นถึงจะค่อยๆ ลุกขึ้นมา
“เฉินซือจิ้น! เฟิงซื่อมีเดีย ฉันจำคุณไว้แล้ว เชิญกลับไปรอหมายศาลจากฉันได้เลย”
“…”
“…”
เฉินฝานซิงมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและไม่แยแส
หลังจากที่เธอพูดออกมาแบบนั้น ทุกคนต่างก็ตกตะลึง เหล่านักข่าวพากันหันมามองหน้ากัน
ผู้หญิงคนนี้ ถึงแม้จะเป็นคนพูดน้อย แต่…เด็ดขาดมาก
“หาว่าฉันลอกผลงาน คุณกำลังเคลือบแคลงสงสัยในตัวคณะกรรมการอยู่เหรอ แม้แต่เรื่องที่อาจารย์คณะกรรมการก็ยังมองไม่ออก คุณเป็นแค่นักข่าวคนหนึ่ง มาถึงก็จะมาใส่ร้ายฉันแบบนี้น่ะเหรอ”
นักข่าวคนนั้นโดนตอกกลับจนรู้สึกเสียหน้า เมื่อหันไปมองทางคณะกรรมการ ก็เห็นว่าแต่ละคนกำลังมองมาที่เขาด้วยท่าทางไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ถ้าอย่างนั้นทำไมจู่ๆ คุณถึงต้องกลับไปที่บ้านสกุลเฉินก่อนช่วงการแข่งด้วย”
“แม้แต่เรื่องที่ฉันกลับบ้านตัวเองก็ต้องรายงานให้คุณทราบด้วยเหรอ แล้วเพราะอะไรที่ทำให้คุณคิดว่า ฉันกลับบ้านสกุลเฉินก็เพื่อที่จะกลับไปลอกผลงานเฉินเชียนโหรวอีกครั้งล่ะ คุณมาถามฉันว่าได้ขโมยสูตรน้ำหอมไปหรือเปล่า ไม่สู้คุณไปถามเธอดีกว่าว่ามีน้ำหอมสูตรไหนหายไป หรืออาจจะถามว่า ในเมื่อเธอมีความสามารถค้นคว้าสูตรน้ำหอมที่ได้คะแนนสูงกว่าออกมาได้ แล้วทำไมถึงได้เลือกเอาสูตรที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาแข่งขัน”
เฉินฝานซิงโต้กลับนักข่าวคนนั้นยาวเป็นชุดจนเขาเลิ่กลั่กจนทำตัวไม่ถูก อับอายจนหน้าแดงไปหมด ความอายทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา
แต่คนที่แย่กว่าเขา แน่นอนว่าต้องเป็นเฉินเชียนโหรว
ทุกคนพากันส่งสายตาไปทางเฉินเชียนโหรวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ถากถาง และสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังมีความสุขบนความทุกข์ของเธอ…
ตอนที่ 420 ฉันข้องใจมาก
ทุกคนพากันส่งสายตาไปทางเฉินเชียนโหรวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ถากถาง และสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังมีความสุขบนความทุกข์ของเธอ…
“นั่นน่ะสิ ในเมื่อเป็นสูตรที่เธอคิด ทำไมถึงได้เอาสูตรที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาเข้าแข่ง”
“ไม่ผ่านเกณฑ์ น่าขำจริงๆ พี่สาวคนนี้ปากคอเราะรายเหลือเกิน ไม่ไว้หน้ากันเลยสักนิด”
ในขณะนั้นเอง เหล่านักข่าวต่างก็รู้สึกว่าคำพูดของเฉินฝานซิงฟังดูมีเหตุผล จึงพากันหันไปมุงเฉินเชียนโหรวเอาไว้แทน
“คุณเฉินเชียนโหรว ไม่ทราบว่าที่บ้านของคุณ มีสูตรน้ำหอมสูตรไหนหายไปหรือเปล่า”
เฉินเชียนโหรวไม่ทันได้ตั้งตัว “ฉัน…”
“คุณเฉินเชียนโหรว ขอถามหน่อย ในเมื่อในมือคุณมีสูตรที่ดีกว่า แล้วทำไมถึงยังเลือกสูตรที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาเข้าร่วมการแข่งขัน…”
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นศิษย์ของอาจารย์ชื่อดัง ไม่ใช่คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับน้ำหอม
เฉินเชียนโหรวรู้สึกโมโหกับประโยคนี้เป็นอย่างมาก
“ผลงานทุกชิ้นที่ฉันค้นคว้าออกมาล้วนแต่เป็นสิ่งที่ฉันคิดแล้วว่าดีที่สุด อีกอย่าง ก่อนที่คุณจะสอบ คุณมั่นใจเหรอว่าคุณจะได้คะแนนเต็ม”
ฟังดูเป็นคำตอบที่ดูชาญฉลาดและหนักแน่นมาก แต่เหล่านักข่าวกลับโยนอีกคำถามมาใส่โดยไม่รู้สึกอะไรสักนิด
“ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ก็ยอมรับแล้วใช่ไหมว่า ผลงานที่เฉินฝานซิงนำมาใช้ร่วมการแข่งขันครั้งนี้เป็นสูตรที่ขโมยมาจากคุณ”
“…” เฉินเชียนโหรวกลับไม่ได้ตอบคำถามข้อนี้ ปล่อยให้ความเงียบทำงานด้วยตัวมันเองให้ได้มากที่สุด
แววตาของเฉินฝานซิงเยือกเย็น รูปร่างเพรียวบางสูงสง่ายืนอยู่บนเวทีแผ่กระจายความนิ่งสงบออกมา เธอเพียงแค่ยืนอยู่บนเวทีเงียบๆ ไม่พูดอะไร แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกยำเกรงและเกิดความนับถือขึ้นมาได้ในใจ
บางครั้งมนุษย์เราก็เป็นแบบนี้ มีความสามารถจริงหรือไม่ มองเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็ให้ข้อสรุปได้
คนที่ไม่มีความสามารถก็มักจะร้อนรน สายตาลอกแลกไม่มั่นคง แผ่นหลังไม่มีทางเหยียดตรงขนาดนั้นได้ รังสีที่แผ่ซ่านออกมาก็จะไม่แข็งแกร่งเด็ดเดี่ยวตามไปด้วย
ระหว่างที่เฉินเชียนโหรวนิ่งเงียบ เธอก็เงยหน้าขึ้นไปมองเฉินฝานซิงบนเวที เมื่อเห็นเฉินฝานซิงกำลังมองมาด้วยรอยยิ้มเย็นชาที่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง เธอก็อดสั่นผวาขึ้นมาไม่ได้ ความหนาวเย็นเกาะกุมเข้าไปถึงกระดูก
‘ความเงียบเท่ากับยอมรับ’ ของเฉินเชียนโหรวกลับไม่มีใครรับรู้ได้มากเท่าไหร่นัก นักข่าวที่ถามก่อนหน้านี้จึงยิ้มมุมปากพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง
“ดูเหมือนคุณเฉินเชียนโหรวจะยอมรับเป็นนัยๆ แล้วว่าเฉินฝานซิงพี่สาวของคุณขโมยสูตรน้ำหอมจากคุณไปจริงๆ ถ้างั้นไม่ทราบว่า สูตรน้ำหอมที่หายไปของคุณรายละเอียดมันเป็นยังไง แนวทางในการออกแบบเป็นแบบไหน หัวข้อคืออะไร”
นักข่าวรัวคำถามเข้ามาเป็นชุดในคราวเดียว ทำเอาเฉินเชียนโหรวอึกอักจนพูดไม่ออก
การอยู่ในวงการบันเทิงมาเนิ่นนาน ทำให้เธอรู้ว่าต่อให้ลนลานแค่ไหนแต่ก็ห้ามทำอะไรส่งเดชจนผิดแผนเด็ดขาด
เพียงแต่สีหน้าของเธอดูแย่ลงเรื่อยๆ เธอหันไปมองเฉินฝานซิงอีกครั้ง ผ่านไปครู่ใหญ่ จู่ๆ เธอก็หยุดนิ่งไป ก่อนจะยิ้มพลางพูดออกมาในขณะที่ตายังมองเฉินฝานซิงอยู่
“ฉันไม่เคยพูดมาก่อนเลยว่าพี่ขโมยสูตรของฉัน แต่ว่าฉันข้องใจมากว่า เมื่อกี้อาจารย์เอเลนบอกว่าพี่ออกแบบนักหอมไว้สองแบบ แต่ทำไมที่นำไปเสนอให้กรรมการท่านอื่นถึงมีเพียงแค่แบบเดียว”
เฉินฝานซิงแสยะหัวเราะ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่มีใครยืนยันได้ว่าฉันลอกผลงานเธอ สูตรไม่เหมือนกัน ธีมไม่เหมือนกัน แนวคิดในการออกแบบก็ไม่เหมือนกัน การแข่งขันปรุงน้ำหอมระดับนานาชาติ เธอเข้ารอบด้วย ‘รักเดียว’ ของเธอ ฉันเข้ารอบด้วย ‘อยู่ร่วมกัน’ ของฉัน ไม่มีปัญหาอะไรเลย เรื่องควรจะจบลงเพียงเท่านี้ แล้วพากันกลับบ้านไปค้นคว้าผลงานใหม่ที่จะใช้ในการแข่งรอบนานาชาติด้วยความสบายใจ ส่วนเรื่องน้ำหอมอีกสูตรหนึ่งของฉัน…”