ทำไมสภาพแบบนี้ดูเหมือนไม่เคยกินล่ะ?
สุดท้ายสี่คนแม่ลูกก็อยู่ในห้องนี้ กินเกี๊ยวไป ดื่มด่ำช่วงเวลาอบอุ่นของแม่ลูกที่หายากนี้ ……
——
แสนรักกลับมาตอนทุ่มกว่า
พอกลับมา ตอนที่เขาเข้าประตูใหญ่ไปก็หยุดฝีเท้าเล็กน้อย เพราะว่า เขาเห็นบนชั้นวางรองเท้า มีรองเท้าผู้หญิงคู่หนึ่งเพิ่มมา!
อือ คู่หนึ่ง เป็นของยัยเด็กคนนั้น
ส่วนอีกคู่……
“คุณผู้ชาย ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว พวกเด็กๆรอคุณกินข้าวอยู่ค่ะ”
ขณะที่กำลังจ้องรองเท้าคู่นี้ด้วยสายตาที่ไม่ดีนั้น ทันใดนั้นพี่ภาก็ออกมา เห็นว่าในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว เธอจึงเข้ามาต้อนรับอย่างดีใจในทันที
แสนรักจึงละสายตากลับชั่วคราว เข้ามาจากประตูบ้าน
ตั้งแต่พวกเด็กๆมาที่นี่ ทุกคืนเขาจะรีบกลับมากินข้าวกับพวกเขาจริงๆ หนึ่งคือเด็กในบ้านเยอะ เขาห่วงว่าคนใช้คนนี้จะดูแลไม่ได้
ส่วนสาเหตุที่สองก็คือ เป็นการกลับมาของคุณชายคิวมากกว่า ทำให้เขาอยากจะบ่มเพาะความรู้สึกกับเขามากขึ้น
“พวกเขาล่ะ?”
“คุณหมายถึงพวกเด็กๆเหรอคะ อยู่ข้างบนค่ะ พี่จะไปเรียกพวกเขาลงมาเดี๋ยวนี้เลย”พี่ภาพูดจบ ก็จะรีบไปเรียกเด็กๆที่ชั้นสอง
แต่แสนรักกลับหยุดเธอไว้
“ไม่ต้อง ผมไปเปลี่ยนชุดข้างบนก่อน เดี๋ยวลงมาก็เรียกพวกเขาเลย”
จากนั้นผู้ชายคนนี้ก็โน้ตบุ๊คขึ้นไป ร่างที่สูงตรงนั้น เพียงแค่แผ่นหลังนี้อย่างเดียว ก็ไม่อาจซ่อนความสูงส่งที่ข่มผู้คนบนตัวเขาได้
กำลังจะขึ้นไปเปลี่ยนชุด ตอนที่ผ่านชั้นสอง กลับเผลอได้ยินเสียงในห้องของชินจังลูกชายคนโตออกมา
“’งั้นต่อมาเขาฮึกเหิมขึ้นไหม?”
“แน่นอน พวกพี่ชายของเธอรักเธอมาก และยังมีแม่ของเธอ พวกเขาให้กำลังใจเธอ ช่วยเหลือเธอ แน่นอนว่าเธอยืนขึ้นมาได้อีก!”
เสียงอ่อนโยนของหญิงสาว เหมือนกับลมที่พัดเบาๆบนแม่น้ำ เธอตอบคำถามของพวกเด็กๆ แม้ว่าคำถามนี้ฟังดูแล้วหนักหน่วง
แต่ในตอนนี้ พวกเด็กๆในห้องนอน เหมือนกับเด็กสาวในหนังสือมาก ต่างรู้สึกถึงความอ่อนโยนที่มาจากแม่
ใครอยู่ข้างใน?
ฝีเท้าแสนรักหยุดลง ดวงตาคู่นั้นกลับหม่นลงมาทันที หันหน้ามองไปที่ห้องเด็ก
มีคนจริงๆ เพราะว่าเขาเห็นในห้องที่ปิดไม่สนิท ด้านในดูเหมือนจะมีร่างคนหลายคน และตอนนี้ พวกเด็กๆ ก็กำลังเหมือนว่าล้อมไว้ ล้อมไปข้างๆร่างใหญ่ๆนั้น
เส้นหมี่!!
ในที่สุดเขาก็เห็นชัดเจน ในชั่วพริบตาเดียว หลังจากคิ้วหม่นลงตามความคุ้นเคย เขาก็ก้าวขายาวๆเดินมาที่ห้องนี้
“หม่ามี๊ เหมือนว่านิทานเรื่องนี้จะน่าสงสารมากเลยนะ รินจังไม่อยากฟังเลย พวกเรามาเล่านิทานที่น่าฟังหน่อยได้ไหม?”
“ได้สิ งั้นพวกเราก็……”
ข้างในห้อง เส้นหมี่กำลังหาจากในกองหนังสือนั้น พาพวกหนังสือที่ไม่ได้น่าเศร้ามากนักมาเล่า แต่ตอนนี้เอง ประตูที่ไม่ได้ปิดสนิทในห้องนี้ ก็ถูกคนเปิดออกมาจากข้างนอกดัง“เอี๊ยด”!
เส้นหมี่:“……”
หนูรินจัง:“……”
ชินจังและคุณชายคิวที่กำลังล้อมรอบข้างๆหม่ามี๊ ก็ตกใจกับเสียงผลักประตูที่เข้ามากะทันหัน จากนั้น พอพวกเขาหันหน้าไป พอเห็นแด๊ดดี้ที่เยือกเย็นตรงหน้าประตู ใบหน้าเล็กทั้งสองก็ซีด
“พวกลูกทำอะไรกันอยู่น่ะ?”
“แด๊ดดี้ ในที่สุดแด๊ดดี้ก็กลับมาแล้ว!!”
ไม่มีใครคิดว่า ตอนที่แสนรักจะระเบิดอารมณ์ออกมา จู่ๆชินจังที่เงียบขรึมมาตลอดก็จะยืนขึ้นมา จากนั้นก็พุ่งไปตรงหน้าเขาแล้วกอดขาทั้งสองข้างของเขาไว้แน่น
แสนรัก:“……”
เส้นหมี่ก็ยิ่งตกใจกลัวตัวแข็งทื่อ ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกชายทำแบบนี้?
“แด๊ดดี้ ขอบคุณครับ”
“อะไร?”
ในสถานการณ์แบบนี้แสนรักก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน กระทั่งว่า เขายิ่งแย่มากขึ้น เพราะว่าไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ!
ดังนั้นในตอนนี้คุณชายคิวที่ปากค่อนข้างมีไหวพริบก็ออกโรง:“โอ๊ย แด๊ดดี้ พี่บอกขอบคุณที่แด๊ดดี้ให้ หม่ามี๊มาอยู่นี่ไง ที่จริงพวกเราว่าวันนี้พอหม่ามี๊ออกจากโรงพยาบาล จะไปหาหม่ามี๊หมด แต่จู่ๆคุณอาเคก็โทรมากลางคัน บอกว่าเพราะว่าแด๊ดดี้จะให้หม่ามี๊รักษา เลยพาหม่ามี๊มาส่งแล้ว จากนั้นพวกเราเลยไม่ได้ไปอีก”
เด็กคนนี้มีเหตุผลชัดเจนจริงๆ ทั้งๆที่พูดเหลวไหลอยู่ แต่ตอนนี้ คำพูดที่มีน้ำหนักโดยไร้ช่องโหว่นั้น กลับไม่เห็นข้อบกพร่องใดๆ
สีหน้าแสนรักบูดบึ้งขึ้นทันที
เขาไม่รู้ว่าเรื่องนี้ใช่เคทำหรือไม่เหรอ?
แต่มีบางอย่างสามารถยืนยันได้ว่า เด็กๆพวกนี้ ยืนข้างแม่พวกเขาแล้ว ดูสถานการณ์นี้สิ และคำพูดที่เขาเพิ่งพูดไปเหล่านั้น เริ่มที่จะรวมกันรับมือกับเขาแล้ว!!
ทันใดนั้นแสนรักก็ปวดหัวอีกครั้ง
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันไปละกัน ขอโทษนะประธานแสนรัก ไม่ใช่ฉันที่จะมาที่นี่ แต่ตอนที่ฉันออกจากโรงพยาบาล ถูกบอดี้การ์ดคุณบังคับมา อยู่มาทั้งวัน ขอโทษด้วย”
ในที่สุดเส้นหมี่ก็พูด เธอมองใบหน้าหล่อเหลาที่มีแต่ความโกรธจัดของชายหนุ่ม ก้มหน้าลงไป เก็บอารมณ์ที่ควรมี ไม่ควรมีทั้งหมดลงไว้ในสายตา จากนั้น เธอก็ก้มเอวแล้วอุ้มลูกสาวขึ้นมาก่อน