ตอนที่ 160: เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับ 5
เจี้ยนเฉินเริ่มเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เมื่อเขาได้ยินเสียงคำรามที่สั่นสะเทือนไปถึงสวรรค์ ขณะที่เขามองไปยังทิศทางนั้น เขาก็คิดกับตัวเองว่า แค่เสียงคำรามยังมีผลกระทบขนาดนี้ มันจะต้องเป็นสัตว์อสูรระดับ 4 ขั้นสุดยอดเป็นแน่ ขณะที่เจี้ยนเฉินกำลังคิดอยู่ ก็มีคลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นแผ่ไปทั่วทั้งบรรยากาศและก่อให้เกิดความวุ่นวาย ต้นไม้จำนวนมากถูกถอนขึ้นไปบนอากาศด้วยพลังงานเหล่านั้น
เจี้ยนเฉินยิ่งเคร่งเครียดมากกว่าเดิมเพราะเขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศที่รุนแรงแห่งนี้ ตอนแรกเขาตกตะลึงด้วยคลื่นพลังงานที่เข้ามาหาเขา แต่ตอนนี้เขาตกตะลึงมากจนเขาอดที่จะพูดไม่ได้ พลังขนาดนี้ มันต้องเป็นสัตว์อสูรระดับ 5 แน่นอน
จากการแผ่ขยายของพลังงานนั้นเร็วมาก ภายในเสี้ยววินาทีมันก็มาถึงจุดที่เจี้ยนเฉินอยู่ แต่ในเวลานั้นพลังงานก็เริ่มจางหายไปโดยที่ไม่มีผลกระทบใด ๆ ราวกับเป็นนกเสียงกาที่ดังก้องผ่านหูของเขา เสื้อผ้าของเจี้ยนเฉินกระพือเล็กน้อยพร้อมกับผมยาวสีดำที่เริ่มปลิวไปตามลม
เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของสัตว์อสูรนั้นยังคงได้ยินอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ราวกับเป็นเสียงระเบิดกัมปนาท คลื่นพลังที่มาพร้อมกับการสั่นไหวทั้งอากาศและผืนดินราวกับแผ่นดินไหว
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเริ่มเคร่งเครียดเมื่อเขาได้ยินเสียงคำรามทั้งสองแบบ ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่จะพึมพำ ดูเหมือนว่าสัตว์อสูรระดับ 5 ทั้งสองตัวนั้นกำลังสู้กันอยู่ จากนั้นเจี้ยนเฉินก็วิ่งไปตามทิศทางของเสียงคำรามทันที
หลังจากเกิดความเสียหายของคลื่นพลังงาน เจี้ยนเฉินก็มาถึงจุดที่พวกมันต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว
เจี้ยนเฉินอยู่ห่างออกมา 500 เมตร มีสัตว์อสูรระดับ 5 สองตัวกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทุกครั้งที่พวกมันปะทะกันคลื่นพลังงานก็พุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง แม้กระทั่งพื้นดินก็สั่นไหวและเต็มไปด้วยหลุมบ่อ จากที่สัตว์อสูรทั้งสองต่อสู้กัน มีหลุมลึกไม่กี่เมตรอยู่รอบ ๆ ราวกับอุกาบาตตกลงมา ต้นไม้รอบ ๆ พวกมันถูกถอนออกมาทั้งรากและบางต้นก็ปลิวขึ้นไปบนฟ้าราวกับหญ้า มันไม่มีอะไรต่างกันระหว่างมันและฝุ่น
เจี้ยนเฉินซ่อนตัวอยู่ห่างจากพวกมันไป 500 เมตรเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากลูกหลงของสัตว์อสูรทั้งสอง พร้อมกับที่เจี้ยนเฉินมองไปที่การต่อสู้ของพวกมันอย่างใส่ใจ
แม้ว่าสัตว์อสูรทั้งสองกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินก็ยังคงสามารถเห็นรายละเอียดการต่อสู้ของพวกมันได้อย่างชัดเจน ระหว่างการต่อสู้ของสัตว์อสูรทั้งสอง ตัวหนึ่งมีสีดำทมิฬราวกับกลางคืนและมีร่างพอ ๆ กับวัว อย่างไรก็ตามที่หลังของมันมีปีกสีดำทมิฬอีกหนึ่งคู่
อีดตัวเป็นสุนัขสีขาวตัวน้อยราวกับหิมะ แม้ว่าสัตว์อสูรทั้งสองจะมีขนาดต่างกันอย่างสิ้นเขิง แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันก็พอ ๆ กัน
“โฮก ! “
“โฮก ! “
เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธออกมาจากปากอย่างต่อเนื่องและกระสุนพลังงานก็พุ่งออกมา ทันทีทีเสียงคำรามออกมาจากปากของสัตว์อสูร ชั้นบรรยากาศก็สั่นสะเทือและทำให้เสียงอื่น ๆ ถูกกลบไปหมด
นี่เป็นความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรระดับ 5 อย่างแท้จริง ! เจี้ยนเฉินพูดขณะที่ยังคงสังเกตการต่อสู้ของสัตว์อสูรทั้งสองตัว ร่างกายของเขายืนอยู่อย่างมั่นคงแม้ว่าพื้นดินที่เขายืนอยู่จะสั่นไหว อย่างไรก็ตามเขากลัวที่จะเป็นจุดสนใจของสัตว์อสูรทั้งสองตัวและเกิดปัญหาที่ในแบบที่เขาไม่ต้องการ
แม้ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจี้ยนเฉินจะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษขั้นสุดยอดและไม่เกรงกลัวสัตว์อสูรระดับ 4 แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่มั่นใจเท่าไรนักว่าเขาจะสามารถหนีจากสัตว์อสูรระดับ 5 ทั้งสองตัวนี้ไปได้หลังจากที่มันได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา
แม้ว่าสัตว์อสูรระดับ 5 จะมีความแตกต่างกันเพียงแค่ระดับเดียวจากสัตว์อสูรระดับ 4 แต่ช่องว่างของพวกมันก็ราวกับสวรรค์และโลก
สัตว์อสูรทั้งสองยังคงต่อสู้ไปกว่าครึ่งวันก่อนที่จะเริ่มอ่อนแรงในที่สุด เมื่อมาถึงจุดนี้ทั้งสองต่างก็เต็มไปด้วยบาดแผลทั่วร่างกายและแทบจะไม่อาจลุกขึ้นยืนได้ ท้องของพวกมันขยับขึ้นลงขณะที่สูดหายใจอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อเห็นฉากที่น่าสังเวชนี้ เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า ดูจากสภาพของมันแล้วมันคงจะไม่มีแรงฝืนแล้ว พวกมันไม่มีแรงแม้กระทั่งยืนและเหนื่อยอ่อน เจี้ยนเฉินรู้สึกมั่นใจอย่างมาก แม่กระทั่งเลือดภายในกายของเขาก็เริ่มที่จะเดือดและหัวใจของเขาก็เต้นอย่างบ้าคลั่ง
เจี้ยนเฉินหมอบอยู่ที่พื้นพร้อมกับความลังเลเพียงเล็กน้อยที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาที่กำลังเถียงกับตัวเองไปมาและสุดท้ายก็ได้ข้อสรุป เขากัดริมฝีปากของเขาพร้อมกับลุกขึ้นยืนบนพื้นและรีบไปที่สัตว์อสูร
“โฮก ! “
ในที่สุดสัตว์อสูรทั้งสองต่างก็ตระหนักว่าเจี้ยนเฉินกำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นพวกมันจึงคำรามออกมาอีกครั้งหนึ่ง ดวงตาของมันจ้องมองมาที่เจี้ยนเฉิน แต่พวกมันก็ไม่มีเรี่ยวแรงทำร้ายเขา
ในขณะที่เขาได้เข้ามาในระยะ 100 เมตร ระหว่างสัตว์ทั้งสอง เจี้ยนเฉินก็หยุดลง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างผิดธรรมชาติ แม้ว่าสัตว์อสูรตรงหน้าของเขาจะบาดเจ็บ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาลดการป้องกันลง
เจี้ยนเฉินเดินไปด้านหน้าอย่างช้า ๆ ทีละก้าว ทีละก้าวไปยังสัตว์อสูรระดับ 5 ในเวลาเดียวกันกระบี่วายุโปรยก็ปรากฏออกมาที่มือขวาของเขาพร้อมกับแสงสลัว ๆ รอบ ๆ ใบกระบี่และหลอมรวมมันลงไป
“โฮก ! “
สัตว์อสูรระดับ 5 ทุกตัวต่างมีสติปัญญา พวกมันรู้มานานแล้วว่าเจี้ยนเฉินกำลังพยายามทำอะไร มันก็ส่งเสียงคำรามขู่ไปที่เจี้ยนเฉินอีกครั้งเพื่อไม่ให้เขาเข้ามาใกล้อีก
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจกับเสียงคำรามของสัตว์อสูรและเดินเข้าไปใกล้มันอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเดียวกันเจี้ยนเฉินก็ต้องการที่จะพุ่งเข้าไปฆ่าสัตว์อสูร แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากนั้นมันเป็นสัตว์อสูรระดับ 5 ไม่ใช่ระดับ 4