บทที่ 197 ไม่มีจิตวิญญาณ

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

เซียวเฟิงมองไปยังลีดเดอร์บอร์ดที่อยู่เหนือเกาะมหาสมบัติแห่งนี้ เขาค่อนข้างสนใจมากว่ามีใครอยู่ในอันดับบ้างและแต่ละคนมาจากเขตไหน แม้ว่าลีดเดอร์บอร์ดจะมีถึง 10 หน้าแต่เซียวเฟิงก็สนใจแค่ 10 อันดับแรกเท่านั้น

ลีดเดอร์บอร์ดพื้นที่เกาะมหาสมบัติ

  1. 50,324 แต้ม – ธอร์ – เขตอเมริกาเหนือ

  2. 48,667 แต้ม – เซนบงซากุระ – เขตโทโย

  3. 44,551 แต้ม – อาราด จูทีเอ้ – เขตเยอรมัน

  4. 39,501 แต้ม – xxx – เขตจีน

  5. 37,710 แต้ม – โซลาบา – เขตรัสเซีย

  6. 33,369 แต้ม – xxx – เขตอเมริกาเหนือ

  7. 37,094 แต้ม – คาตานาโอ – เขตโทโย

  8. 27,081 แต้ม – คาสสิโอ – เขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  9. 27,081 แต้ม – xxx – เขตจีน

10.17,033 แต้ม – ไอดรอส – เขตยุโรปเหนือ

เหล่าผู้เล่นทั้ง 10 อันดับบนลีดเดอร์บอร์ดนั้นต่างก็มีแต้มที่มากล้นกันทุกคน ซึ่งมันแสดงให้เห็นด้วยว่าแต่ละเขตนั้นห้าวหาญและแข็งแกร่งกันขนาดไหน

นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดอีกด้วยว่าเขตอเมริกาเหนือ จีน และเขตโทโยนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก ทั้ง 3 เขตที่กล่าวมานั้นต่างมีผู้เล่นเขตละ 2 คนอยู่ใน 10 อันดับต้นเช่นนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขานั้นต่างเข้าห้ำหั่นกับคนอื่นอย่างบ้าระห่ำกว่าจะได้มาซึ่งแต้มเหล่านี้

จาก 10 คนที่อยู่ 10 อันดับต้น เซียวเฟิงสนใจแค่อันดับที่ 4 และ 9 ซึ่งมาจากเขตจีนทั้งคู่เท่านั้น ทั้งสองคนซ่อนชื่อตัวละครเอาไว้ และผู้เล่นจากจีนคนอื่น ๆ ก็น่าจะคิดว่าเซียวเฟิงเป็น 1 ในนั้น แต่ไม่มีใครรู้ว่าเซียวเฟิงนั้นเพิ่งจะมีแต้มสมบัติเพียง 3,000 กว่าแต้มเท่านั้น แถมยังไม่ได้สักตำแหน่งบนลีดเดอร์บอร์ดเลยด้วย

เซียวเฟิงคิดว่า 2 คนนั้นน่าจะต้องมาจากกิลด์บลีคแน่ ๆ และเมื่อได้ข้อสรุปดังนั้นแล้ว ชายหนุ่มก็ส่ายหน้าเบา ๆ

ลีดเดอร์บอร์ดนั้นเพียงแค่แสดงให้เห็นถึงตัวแปรที่สำคัญของแต่ละเขตเท่านั้น ผู้ที่แข็งแกร่งจะไม่สามารถซ่อนตัวได้ ดังนั้นแล้วการที่ลีดเดอร์บอร์ดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แทบตลอดนั้นจึงเป็นเรื่องปกติ ขณะที่เซียวเฟิงกำลังยืนดูอยู่นี้ 2 ชื่อจากใน 10 อันดับก็ถูกแทนที่ด้วยชื่ออื่นไปแล้ว แถมปริมาณแต้มสมบัติก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วย

เขาส่ายหน้าอีกครั้งและเลิกสนใจลีดเดอร์บอร์ด เนื่องจากตอนนี้ตัวเองได้มาถึงใจกลางของเกาะมหาสมบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเริ่มสำรวจพื้นที่โดยรอบเพื่อหาพื้นที่โบนัสตามที่ระบบแจ้งไว้

ระหว่างนั้นเซียวเฟิงก็โทรหาเฉียนโตวโตวเพื่อบอกเธอว่าอีเวนต์น่าจะใช้เวลามากที่สุดก็ 1 วัน และเขาอาจจะออนไลน์เมื่อไหร่ก็ได้

เฉียนโตวโตวรับประกันว่าเธอจะสามารถดูแลเซียวหลิงให้เซียวเฟิงได้ และเธอมั่นใจว่าตนจะสามารถทำให้เซียวหลิงกินผักได้อย่างเพียงพอแน่นอน อย่างน้อย ๆ ความช่วยเหลือของเธอนี้ ก็ทำให้เซียวเฟิงรู้สึกคลายกังวลลงได้นิดหน่อย

ใช้เวลาไม่นานนักกว่าเซียวเฟิงจะหาพื้นที่โบนัสเจอ อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก เพราะพื้นที่แห่งนี้ก็ไม่ได้ถูกซ่อนอะไรเลย

ภูมิประเทศของเกาะมหาสมบัตินั้นเป็นเหมือนแอ่งกะทะ เพราะหลังจากที่หลุดจากชายหาดเข้ามาแล้วก็จะเจอกับเทือกเขาสูงดักหน้าจากทุกทิศเลย ทว่าเมื่อก้าวข้ามหุบเขาพวกนั้นเข้ามายังใจกลางได้ จะพบว่ามันเป็นแอ่งยุบลงมาและถูกปรับพื้นให้เรียบเสมอกันกลายเป็นหุบเขาขนาดใหญ่

ภายในหุบเขาราบเรียบนี้ มีวงเวทกำลังเปล่งแสงสว่างออกมาตลอด และในวงนั้นคือพื้นที่โบนัส มี NPC มากมายรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ภายในนั้น ไม่ว่าจะเป็นกระดานแนะนำกฏการเข้าร่วมหรือแม้กระทั่งกาชาปอง

“หืม?”

เมื่อเซียวเฟิงก้าวขาเข้าไปในวงเวทดังกล่าว ระบบก็ประกาศขึ้นมาทันทีว่าเขาได้เข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยแล้ว และพื้นที่ดังกล่าวก็คือพื้นที่โบนัส ทว่าตอนนั้นเอง เซียวเฟิงก็ตระหนักได้แล้วเหมือนกันว่ามีคนอื่นอยู่ในที่แห่งนี้ด้วย

แม้จะมองไม่เห็นหน้าแต่ด้วยชื่อภาษาอังกฤษที่อยู่เหนือหัวคน ๆ นั้นก็มากพอที่จะดึงดูดสายตาเขาแล้ว

“นั่นมันธอร์นี่!”

“อันดับ 1 บนลีดเดอร์บอร์ด! ผู้เล่นจากเขตอเมริกาเหนือ!”

จากการที่ดูลีดเดอร์บอร์ดที่ลอยอยู่เหนือเกาะครั้งล่าสุดผนวกกับที่หันไปดูตอนนี้ มันเป็นที่ยืนยันแล้วว่าคนตรงหน้าที่ถือครองชื่อ ธอร์ นั้นคือผู้เล่นจากเขตอเมริกาเหนือที่เป็นอันดับ 1 ของลีดเดอร์บอร์ดมาพักใหญ่ ๆ !

สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคงไม่พ้นเรื่องที่มีคนมาถึงพื้นที่โบนัสนี้ก่อนเขานั่นแหละ เมื่อคิดตริตรองดูแล้ว แสดงว่าอีกฝ่ายต้องมีความเร็วที่มากกว่าเสี่ยวเสวี่ยที่แทบจะเป็นสุดยอดสัตว์ขี่หรือไม่ก็เป็นสัตว์ที่ที่อยู่ในระดับเสี่ยวเสวี่ยเท่านั้น

กว่าจะมาถึงที่นี่ได้ เซียวเฟิงก็ใช้เวลาระดับหนึ่งในการปราบเหล่าปีศาจหีบสมบัติ ในขณะที่ธอร์นั้นเป็นหัวกระดานอยู่ตลอด ยังไงเสียอีกฝ่ายก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลามากกว่า เพราะงั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยหากจะบอกว่าเขารีบมุ่งหน้ามาทางนี้ไม่สนใจอะไร ธอร์จะต้องฆ่าทั้งผู้เล่นอื่นแล้วก็จัดการมอนสเตอร์ตลอดทางที่มุ่งมาทางนี้ นั่นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้อีกที่เขาจะสามารถมาถึงที่นี่ก่อนเซียวเฟิงได้

ชัดเจนเลยว่าทางธอร์เองก็รับรู้ได้ถึงอีกคนหนึ่งที่เข้ามาในพื้นที่โบนัสเช่นกัน เขาหันกลับไปมองเซียวเฟิง นั่นจึงทำให้เซียวเฟิงสามารถเห็นได้ว่า ธอร์เป็นผู้เล่นที่มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนคนตะวันตกควบคู่มากับดวงตาสีฟ้าเข้มที่โดดเด่นเป็นประกาย ธอร์ตรวจสอบสถานะของเซียวเฟิง แต่เมื่อพบว่าเซียวเฟิงซ่อนแม้กระทั่งชื่อเขาจึงเลิกสนใจ ชายหนุ่มผิวขาวเดินออกจากกระดานแนะนำกฏการใช้พื้นที่และเดินไปยังส่วนของกาชาปองที่อยู่ในพื้นที่โบนัสแทน

เซียวเฟิงไม่ได้ถือโอกาสกล่าวทักทายธอร์ก่อน เขาเพียงเดินเข้าไปที่กระดานบอกกฏการใช้สถานที่เพื่อตรวจสอบดูเท่านั้น

กฏของพื้นที่โบนัสแห่งนี้ค่อนข้างเรียบง่ายมาก ๆ ภายในนี้มี NPC อยู่มากมาย ซึ่งแต่ละคนก็จะทำหน้าที่ในการแลกของรางวัลแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น NPC ตัวแรกสามารถแลกค่าสถานะได้ ตัวที่สองแลกไข่สัตว์เลี้ยง หนังสือสกิล เกราะ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ละตัวก็จะมีสิ่งของที่ให้แลกต่างกันออกไป

ผู้เล่นจำเป็นต้องจำเอาไว้เองว่าของแต่ละอย่างต้องใช้แต้มสมบัติกี่แต้มเพื่อแลกมันมา

นอกจาก NPC ที่รับหน้าที่แลกของรางวัลต่าง ๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังมีเครื่องหมุนกาชาปองอยู่ที่จุดกึ่งกลางอีก อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 10,000 แต้มสมบัติต่อการหมุน 1 รอบ โดยที่ของรางวัลนั้นจะเป็นอะไรก็ไม่รู้!

“10,000 แต้มสมบัติต่อการหมุน 1 ครั้งเหรอ?”

มันน่าตกใจไม่น้อยเลย แต่หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งแล้ว เซียวเฟิงก็เลือกที่จะเดินไปยังกลุ่มของ NPC เพื่อที่จะตรวจสอบจำนวนแต้มที่ใช้แลกของแต่ละอย่างแทน และคนแรกที่เขาเริ่มตรวจสอบก็คือ NPC รับแลกค่าสถานะ

สถานะสีแดง

จำนวน : 1 ชิ้น

จำนวนแต้มที่ต้องใช้ในการแลก : 10,000 แต้มสมบัติ

สิ่งที่ได้รับ : 100 แต้มสกิล

สถานะสีฟ้า

จำนวน : 1 ชิ้น

จำนวนแต้มที่ต้องใช้ในการแลก : 10,000 แต้มสมบัติ

สิ่งที่ได้รับ : 100 แต้มสกิลที่ไม่ได้ใช้สำหรับการต่อสู้

“10,000 แต้มขั้นต่ำงั้นเหรอ?”

เซียวเฟิงถึงกับช็อก การจะเพิ่มเลเวลสกิลจาก 1 ไป 2 นั้นจำเป็นต้องใช้แต้มสกิลจำนวน 100 แต้ม ซึ่งหมายถึงใช้แต้มสมบัติถึง 10,000 แต้ม…จะว่าคุ้มค่าก็ได้ แต่ถ้าจะอัพเลเวลจาก 2 ไป 3 มันจำเป็นต้องใช้ถึง 500 แต้มเลย นั่นหมายถึงเขาจำเป็นต้องใช้แต้มสมบัติถึง 50,000 แต้มเลยทีเดียว!

และจากเลเวล 3 ไปเลเวล 4 ก็ต้องใช้อีก 1,000 แต้ม…แต้มสมบัติ 100,000 แต้ม!

สกิลที่มีศักยภาพที่สุดของเซียวเฟิงคือ ค้อนแห่งการพิพากษา ซึ่งควรที่จะอัพเลเวลให้ถึง 5 โดยเร็วที่สุด แต่ด้วยปริมาณแต้มสมบัติที่มหาศาลนั่น…อนาคตมันมืดบอดไปหมดแล้ว

เมื่อตระหนักได้ว่าตนเองมีแต้มอยู่ราว ๆ 3,000 แต้ม เซียวเฟิงก็ตัดสินใจที่จะหันไปหา NPC ตัวที่สองแทน ตัวนี้มีหน้าที่รับแลกของรางวัลเป็นไข่สัตว์เลี้ยง แม้เซียวเฟิงจะไม่ได้สนใจสัตว์เลี้ยงเพิ่มในตอนนี้ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่าของภายในนั้นใช้แต้มกันขนาดไหน

ความตกใจปรากฏขึ้นกับเขาอีกครั้ง เพราะของรางวัลของ NPC คนนี้ก็เริ่มต้นที่ 10,000 แต้มเหมือนกัน! ระดับเริ่มต้น 10,000 แต้ม ระดับน้ำเงิน 100,000 แต้ม ระดับเงิน 500,000 แต้ม ระดับทอง 1,000,000 แต้ม และระดับเทพเจ้า 5,000,000 แต้ม!

NPC คนนี้มีให้แลกแม้กระทั่งระดับเทพ! เซียวเฟิงรู้ดีอยู่แล้วว่าสัตว์เลี้ยงระดับเทพเจ้านั้นแข็งแกร่งขนาดไหนจากเสี่ยวไป๋ที่เขาครอบครองอยู่ กระนั้นไอ้การที่ต้องใช้แต้มสมบัติมากถึง 5,000,000 แต้มนั้นมันก็ทำเอาหลายคนกลืนน้ำลายกลับไปเหมือนเดิมอยู่ มันมากเกินไป!

จากนั้นเขาก็เวียนไปหา NPC ที่แลกหนังสือสกิลต่อ และเช่นกัน มันเริ่มต้นที่ 10,000 แต้มเหมือนกับคนอื่น ๆ หนังสือสกิลทั่วไป 10,000 แต้ม ระดับเขียว 100,000 แต้มและระดับน้ำเงิน 500,000 แต้มซึ่งถือเป็นระดับสูงสุด ไม่มีระดับสูงกว่า ณ ที่แห่งนี้

หลังจากที่ตรวจสอบ NPC มาหลายตัวแล้ว เซียวเฟิงก็ไปยัง NPC ตัวเกือบสุดท้าย

NPC ที่รับแลกอุปกรณ์ NPC ที่เขาสนใจมากที่สุด ตอนนี้มาอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเตรียมตัวเตรียมใจให้มั่นก่อนจะกดเปิดร้านแลกของรางวัล ทว่าร้านนี้เองก็เช่นกัน ทุกสิ่งอย่างเริ่มต้นที่แต้มสมบัติ 10,000 แต้มเหมือนกันหมด

ไอเทมระดับน้ำเงินแต่ละชิ้นเริ่มต้นที่ 10,000 แต้ม ผู้ซื้อสามารถเลือกระดับเองได้ แต่ไอเทมทุกอย่างที่ซื้อมาจะไม่มีค่าสถานะบวกเพิ่มหรือเอฟเฟกต์เพิ่มเติมใด ๆ มีดีแค่คุ้มราคาเฉย ๆ อย่างแต้มสมบัติ 70,000 แต้ม สามารถแลกชุดเซ็ตเกราะ 7 ชิ้นได้ ทว่าหากเป็นอาวุธระดับเดียวกันจะใช้มากถึง 50,000 แต้มสมบัติ ซึ่งมันมากกว่าเป็น 5 เท่าของเกราะแต่ละชิ้นที่กล่าวไว้ในข้างต้นอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนของไอเทมระดับเงิน ผู้ซื้อก็สามารถเลือกเลเวลได้เช่นกัน แต่ละชิ้นเริ่มต้นที่ 50,000 แต้ม ชุดเกราะทั้งชุดราคา 350,000 แต้มสมบัติ ในขณะที่อาวุธระดับเงินใช้ 250,000 แต้มต่อหนึ่งชิ้น มันยังคงมีราคาสูงเป็น 5 เท่าของชิ้นเกราะเหมือนเดิม แต่ระดับเงินนั้นจะมีค่าสถานะอย่าง ความแข็งแกร่ง ความฉลาด พลังโจมตีและพลังป้องกันมาให้ด้วย แต่ก็ยังไม่มีสกิลเสริมใด ๆ

ไอเทมระดับทองใช้แต้มสมบัติถึง 100,000 แต้มต่อหนึ่งชิ้น ผู้ซื้อสามารถเลือกเลเวลเองได้ แต่ก็ยังมีแค่ค่าสถานะเพิ่มเติมอย่างเดียวหากแต่ได้ค่าสูงสมราคา หากแลกครบชุดล่ะก็ จะต้องใช้แต้มมากถึง 1,200,000 เลยทีเดียว

จากที่ได้ตรวจสอบสิ่งของเหล่านี้หมดแล้ว เซียวเฟิงก็ขมวดคิ้วและคิด “อย่าบอกนะว่ารางวัลจากอีเวนต์ในครั้งนี้ที่เป็นอาร์ติแฟคท์นั้นจะเป็นเพียงไอเทมที่ให้ค่าสถานะอย่างเดียวไม่ได้ให้สกิลพิเศษมาด้วยน่ะ?”

“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง? แบบนี้มันจะต่างอะไรกับของทั่ว ๆ ไปกัน! อาร์ติแฟคท์ที่ไม่มีสกิลพิเศษงั้นเหรอ? ไม่ต่างอะไรกับหุ่นขี้ผึ้งที่ไม่มีจิตวิญญาณหรอก!”

อย่างไรก็ตาม เซียวเฟิงยังคงไล่ตรวจดูของรางวัลที่แลกได้ต่อไปเรื่อย ๆ จนพบว่าแม้แต่ไอเทมระดับเทพเจ้าเองก็ยังมีแค่ค่าสถานะเพิ่ม แต่ไม่มีสกิลติดมาด้วย และรายการไอเทมทั้งหมดก็หยุดลงแค่ระดับนั้น

“หืม? แล้วอาร์ติแฟคท์อยู่ไหนล่ะ?”

มันกลายเป็นเรื่องน่าตกใจไปเสียแล้วที่ไอเทมที่แลกได้จาก NPC นั้นมีระดับสูงสุดแค่เทพเจ้าเท่านั้น ไม่มีสูงกว่านี้แล้ว

“อาร์ติแฟคท์อยู่ไหน?”

แม้ว่าจะยังตกใจอยู่แต่เซียวเฟิงก็รีบไปยัง NPC ตัวสุดท้าย NPC แลกรับเครื่องประดับ โดยไม่มีการรีรอ

ไอเทมที่อยู่ภายในร้านค้าของ NPC เครื่องประดับก็เหมือนกับ NPC อุปกรณ์ มันช่วยเพิ่มแค่ค่าสถานะอย่าง พลังชีวิต อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิต ความเร็ว คริติคอลและพลังป้องกัน ไม่มีอะไรที่มีสกิลพิเศษเลย ขนาดต่อให้เป็นเครื่องประดับระดับเทพเจ้าก็มีแค่ค่าสถานะที่สูงขึ้นแต่ไม่มีสกิลพิเศษใด ๆ…เครื่องประดับพวกนี้ก็ไร้ซึ่งจิตวิญญาณเหมือนกัน

และ NPC เครื่องประดับเองก็ไม่มีของระดับอาร์ติแฟคท์ด้วย…

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?”

เซียวเฟิงมั่นใจว่าเขาได้ตรวจสอบ NPC ทุกตัวอย่างละเอียดแล้ว แต่ก็ไม่มี NPC ตนไหนขายอาร์ติแฟคท์ในร้านค้าของตนเลย เพราะงั้นมันจึงเป็นอะไรที่ชัดเจนแล้วว่าของรางวัลจากอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งนี้จะต้องเป็นอาร์ติแฟคท์อย่างแน่นอน

ด้วยความงุนงง เขาคิดอยู่สักพักก่อนจะเดินกลับไปยังกระดานชี้แจงกฏ เขาอ่านข้อความเหล่านั้นอีกครั้งและอีกครั้งก่อนจะเริ่มสังเกตได้ถึงข้อความ ๆ หนึ่งที่อยู่ด้านท้ายของกฏ

‘ถ้าคุณโชคดี ก็ลองเสี่ยงดวงกับรางวัลใหญ่ดู!’

“ไม่เว้ย!”

เขาบ่นพึมพำกับตนเอง แต่ก็อดที่จะหันไปมองตู้หมุนกาชาปองที่อยู่ใจกลางพื้นที่โบนัสไม่ได้

ซึ่งตอนนั้นเอง ธอร์ก็กำลังยืนอยู่หน้าตู้กาชาปองดังกล่าวมาพักใหญ่ ๆ แล้ว แม้ว่าจะสงสัยแต่ไม่นานนักความสงสัยนั้นก็ถูกคลี่คลาย ธอร์กำลังยืนหมุนตู้กาชาปองอยู่จริง ๆ และด้วยแต้มกว่า 50,000 แต้มของเขา มันทำให้เจ้าตัวสามารถหมุนได้ถึง 5 ครั้งด้วยกัน!

ตรงจุดนั้นมีจอที่แสดงให้เห็นถึงผลการเสี่ยงดวงปรากฏอยู่

[ยินดีด้วย ธอร์! คุณจับได้— ขอบคุณกับการเข้ามามีส่วนร่วมของคุณ!]

[ยินดีด้วย ธอร์! คุณจับได้— ขอบคุณกับการเข้ามามีส่วนร่วมของคุณ!]

[ยินดีด้วย ธอร์! คุณจับได้— ขอบคุณกับการเข้ามามีส่วนร่วมของคุณ!]

[ยินดีด้วย ธอร์! คุณจับได้— ขอบคุณกับการเข้ามามีส่วนร่วมของคุณ!]

[ยินดีด้วย ธอร์! คุณจับได้— ขอบคุณกับการเข้ามามีส่วนร่วมของคุณ!]