บทที่ 110 วิกฤตของตระกูลหยาง

The king of War

เมื่อเห็นกวนเจิ้งซาน ก็พอที่จะทำให้คนตะลึงได้แล้ว แต่คำพูดของกวนเจิ้งซาน ยิ่งทำให้หยางเวยหวาดกลัวอย่างที่สุด

แม้แต่หยางเฉิน ก็ค่อนข้างคาดไม่ถึง

เขารู้ว่าช่วงหลายวันมานี้ ทำให้คนของตระกูลกวนกลัวไปแล้ว แต่หลับไม่คาดคิด ว่ากวนเจิ้งซานยอมที่จะมอบทุกอย่างของตระกูล ให้กับตน

“ผู้นำตระกูลกวน เขาเป็นคนที่ทำให้คุณติดคุกนะ แล้วคุณจะมอบธุรกิจตระกูลกวนทั้งหมดให้เขาได้อย่างไรกัน?”

หยางเวยพูดจาสะเปะสะปะอย่างตกใจ ด้วยสายตาหวาดกลัว

เมื่อกี้เขายังพูดอยู่เลย ว่าหยางเฉินไม่มีสิทธิ์ร่วมมือกับตระกูลหยาง แล้วยังพูดว่าจะฮุบธุรกิจในนามตระกูลกวนให้หมด กวนเจิ้งซานเอากิจการทั้งหมดของตระกูลกวน ให้หยางเฉิน

เมื่อเป็นอย่างนี้ อย่าว่าแต่จะฮุบตระกูลกวนเลย แม้แต่ร่วมมือกัน ก็ไม่เหลือความหวังแม้แต่น้อยแล้ว

เดิมทีตระกูลกวนคือหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่สุดยอดของเจียงโจว ตอนนี้ทั้งตระกูลภักดีต่อหยางเฉิน แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าตำแหน่งหยางเฉินที่เจียงโจว จะสูงมากขนาดไหน

เกรงว่าหลังจากวันนี้ไป เจียงโจวจะไม่มีการค้าของตระกูลหยางอีกต่อไป และในช่วงเวลานี้ ตระกูลหยางใช้ทรัพย์สินไปเกือบครึ่ง เพื่อรักษากิจการของตระกูลหยางที่เจียงโจว

ถ้าตระกูลหยางถูกไล่ออกจากเจียงโจว แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าตระกูลหยางจะถูกเล่นงานมากขนาดไหน

กวนเจิ้งซานมองหยางเวยอย่างสงบแล้วกล่าว “แกเป็นใคร?ที่จะมายุ่งเรื่องของตระกูลกวน?ต่อให้หยางเซี่ยงหมิงปู่ของแกมา ก็ไม่มีสิทธิ์คุยเรื่องการร่วมมือทางการค้ากับฉัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเด็กเปรตอย่างแกเลย!”

จนกระทั่งตอนนี้ หยางเวยเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองสร้างเรื่องไว้ร้ายแรงขนาดไหน ทุกอย่างที่เขาเห็นแสดงให้เห็นแล้วว่า ตระกูลกวนอยู่ใต้อานัดของหยางเฉินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"อีกอย่าง มีเรื่องหนึ่งที่ต้องรายงานต่อคุณหยาง!"

สีหน้าของกวนเจิ้งซานจู่ๆก็เศร้าโศกอย่างมาก แล้วกล่าว "หลานชายของผม กวนเสว่เฟิงที่ทำร้ายลูกสาวของคุณ ผมได้ยกเลิกการรักษาเขาแล้ว เมื่อกี้นี่เอง ที่โรงพยาบาลส่งข่าวมา บอกว่าเขาจากไปแล้ว"

ตึง!ตึง!ตึง!

ข่าวนี้ทำให้คนยิ่งช็อกมากขึ้นไปอีก หยางเวยถอยหลังไปห้าหกก้าว ด้วยสายตาแห่งความหวาดกลัว

เพื่อให้หยางเฉินชอบพอ แม้แต่หลานชายของตัวเอง กวนเจิ้งซานก็เสียสละแล้ว

จนะกระทั่งตอนนี้ เขาเพิ่งจะตื่นตัวจริงๆ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลกวนในวันนั้น เป็นการควบคุมของหยางเฉินทั้งหมด

เขาระดมพลชายกำยำกว่าร้อยคนมาจัดการตระกูลกวน แล้วยังปล่อยตระกูลกวนออกมาอย่างง่ายดาย จะต้องมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งขนาดไหนกัน ถึงจะทำเรื่องแบบนี้ได้?

“ตูม!”

เมื่อนึกถึงจุดนี้ หยางเวยขาทั้งสองข้างอ่อนลง คุกเข่าลงที่ขาของหยางเฉิน

“คุณหยาง ผมดูถูกคนอื่น ถึงได้ล่วงเกินคุณ ทุกอย่างที่ผมพูดไปเมื่อกี้ เป็นความคิดของผมคนเดียวเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลหยาง ได้โปรดปล่อยตระกูลหยางด้วยครับ”

หยางเวยไม่ได้อ้อนวอนเพื่อตัวเอง แต่อ้อนวอนให้หยางเฉินปล่อยตระกูลหยาง จากที่เขารู้จักหยางเฉิน ไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน ในเมื่อเป็นแบบนี้ สู้ขอโอกาสให้กับตระกูลดีกว่า

เขาในขณะนี้ ไม่มีความสงสัยใดๆอีก เขาเชื่อ ว่าถ้าหยางเฉินจะล้างบางตระกูลหยางจริงๆ ง่ายนิดเดียว

แต่ตอนนี้ มือถือของเขาดังขึ้น ตอนที่เห็นว่าหยางเซี่ยงหมิงโทรเข้ามา เขากลัวจนใจเต้นรัวๆ

"ปู่คุณโทรมานะ คุณไม่คิดจะรับหน่อยเหรอ?"

หยางเฉินกำลังมองไปที่หยางเวยอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็กล่าวต่อว่า "เปิดลำโพง คุณอย่าเพิ่งพูดอะไร มิเช่นนั้นตระกูลหยางก็ไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไป"

หยางเวยตัวสั่น ทำตามที่หยางเฉินพูด รับสายแล้วเปิดลำโพง

"หยางเวย เรื่องที่ฉันให้แกไปทำ ไปถึงไหนแล้ว? หุ้นของบริษัทก่อสร้างหลงเหอ ไอ้เด็กเปรตนั่นคืนให้มั้ย?ถ้าไม่คืน ฉันจะจัดคนไปเจียงโจวเดี๋ยวนี้ ไปฆ่ามัน!"

เสียงของหยางเซี่ยงหมิงเต็มไปด้วยความชั่วร้าย หยางเวยตกใจจนตัวสั่น

หยางเฉินยิ้ม ยื่นมือไปหาหยางเวย หยางเวยยื่นมือถือไปให้ด้วยมือสั่น

"ผู้นำตระกูลหยาง หุ้นของบริษัทก่อสร้างหลงเหอ เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่คุณมอบให้ผม แล้วทำไมจู่ๆจะเอากลับไปละ?ไม่เหมาะสมมั้ง?" หยางเฉินกล่าวเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

เมื่อได้ยินเสียงของหยางเฉิน หยางเซี่ยงหมิงเสียงจากปลายทางชะงักทันใด แต่ไม่หวาดกลัว ไม่นาน เขาดูแคลน "หยางเฉิน แกในตอนนี้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดเรื่องแบบนี้กับฉัน ฉันว่าให้แกคืนหุ้นของบริษัทก่อสร้างหลงเหอมาให้แต่โดยดีจะดีกว่า มิเช่นนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ"

"ได้ ฉันก็อยากจะรู้ ว่าตระกูลหยางจะทำอะไรไม่เกรงใจฉัน"

หยางเฉินวางสาย แล้วโยนมือถือทิ้งลงไปในถังขยะ

หยางเวยกลัวจนตัวอ่อนปวกเปียกไปหมดแล้ว เพื่อตระกูลหยาง เขาถึงขั้นเอาทุกอย่างมาสุมที่ตัวเอง แต่สุดท้ายคำพูดของหยางเซี่ยงหมิง ทำให้ตระกูลหยางดิ่งลงเหว

"คุณหยาง ไอ้เด็กเปรตนี่ ให้ผมจัดการแทนคุณมั้ย?"

กวนเจิ้งซานกล่าวด้วยหน้าตาดุร้าย ประโยคนี้ทำให้หยางเวยตกใจแทบตาย

หยางเฉินสายตาเลือดเย็น "ทำให้มันพิการ แล้วคืนให้ตระกูลหยาง!"

"ครับ คุณหยาง!"

กวนเจิ้งซานกล่าวด้วยความเคารพ แล้วโบกมือ "พาออกไป!"

ตระกูลหยางเมืองโจวเฉิง

เมื่อหยางเซี่ยงหมิงได้ยินเสียงตู๊ดๆดังขึ้นจากมือถือ เขาสีหน้าเลือดเย็น แล้วเกรี้ยวกราด "ไอ้เหี้ย กล้าวางสายฉัน เข้ามา!"

ไม่นาน ผู้ดูแลตระกูลหยางมาที่หยางเซี่ยงหมิง "ผู้นำ มีอะไรจะรับใช้เหรอครับ?"

"จัดคนแข็งแกร่งขั้นสูงของตระกูล ไปเจียงโจว ฆ่าคน!"

เมื่อพูดถึงการฆ่าคน หยางเซี่ยงหมิงหน้าตาคงเดิม ดูออกชัดเจนว่าทำเรื่องแบบนี้มาไม่น้อย

เพียงแต่เขาเพิ่งสั่งตระกูลกวน โทรศัพท์ตั้งโต๊ะก็ดังขึ้น

เขารับสาย ฟังไปไม่กี่ประโยค จู่ๆหน้าถอดสี ถูไปด้านหน้านิดนึงแล้วยืนขึ้นทันใด เกรี้ยวกราดอย่างร้อนรน “อะไรนะ? ไซต์งานกับคลังสินค้าของตระกูลหยาง ถูกยึดไปทั้งหมดแล้ว? เพราะฉิงเหอกรุ๊ปเลี่ยงภาษี จึงถูกยึดไปแล้วเหมือนกัน?”

ตระกูลหยางทำอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองโจวเฉิง ไซต์งานและคลังสินค้าคือทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะไซต์งาน ทุกๆการหยุดงานหนึ่งวัน จะส่งผลให้ตระกูลหยางขาดทุนอย่างมหาศาล

วัสดุก่อสร้างที่เก็บอยู่ในคลังสินค้าก็ไม่สามารถขายออกไปได้ แม้แต่เฉิงเหอกรุ๊ปที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลหยาง ก็ถูกยึดไป

นี่มันเป็นการเอาชีวิตของตระกูลไปเลยชัดๆ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในหนึ่งสัปดาห์ได้ ตระกูลหยางจะล่มสลายลงไม่เหลือ

“ใครกันแน่ ที่กำลังเล่นงานตระกูลหยาง?”

หลังจากที่วางสาย หยางเซี่ยงหมิงหน้ามึนงง

“ผู้นำ จะเป็นไอ้เด็กเปรตเจียงโจวคนนั้นหรือเปล่า?” ผู้ดูแลถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

หยางเซี่ยงหมิงไม่ได้นึกถึงหยางเฉินแม้แต่น้อย หลายปีมานี้ตระกูลหยาง ทำเรื่องไม่ดีไว้มากมาย ที่เมืองโจวเฉิงชื่อเสียงเสียหายสุดๆ ทำผิดต่อผู้มีอำนาจไว้มากมาย

“เป็นไปไม่ได้!”

หยางเซี่ยงหมิงคิดๆดู แล้วกล่าว “ไอ้เด็กนั่น ที่เจียงโจว อาจใช้ชื่อเสียงของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเข้ามาช่วย แต่ไม่มีทางมีอำนาจมาถึงเมืองโจวเฉิงแน่นอน”

ในขณะที่ตระกูลหยางกำลังเผชิญกับวิกฤตอยู่นั้น รถตู้คันหนึ่งจอดที่หน้าประตูตระกูลหยาง หลังจากที่โยนหยางเวยที่เต็มไปด้วยเลือดลงมาแล้ว ก็จากไป