ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 44 นางรอชมละคร
ถึงเวลานั้นระยะทางยาวไกล พวกนางสามแม่ลูกอิสรเสรี จะต้องอยู่อย่างมีความสุขและพึงพอใจอย่างแน่นอน

ขณะที่หนานหว่านเยียนตั้งตารอชีวิตอิสระที่กำลังจะมาถึง ก็ครุ่นคิดไปด้วย

แต่ว่าก่อนที่จะเป็นอิสระ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องล้างแค้นให้กับร่างเดิมก่อน

หยุนอี่ว์โหรว กู้โม่หาน หนานชิงชิง……

คนพวกนี้ ล้วนเป็นศัตรูของนางทั้งนั้น นางจะไม่มีทางยอมให้คนที่ทำร้ายนาง อยู่กันอย่างมีความสุดเด็ดขาด!

หนานหว่านเยียนกับสองพี่น้องกินกันต่อนานพักใหญ่ หลังจากที่หนานหว่านเยียนรู้สึกอิ่มเล็กน้อยแล้ว ถึงได้ลุกจากโต๊ะ พาบรรดาสาวๆกลับห้องไปพักผ่อน

“ท่านแม่ วันนี้ท่านแม่เข้าวังมีเรื่องสนุกอะไรไหม?” สองมือของเกี๊ยวน้อยเท้าคางเอาไว้ ในดวงตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ตั้งแต่พวกนางเกิดมา ก็ไม่เคยเห็นทิวทัศน์ที่อยู่นอกจวนอ๋องมาก่อน ถึงแม้ครั้งนั้นจะปีนออกไปนอกกำแพงลาน ก็กล้าแค่เพียงมองจากมุมกำแพงเท่านั้น ไม่ได้เดินออกไปไกล

ดังนั้นสำหรับโลกภายนอก สองพี่น้องทั้งอยากรู้อยากเห็นและโหยหา

มือข้างหนึ่งของซาลาเปาถือถ้วยชาเอาไว้ อีกข้างก็ดึงแขนเสื้อของหนานหว่านเยียนเอาไว้แน่น “พี่สาวบอกว่า ในวังมีปีศาจที่กินคน ท่านแม่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

หนานหว่านเยียนยิ้มออกมา “วันๆพี่สาวเจ้าเล่านิทานอะไรให้ฟังบ้างเนี่ย ปีศาจที่กินคนมาจากไหนกัน แต่ว่าแม่เข้าวังไปในครั้งนี้ ได้นำสิ่งของกลับมาให้พวกเจ้าด้วยจริงๆ”

เด็กน้อยสองคนสอบถามด้วยความดีใจเป็นพิเศษ “คืออะไรหรือ?”

หนานหว่านเยียนยิ้มอย่างมีเลศนัย ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยปากอีกครั้ง ก็ได้ยินในลานด้านนอกประตู มีเสียงเอะอะดังขึ้นมา

นางเลิกคิ้วกล่าวว่า: “ของมาแล้ว แม่จะไปเซ็นรับ พวกเจ้าอยู่กันในเรือน อย่าออกมารู้ไหม?”

เด็กน้อยสองคนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ยืดคอมองออกไป

ด้านนอกเรือนเซียงหลิน

กงกงยิ้มให้กับอวี๋เฟิงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่แล้วกล่าวว่า: “บ่าวรับพระบัญชามาจากฝ่าบาท มาส่งรางวัลให้กับพระชายาอี้! องครักษ์น้อย ปล่อยให้ผ่านเถอะ”

สิ้นเสียง กล่องใหญ่ลังแล้วลังเล่าก็ถูกส่งเข้ามา พูดได้ว่าเป็นภาพที่ตระการตาอย่างมาก!

ทันใดนั้น ทุกคนในเรือนเซียงหลินต่างก็ตกตะลึง พากันสงสัยว่าเกิดความผิดปกติขึ้นหูและตาของตัวเอง!

พระชายาโง่คนนั้น ถึงกับสามารถขอรางวัลจากฝ่าบาทได้?

เวลานี้ หนานหว่านเยียนก็ออกมาจากเรือน

กงกงเฒ่าคนนั้นมองเห็นพระชายาอี้ ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที รีบก้าวเข้ามา “บ่าวคำนับพระชายาอี้ หนึ่งหมื่นตำลึงที่ฝ่าบาทประทานให้เป็นรางวัลอยู่ที่นี่หมดแล้ว ขอพระชายาโปรดตรวจดูด้วย”

พูดจบ บรรดาองครักษ์ที่ติดตามอยู่ด้านหลังของเขาก็ทยอยยกลังเข้ามาห้าลัง แต่ละลังดูแล้วล้วนมีน้ำหนักอย่างมาก

ทันทีที่กงกงเอ่ยปาก ก็สร้างความฮือฮาไปทั้งลาน!

เงินหนึ่งหมื่นตำลึง? !

หมื่นตำลึง

บรรดาบ่าวรับใช้พวกนี้ล้วนตกใจจนอ้าปากค้าง ดวงตาของแต่ละคนต่างก็จ้องมองราวกับกระดิ่งทองเหลือง ประหลาดใจอย่างมาก!

พระชายาเข้าวังไปรอบหนึ่ง ถึงกับเปลี่ยนเป็นร่ำรวยขนาดนี้แล้ว? นี่มันเงินหนึ่งหมื่นตำลึงเชียวนะ สำหรับชาวบ้านธรรมดาทั่วไปแล้ว สามารถเลี้ยงดูคนสิบชั่วอายุคนโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า และยังร่ำรวยอยู่!

สายตาของสาวใช้และบ่าวรับใช้มากมายที่มองไปทางหนานหว่านเยียนล้วนแตกต่างออกไปแล้ว ไม่ใช่การเคารพ แต่มันเป็นการเชื่อฟังที่ขับเคลื่อนด้วยเงิน

หนานหว่านเยียนไม่ได้สนใจพวกนาง นางเปิดกล่องใบหนึ่ง แสงสว่างสีเงินข้างในทำให้นางลืมตาไม่ขึ้น

นี่คือความรู้สึกระยิบระยับแวววาวเกินทนหรือ ความรู้สึกช่างดีมากเลย!

หนานหว่านเยียนรู้สึกดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ แต่นางไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่หยิบเงินออกมาจากข้างในสองแท่ง วางเอาไว้ในฝ่ามือของกงกง

“รบกวนกงกงให้วิ่งเที่ยวนี้ น้ำใจเล็กน้อย กงกงโปรดรับไว้ด้วย”

กงกงแสร้งทำเป็นปฏิเสธอย่างมีความสุข แต่ยังคงรับเงินแล้วใส่เข้าไปในแขนเสื้อ

“ขอบคุณพระชายาที่ประทานรางวัล เช่นนั้นบ่าวก็ไม่รบกวนพระชายาแล้ว!” กงกงคนนั้นยิ้มอย่างประจบประแจง ขยิบตาให้กับคนอื่นๆ ก็จากไปอย่างรวดเร็ว

หนานหว่านเยียนมองดูเงินที่อยู่ตรงหน้า ไม่เคยรู้สึกมั่งคั่งขนาดนี้มาก่อน

มีเงินแล้ว วันหน้านางจะทำอะไรก็สะดวกทั้งนั้น!

และบรรดาบ่าวรับใช้พวกนั้นมองดู ก็ยิ่งจ้องมองกันจนตาค้าง

หนานหว่านเยียนหยิบเงินออกมาจากกล่องอีกหกแท่ง แบ่งให้กับสองพี่น้องเซียงอี่ว์เซียงเหลียน แล้วก็ยัดให้กับอวี๋เฟิง

มองดูสามคนนี้อยากจะเอ่ยปากปฏิเสธ หนานหว่านเยียนส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “อย่าปฏิเสธ สิ่งที่ให้พวกเจ้าพวกเจ้าก็รับเอาไว้ ขอเพียงพวกเจ้าทำงานให้เรือนเซียงหลินอย่างจริงใจ ไม่เพียงแค่เงินเท่านั้น ยังมีผลประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ตรงกันข้าม หากใครมีใจประสงค์ร้ายถูกข้าพบเข้า ข้าหนานหว่านเยียนก็ไม่ใช่จะยั่วยุได้ง่ายๆ!”

ขณะที่พูดไป นางก็กวาดตามองดูบรรดาบ่าวรับใช้ที่อยู่บริเวณโดยรอบ สายตาเฉียบคม

คนที่นินทานางครั้งก่อนนางจับตัวเอาไว้ไม่ได้ แยกสามคนนี้ออกไปก่อน ดังนั้นนางถึงได้จงใจใช้โอกาสนี้มอบรางวัล ไม่แน่ว่าจะสามารถบีบจนคนคนนั้นเผยพิรุธออกมา

“บ่าวจะจำคำสั่งพระชายาไม่กล้าฝ่าฝืน”

“บ่าวน้อมรับคำสั่งของพระชายา”

คนพวกนี้พูดออกมาเป็นพร้อมกัน หนานหว่านเยียนก็ไม่ได้คิดจะทำให้ลำบากใจ ให้เซียงอี่ว์หยิบถุงเหอเปาของตัวเองออกมา แบ่งเศษเงินให้กับทุกคน บรรดาบ่าวรับใช้พวกนี้ก็ดีใจอย่างมากเช่นกัน แยกย้ายกันไป ต่างคนต่างไปทำงานของตัวเองทันที

เซียงอี่ว์สามคนคำนับหนานหว่านเยียนอย่างพร้อมเพรียงกัน “ขอบคุณพระชายาที่ประทานรางวัล”

หนานหว่านเยียนโบกไม้โบกมือ ให้คนจัดเก็บเงินให้เรียบร้อย แล้วก็พาเซียงอี่ว์กลับเข้าไปในเรือนพร้อมกับนาง

ไม่มีใครสังเกตเห็น ตรงมุมมีสาวใช้ที่มีไฝที่ปลายจมูกคนหนึ่ง ในมือกำเศษเงินเอาไว้ รอยยิ้มที่ประจบประแจงก็เปลี่ยนเป็นเฉยเมยและเยาะเย้ย

หนานหว่านเยียนกลับเข้าไปในเรือน นังหนูน้อยทั้งสองก็ล้อมเข้ามาทันที “ท่านแม่ท่านแม่ คือของขวัญอะไรหรือ?”

หนานหว่านเยียนหยิบเงินแท่งที่ส่องประกายออกมา “เงิน!”

เกี๊ยวน้อยกระโดดโลดเต้นขึ้นมาทันที ตบมือเล็กๆสองข้างไม่หยุด “ดีจัง! ท่านแม่เคยบอกว่า ขอเพียงแค่มีเงิน ก็สามารถทำอะไรได้มากมาย!”

ในดวงตาของซาลาเปาก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน จากนั้นก็จับมุมเสื้อ เอ่ยปากอย่างเขินอายเล็กน้อย “ท่านแม่……”

หนานหว่านเยียนรู้ว่าลูกสาวกำลังคิดอะไรอยู่ กอดซาลาเปาเอาไว้ทันที จูบจ๊วบลงไปบนใบหน้าของนาง “เจ้าวางใจ! แม่จะลืมได้อย่างไร เงินพวกนี้ก็จะเอามาตัดเสื้อผ้าให้เจ้ากับเกี๊ยวน้อยนี่แหละ!”

ก่อนหน้านี้นางเคยรับปากเด็กน้อยสองคนเอาไว้ ว่าจะตัดชุดกระโปรดสวยๆมากมายให้กับพวกนาง

บรรดานังหนูน้อยก็รักสวยรักงานเช่นกัน คิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา

ทันทีที่สองพี่น้องได้ยิน ก็วิ่งออกไปนอกเรือนอย่างร่าเริงทันที บอกว่าจะไปเล่นกับเซียงเหลียน

หนานหว่านเยียนส่ายหน้าแล้วยิ้มเล็กน้อย

นางให้เซียงอี่ว์รออยู่ด้านนอกเรือน ขณะที่ตัวเองหยิบกระดาษกับพู่กันออกมา เริ่มออกแบบเสื้อผ้าให้กับเด็กน้อยสองคนอย่างจริงจัง

สองพี่น้องวิ่งเหยาะๆมาถึงลานหลัง ซาลาเปาวิ่งช้ากว่าเล็กน้อย ไล่ตามเกี๊ยวน้อยอย่างหายใจหอบ

“พี่สาว รอ รอข้าด้วย……”

ทันทีที่เสียงของนางหยุดลง ก็เห็นเกี๊ยวน้อยหันกลับมาทำสัญญาณมือ “ชู่” ให้นาง

ซาลาเปาประหม่าขึ้นมาทันที ใช้มือทั้งสองข้างปิดปากของตัวเองไว้อย่างรีบร้อน ค่อยๆย่องเดินไปถึงข้างกายของเกี๊ยวน้อย

เวลานี้ นังหนูน้อยทั้งสองซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ยื่นหน้าเล็กๆออกมา เงี่ยหูฟัง ฟังผู้หญิงที่มีไฝตรงปลายจมูก กำลังคุยกับสาวใช้กลุ่มหนึ่งในลานหลัง

“พวกเจ้าว่า พระชายาก็ดีต่อพวกเราที่เป็นบ่าวรับใช้ไม่น้อยจริงๆ ยังมีรางวัลให้ด้วย” หนึ่งคนในนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เกี๊ยวน้อยได้ยินก็ทำท่าทางภาคภูมิใจ กล่าวพึมพำตรงใต้ต้นไม้ “ฮึ แน่นอนอยู่แล้ว! ท่านแม่เรางดงามและใจดีมีเมตตา!”

ซาลาเปาก็พยักหน้าตาม

พวกนางกำลังคิดจะจากไป ก็ได้ยินคนที่มีไฝคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงดูแคลน “ดีแล้วมีประโยชน์อะไร หากพระชายาได้รับความรักจากท่านอ๋อง ก็จะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองทุกอย่าง ไทเฮาก็แค่เห็นว่าพระชายาน่าสงสาร ร้องไห้อย่างน่าสมเพชในงานเลี้ยงในวัง ดังนั้นถึงได้ประทานรางวัลพวกนี้ให้นาง”

“พวกเจ้ายังไม่รู้ใช่ไหม คืนนี้คุณหนูโหรวก็จะแต่งเข้าจวนอ๋องแล้ว ท่านอ๋องดีต่อคุณหนูโหรวอย่างมาก งานเลี้ยงมงคลสมรสในคืนนี้ล้วนเชิญขุนนางในแคว้นซีเย่ที่สามารถเชิญมาได้! วันหน้า นายที่แท้จริงของจวนอ๋องแห่งนี้คือคุณหนูโหรว พวกเจ้าต้องคิดให้รอบคอบแล้ว ติดตามนายที่ดีถึงจะมีทางออก!”

ได้ยินคำพูด สีหน้าของซาลาเปาก็เปลี่ยนไปทันที ยื่นมือไปดึงมุมเสื้อของเกี๊ยวน้อย “พี่สาว……”

สีหน้าของเกี๊ยวน้อยก็ไม่น่าดูอย่างมาก แก้มอ้วนๆสองข้างป่องขึ้นมา มือเล็กๆก็กำแน่นแล้ว “ซาลาเปา! คนชั่วคนนั้นจะรับสนม แถมจะรับสนมแบบโอ้อวด ท่านแม่จะต้องเสียใจอย่างแน่นอน! เราจะให้ท่านแม่เสียใจไม่ได้!”

“ถูกต้อง!” ซาลาเปาก็โกรธมากเช่นกัน “พี่สาว ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”

“เราต้องให้บทเรียนกับเจ้าคนชั่วนั่น!” เกี๊ยวน้อยเข้าไปใกล้ข้างหูของซาลาเปา กระซิบบางอย่าง “คืนนี้เราจะทำเช่นนี้……”

สองพี่น้องยิ้มให้กัน สายตาแน่วแน่!

และอีกด้านหนึ่ง หนานหว่านเยียนถือภาพแบบเอาไว้ในมือหลายใบ รู้สึกพอใจอย่างมาก ยังไม่รู้ว่ายัยตัวยุ่งทั้งสองคนนึกว่านางจะเสียใจที่กู้โม่หานรับสนม กำลังวางแผนกลอุบายกันอยู่

หนานหว่านเยียนเรียกเซียงอี่ว์มา ให้นางเอาภาพวาดไปที่ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ทำตามการออกแบบที่อยู่บนภาพ

หลังจากที่เซียงอี่ว์รับมาแล้ว มองดูเสื้อผ้าแปลกประหลาดที่หนานหว่านเยียนวาดออกมา อดกลั้นความสงสัยที่อยู่ในใจเอาไว้ “เจ้าค่ะ พระชายา”

สิ้นเสียงนาง เสียงตีฆ้องร้องป่าวในจวนอ๋องก็ดังขึ้น ครึกครื้นอย่างมาก

สีหน้าท่าทางของเซียงอี่ว์เปลี่ยนไปทันที “พระชายา……”

หนานหว่านเยียนรู้ว่า นี่คือขบวนรับตัวเจ้าสาวของกู้โม่หานกำลังจะออกเดินทางแล้ว ไม่ช้า เขาก็จะแต่งงานรับหยุนอี่ว์โหรวเข้าจวนแล้ว

“ไม่จำเป็นต้องห่วงข้า” ที่ควรเป็นห่วงน่าจะเป็นหยุนอี่ว์โหรวกับกู้โม่หาน นางกอดอกแล้วยิ้มเฉยชา “ไม่ช้า เราก็จะได้ดูละครดีๆแล้ว……”